บริการ ส่วนลด  
AdFlex
เว็บไซต์
Niche Scraper
เว็บไซต์
Adheart
                
PowerAdSpy
                
Social Ad Scout
                
AdEspresso
                
AdBeat
                
SpyFu
                
BigSpy
                
Pathmatics
                
AdspyHub
                
SocialPeta
                
Dropispy
                
AdClarity
                
Minea
                

15+ ประโยชน์เครื่องมือสอดแนม สำหรับยิงแอดบน Facebook [2024]

ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการตลาดหรือคนที่พึ่งเริ่มทำในสายนี้ จะต้องรู้ว่าตอนนี้ตลาดดิจิทัลไปถึงไหนแล้ว มีอะไรใหม่ที่เราต้องเรียนรู้บ้างนับว่าเป็นสิ่งสำคัญ บางครั้งคุณอาจจะเจอกับประสบการณ์ความแตกต่างของเนื้อหาโฆษณา และหน้า landing page เพื่อต้องการให้ได้ผลลัพธ์มากที่สุด ในขณะเดียวกัน นั่นหมายความว่าคุณเสียทั้งเงินและเวลาไปกับการทดลองเพื่อหวังในผลลัพธ์โดยที่ไม่ได้รับประกันเลยว่าจะออกมาดี ดังนั้น เราจึงจะนำเคล็ดลับมาบอกแทนที่จะต้องเสียเวลาไปกับการทดลองที่ยังไม่รู้ผล จะดีกว่าไหมถ้าได้กลยุทธ์ที่มีประสิทธิผลมากกว่าเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า? นั่นคือสิ่งที่คุณกำลังอ่านอยู่ต่อนนี้นั่นเอง

ขอแนะนำเข้าสู่โลกของเครื่องมือสอดแนมสำหรับยิงแอดบน Facebook เพื่อเอาไว้ส่องดูกลยุทธ์ที่คู่แข่งใช้

AdPlexity (ที่มา: eMarketing Hacks)

ปัจจุบันนี้ มิติของการยิงแอดโฆษณาในวงการนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่มีการกลัวคู่แข่งเฉพาะกลุ่มกันแล้ว ความจริงคือ การที่มีคู่แข่งอยู่ในกลุ่มแสดงให้เห็นถึงตลาดเป้าหมาย ซึ่งนัยต่อมา เชื่อว่ากลยุทธ์ทางการตลาดสามารถช่วยดึงดูดให้ผู้ชมเกิดความสนใจมากกว่าคู่แข่ง เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้และเป็นการคงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมการแข่งขันทางธุรกิจ ดังนั้น จึงมีแบรนด์และบริษัทต่างๆ ก็ใช้เครื่องมือสอดแนมเพื่อทำการวิเคราะห์ถึงวิธีที่คู่แข่งใช้เพื่อนำมาเปรียบเทียบ สิ่งนี้รวมไปถึงเว็บไซต์ที่ใช้วิเคราะห์คู่แข่ง การโฆษณาบนเว็บไซต์ เครือข่ายและโปรไฟล์ของโซเชียลมีเดีย

เมื่อพูดถึงการโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook สร้างโอกาสในการขายได้จำนวนมากกว่า ส่งผลให้ได้รับการตอลแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นและยังเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์หลักของนักการตลาดหรือแบรนด์ได้ในทันที สถิติแสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นสำหรับตำแหน่งการวางโฆษณาที่อยู่สูงสุดของ Google RERP (Search Engine Results Page) ถ้าหากว่าคุณอยากให้ผลลัพธ์เพิ่มเป็นทวีคุณ ก็มาเริ่มที่เครื่องมือสอดแนมโฆษณาก่อนเล่ย:


เครื่องมือสอดแนมโฆษณาบน Facebook คืออะไร

เครื่องมือสอดแนมโฆษณาตัวนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ตัวแทนการตลาดใช้แบบ Pay-Per-Click เพื่อพัฒนา ROI เว็บไซต์ของตัวเองและเพื่อรับรายได้จากการโฆษณา ทั้งพวกเทคนิคกลยุทธ์การตลาดต่างก็ใช้เครื่องมือนี้เพื่อไว้สอดส่องดูคู่แข่งของตัวเองว่า Pay-Per-Click ของคู่แข่งมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรหลังจากปล่อยโฆษณาไปบนแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างไร

Social Peta’s Dashboard (ที่มา: eMarketing Hacks)

เวลาที่เหล่าเทคนิคกลยุทธ์การตลาดต้องการข้อมูลพิเศษของแคมเปญคู่แข่ง พวกเขาก็จะหันไปใช้เครื่องมือให้ตรงกับวัตถุประสงค์ ถ้าหากว่าคุณเป็นนักการตลาดหรือคนที่กำลังทำแบรนด์ต่างก็ต้องเคยเห็นโฆษณาเกี่ยวกับเครื่องมือสอดแนมโฆษณามาบ้าง โดยมักอ้างถึงสรรพคุณของตัวแอปเองว่าดีอย่างไร แต่อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่สุดก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อแอปเหล่านั้นจะต้องทราบก่อนว่ามีข้อมูลเชิงลึกที่คุณต้องการอยู่หรือไม่ ใครก็อยากจะเห็นทั้ง pre-landing page และ banner ของตัวเองได้ประสิทธิภาพมากที่สุด จึงจำเป็นมากที่จะต้องใช้สิ่งนี้เป็นโซลูชันในการกำหนดเป้าหมาย ว่าอยากให้คอนเทนต์โฆษณาของเราเป็นตัวเพิ่มยอดขาย จึงนับว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจว่า ทำไมถึงต้องใช้เครื่องมือสอดแนมโฆษณาตั้งแต่แรก

บางโปรแกรมจะให้เราสามารถดาวน์โหลดเนื้อหาโฆษณาที่คู่แข่งใช้กับแบรนด์สินค้าและธุรกิจอื่นๆ บน Facebook และบนสื่อโซเชียลอื่นๆ แต่เราไม่แนะนำให้เอาเนื้อหาของเขามาทั้งหมด ตอนนี้เราอยู่ในโลกของดิจิทัลที่ผู้คนฉลาดมากพอจะรู้ว่าโฆษณาตัวนี้ถูกขโมยเนื้อหาหรือแนวคิดมาใช้ ดังนั้น ถ้าหากผู้ชมจับได้ว่าคุณขโมยเนื้อหา รูปแบบโฆษณา มาแล้วหละก็ CTR คุณจบแน่


