ตลอดทั้งปี 2022 จนมาถึงต้นปี 2023 เราได้เห็นกระแสการใช้ AI ในแง่มุมต่างๆ เกี่ยวข้องกับชีวิตดิจิทัลของเรา ดังนั้น นี่จึงเป็นหัวข้อที่น่าสนใจและแน่นอนเราจะมาขุดลึกถึงรายละเอียดของ AI ที่มีผลต่อชีวิตดิจิทัลกัน การเข้าถึง AI เป็นเรื่องที่ง่ายมากและสามารถใช้พลังของ AI ในการควบคุมทักษะดิจิทัลของเรา ทำให้การเป็นอยู่มีชีวิตชีวาขึ้น และจากการช่วยเหลือของ AI ทำให้ชีวิตเราถึงเป้าหมายเร็วขึ้นโดยที่เราไม่ต้องพึ่งพาแรงงานมนุษย์เลย
เมื่อมีแอปวาดรูปด้วย AI เกิดขึ้น ทำให้การวาดรูปต่างๆ จากจินตนาการของเราเกิดขึ้นได้ ในบทความนี้ เราจะมาศึกษาว่า การวาดภาพด้วย AI มีประโยชน์กับเราแค่ไหน แล้วเราจะใช้มันอย่างไร และเรายังมีตัวอย่างมากมายมาให้คุณได้เริ่มต้นเรียนรู้ได้อย่างง่ายดาย
เป็นแอปที่ใช้วาดรูปภาพจากข้อความ text หรือ image prompt (คำสั่งที่ใช้วาดภาพจาก AI โดยใช้ข้อมูลเริ่มต้นจากภาพ) นี่เป็นเพียงคำอธิบายง่ายๆ แต่ยังมีคำอธิบายที่ยาวกว่านี้กำลังจะตามมา เพื่อให้ความหมายเจาะจงมากขึ้น คือ AI art generators จะประมวลผลข้อมูลที่เราป้อนเข้าไปเพื่อวาดภาพต่างๆ ตามที่เราต้องการ เป็นการประมวลผลข้อมูลในจำนวนมาก จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นภาพบางอย่าง หรือ เป็นภาพศิลปะ ออกมาให้เรา ในขณะที่จะมีบางคนถกเถียงกันถึงผลงานที่ AI ผลิตออกมาว่าไม่ใช่งานศิลปะ แต่ด้วยสายตาเราก็สามารถพิจารณาได้ว่า มีความใกล้เคียงงานศิลปะที่คนวาดได้ภายในไม่กี่วินาที แต่เมื่อเทียบกันแล้ว ช่วยให้มนุษย์เรา ประหยัดเวลาได้มากกว่า
ในยุคนี้ ใครๆ ก็ใช้ชีวิตที่เร่งรีบ ซึ่ง AI ก็ตอบสนองในความต้องการนี้ การจ้าง graphic designers และ web designers เป็นพันๆ ตำแหน่ง นับว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ด้วยขุมพลังของ AI ที่มีอยู่ปัจจุบันนี้ ทำให้คนทั่วโลกมีอิสระในการเรียนรู้เรื่องศิลปะและสามารถทำกิจกรรมทางศิลปะได้ ในขณะที่เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจำกัดเพื่อกลุ่มคนที่เป็นนักศิลปะหรือนักออกแบบแค่นั้น
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งที่ AI ได้ปฏิวัติวิธีการคิดการเข้าใจของมนุษย์เกี่ยวกับศิลปะในชีวิตประวันของเราไปแล้ว คนยังอาจยังไม่รู้ว่าพวกเขาสามารถสร้างงานศิลปะในแต่ละวันได้ด้วย AI และด้วยวิวัฒนาการของ AI ที่คล้ายกันนี้จะช่วยให้งานของคนบรรลุเป้าหมายในศิลปะกลุ่มต่างๆ ได้
ฉะนั้น การเรียนรู้การทำงานของเครื่องมือเหล่านี้จึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรามาก ไม่ว่าจะเป็นการปรับใช้ให้เข้ากับงานของเรา และสามารถแก้ไขปัญหาบางอย่างที่จะเกิดขึ้นกับเรา เช่น ช่วยให้เราประหยัดทั้งเวลาและเงินทอง
แอป AI สำหรับสร้างงานศิลปะไม่ได้เป็นเครื่องมือที่มีแค่ประเภทเดียว โดยพื้นฐานแล้ว มี AI สำหรับสร้างงานศิลปะหลักๆ อยู่สองประเภทให้เราสามารถใช้ได้เลย นั่นคือ:
