เมื่อพูดถึงการโฆษณา ทาง Google Ads ( หรือ Google AdWords ) อาจมีช่วงขาขึ้นขาลงอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้หายไปไหน หากเทียบกับการโฆษณาทางสื่อออนไลน์ ทาง Google Ads ไม่ได้รับผลกระทบจากเทรนด์การเปลี่ยนแปลง หรือแพลตฟอร์มบางประเภทที่โตข้ามวันข้ามคืน
ส่วนกรณีของ PPC (pay-per-click) โฆษณาที่คุณจ่ายตามคลิกหรือผลลัพธ์ ถ้าไม่มีคนคลิก คุณก็ไม่ต้องจ่าย
ข้อดีอีกอย่างก็คือ เมื่อมีคนสนใจ Google พวกเขาจะมีส่วนรวมและสนใจในเรื่อง ( เพื่ออ่านเกี่ยวกับ ) หรือสินค้า/บริการ ( เพื่อศึกษาเพิ่มเติมและ/หรือเพื่อซื้อสินค้า ) ทำให้คุณเจอกลุ่มเป้าหมายที่สนใจ เมื่อเทียบแคมเปญโฆษณาทางสื่อออนไลน์ ที่แสดงให้กับกลุ่มเป้าหมายทั่วไปเห็นทันที กลุ่มผู้ชมของ Google เป็นกลุ่มที่ค้นหาข้อมูลอยู่ก่อนแล้ว ทำให้งานของเว็บมาสเตอร์นั้นง่ายขึ้นมาก
ก่อนที่เราจะมาอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการปล่อยแคมเปญ Google Ads คุณต้องท่ององค์ประกอบทั้งสามข้อนี้ให้ขึ้นใจ : งบ ( คุณต้องประเมินถึงค่าใช้จ่ายสำหรับแคมเปญโฆษณา ) ความเรียบง่าย ( ของบางอย่างที่ดูยากเกินไป แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ) และความอดทน ( อย่ารีบและยกเลิกแคมเปญ PPC ของคุณกลางคัน )
อย่างที่บอกไปว่า Google จะนับจำนวนคลิกบนโฆษณาของคุณ แล้วคอยเรียกเก็บค่าบริการกับคุณตามจำนวนคลิกนั้น
แบบ CTR (click-through-rate) จะแสดงสัดส่วนระหว่างการมองเห็น ( จำนวนครั้งที่โฆษณาของคุณถูกเผยแพร่ ) จนไปถึงจำนวนคลิกบนของผู้ใช้ คุณต้องสังเกต CTR ให้ดี เพราะนี้เป็นตัวชี้วัดประสิทธิภาพ ( หรือผลงาน ) ของโฆษณาของคุณ
ง่าย ๆ ก็คือ ในการปล่อยแคมเปญโฆษณาด้วย Google คุณต้องประเมินงบและกำหนดราคา ราคาในนี้คือจำนวนที่คุณพร้อมจ่ายให้กับจำนวนคลิก ข้อดีคือ Google เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณา และในหลายกรณี พบว่าผู้โฆษญาจ่ายน้อยกว่าราคาที่ตั้งเอาไว้
ภารกิจที่ท้าทายมากที่สุด ไม่ใช่การปล่อยแคมเปญ แต่เป็นการสร้างโฆษณาที่ถูกใจลูกค้าและใช้เงินน้อยที่สุด ผ่านการทดสอบและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญอย่างต่อเนื่อง
ขณะพิจารณาการโปรโมตข้อเสนอ Affiliate ของ Google Ads ให้พิจารณาจากสิ่งนี้ :
เบื้องหลังของแคมเปญโฆษณาที่ประสบความสำเร็จ มากจากการวางแผนและทดสอบ ถัดไปเราจะมาอธิบายขั้นตอนการวางแผน การสร้าง และการปล่อยแคมเปญโฆษณา
อย่างแรกคุณต้องเลือก Affiliate Program และเลือกข้อเสนอที่จะโปรโมต จากนั้นให้คุณตรวจสอบว่าแคมเปญนั้นสามารถโปรโปตผ่านการซื้อโฆษณาได้หรือไม่
แน่นอนว่าคุณต้องเตรียม Landing Page และของสมนาคุณให้กับลูกค้าที่สนใจ ( บทเรียนฟรี, คู่มือ, ฯลฯ )
จากนั้นคุณค่อยมาวางแผนแคมเปญ และเลือกเป้าหมายสูงสุดของแคมเปญ ( ยอดขาย, Traffic, Leads, ฯลฯ )
เมื่อคุณเลือกเป้าหมายแคมเปญเสร็จแล้ว คุณต้องประเมินงบที่รวมถึงลิมิตรายวันและรายเดือนของตัวเอง ซึ่งเป็นการตั้งค่าโดยรวมของงบแคมเปญ ค่าใช้จ่ายรายวัน และตั้งราคา