ทำไมถึงต้องซื้อเครื่องมือสอดแนมโฆษณาของ Facebook

ในท้ายที่สุดแล้ว เครื่องมือสอดแนมโฆษณาก็เป็นเครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์เกี่ยวกับการมอง และเป็นเครื่องมือขุดข้อมูลเว็บ จำเป็นจะต้องมีเอาไว้สักอันเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกของคู่แข่งที่ใช้แสดงถึงกลยุทธ์ทางการตลาดของผลิตภัณฑ์บนแพลตฟอร์มอย่าง Twitter, Facebook, Instagram และ LinkedIn เป็นต้น

ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่เราได้รวบรวมเหตุผลว่าทำไมจะต้องใช้ เครื่องมือสอดแนมโฆษณาสำหรับ Facebook

  1. เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้ผู้ใช้ยกเครื่องแผนงานสื่อดิจิทัลที่มีอยู่ให้ดีขึ้นไปอีกขั้น
  2. บางครั้งแคมเปญโฆษณาบางตัวของคุณอาจจะนิ่งเมื่อถึงจุดหนึ่ง แต่ถ้ามีเครื่องมือดีๆ สักตัวจะช่วยดึงแคมเปญให้กลับมาสตรีมได้อีกครั้ง
  3. สามารถเข้าถึงข้อมูลโฆษณาทุกประเภทของ Facebook
  4. หรือเราอาจจะใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อพัฒนากลยุทธิ์ของโฆษณาให้มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่ง
  5. สุดท้ายนี้ การมีเครื่องมือสอดแนมโฆษณาที่ดีๆ สักตัวจะช่วยให้การวางแผนในการสร้างกลยุทธิ์สำหรับโซเชียลให้มีเดียแบบบูรณาการได้โดยที่ไม่ต้องไปเสียเงินจำนวนมากจากการนำเข้าข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้

สรุปง่ายๆ ว่าเราจำเป็นที่จะต้องพึ่งเครื่องมือเหล่านี้เพื่อวางแผนกลยุทธ์ในการทำแคมเปญโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย และเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับแบรนด์โดยตรงได้แบบก้าวกระโดด


อะไรคือสิ่งที่ดีที่สุดที่เราควรมองหาในเครื่องมือสอดแนมโฆษณาบน Facebook

การลงทุนในเครื่องมือสอดแนมโฆษณาเป็นสิ่งจะต้องให้ความสำคัญอย่างจริงจัง แต่ก่อนที่จะลงทุนไปกับเครื่องสอดแนมนี้ มันไม่ง่ายเลยที่ต้องก้าวเดินอย่างระมัดระวัง และต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะรับรู้เอาไว้:

  1. เรากำลังมองหาค่าตัวกรองอะไรอยู่

ต้องมั่นใจว่า เครื่องมือที่เรากำลังมองหาอยู่นั้นมีตัวกรองการค้นหาให้ผลลัพธ์แคบลง จึงทำให้เราประหยัดเวลาในการกลั่นกรองโฆษณาที่ไม่เกี่ยวข้อง

  1. UI และ UX

ความสะดวกในการประสานงานของการนำทางโดยเครื่องมือที่เรากำลังพิจารณาจะซื้อเป็นอย่างไร? ช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายหรือไม่? แสดงผลลัพธ์เร็วไหม? มีการอัปเดตเกี่ยวกับโฆษณาใหม่ๆ บนแพลตฟอร์มเป็นประจำหรือไม่? ถ้าหากว่าคำตอบของคำถามเหล่านี้คือ ใช่ ให้เรารีบลงมือซื้อก่อนที่คนอื่นจะทำ!

  1. มีคุณสมบัติพิเศษอะไรเพิ่มให้บ้าง?

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ใดๆ ถ้ามีลูกเล่นอะไรเพิ่มเติมให้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีเสมอ อย่างเช่น บางแพลตฟอร์มจะให้เราสามารถบันทึกการวิเคราะห์คู่แข่งเก็บไว้ได้ ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวช่วยปรับปรุงกลยุทธ์การโฆษณาให้มีประสิทธิภาพได้

  1. ส่วนตัวแล้วเราต้องการคุณสมบัติแบบไหน?

ความต้องส่วนตัวของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญ เพราะท้ายที่สุด เราคือคนที่ใช้เครื่องมือนี้ ใช้เวลาในการกำหนดโอกาสเป้าหมายการขายส่วนบุคคลให้เฉพาะสำหรับคนที่อยากใช้เครื่องมือสอดแนมโฆษณา เราอาจตั้งคำถาม ว่าเราต้องการกำหนดเป้าหมายผู้ชมเฉพาะกลุ่มหรือไม่? หรือกำลังมองหาโฆษณาแสดงเฉพาะที่คนเห็นบน Facebook? เราต้องการให้เครื่องมือนี้สอดแนมเฉพาะโฆษณาบน Facebook ใช่หรือไม่? เรากำลังมองหาเครื่องมือช่วยสอดแนมโฆษณาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ ได้หรือไม่?

  1. สถานะของข้อมูลเป็นอย่างไร?

การพิจารณาถึงความหลากหลายนั้นเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงขนาดของฐานข้อมูลที่เครื่องมือมีให้ ถ้าหากว่ามีฐานข้อมูลเยอะ นั่นหมายความว่า เราเข้าถึงโฆษณาได้มากขึ้น ส่งผลให้มีข้อมูลมากขึ้น ถ้ามองในทางกลับกัน ถ้าฐานข้อมูลมีความหลากหลายมากขึ้น เราก็จะเป็นโฆษณาจากแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มากขึ้น

  1. ราคาก็มีผลต่อคุณภาพ

เราไม่แนะนำให้คุณหมดเงินไปกับแค่คามต้องการเครื่องมือเฉยๆ ต้องมั่นใจว่าเงินที่จ่ายไปนั้นคุ้มค่ากับคุณสมบัติของเครื่องมือที่ได้มา เครื่องมือที่ราคาถูกใช่ว่าจะใช้ได้นาน เครื่องมือที่มีคุณสมบัติครอบคลุมกว่า คุณภาพดีกว่า ในทางตรงกันข้าม กับทำให้เราประเงินประหยัดเวลาและใช้งานได้นานกว่า