เป็นหนึ่งในประเภทของ AI ที่ใช้สำหรับงานศิลปะด้วยการทำงานแบบ textual prompt คือการสั่งงานด้วยข้อความคำอธิบายผ่าน AI ไม่ว่าจะเป็นคำอธิบายอะไรก็แล้วแต่ที่คุณอยากจะให้เห็นเป็นภาพขึ้นมา หลายคนอาจจะคิดว่า AI คงจะสร้างอะไรออกมาจากการอ่านความคิดเรา แต่จริงๆ แล้วมันทำงานตรงกันข้ามกับสิ่งที่เราคิดมาก เราจะต้องระบุทุกสิ่งอย่างลงไปในคำสั่งโดยไม่ได้คาดหวังว่า AI จะทำอะไรเกินความคิดของเรา หรือเราแค่สั่งเฉยๆ แต่บางครั้ง AI อาจเกิดภาพหลอนหรือเพิ่มสัมผัสอะไรบางอย่างของมันเอง แต่ไม่ว่ายังไงมันก็ไม่สามารถอ่านความคิดเราได้ ดังนั้น AI จะค่อนข้างเข้าใจคำสั่งแบบ textual prompt ว่าเรากำลังมองหาอะไรแล้วจะประมวลผลข้อมูลที่มีอยู่แล้วสร้างเป็นภาพออกมาตามที่เรากำลังมองหา
AI ประเภทที่สองจะทำงานกับภาพที่เห็นโดยทันทีหรือ visual prompt นั่นหมายความว่า เราสามารถอัปโหลดรูปภาพหรือวิดีโออะไรก็ได้ป้อนเข้าไปที่ AI โดยไม่ต้องป้อนคำสั่งด้วยข้อความใดๆ หรือแม้กระทั่งการใช้ textual prompt AI ก็สามารถถ่ายทอดสิ่งที่เรากำลังมองหาออกมาได้ เพราะ AI เพียงแค่พยายามทำซ้ำหรือออกแบบรูปภาพนั้นใหม่ในแบบที่แตกต่างออกไป ดังนั้นใน AI ประเภทนี้จะวาดภาพได้จำกัดมากเพราะจะเปลี่ยนแค่แบบหรือสไตล์ของภาพแค่นั้น ตัวอย่างเช่น ถ้าเราใส่ภาพจริงเข้าไป AI ก็จะทำวาดภาพออกมาให้มีองค์ประกอบคล้ายกันในแบบการ์ตูนหรือภาพแอนิเมะ ทำให้มีลูกเล่นน้อยและซึ่งเป็นเครื่องมือธรรมดาที่เราสามารถทำได้ แต่ก็ยังดียังมีประโยชน์อยู่ถ้าเอาไว้ใช้แบบสนุกๆ หรือเอาไว้สำหรับคนที่อยากจะแต่งภาพที่ไม่เหมือนใครโดยยังคงองค์ประกอบบางส่วนของภาพจริงเอาไว้ด้วย และถ้าหากเราสั่งงานด้วย textual prompt ก็อาจจะทำให้ AI สับสนจนอาจวาดภาพออกมาเพี้ยนเกินกว่าที่เราคิดไว้
จากการทำงานของ AI ทั้งสองประเภท ในบทคามนี้เราจะมาโฟกัสไปที่ AI ประเภทที่วาดภาพด้วยข้อความ AI image generator form the text แต่หัวข้อนี้กว้างมากแถมจะต้องเจาะรายละเอียดลึกไปมากกว่านี้แน่นอน แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะรู้วิธีการควบคุมสั่งงานกับ AI ประเภทนี้ เราแนะนำให้ตามอ่านไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณจะได้ตัวอย่างดีๆ นำไปใช้
ในส่วนนี้ เราจะมาดูว่าตัว AI วาดภาพศิลปะได้อย่างไร นั้นทำงานอย่างไร บางคนอาจจะคิดว่า แค่ป้อนคำสั่งภาพหรือข้อความให้ AI แค่นั้น แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ได้ง่ายอย่างนั้นเลย เราจะต้องเตรียมรายละเอียดบางอย่างเพื่อทำให้ AI เข้าใจว่าเรากำลังต้องการอะไร ตัวอย่างเช่น หลังจากที่เราป้อนข้อมูลข้อความเข้าไป ก็จะมีบางแอปให้เราระบุว่าเราต้องการภาพของเด็ก จะมีการถามถึงอัตราส่วนของภาพ ความละเอียดของภาพ และอื่นๆ อีกหลายอย่าง เพราะ AI ไม่ได้ทำงานกับคำสั่ง text prompt แค่นั้น อาจจะให้เราต้องกดปุ่มอะไรสักสองปุ่มร่วมไปด้วย