สำหรับแคมเปญโฆษณาบางประเภท คุณสามารถเลือกกลยุทธ์ตั้งราคาอัตโนมัติ : จ่ายตามเป้าที่คาดไว้ (CPA) หรือ ผลตอบแทนจากค่าโฆษณาที่คาดไว้ (ROAS)
ทางแพลตฟอร์ม Google Ads อนุญาตให้ระบุกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ คุณสามารถกรองกลุ่มผู้ชมตามลักษณะของข้อมูล, GEO, ความสนใจ และอื่น ๆ เป็นต้น
อีกส่วนที่สำคัญคือการตลาดแบบติดตาม ใช้เมื่อเวลาที่คุณต้องการติดตามผู้ใช้ "ที่เคยคลิกโฆษณา Affiliate ของคุณ เข้าชมเว็บไซต์ของคุณ หรือเว็บไซต์ของผู้ค้า แต่ไม่มีการสั่งซื้อหรือ Conversion ใด ๆ "
ทางแพลตฟอร์ม Google Ads อนุญาตให้สร้างฟอนต์ รูปภาพและวิดีโอโฆษณา เพื่อช่วยให้เป้าหมายแคมเปญของคุณประสบความสำเร็จ
หนึ่งในฟีเจอร์การคัดเลือกของ Google Ads คือการประเมินโฆษณาของผู้ใช้ โดยดูจากคุณภาพและความสอดคล้องกันของโฆษณาและคีย์เวิร์ด โดยเฉพาะ CTR, ความสอดคล้องของคีย์เวิร์ดสำหรับกลุ่มโฆษณา, คุณภาพและความสอดคล้องของ Landing Page เช่นเดียวกับบัญชีและคำอธิบายโฆษณา
คะแนนคุณภาพที่ได้ จะช่วยเพิ่มการมองเห็นโฆษณาในผลลัพธ์การค้นหา คุณจึงต้องหมั่นปรับปรุงคุณภาพเพื่อเพิ่มคะแนนตรงนี้
คุณสามารถเพิ่มคะแนนได้จากการปรับปรุงคำโฆษณา, เติมคีย์เวิร์ดที่จะไม่ขึ้นเมื่อถูกค้นหา (Negative Keyword), รวมกลุ่มคีย์เวิร์ดและเพิ่มประสิทธิภาพ Landing Page
โดย Ad Copy นั้นควรตรงกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย แน่นอนว่าคุณสามารถโปรโมตรถยนต์สุดหรู โดยมีสาวสวยพิงบนรถ แล้วดูท่าว่าคุณได้คลิกจำนวนมาก แต่คลิกเหล่านั้นไม่ใช่ Conversion กลุ่มเป้าหมายที่ดีควรสนใจรายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับตัวรถยนต์ หรือโบนัสประกันภัย หรือข้อเสนอการบำรุงรักษาฟรี
ปัจจัยสำคัญที่นักทำ Affiliate Marketing ควรจำในขึ้นใจ คือการรีวิว Ad Copy บ้างเป็นบางครั้ง เพื่อให้ทันสมัยอยู่เสมอ
สุดท้ายแล้วคุณสามารถรีวิวและปรับตัวชี้วัดทั้งหมดผ่านได้ ผ่านหน้า "รีวิวโฆษณา" จากนั้นคลิก "แก้ไข"
เมื่อแก้ไขเสร็จแล้ว ให้คุณเลือกประเทศของตัวเองและโหมดการชำระเงิน Google จะมีให้เลือกแบบอัตโนมัติและด้วยตัวเอง ผ่านบัตรเครดิตหรือโอนผ่านธนาคาร ขึ้นอยู่กับประเทศที่คุณอยู่
หลังจากที่ทำมาทั้งหมด ช่วงที่ดีและทำให้ผ่อนคลายมากที่สุด คือการได้เห็นว่า "แคมเปญของคุณพร้อมถูกเผยแพร่แล้ว" แน่นอนว่าคุณต้องทดสอบการตั้งค่าของแคมเปญและเพิ่มนั้นนู้นนี้ แต่ส่วนสำคัญคือแคมเปญพร้อมแล้ว
มีกรณีศึกษาที่น่าสนใจมาจากคุณ Alex เขาสร้าง Traffic จาก Google Ads มาเสนอให้กับ Niche หาคู่ผ่านแอปพลิเคชัน WebView
เครือข่าย : Leadbit, Traforce, Takeme.love, Advertise
ข้อเสนอ Affiliate : Sexy Lovers, Tekeme.love, Jolly, Navsegda, Lovena24, Navechno
ระยะเวลา : 27 กรกฎาคม 2020 — 14 ตุลาคม 2020
แหล่ง Traffic : Google Ads