  1. ต้องดูรีวิวให้มากก่อนตัดสินใจซื้อ

อย่าได้ดูถูกคำรีวิวสินค้า ถ้าคุณรู้ว่าจะสามารถหาดูรีวิวได้จากตรงไหนอินเตอร์เน็ตช่วยคุณได้ สามารถดูได้บนเว็บ Trustpilos และบน Google Reviews และยังมีหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีคนรีวิวเกี่ยวกับแอปสอดแนมโฆษณาคือ Get App (ดูตัวอย่างได้ตามภาพด้านล่าง)

ที่มา: Get App


เครื่องมือสอดแนมโฆษณาของ Facebook มีคุณสมบัติอะไรบ้าง : อ้างอิงจาก PowerAdSpy

คุณสามารถเข้าถึงข้อมูลคลังโฆษณาที่มีเป็นล้านๆ โฆษณาตามประเทศต่างๆ จากทั่วโลกและสามารถค้นหาโฆษณาโดยใช้ตัวกรองต่างๆ

ดูเหมือนว่าโอกาสของโฆษณามีไม่สิ้นสุด!

ต่อไปนี้เป็นคุณสมบัติที่จะช่วยให้คุณเพลิดเพลินไปกับเครื่องมือสอดแนมโฆษณา:

  1. คุณสมบัติ “Sort By”

คุณสมบัติข้อนี้ผู้ใช้สามารถ จัดเรียงโฆษณา ตามความคิดเห็น แชร์ และจากการ กดไลค์ ที่ได้จากคนดู

ที่มา: PowerAdSpy

  1. คุณสมบัติ “Lander Properties”

คุณสมบัติข้อนี้นักการตลาดนิยมใช้กันเยอะเพราะมีประโยชน์มาก สามารถใช้ดูคีย์เวิร์ด และโฆษณาที่สตรีมอยู่ในพื้นที่นั้นๆ เป็นต้น และที่มากไปกว่านั้น ผู้ใช้สามารถที่จะค้นหาแบบ จัดเรียง ตามประเภทของ funnel โฆษณาอย่าง แพลตฟอร์มการตลาด แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และแหล่งที่มา อย่าง WooCommerce, Shopify เป็นต้น

  1. ตัวเลือกการกรอง “Filter”

อีกหนึ่งคุณสมบัติที่ตัวส่องโฆษณามีให้คือ ตัวกรอง ผู้ใช้สามารถค้นหาโฆษณาตามประเภทของโฆษณาอย่าง ตำแหน่งที่วางโฆษณา ปุ่ม action อย่าง CTA (call to action) และผู้ใช้สามารถคนห้าโฆษณาในประเทศที่ใช้คุณสมบัติตัวนี้ได้

  1. คุณสมบัติ “Search By”

คุณสมบัติตัวนี้ ผู้ใช้สามารถค้นหาโฆษณาขึ้นอยู่กับวัตถุที่อยู่ในภาพได้ อย่างภาพที่คนดังอยู่ในนั้น ข้อความในภาพ และภาพทีมีสินค้าอยู่ในนั้น ฉะนั้น ตัวเลือกข้อนี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างง่ายดาย


ข้อดีของการใช้เครื่องมือสอดแนมโฆษณาที่เป็นตัว Pros คืออะไร

  •  เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมถึงต้องแยกเครื่องมือสอดแนม Facebook ออกจากเครื่องมือตัวอื่น? เครื่องมือเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ใช้ได้รับมุมองใหม่ๆ เกี่ยวกับแนวทางการโฆษณาแทบจะทั้งหมด ทำให้รับรู้และเข้าใจเกี่ยวกับโฆษณาว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้างบนแอปโซเชียลมีเดียรู้รายละเอียดลงลึกถึงระดับข้อมูลที่เล็กๆ ยิบย่อย รู้ถึงว่าคู่แข่งใช้เทคนิคอะไรในการ landing page คู่แข่งตั้งเป้าหมายของภูมิภาคอย่างไร คุณภาพของสินค้า หน้าเพจสำเนาการขายมีหน้าตาอย่างไร และมีบริการลูกค้าดีแค่ไหน
  •  หรือจะพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องมือตัวนี้ทำให้คุณได้ประโยชน์จากการวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของคู่แข่งได้ในระดับหนึ่ง เมื่อเราได้ข้อมูลมาแล้ว เราสามารถที่จะสร้างกลยุทธ์ของเราเองได้เพื่อเอาชนะคู่แข่ง ต้องให้บทเรียนคู่แข่งซะหน่อย..! เราสามารถยืมไอเดียของคู่แข่งนำมาใช้เพื่อดูผลในระยะยาวว่าเป็นอย่างไร รวมถึง เราจะได้ทราบถึงว่าอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์อยู่ในขณะนั้นด้วย ทำให้เราสามารถทำกลยุทธ์ให้กับแบรนด์ของเราให้ออกมาดีกว่าคู่แข่ง เราเพียงต้องการสถิติของแคมเปญโฆษณาจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยให้เราสามารถสร้าง ตัวตนให้กับแบรนด์สินค้าและทำให้แบรนด์ของเรามีพื้นที่อยู่ในตลาดทำให้คนได้รู้จัก
  • นักการตลาดทุกคนจะรู้ดีว่าเนื้อหาเกี่ยวกับวิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering คือ กระบวนการพัฒนาโดยใช้การวิเคราะห์สืบกลับไปที่ต้นแบบ หรือการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลจากชิ้นงานต้นแบบ) และการศึกษาแคมเปญของคู่แข่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลดีจริงจะเป็นทางลัดไปสู่ความสำเร็จของเรา และด้วยวิธีการนี้จะช่วยให้เราสามารถค้นพบโอกาสในการออกแบบโฆษณาแนวใหม่ๆ ด้วยลูกเล่นตัวนี้โดยที่เราอาจจะนึกไม่ถึงเลยจนกระทั่งได้เริ่มทำคอนเทนต์ ถึงจะรู้ว่าเราสามารถใช้ประโยชน์จากขั้นตอนนี้ได้หลายปีถ้าเราใช้เครื่องมือสอดแนมโฆษณา Facebook
  • นอกเหนือไปจากนี้ เรายังศึกษาได้จากเครื่องมือสอดแนมนี้ว่า ตอนนี้มีคอนเทนต์อะไรที่กำลังเป็นกระแสโพสต์อยู่บน Facebook บ้าง รวมถึงการใช้ CTA และใช้ลิงก์อะไรใส่เข้าไปเพื่อนำคนไปคนไปสู่หน้าเพจอื่น สุดท้ายนี้ เราจะเห็นได้ว่าผู้ชมให้ความสนใจมี engaging กับลิงก์มากน้อยแค่ไหนกับคอนเทนต์ที่โพสต์อยู่บน Facebook