จากนั้นข้อมูลทั้งหมดจะถูกป้อนเข้าไปที่ AI แล้ว AI จะประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาไปที่คลังภาพที่มีฐานข้อมูลอยู่ แล้วตรวจดูว่ามีภาพไหนที่มีลิขสิทธิ์มีเจ้าของอยู่แล้วบ้าง ถ้าไม่มีจากนั้นก็ไปเช็คที่องค์ประกอบ ไปตรวจดูว่ามีรูปภาพตัวอย่างที่ตรงกับคำสั่งเราหรือไม่ จะตรวจดูทั้งเว็บทั่วโลก จากนั้น เมื่อได้ข้อมูลที่เราต้องการแล้วก็จะส่งต่อไปยัง AI เพื่อผลิตภาพจากคำสั่งที่เราป้อนเข้าไปออกมาโดยอาจจะมีหนึ่งภาพหรือไม่ก็อาจจะมีหลายภาพที่มีรูปแบบแตกต่างกัน ซึ่งมีโอกาสที่บางภาพเราอาจจะไม่ชอบไม่ถูกใจกับผลงานครั้งแรก ก็อย่าพึ่งไปผิดหวัง ปล่อยให้ AI ลองทำไปเรื่อย ๆ จนกว่าเราจะได้ภาพที่ออกมาถูกใจตามที่หวังไว้
เดี๋ยวนี้ เรารู้แล้วว่า AI คืออะไรและสร้างานศิลปะได้อย่างไร แต่เรายังไม่รู้ถึงประโยชน์ที่ได้จากการที่ AI จะสร้างงานศิลปะจากข้อความได้เลย ดังนั้น เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า AI เหล่านี้จะทำให้เราบรรลุถึงสิ่งที่เราประสงค์ได้หรือไม่ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ เราจะได้ประโยชน์อะไรในชีวิตประจำวันกับงานออนไลน์ของเรา
ก่อนอื่นเลย ความน่าทึ่งของแอป AI วาดรูปศิลปะนั้นช่วยให้เราสามารถดีไซน์ผลงานได้หลากหลายแง่มุมตามที่ใจเราอยากจะรังสรรค์ สมมุติว่าคุณทำงานเป็น graphic designer แต่รู้สึกเหนื่อยกับการนึกแบบ หรือเบื่อกับอารมณ์ในการนั่งดูบอร์ดบน Dribbble, Behance และ Artstation ถ้าเกิดขึ้นในกรณีเช่นนี้ ทางออกที่ดีที่สุดเพียงแค่เลือกใช้ AI art ให้รังสรรค์ผลงานให้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี เรื่องความคมชัด หรือตำแหน่งขององค์ประกอบที่อยากจะให้วางอยู่ในภาพ หรือแม้แต่การเสนอไอเดียเกี่ยวกับวิธีการแสดงลักษณะท่าทางต่างๆ เป็นต้น ซึ่ง AI อาจจะไม่สามารถสร้างสิ่งนั้นให้เราได้ แต่ตัว AI เองจะมีการเสนอไอเดียให้เรา ว่าเราควรจะวางอะไรไว้ตรงไหนของหน้าจอได้ หรืออาจจะเสนอไอเดียเจ๋งๆ ให้เราลองเปลี่ยนองค์ประกอบในภาพไปเป็นอะไรอย่างอื่นที่ AI สามารถสร้างให้มันเกิดขึ้นจริงแล้ววางตำแหน่งที่ไหนสักที่บนภาพ ตัวอย่างเช่น AI อาจจะสุ่มวาง รูปวงกลม บนพื้นที่ตรงไหนสักที่บนภาพ ถ้าเป็นแบบนี้ เราอาจจะมีไอเดียที่อยากจะเปลี่ยน รูปวงกลมนั้น ให้เป็น ปุ่มอะไรก็ได้ทำนองนั้น
แต่ยังไม่หมดแค่นั้น เราอาจจะเกิดแนวคิดในการจัดภาพทั้งหมดเองก็ได้ วิธีนี้เหมาะมากถ้าหากว่าคุณไม่ได้เป็นนักออกแบบชั้นสูงก็สามารถที่จะสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้แม้จะเป็นแค่มือใหม่ แต่ถ้าหากว่าเราไม่อยากได้ภาพที่ AI ทำออกมาให้เรา ก็จะเป็นวิธีที่ดีสำหรับเราในการหัดออกแบบงานศิลปะด้วยการกำหนดภาพประกอบเอง