GEO: รัสเซียและกลุ่มประเทศเครือเอกราช
ROI: 200%
Alex ที่เป็นเว็บมาสเตอร์ ได้ร่วมมือกับ Affiliate Network สี่เจ้า ที่เป็นผู้โฆษณาโดยตรง เขาแบ่งผู้ใช้ออกตามอายุและส่งพวกเขาไปยัง Landing Page ต่าง ๆ ตามข้อเสนอ เขาใช้วิธีการเข้าถึงนี้เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เข้าถึงโฆษณาของเขา เป็นไปตามเงื่อนไข โดยมีให้สามตัวเลือกสำหรับหมวดอายุ 18+ ( ปุ่มจะพาไปยังข้อเสนอของ Sexy Lovers ), 25+ (Jolly, Lovena24, Takeme) และสองตัวเลือกสำหรับหมวดอายุ 30+ (Navechno, Navsegda) โดยออกแบบ Ad copy ทั้งหมดให้เหมาะกับคนรัสเซียตาม GEO ที่เลือก
ในรูปภาพแปลว่า : "อายุของคุณ"
ส่วนใหญ่เขาจะใช้วิดีโอเป็นหลัก เพราะเขาเรียนรู้ว่าวิดีโอนั้นสามารถสร้าง Traffic ได้มากกว่าโฆษณาที่เป็นรูปภาพ ที่จริงแล้วเขาใช้คำอธิบายและหัวเรื่องธรรมดาทั่วไป เช่น "เหงาเหรอ? หาคู่ใจใกล้ตัวคุณ", "มองหาคู่ใจ", ฯลฯ เขาเผยว่าต่อให้เขาใช้คำว่า "ดาวน์โหลดแอป" หรือ"ติดตั้งแอป" ก็ไม่ส่งผลต่ออัตรา Conversionเพียงแต่ “การโฆษณาจะไม่ถูกกีดกันอีกต่อไป ตามกฏสำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น”
หากแอปไม่ได้อยู่ในหมวด "หาคู่" ของ Google Play โฆษณาของคุณจะกระจายไปหากลุ่มผู้ชมที่กว้างขึ้น แทนที่จะเป็นกลุ่มผู้ชมเป้าหมายเท่านั้น เพื่อสร้างเป้าหมาย Traffic ที่ต้องการ วิธีที่แก้ที่เว็บมาสเตอร์ใช้ : เขาใช้อิโมจิและสัญลักษณ์แทนคำอธิบายที่เป็นเพียงข้อความ
เขาแจ้งว่าโฆษณามักถูกปฏิเสธ เพราะไม่ผ่านในเรื่องของการเว้นวรรคและการวางอิโมจิ แต่อนุญาตให้สำหรับวิดีโอ และนั้นจะเป็นวิดีโอที่สร้างเป้าหมาย Traffic ที่ต้องการได้
วิดีโอส่วนใหญ่ที่ใช้ในโฆษณาจะมีความเป็นกลางมาก ๆ ทางเว็บมาสเตอร์ยังบอกอีกว่า เขานั้นไม่ใช้คำที่เกี่ยวข้องในแง่ของการหาคู่ เป็นผลเนื่องจากนโยบายใหม่ของ Google Ads โดยในหลายกรณี วิดีโอจะไม่ขึ้นหากคุณพูดถึงการหาคู่ เขายอมรับว่าอาจไม่เป็นอะไรสำหรับผู้โฆษณาคนอื่น
เขายังแนะนำให้สร้างกลุ่มโฆษณาเดิมเพิ่ม เมื่อจำนวนการติดตั้งลดลง
นี้เป็น 10 แคมเปญที่ใช้งบเพียง 50$ และเพิ่มค่าติดตั้งจนกว่าวิดีโอจะเริ่มเล่นบน YouTube วันถัดมา ให้ลดราคาแล้วดูว่าโฆษณาขึ้นอย่างไร หากยังสามารถทำ Conversion ได้อยู่บ้าง แม้ปริมาณจะน้อย ให้ปล่อยทิ้งไว้อีกวัน วิธีนี้จะทำให้คุณทราบถึงราคาที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้ง
ผลลัพธ์ :
Traforce — $19,000
Leadbit — $1,348
Advertise — $4,563
Takeme.love — $10,230
คุณจะเห็นได้จากตัวเลขข้างบนว่า Alex ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก แต่น่าเสียดายที่เขาไม่ได้แสดงรายละเอียดเพิ่มเติม เพราะยังปล่อยแคมเปญอื่นไม่เสร็จ
Gerald Umeh นักการตลาดจากประเทศไนจีเรีย ได้เปิดเผยรายละเอียดความสำเร็จของตัวเองทั้งหมดผ่านช่อง YouTube ของเขา