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดที่กล่าวมานับว่าเป็นโอกาสสำหรับนักวางแผนกลยุทธ์การตลาดได้ใช้ประโยชน์เพื่อสร้างเส้นทางสุ่ความสำเร็จได้


วิธีการใช้เครื่องมือสอดแนม (ตัวอย่างของ SocialAdSpyder)

การใช้เครื่องมือสอดแนมไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่ถ้าคุณรู้สึกกังวล เราจะมาอธิบายให้ฟังถึงวิธีการใช้แบบทีละขั้นตอน โดยยกตัวอย่างการใช้แอป SocialAdSpyder ซึ่งแอปนี้มีคุณสมบัติที่สามารถใช้ได้กว้างมากด้วยชั้นเชิงของกลยุทธ์เชิงลึกที่คู่แข่งใช้ จึงทำให้คุณก้าวหน้าคู่แข่งด้วยกลยุทธ์รู้เขารู้เรา คุณสมบัตินี้ประกอบไปด้วย Classified Affiliate Ads, Ad Categories, การคลิกของ E-Commerce Ads, ตัวเลือกการค้นหาข้อมูลที่หลากหลาย และรายละเอียดของโฆษณาทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 1 : สร้างบัญชี (Create an Account)

เริ่มแรกก็สมัครใช้ด้วยการสร้างบัญชีขึ้นมา เมื่อบัญชีได้รับการยืนยันแล้ว จากนั้นตัวแอปจะถามให้เราเลือกแพลนของโปรแกรม ตามที่เราต้องการ เราสามารถเลือกตัว Professional, Premium หรือ ตัวที่เป็นราคาสำหรับผู้ประกอบการ

ตัวอย่างเช่น ถ้าเราเป็นตัวแทนการตลาด เรามีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องพึ่งตัวช่วยที่มีคุณสมบัติพิเศษโดยเฉพาะถ้าต้องการข้อมูลเกี่ยวกับโฆษณา เราแนะนำให้ใช้ตัวเลือกของแผน Premium หลังจากที่กดเลือกราคาไปแล้ว เราจะได้รับการยืนยันการจ่าย จากนั้นก็สามารถล็อกอินเข้าหน้า dashboard ได้เลย

ขั้นตอนที่ 2: ใช้ตัวกรองการค้นหา “Filters”

หลังจากที่ได้ล็อกอินเข้า dashboard เรียบร้อยแล้ว คุณก็จะได้พบกับหน้าที่มีข้อมูลอินเตอร์เฟส ค่อนข้างใช้งานง่าย จะได้ผลลัพธ์ที่โฆษณาแสดงล่าสุดเพิ่มมาในฐานข้อมูลโดยจะแสดงออกมาให้เห็นก่อน และจะมีตัวกรองที่หลากหลายที่เราสามารถใช้งานได้ในเมนู มีดังนี้:

  •  ประเทศ
  • เทคโนโลยี
  •  หมวดหมู่ (หัวข้อโฆษณาก็รวมอยู่ในข้อนี้ด้วย)
  •  การตลาดแบบ Affiliate (รวมถึง Affiliate vertical คือ การทำ affiliate marketing ในแนวทางเฉพาะของสินค้าหรือบริการเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายที่เราต้องการ)
  •  ภาษา (ภาษาที่ใช้โฆษณา)
  •  การเรียงลำดับการค้นหาโดย (ถูกเห็นครั้งล่าสุด, ระยะเวลาในการดู, วันที่โฆษณาถูกเห็นวันแรก, ทุกอย่างสามารถกรองพฤติกรรมการดูได้จากมากไปน้อยหรือจากน้อยไปมาก และจำนวนการกดไลค์)
  •  แพลตฟอร์ม
  •  CTA (ปุ่ม call to action)
  •  ประเภทของโฆษณา (เป็นภาพแบบหมุน, รูปภาพธรรมดา หรือวิดีโอ)

การกรองหาด้วยหมวดหมู่และกรองหาสินค้า affiliate จะช่วยได้มากถ้าหากว่าเราใช้ ตัวกรองหาโฆษณาอิคอมเมิร์ซและหาข้อเสนอสินค้าแบบ affiliate ที่เราต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนของโฆษณาที่กรองได้เฉพาะข้อมูลที่เราค้นหานั้นมีประโยชน์มาก เพราะช่วยให้เรารู้ว่าเรากำลังคาดหวังกับผลลัพธ์ประเภทใด

นอกเหนือจากนี้ เราสามารถใช้เทคโนโลยีตัวกรองในการกรองหาโฆษณาที่แสดงบนแพลตฟอร์มที่คนทำโฆษณาใช้กับเพจออนไลน์ได้

สำหรับคุณสมบัติของ Clicky E-commerce ของเครื่องมือสอดแนมโฆษณาจะช่วยให้การค้นหาข้อมูลของเราแคบลงด้วยเทคโนโลยีที่ใช้อย่าง BigCommerce, WooCommerce, Shopify, Magento และอื่นๆ และถ้าเราอยากจะรู้จำนวนที่แน่นอนว่าแพลตฟอร์มนั้นมีโฆษณาแสดงไปแล้วจำนวนเท่าไหร่ ก็สามารถทำได้เพียงแค่เพิ่มจำนวนตาม ประเภทของโฆษณา ลงไป

เราสามารถจะหาจำนวนของการกดไลค์และระยะเวลาการแสดงของโฆษณาได้อีกด้วย ด้วยตัวเลือกแบบแถบเลื่อนสองตัวที่แสดงอยู่ด้านล่างเมนู

จากตัวอย่างที่ยกมา จำนวนของโฆษณาที่แสดงบนหน้าจอแสดงถึงหน้าธุรกิจของผู้ลงโฆษณา ไม่ใช่ตัวโฆษณาเอง สามารถดูตัวอย่างผลลัพธ์โฆษณาได้จาก Hull Shield:

จำนวนการกดไลค์ของหน้าโฆษณาคือ 340 ครั้ง แต่หลังจากที่ทำการค้นคว้าเราพบว่า เป็นหน้า ธุรกิจของ Facebook ดังภาพต่อไปนี้