ประโยชน์ที่สองที่ได้คือ ใช้ AI รังสรรค์งานศิลปะเหมาะมากสำหรับใช้ในการตลาด อย่าลืมว่านักการตลาดส่วนใหญ่ โดยเฉพาะนักการตลาดแบบตัวแทน หรือแบบ affiliate ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการใช้ภาพลักษณ์ของการตลาด เพราะมันอาจจะค่อนข้างจะต้องใชเงินเยอะยิ่งต้องใช้เวลานานๆ ไปกับการคิดแบบออกแบสำหรับโฆษณาหรือสำหรับตราสินค้า ในกรณีนี้ การใช้ AI เพื่อออกแบบงานป้ายงานภาพให้เราจะเป็นสิ่งที่ช่วยได้มากสำหรับนักการตลาดที่ต้องการใช้งานด่วน และถ้ามีอะไรต้องปรับเปลี่ยนแก้ไขเล็กๆ น้อยๆ คนก็สามารถทำตรงนั้นได้ จากประสบการณ์ส่วนมากคนมักจะไม่รู้เลยในทันทีว่าเป็นภาพที่ถูกวาดด้วย AI และแทบจะไม่สงสัยเลยจนกระทั่งมีใครสักคนบอกว่าเป็นผลงานของ AI เพราะไม่ได้มีอะไรที่สื่อถึงความไม่ประทับใจหรือรู้สึกไม่ดีที่มีต่อภาพที่เห็นเลย แค่นี้ก็ทำให้ภาพที่ต้องใช้เกี่ยวกับการตลาดก็เป็นเรื่องง่าย
แต่ก็มีอยู่หลายเหตุการณ์ ที่ AI ช่วยให้นักการตลาดสามารถผลิตงานของตัวเองออกมาได้ไว ก่อนที่แคมเปญการตลาดที่คิดไว้จะสายเกินไป บางครั้งการที่เราต้องรองานจากนักออกแบบอาจจะต้องใช้เวลานาน ยิ่งถ้าต้องให้พูดถึงเรื่องนี้ เราได้รับประโยชน์อื่นๆ ที่ได้จาก AI ดังต่อไปนี้
จากนี้ไปเรามาถึงส่วนที่จะพูดถึงเรื่องประหยัดเงินและเวลา ลองนึกภาพดูว่าเราอยากได้ภาพตัวอย่างเกี่ยวกับงานการตลาดหรือธุรกิจเล็กๆ ของเรา หลายคนอาจจะไม่มีเครื่องมือในการแสดงภาพตัวอย่างให้เห็น และมากไปกว่านั้นน คนอาจจะไม่รู้วิธีการใช้การทำงานกับแอปที่เกี่ยวกับภาพอย่าง Photoshop หรือ Adobe illustrator ถ้าเป็นกรณีนี้ AI ช่วยคุณได้ โดย AI สามารถผลิตภาพที่ดูดีเหมือนภาพที่ถูกมนุษย์วาดให้คุณได้เลยทันที ดังนั้น คุณไม่จำเป็นจะต้องเข้าหาคนทำงานใน Upwork ไม่ต้องไปเสียเวลาเป็นชั่วโมงในการจัดการสัมภาษณ์หานักออกแบบกราฟฟิกมาทำงานตรงนี้ให้คุณ เพราะคุณสามารถใช้ AI จัดการได้ในเวลาอันสั้นด้วย
ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือแค่คนธรรมดาที่ยังไม่เคยลองหาเงินออนไลน์ เพราะว่าอาจจะยังไม่มีทุนมากในการเสียค่าจ้างเพื่อจ้างทีมงานเพื่อมาทำงานออกแบบให้คุณได้ ถ้าเป็นในกรณีนี้ แอปวาดภาพด้วย AI หรือแอป AI อื่นๆ ตอบโจทย์ให้กับคุณได้เริ่มทำธุรกิจได้แบบหายห่วง และยังมีบางแอป AI ที่ดีมากขนาดภาพที่คุณสั่งให้ AI เนรมิตงานออกมาให้โดยที่ไม่มีใครสงสัยหรือเข้าใจว่ารูปนั้นถูกสร้างโดย AI แถมคุณยังจะได้เรียนรู้ถึงวิธีการแก้ไขภาพให้ออกมาเหมือนกว่าที่คุณออกแบบเองเสียอีก และเราจะได้มาขยายความเกี่ยวกับเรื่องนี้ในบทถัดไป
ที่ผ่านมาเรารู้ถึงประโยชน์ข้ออื่นไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวิธีการทำงานของ AI ต่อไปนี้เราจะมาเจาะถึงคุณสมบัติทั่วไปของ AI ควบคู่ไปกับบางตัวอย่างของคุณสมบัติเหล่านั้นถูกนำไปใช้กับเครื่องมือต่างๆ อย่างไร