เขาเลือก Google Ads เพื่อหารายได้จาก Affiliate Program ของ ClickBank แต่แท้จริงแล้ว Gerald ตั้งใจจะซื้อขายสินค้าใน Niche ของอาหารบำรุงสุขภาพ หลังจากเลื่อนดูข้อเสนอ Affiliate ของ ClickBank เขาตัดสินใจทำงานกับสินค้าลดน้ำหนักอย่างอาหารคีโต
หนึ่งในกุญแจสำคัญของเขา คือการวิเคราะห์คีย์เวิร์ดก่อนแคมเปญโฆษณา
เพื่อให้ CPC ลดต่ำลง เขาปล่อยแคมเปญบนหน้าค้นหาของ Google และ YouTube
ตามที่ Gerald ได้อธิบาย เขาชอบทำในสิ่งที่เรียบง่าย ปัจจัยหลักที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จ จึงมาจากการเลือกข้อเสนอ Affiliate ที่ให้ใช้คีย์เวิร์ดโดยตรงและเรียบง่าย แต่ให้ผลลัพธ์การโฆษณาที่มีประสิทธิภาพเพื่อโปรโมตข้อเสนอ จนสุดท้าย Gerald ก็พึงพอใจกับผลลัพธ์แคมเปญ Affiliate ที่เขาทำ
เราจะไม่ขอลงลึกถึงรายละเอียดของการโฆษณาผ่าน Google Ads สำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ หรือธุรกิจประเภทอื่น ๆ นอกจากลิสต์ของข้อได้เปรียบเสียเปรียบที่ Google Ads มีให้กับนัก Affiliate Marketing เท่านั้น
ข้อดี :
ข้อเสีย :
ไม่ต้องแปลกใจที่ Google จะห้ามการโฆษณาสินค้าหรือการบริการให้บางประเภท เช่น สารเสพติดหรืออาวุธยุทธภัณฑ์ แต่ก็จะมีสินค้าหรือการให้บริการบางประเภทที่สามารถโปรโมตได้ แต่จะมีข้อกำหนดอยู่ เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, สื่อทางเพศ, การพนัน, สินค้าเพื่อสุขภาพ, การให้บริการทางการเงินบางประเภท, ฯลฯ
ข้อกำหนดนี้ยังรวมไปถึงอายุและ GEO ของเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถปล่อยแคมเปญโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ด้วย Google Ads และ Facebook Ads เฉพาะใน GEO ที่อนุญาตให้มีโฆษณาแอลกอฮอล์กับกลุ่มคนที่มีอายุตามเกณฑ์ (18+, 21+ หรือ 23+)
แน่นอนว่ามีเว็บมาสเตอร์บางคนใช้เทคนิคและเครื่องมือบางอย่าง เพื่อช่วยให้บัญชีของตัวเองรอดจากการถูกแบนหรือถูกระงับบัญชี บ่อยครั้งที่คุณสามารถกระทู้เกี่ยวกับสคริปต์การทำ Cloaking ตามฟอรั่มอย่าง BlackHatWorld หรือ Warrior Forum
ข้อสำคัญ : Google เตือนเหล่านักการตลาดและเว็บมาสเตอร์เกี่ยวกับการละเมิดโนบายของ Google Ads และข้อบังคับของ Google สำหรับเว็บมาสเตอร์ การละเมิดทุกรูปแบบที่รวมไปถึง การทำ Cloaking, การยัดคีย์เวิร์ด, Doorway, Redirect สอดไส้และการสแปมเว็บไซต์ผ่านสื่อโซเชียล เบื้องต้นจะถูกตักเตือน ( โดยปกติจะใช้เวลา 7 วัน ก่อนจะดำเนินการอะไรเพิ่มเติม ) จนบัญชีอาจถูกระงับการใช้งาน
สรุป
ด้วยคอนเทนต์ที่มีมูลค่าและความสอดคล้องของเทคนิค SEO จะส่งผลต่อการเติบโตธุรกิจของคุณ ซึ่งนี้ถือเป็นกลยุทธ์ระยะยาว ทาง Google Ads จึงสามารถช่วยให้คุณได้ผลลัพธ์ที่เร็วมากขึ้น
พวกเรายังมีหัวข้อเครื่องมือสำหรับ Google Ads แบบอัตโนมัติ ที่จะมาช่วยประหยัดเวลาและช่วยให้คุณสามารถโฟกัสเป้าหมาย โดยจะช่วย Google Ads วางแผนแคมเปญให้แบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว และเพิ่มเวลาให้คุณไปต่อยอดการพัฒนาธุรกิจของตัวเอง