จะมีช่องแสดงของช่วงวันที่อยู่ใต้เมนูด้านขวาจะเห็นวันที่ก่อนหน้าที่แสดงคือ 1 มกราคม 2018 ดังนั้น โฆษณาทั้งหมดที่ถูกแอป SocialAdSpyder ตรวจับได้จะเริ่มจากวันนี้ขึ้นไป นอกจากนี้สามารถพิสูจน์ได้ด้วยการดูระยะเวลาสูงสุดที่แสดงอยู่บนแถบเลื่อน ถ้าอยากจะดูข้อมูลก่อนหน้าวันที่ที่ตั้งไว้จะไม่สามรถดูได้ซึ่งนั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่เราต้องการดูคือ โฆษณาที่เป็นเทรนด์ล่าสุด ไม่ใชโฆษณาเมื่อห้าปีที่แล้ว

เราสามารถที่จะกำหนดระยะเวลาของวันแรกที่โฆษณาถูกแสดงบนแพลตฟอร์มได้ ด้วยขั้นตอนนี้ถือว่ามีประโยชน์มากเพราะสามารถที่จะค้นหาว่าเทรนด์ล่าสุดคืออะไรก็สามารถทำได้ แต่อย่างไรก็ดี ถ้าหากว่าเราอยากจะค้นหาโฆษณาหรือบริการอะไรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แนะนำว่าให้ไปตั้งค่า ระยะเวลา ตรงแถบเลื่อนโดยเลื่อนไปที่ตัวเลขสูงสุด

ลองมาสมมุติว่าเราอยากดูโฆษณาที่ยังแสดงอยู่บน Facebook ตั้งแต่สี่ปีที่แล้ว ก็ให้ไปตั้งค่าที่แถบเลื่อนเลือกระยะเวลาแสดงของวันขั้นต่ำที่สุด ดูได้จากภาพตัวอย่างด้านล่างนี้:

ขั้นตอนที่ 3: ใช้ฟังก์ชันการค้นหาแบบธรรมดาและแบบขั้นสูง

การใช้ฟังก์ชันการค้นหาแบบธรรมดาและแบบขั้นสูงเป็นอะไรที่ค่อนข้างแม่นยำ โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องเก่งเรื่องเทคโนโลยีก็สามารถเข้าการทำงานของระบบได้ เพียงแค่คลิกตรงแว่นขยายที่แสดงอยู่มุมขวาด้านบนของหน้าจอ

การทำงานของการค้นหาแบบธรรมดาคือให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์คีย์เวิร์ดอะไรก็ได้ที่มีความสัมพันธ์กันกับชื่อของโฆษณา หรือคีย์เวิร์ดคำที่ใกล้เคียงกับเนื้อหาของหน้า landing page หรือชื่อโฆษณา โปรดรู้ไว้ว่าการทำงานของขั้นตอนนี้จะจับคู่กับชื่อที่เหมือนกันเท่านั้น หมายความว่า ถ้าเราใส่คำไป 1 คำ หรือ 2 คำ คำเหล่านั้นจะต้องเป็นคำที่ถูกต้องตรงกับคำในหน้าโฆษณาที่แสดงผลจากการค้นหา

ส่วนระบบการทำงานของการค้นหาแบบขั้นสูงนั้น จะต่างกันไปเลย นั่นคือ ผู้ใช้สามารถใช้การทำงานของ Boolean เพื่อจำกัดโฆษณาที่ต้องการหานั้นให้แสดงผลแคบลง

แต่ดูเหมือนว่าจะมีอยู่สิ่งหนึ่งที่จะใช้ไม่ได้กับแอป SocialAdSpyder คือการทำงานของปุ่ม CTA (Call To Action) กับปุ่มการกรองอื่นๆ เพราะว่าเราเจอปัญหานี้ตอนใช้การกรองกับหน้า landing page แต่อย่างไรก็ดี ส่วนอื่นๆ นั้นทำงานได้ดีตามปกติ และเราสามารถที่บันทึกผลการค้นหาที่เราได้หาเอาไว้แล้วเก็บไว้ใช้ในวันข้างหน้าได้ด้วย

ขั้นตอนที่ 4: ดูผลลัพธ์ของโฆษณาและรายละเอียดอื่นๆ

เมื่อเราใช้ตัวกรองการค้นหาของแอป เราจะพบกับรายการของโฆษณาที่แสดงในรูปแบบกริดดังภาพที่แสดงด้านล่าง:

แต่ละภาพจะมีรายการข้อมูลดังต่อไปนี้:

  • Affiliate vertical (ถ้ามี)
  • ประเทศ
  • ข้อความโฆษณา
  • วันที่
  • เทคโนโลยี
  • รูปภาพธรรมดา รูปภาพแบบหมุนได้ วิดีโอ (รูปภาพแบบหมุนจะถูกแสดงขึ้นมาเมื่อเราคลิก รวมถึงภาพวิดีโอ)
  • หน้าเพจโฆษณา
  • ใช้สัญลักษณ์รูปหัวใจแทนการบันทึก (เวลาที่เราอยากจะบันทึกอะไรเพื่อนำไปใช้อ้างอิงหรือนำไปใช้ภายหลัง จะถูกบันทึกอยู่ในรูปหัวใจ)
  •  ชื่อโฆษณา
  • แพลตฟอร์มที่โฆษณาแสดง
  •  ปุ่ม CTA (ถ้ามี)
  •  จำนวนของการกดไลค์เพจโฆษณา
  •  จำนวนของวันที่โฆษณาแสดง
  •  หมวดหมู่โฆษณา

เมื่อใดก็ตามที่เราคลิกที่ภาพเราก็จะได้รับข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับหน้าเพจโฆษณา และเรายังสามารถค้นหาอะไรก็ได้ที่แสดงอยู่ในแผ่นโฆษณาที่แสดงร่วมกับข้อความพิเศษไม่กี่คำเช่น:

  • แสดงตัวอย่างของหน้า pre-lander
  • หน้าเพจ ID
  • URL ของหน้าเพจ landing
  • ภาษา
  • แผนที่ของประเทศที่มีสีไฮไลท์เพื่อแสดงว่าโฆษณาถูกแสดงอยู่ในประเทศนั้นๆ

ที่หน้า dashboard ยังมีแท็ปโฆษณาอื่นๆ จากผู้ลงโฆษณารายเดียวกันกับที่เรากำลังส่องอยู่