คุณสมบัติแรกที่สำคัญที่สุดของการวาดภาพจาก AI คือความสามารถในการสร้างงานศิลปะจาก Text Prompt หรือจากข้อความแจ้ง ดังนั้น แอปส่วนมากจะมีกล่องสำหรับใส่ข้อความที่ต้องการแจ้งเข้าไป แต่ก็อาจจะมีบางแอปที่ให้เราสามารถเลือก ข้อความได้ทันที โดยกดที่ปุ่มหรือตัวเลือกใต้บาร์เครื่องมือ ในขั้นตอนนี้ การประมวลผลของ AI จะไม่ได้ผลดีมากนักเพราะว่า AI จะวาดภาพได้จากข้อมูลพื้นฐานที่ถูกป้อนเข้าไปแค่นั้น
คุณสมบัติที่สองของโปรแกรมนอกจากสร้างรูปได้แล้ว AI ยังสามารถสร้างรูปแบบได้หลากหลายรูปแบบสำหรับ prompt เดียว ในกรณีนี้ เราจะเห็นว่าโปรแกรมไม่ได้แสดงเพียงภาพเดียวที่คิดว่าตรงกับ prompt แต่จะแสดงภาพหลายภาพแทน เพราะปรกติจะแสดงภาพถึงสี่ภาพ และเราสามารถเลือกภาพได้หนึ่งในหมู่ภาพเหล่านั้นได้ตามต้องการ แต่นั่นไม่ใช่ว่า AI จะแสดงภาพอะไรที่ตรงกับที่เราต้องการตลอดเวลานะ ดังนั้น ให้เลือกภาพที่คิดว่าใกล้เคียงกับที่เราคิดเอาไว้จะป็นการทำให้ AI จำว่าเราเลือกอะไรและจะพัฒนาเพื่อให้เข้าใจความชอบของเรา
อย่างที่เคยได้กล่าวเอาใว้ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เราสามารถผลิต prompt ให้มีรูปแบบหลากหลายในโปรแกรมที่ต่างกัน เรายังสามารถปรับปรุงภาพเหล่านั้นให้มีคุณภาพสูงได้อีกด้วย ถ้าเราคิดว่า AI เป็นเครื่องมือเพิ่มเข้าไปไม่กี่ขั้นตอนที่จะช่วยให้ในการปรับปรุงภาพของเราให้มีคุณภาพดีใกล้เคียงกับที่เราต้องการ ซึ่งก็จะมีตัวอย่างอยู่หนึ่งโปรแกรมของ AI อย่าง แอป MidJourney ที่จะให้เราเลือกปรับปรุงภาพได้หนึ่งภาพในสี่ภาพที่แสดงขึ้นมาทุกครั้งที่ได้รับคำสั่งจาก prompt และยังแสดง prompt ใหม่ตามตัวเลือกจากสี่ตัวเลือกที่เราชอบได้ ในกรณีนี้ AI จะประมวลผลและตรวจสอบให้แน่ใจว่าภาพที่เราได้รับในตอนท้ายนั้นตรงกับผลลัพธ์ที่เราต้องการหรือไม่ถ้าตรง ด้วยเหตุนี้ AI ก็จะได้เรียนรู้ที่จะปรับปรุงในสิ่งที่เรามีความชอบแบบไหนเมื่อเวลาผ่านไป
อาจจะไม่ใช่ทุกแอปที่จะมีโปรแกรมในการสร้างวิดีจาก prompt เพราะมีแค่บางแอปเท่านั้นที่จะให้เราอัปโหลดภาพหรือเลือกภาพที่เราสร้างจาก prompt เพื่อทำเป็นวิดีโอ และในคำสั่ง prompt เราสามารถใส่ภาพได้หลายภาพหรือจะใส่ภาพเดียวก็ได้เพื่อให้ AI สร้างเป็นภาพอานิเมะออกมาให้เรา ซึ่งโปรแกรมนี้ได้รับความสนใจมากและนำไปใช้บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
วิธีนี้อาจเกิดขึ้นได้น้อยมาก เพราะแค่เลือกปุ่มเพียงไม่กี่ปุ่มก็วาดภาพง่ายๆ ได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องใช้คำสั่งจาก prompt
หลักๆ การใช้ AI วาดภาพก็เพื่อใช้เป็น NFT ซึ่งก็ทำมาเป็นเวลานานแล้วและเฟื่องฟูมาก เมื่อก่อนคนจำนวนมากทำยอดขายได้มหาศาล และเมื่อจุดหนึ่งที่แอปวาดภาพด้วย EAI มีออกมาแพร่หลาย คนก็เริ่มใชเป็นทำให้หลายคนที่ไม่เคยเรียนออกแบบกราฟฟิกมาก่อน ก็สามารถสร้าง NFT เป็น จึงทำให้มองเห็นโอกาสในการวาดภาพด้วย AI จะหาเงินออนไลน์ได้เพราะมีนักสะสม NFT อยู่เยอะ แต่ก็จะมีบางโปรแกรมที่เครื่องมือมากมายช่วยให้สร้าง NFT ได้ตามตามต้องการ เพราะว่าต้องมีความรู้ด้าน blockchain ถึงจะสร้าง NFT ได้ เพราะจะมีค่าธรรมเนียมในการซื้อขายด้วย แต่อย่างไรก็ดีเราสามารถสร้างรูปได้ฟรีจาก AI และเราจะแบ่งให้ใครก็ได้ตามใจเรา