บนหน้า pop-up เพจเรายังสามารถดูหน้า preview ของ landing page ได้ ด้วยการเลื่อนลงก็จะปรากฏให้เห็นเหมือนภาพด้านล่าง และยังมีปุ่มให้กดดาวน์โหลดที่หน้า landing page ที่เราดูอยู่ แต่ก็ไม่อนุญาตให้ผู้ใช้กดดาวน์โหลดได้ ทางเดียวที่ทำได้คือให้ screenshort ภาพเอา

ขั้นตอนที่ 5: จัดกลุ่มรายการโปรดเอาไว้ดู

ข้อที่สำคัญที่สุดสำหรับเครื่องมือสอดแนมโฆษณาที่มีอยู่บนอินเตอร์เน็ตคือ ผู้ใช้สามารถที่จะจัดการจัดเก็บแคมเปญเอาไว้ตรงรูปสัญลักษณ์หัวใจ ที่สำคัญของแอป SocialAdSpyder มีรูปหัวใจแสดงถึงรายการโปรด (favorite) ถ้าต้องการเข้าไปที่รายการโปรดของเรา ให้คลิกที่ Profile แล้วไปที่ favorite เลือกเมนูแบบเลื่อนลง (drop-down) จากนั้นที่หน้า dashboard ก็จะมีแท็ปข้อความคำว่า favorite ในนั้นเราสามารถสร้าง folder เพื่อเอาไว้เก็บรายการที่เราชอบเพื่อง่ายต่อการเข้าใช้ เราจะสร้างกี่ folder ก็ได้เพื่อเก็บงานโฆษณาที่เราต้องการ


เราจะใช้ประโยชน์ได้สูงสุดจากแอปสอดแนมโฆษณาได้อย่างไร

การที่เราเสียเงินซื้อแอปในราคาแพง ก็ไม่ได้รับประกันว่าจะได้ของดีเสมอไป เราจะต้องรู้วิธีดึงประสิทธิภาพออกมาให้มากที่สุดโดย เราต้องใช้ให้ครบเครื่องมือที่แอปมีให้อย่างเหมาะสม ในขณะที่เราเรียนรู้แล้วจากความสำเร็จของแคมเปญ ได้อย่างไม่ต้องสงสัยถึงข้อได้เปรียบที่คุ้มค่าที่สุด เราก็ยังต้องใช้ความรู้ความสามารถนั้นอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ประสบความสำเร็จ

ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือสอดแนมโฆษณาในวิธีที่ดีที่สุด:

  •  ห้ามทำโฆษณาซ้ำทุกตัวที่พบที่สนใจ ใช้เวลาศึกษาทำความเข้าใจกลยุทธ์และเทคนิคเกี่ยวกับโฆษณาก่อน ครั้นเมื่อเรารู้แล้วว่าเป็นโฆษณาแบบใดจากนั้นก็ทำการวิเคราะห์ย้อนกลับ (reverse engineer) เพื่อปรับให้เข้ากับความต้องการของตลาดเราด้วยการใส่เทคนิคที่เหมาะสมแล้วนำสิ่งที่ได้เรียนรู้มานำมาปฏิบัติใช้ไปพร้อมๆ กัน
  • ให้ใช้เวลาในการทำความเข้าเรื่อง landscape ที่มีกลุ่ม niche ให้มาก และให้ทำความเข้าใจกับสิ่งที่ผู้ชมที่อยู่ในกลุ่ม niche นั้นสนใจและทำให้พวกเขา engage กับโฆษณาของเราให้มากที่สุด เราสามารถหาข้อมูลพวกนี้ได้จาก การรีวิวที่มีการพูดถึงมากที่สุดเกี่ยวกับโฆษณาที่เป็นที่นิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook
  • เมื่อเราได้ทำการวิเคราะห์ถึงกลยุทธ์ที่คู่แข่งใช้แล้ว ต้องทำการจดบันทึกเอาไว้ว่าคู่แข่งใช้กลยุทธ์อะไร ถ้าหากว่าคู่แข่งใช้กลยุทธ์หลายตัวกับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เราแนะนำให้ใช้กลยุทธ์ตัวเดียวกับที่คู่แข่งใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุดกับกลุ่มผู้ชมของเรา

เครื่องมือสอดแนมโฆษณาใช้กับ Affiliate Marketing ได้หรือไม่

ได้แน่อน! ส่วนมากแล้ว affiliate marketing (หรือจะเรียก การตลาดแบบพันธมิตรหรือการตลาดแบบตัวแทน) มักใช้เนื้อหาโฆษณาแบบเดียวกันซึ่งเป็นแบบดั้งเดิมแต่อาจจะเปลี่ยนคอนเทนต์เพื่อใช้กรณีที่ต่างกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพในแนวทางของการตลาดแบบพันธมิตร แต่ว่าการใช้เนื้อหาโฆษณาซ้ำไปซ้ำมาเดิมๆ จะทำให้เราเกิดผลกระทบสูญเสียในสิ่งที่เราต้องการ ดังนั้น การใช้เครื่องมือสอดแนมโฆษณาจึงนับว่าช่วยเราได้มากในเรื่องนี้ กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นเกี่ยวกับทิศทางการตลาด เครื่องมือสอดแนมจะช่วยให้นักการตลาดบรรลุกลยุทธ์การตลาดแบบพันธมิตรได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดีกว่า ซึ่งเราจะได้เห็นในวงการการตลาดแบบพันธมิตรได้ใช้เครื่องมือสอดแนมกันอย่างกว้างขวาง

ตัวอย่างแอป เช่น Adbeat เอาไว้ใช้กับการตลาดกลยุทธ์ ส่วนแอป SEMRush เป็นแอปที่ครบวงจรเพื่อเอาไว้ใช้กับ SEO ส่วน BigSpy เอาไว้ใช้ติดตามโฆษณาของคู่แข่งและเอาไว้ส่องเนื้อหาโฆษณาที่คู่แข่งใช้ เป็นต้น


เครื่องมือสอดแนมโฆษณาช่วยการตลาดแบบพันธมิตรอย่างไรบ้าง

  1. ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลประชากร

ด้วยข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับกลุ่มเป้าหมายเกี่ยวกับข้อมูลประชากรที่ดูโฆษณาที่ดำเนินการโดยคู่แข่ง ช่วยให้นักการตลาดสามารถนำไปหรับแต่งแคมเปญของตนเองเพื่อปรับปรุงให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า และด้วยเครื่องมือสอดแนมที่ดีกว่าใหญ่กว่าก็มักจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับประชากรในรูปแบบของแผนภูมิสำหรับโฆษณา