รูปที่ถูกสร้างโดย AI สามารถเปิดได้กับโปรแกรมแก้ไขรูปภาพทั่วไป เพราะฉะนั้น ภาพที่ถูกสร้างขึ้นสามารถดาวน์โหลดได้หลายรูปแบบ
สมมุติว่าคุณมีทีมงานที่ต้องทำงานร่วมกันเป็นทีมใหญ่แล้วต้องการใช้โปรแกรม AI เพื่อทำงานอยู่ตลอดโดยเฉพาะงานต่างๆ เกี่ยวกับการตลาด ลองนึกดูว่าในทีมของคุณมีทีม graphic designer และทีม developer ซึ่งทั้งสองทีมต้องทำงานร่วมกันต้องเพราะต้องมีแก้ไขปรับปรุงงาน จึงจำเป็นต้องใช้โปรแกรม AI ที่มีความสามารถในการจัดการภาพที่สร้างขึ้นเพื่อใช้บนแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ต้องการ
เดี๋ยวนี้ AI กำลังพัฒนาไปมากไปถึงจุดที่สามารถประมวลผลคำขอแก้ไขรูปภาพได้แล้ว สมมุติว่าเราวาดภาพขึ้นมาภาพหนึ่งแต่มีความรู้สึกว่าต้องการแก้ไขอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพ ตัวอย่างเช่น คุณต้องการเปลี่ยนภาพจักรยานสองล้อให้กลายสามล้อ เมื่อเป็นแบบนี้ เราก็สามารถสั่ง AI ให้เปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างในภาพให้เปลี่ยนแปลงตามที่เราขอ จากนั้น AI ก็จะรับคำขอใหม่ของเรา แล้วรวมเข้ากับคำสั่งก่อนหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ใหม่ตามที่เราต้องการ
จะมีเครื่องมืออยู่สองสามตัวที่ให้เราสามารถแก้ไขภาพบนแพลตฟอร์มได้อันนี้นับว่าดีมาก เพราะเราไม่จำเป็นต้องใช้ photoshop หรือโปรแกรมอื่นใดๆ เพื่อทำการแก้ไขภาพ โดยเฉพาะคนที่เป็น graphic designer ด้วยแล้วหละก็คงต้องการแค่แก้ไขภาพแค่เล็กน้อยเพื่อให้งานออกมาดูเหมือน AI ทำให้น้อยที่สุด ถ้าในกรณีแบบนี้ ถ้ามีแพลตฟอร์มที่สามารถแก้ไขได้ด้วยมีโปรแกรมแก้ไขที่ติดมากับตัวแพลตฟอร์มเองก็จะทำให้การแก้ไขภาพได้เร็วขึ้น ถึงแม้ว่าตัวโปรแกรมแก้ไขภาพมีความสามารถที่ยังไม่ถึงขั้นสูง แต่ก็พอจะเหมาะใช้กับคนที่เป็นมือใหม่ได้
สมมุติว่าบนรูปภาพมีส่วนที่เรารู้สึกว่ามันสวยและกลัวว่า AI อาจจะวาดภาพทั้งหมดขึ้นมาโดยมีบางองค์ประกอบในภาพที่เราไม่ต้องการ ถ้าเป็นกรณีนี้ เราสามารถสั่งให้ AI จัดการครอบส่วนของภาพตรงที่เราชอบส่วนนั้น โดยส่วนที่เราสั่ง AI ครอบพื้นที่ตรงส่วนนั้นจะได้รับการปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อให้ออกมาดูสวยกว่าดูสมจริงมากกว่า
จากภาพด้านบนจะสังเกตได้ว่า มีบางจุดเล็กๆ บนโต๊ะถูกแก้ไขถูกลบออกไปเพื่อทำให้ภาพออกมาสวยมากขึ้น เพียงแค่เลือกเครื่องมือที่เป็นยางลบเพื่อลบส่วนนั้นออกไป จากนั้นสั่งให้ AI วาดภาพใหม่อีกครั้งก็จะได้ภาพอย่างที่เห็น