Ad Demographics insight by BigSpy

  1. คอยสอดส่องดูความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง

นักการตลาดแบบ affiliate มักใช้ตัวสอดแนมเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลเกี่ยวเป้าหมายเครือข่ายของโฆษณาและเนื้อหาโฆษณา บางแอปสอดแนมมีประสิทธิภาพครอบคลุมถึงแพลตฟอร์มหลักอย่าง Facebook Twitter, Instagram, Pinterest, Yahoo และ AdMob ตราบใดที่คุณแข่งยังโพสต์โฆษณาตามแพลตฟอร์มที่กล่ามาแล้วข้างบน เมื่อนั้นเหล่านักการตลาดกลยุทธ์ก็สามารถที่จะสอดแนมได้ตามที่ต้องการ

  1. ช่วยให้นักวิเคราะห์การตลาดได้ศึกษาข้อมูลปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้

แอปสอดแนมช่วยให้นักการตลาดวิเคราะห์ข้อมูลปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้โดยมีข้อมูล engagement ของลูกค้าที่ใช้โซเชียล เพราะข้อมูลตัวนี้ช่วยให้ผู้ใช้แอปสอดแนมสามารถวัดผลทางโซเชียลมีเดียแล้วเปลี่ยนเป็นผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) จากสื่อโซเชียลออนไลน์ บางแอปสอดแนมอย่าง BigSpy ยังให้ข้อมูลโดยละเอียด เช่น จำนวนการแชร์ การกดไลค์ และจำนวนความคิดเห็น เป็นต้น ด้วยข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้นักการตลาดสามารถพัฒนาศักยภาพให้กับตัวแทนทางการตลาดของพวกเขาได้และยังทำให้เกิด ROI ในเวลาอันสั้นอีกด้วย

หรือกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า การตลาดแบบ affiliate กลายมาเป็นความจำเป็นอย่างขาดไม่ได้ในขอบเขตของการตลาดโฆษณา และช่วยให้นักการตลาดสามารถมองกลยุทธ์โฆษณาของคู่แข่งออก เพื่อนำมาพัฒนาให้กับศักยภาพโฆษณาของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปอีก


เราจะเปรียบเทียบข้อดีที่สุดของสองแอปสอดแนมได้อย่างไร

ในขณะที่ตอนนี้มีแอปสอดแนมเป็นร้อยๆ แอปสำหรับโฆษณาของ Facebook แต่มีอยู่สองแอปที่มีความสามารถโดดเด่นมากกว่าแอปอื่นๆ นั่นคือ:

แอป BigSpy และแอป AdSpy เป็นที่ต้องการมากที่สุดสำหรับ Facebook

อ้างอิงจาก: Google Trends

เราได้ทำข้อเปรียบเทียบของทั้งสองแอปนี้ไว้ให้แล้ว ฉะนั้น เวลาที่คุณต้องการจะใช้แอปใดแอปหนึ่งก็สามารถเปรียบเทียบตามตารางด้านล่างนี้ได้เลย

  1. ข้อเปรียบเทียบระหว่างราคา

  1. ข้อเปรียบเทียบตามกฎของ Affiliate

  1. ข้อเปรียบเทียบตามผลการวิเคราะห์ของ E-commerce

  1. การทำงานของแอป Bigspy และแอป Adspy ตามการกรองและการค้นหาชั้นสูง

  1. ข้อเปรียบเทียบตามคำอธิบายของฐานข้อมูล

  1. เปรียบเทียบการวิเคราะห์เชิงลึก


เราสามารถสอดแนมโฆษณาของคู่แข่งบน Facebook ฟรีได้หรือไม่?

ในทางเทคนิคแล้ว ไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นไปไม่ได้ เรายังสามารถส่องโฆษณาของคู่แข่งได้โดยที่ไม่ต้องใช้แอปสอดแนมเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาดของเรา แต่เราจะไม่ได้ข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับกลยุทธ์ของคู่แข่งมากเหมือนกับที่แอปสอดแนมทำได้ แต่ตัวฟรีก็สามารถทำได้นะ

อ้าว..แล้วจะทำได้อย่างไร?

ก็สามารถทำได้ด้วยการใช้เครื่องมือ Facebook info & Ads หรือ Facebook Ad Library

เครื่องมือทั้งสองนี้เป็นแอปทางการของ Facebook ที่สามารถส่องโฆษณาได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเงินสักบาท


Facebook Info และ Ads Tool ทำงานอย่างไร

เราสามารถเข้าไปดูได้ที่หน้าเพจหรือที่บัญชีที่เราอยากจะเช็กโฆษณาหรืออยากจะส่องดูโฆษณาตัวนั้น ตรงแผงนำทางที่ด้านซ้าย จะมีตัวเลือกสำหรับ ‘Info and Ads’ ก่อนที่จะไปกดที่ตัวเลือกนั้น ให้ลองเลื่อนดูข้อมูลในเพจเพื่อดูว่ามีตัวเลือกอะไรบ้างที่อยู่ทางซ้ายมือ เมื่อทำเสร็จแล้ว ก็ให้คลิกที่ ‘Info and Ads’ จากนั้นให้เลือกที่คำว่า country จากตัวเลือกด้านล่างเมนู ดูตัวอย่างจากภาพด้านล่าง

จากนั้นเราก็จะมีโฆษณาที่เป็นปัจจุบันทั้งหมดที่เราเลือกมาอยู่ตรงหน้าเพจ


Facebook Ad Library ทำงานอย่างไร

ตัว Facebook Ad Library จะทำงานแตกต่างจาก Info and Ads tool เพราะว่าถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้เอาไว้หาโฆษณาที่เกี่ยวกับการเมืองบน Instagram และ Facebook แต่ว่า เมื่อปี 2019 ทาง Facebook ได้เปลี่ยนเป็นเกี่ยวกับแคมเปญที่กำลังทำงานอยู่ทั้งหมด รวมถึงสิ่งที่เราสนใจโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยซ้ำ

ในขณะที่การใช้ Facebook Ad Library จำเป็นจะต้องเริ่มด้วยการปิด AdBlock เสียก่อน จากนั้นให้เลือกที่ประเทศ ขั้นตอนก็จะเหมือนกันกับตอนที่เราเลือก Info และ Ads tool แต่แนะนำให้เลือกทุกประเทศ เพราะว่าจะได้เห็นข้อมูลได้มากเท่าที่จะเป็นไปได้

เมื่อเราเลือกประเทศจากลิงก์ได้แล้ว จากนั้นให้ทำรายการทั้งหมดของคู่แข่งเอาไว้ เพื่อง่ายต่อขั้นตอนในการค้นหาข้อมูล โดยการพิมพ์ชื่อของคู่แข่งลงไปเพื่อทำการค้นหาข้อมูลใน Facebook Ad Library อย่าตกใจถ้าหากว่าช่องการค้นหาที่เราใส่ข้อมูลไปไม่ทำงาน นั่นเป็นเพราะว่าเราใช้เว็บไซต์ของเฟสบุ๊กในหาเพจของคู่แข่ง จากนั้นให้คัดลอกแล้ววางชื่อที่เราต้องการค้นหาลงไป ดูตัวอย่างจากภาพด้านล่าง

เราสามารถแชร์ลิงก์โฆษณาที่เราชอบได้ แต่ให้ทราบไว้ว่า ลิงก์ที่เราแชร์มานั้นมีโอกาสที่ลิงก์จะไม่ทำงานหลังจากสองสามวันผ่านไป นั่นเป็นเพราะว่าแคมเปญโฆษาถูกตั้งค่าให้หยุดชั่วคราว หรือให้ปล่อยโฆษณาซ้ำอีกได้บ่อยครั้ง และมากกว่าที่เราคิดไว้เสียอีก ดังนั้น ถ้าหากว่าเราเจออะไรที่น่าสนใจ เราสามารถบันทึกโฆษณาที่เราชอบได้ด้วยการใช้ DropBox หรือ Google Drive

ที่มา: AdSpyder

หรือเราสามารถใช้แอปสอดแนมอย่าง Spyder, SpyFu หรือ Anstrex ในการบันทึกโฆษณาที่เราสนใจได้ อาจจะทำหมวดหมู่ เพิ่มโฟลเดอร์ลงไป ทำให้การแชร์โฆษณาที่คุณมีกับเพื่อนร่วมงานได้และยังฟรีอีกด้วย


ทำไมคนถึงชอบเสียเงินซื้อแอป ก็ในเมื่อสามารถใช้แอปฟรีที่มีมากับตัวแอปเองได้?

คำตอบของคำถามนี้ ก็คือฟังก์ชันการทำทำงานของเครื่องมือที่ติดมากับ Facebook ที่ปล่อยออกมาพร้อมกันนั้นสามารถตรวจสอบความโปร่งใสให้กับผู้ใช้ได้มากกว่า เป้าหมายก็เพื่อให้ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในภาคส่วนของโฆษณาของตัวแอป และยังอนุญาตให้ผู้ใช้เห็นโฆษณาที่ไม่อาจจะเห็นได้ในหน้าฟีดของตัวเอง ถ้าหากว่าเราไม่ได้มี่เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายของผู้ลงโฆษณา

แต่ว่าเครื่องมือสอดแนมโฆษณาของ Facebook ไม่สามารถใช้ได้กับแอปสอดแนมอย่าง AdEspresso, Swipe-Worthy by Swiped Co., PowerAdSpy, AdPlexity และ Spy Push เป็นต้น

ดังนั้น ถ้าหากว่ากำลังมองหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากๆ แอปฟรีที่ติดมากับ Facebook ไม่สามารถช่วยได้ในเรื่องนี้


บทสรุป

น่ากลัวว่าการตลาดโซเชียลมีเดียเหมือนจะมีจักรวาลเป็นของตัวเอง จงอย่าให้อะไรมาฉุดให้คุณหยุดเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากมันให้เป็น ด้วยการทำความเข้าใจพื้นฐานของกลยุทธ์การตลาดและอะไรที่กำลังเป็นเทรนด์การตลาดอยู่ในขณะนี้ เราสามารถจะออกแบบแคมเปญโฆษณาและปรับใช้ให้ตรงตามลักษณะบุคลิกของแบรนด์สินค้าคุณ เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด อย่าลืมว่าเครื่องมือสอดแนมโฆษณาของ Facebook นั้นเป็นส่วนสำคัญกับยุทธศาสต์ถ้าเราอยากจะนำหน้าคู่แข่งอย่างจริงจัง

จงอย่าเสียเวลาไปกับการมองหาเครื่องมือที่ดีสมบูรณ์แบบเพราะว่าสิ่งนั้นไม่มีอยู่จริง ฉะนั้น แทนที่จะปล่อยเวลาให้สูญเปล่า ให้เราหันมาศึกษาวิเคราะห์ว่าคู่แข่งของเราใช้เทคนิคลูกเล่นอะไรกับแคมเปญของพวกเขา บางครั้ง ตัวบทวิเคราะห์ กับคู่แข่งรายใหญ่ในกลุ่มสายงานของอาชีพสามารถเปิดมุมองใหม่ในการทำสิ่งต่างๆ ถ้าหากว่ายังไม่พร้อมที่จะต้องซื้อแอปพวกนี้ ก็ให้ลองใช้ตัวฟรีดูก่อน เมื่อมันดีใช้ได้ผลตามที่เราต้องการก็ค่อยซื้อ

แต่โปรดจำไว้ว่า เครื่องมือสอดแนมโฆษณาของ Facebook ไม่ใช่ทางเลือกในการออกแบบแคมเปญโฆษณา เรายังมีความจำเป็นที่จะต้องทดลองก่อนถ้าหากว่ามันดีกับงานของเรา ให้ทดลองในหลายรูปแบบ อย่างเช่น ลองแผน A สลับ แผน B แล้วเอาผลลัพธ์ที่ดีที่ได้ในแต่ละแผนมาปรับใช้กับการทำโฆษณาเพื่อให้ตรงกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของเรา สุดท้ายนี้ เป้าหมายหลักของเราคือการใช้เครื่องมืออัจฉริยะนี้เพื่อการแข่งขันในวงการโฆษณา เพื่อให้มันเกิดผลสำเร็จบน Facebook และเป็นผลทำให้ธุรกิจของเรามีรูปแบบที่ใหญ่ขึ้นเพื่อให้เกิดกำไรมหาศาล