ส่วนนี้เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของคุณสมบัติที่ต้องมี แต่เนื่องจากคำอธิบายส่วนใหญ่ที่เราป้อนข้อมูลให้ AI จะเป็นเราที่จะต้องใส่รูปภาพหรือเลือกสไตล์ของภาพด้วยตัวเอง แต่ก็จะมีบางโปรแกรมที่ให้เราเลือกไสต์รูปภาพได้นอกเหนือจากการป้อนข้อมูลคำอธิบายลงไป โดยเราจะเห็นปุ่มสำหรับเลือกสไตล์ศิลปะของภาพที่เราต้องการในบางโปรแกรม เพราะถ้าเราไม่รู้จักสไตล์ของศิลปะทั้งหมด วิธีนี้จะเป็นประโยชน์ช่วยเราได้มาก
ในฐานะนักพัฒนาโปรแกรม หากอยากจะใช้โปรแกรม AI บนเว็บไซต์เพื่อให้เว็บไซต์มีการทำงานแบบไดนามิก หรืออยากจะทดลองพัฒนาเครื่องมือบางอย่างในโปรแกรม AI เพื่อให้เราเข้าถึง API เพื่อทำการพัฒนาเครื่องมือตามที่ต้องการในฐานะนักพัฒนาโปรแกรม
ตอนนี้เราก็รู้ถึงคุณสมบัติของ AI ที่ใช้ในการวาดภาพนั้นว่าดีแค่ไหน แต่เราอาจจะสงสัยว่าแล้วจะใช้งานได้จริงจากที่ไหน แล้วอะไรคือ การใช้งานจริงของ AI? ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างการใช้งาน AI อันดับต้นๆ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ถูกใช้ในชีวิตประจำวันของคนใช้งานออนไลน์
สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการใช้โปรแกรม AI วาดภาพได้สร้างปาฏิหาริย์ให้กับโลกของการตลาดและวงการโฆษณา เพราะความน่าทึ่งของโปรแกรม AI ทำให้นักโฆษณากับนักการตลาดสามารถใช้ความสามารถในการวาดภาพให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเองได้สำหรับใช้ในการโฆษณา เกือบแทบจะทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาพนิ่งหรือวิดีโอ ทำให้เราได้เห็นถึงผลงานของ AI ในงานการตลาดปัจจุบันนี้ แทนที่จะต้องมาเตรียมงานเรื่องภาพถ่ายหรือแม้ต้องมาเตรียมเรื่องผลิตภัณฑ์ให้พร้อมแล้วค่อยถ่ายงาน แต่ด้วยความสามารถของ AI ทำให้เราสามารถใส่องค์ประกอบของคนลงไปในงานโฆษณาของเราได้ โดยที่ไม่ต้องใช้หน้าใครหรือต้องจ้างคนจริงๆ มาเซ็ตกล้องเพื่อถ่ายงาน
ช่วงนี้ NFT กำลังเฟื่องฟูอย่างหนัก เพราะมีคนเริ่มวาดภาพด้วย AI กันมากขึ้นเพื่ออัปโหลดไปยังคอลเลกชันของ NFT ด้วยวิธีนี้จึงทำให้เป็นวิธีหาเงินที่ดีที่สุดสำหรับในสาย NFT แต่ไม่นานวิธีนี้ก็จะล้าสมัยจนเกินไป หรือทำให้มีคนที่สร้างเป็นมากเกินไป จริงอยู่ที่เราอาจจะมีโอกาสทำเงินผ่าน NFT จากภาพที่เราใช้ AI สร้างมา แต่อย่าลืมว่าตอนนี้มีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น เราจึงมีความจำเป็นจะต้องมีไอเดียดีที่เจ๋งจริงๆ หรือเราอาจจะต้องใช้โปรแกรม AI ที่มีคุณสมบัติเด่นในแต่ละตัวแตกต่างกัน เพื่อสร้างผลงานศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไม่งั้นเราจะตามตลาดไม่ทัน แถมทำให้เรามีโอกาสในการขาย NFT สูงขึ้นได้อีกด้วย
หลายคนเริ่มใช้ประโยชน์จาก AI ในการออกแบบเว็บไซต์หรืองานกราฟฟิกกันแล้ว นี่ก็แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ได้จาก AI ไม่ว่าจะเป็นกับเว็บไซต์และตามโปรเจคการออกแบบกราฟฟิกต่างๆ จึงทำให้การทำงานในลักษณะนี้ถูกออกแบบได้อย่างสมบูรณ์ตั้งแต่แรกเพราะการใช้ AI ซึ่งรวมไปถึงการใช้ AI สร้างเว็บไซต์ UI และ UX หรือแอปต่างๆ แต่ถึงแม้ว่าจะใช้กับเว็บไซต์โดยตรงไม่ได้ เพราะตัว AI เองไม่สามารถเข้าใจการออกแบบเว็บไซต์ในระดับมืออาชีพได้อย่างสมบูรณ์ แต่การทำงานของโปรแกรม AI ก็เป็นแรงบันดาลใจให้นักออกแบบ UI และ UX ได้อีกทางหนึ่ง ในฐานะนักออกแบบเว็บไซต์และนักพัฒนาเว็บ สามารถใช้รูปภาพที่ได้จาก AI เพื่อนำไปเติมเต็มให้เว็บไซต์ดูสมบูรณ์แบบมากขึ้นดูแข็งทื่อน้อยลง ดังนั้น แทนที่จะสั่งการ AI ด้วยคำอธิบาย ก็ให้เพิ่มภาพสร้างได้จากโปรแกรม AI ให้มากขึ้นแค่นั้นเอง
ใช้กับงานออกแบบภาพกราฟฟิก
เราได้กล่าวถึงเรื่องไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ถึงแม้ว่าโปรแกรม AI จะเหมาะกับตลาดกราฟฟิก เพราะทำให้นักออกแบบกราฟฟิกได้ตัวช่วยที่ดีจาก AI เพื่อใช้สร้างสรรค์ผลงานดิจิทัลหรือแม้แต่งานออฟไลน์ การแก้ไขภาพด้วย AI ทำให้ยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีก
เดี๋ยวนี้มีหลายธุรกิจเริ่มใช้ AI ให้ออกกแบบไอเดียกับชื่อสินค้าของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี ภาพโลโก้ เป็นต้น เหมาะกับนักการตลาดมากโดยเฉพาะเรื่องในเรื่องการออกแบบภาพกราฟฟิก เพราะถ้าเราป้อนข้อมูลความต้องการลงไปให้ AI ก็จะทำให้การออกแบบงานนออกมาตรงตามสิ่งที่เราต้องการเป็นหน้าเป็นตาให้กับธุรกิจของตัวเอง หรือแม้แต่การออกแบบตัวอักษร AI ก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกัน น่าทึ่งไหมละ! ที่ธุรกิจขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กก็ใช้ AI ออกแบบชื่อสินค้ากันแล้ว แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใช้สิ่งที่ AI ทำให้โดยตรงก็ตาม แต่การใช้ให้ AI ออกแบบชื่อสินค้าก็ถูกใช้แพร่หลายที่สุด
เชื่อเลยว่า คุณต้องเคยเห็นภาพหรือวิดีโอที่ถูกสร้างโดย AI ผ่านตามาบ้างตามหน้าเพจไม่มากก็น้อย และด้วยเอกลักษณ์ของหน้าเพจเหล่านี้มักได้รับความนิยมดึงดูดคนดูได้ไว เพราะว่าจะเห็นว่าเพจพวกนี้โพสต์อยู่บ่อยๆ และนี่ก็คือพลังของ AI อย่างหนึ่งที่เป็นไปได้
สิ่งหนึ่งที่เราได้เรียนรู้จากสิ่งนี้คือทำให้เราสามารถวาดภาพได้สะดวกง่ายขึ้นด้วยการใช้ AI และจากสิ่งนี้อีกเหมือนกันที่ทำให้ธุรกิจเกี่ยวกับโซเชียลมีเดียประสบความสำเร็จกันมามากแล้ว เพราะสามารถใช้ AI ให้ทำอะไรเกี่ยวกับภาพลักษณ์ได้เร็วขึ้น ทำให้มีเวลาใส่ใจในการออกแบบภาพใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ เพื่อนำไปโพสต์บนเพจของตัวเอง เพื่อให้ผู้ติดตามทางโซเชียลได้ถูกการมองเห็นได้ง่ายขึ้นและรู้ถึงการอัปเดตของเพจอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็มีหลายคนได้สอนวิธีการใช้ AI วาดภาพหรือวิดีโอเพื่อเป็นการเพิ่มยอดผู้ติดตามไว้บน YouTube หรือบนแพลตฟอร์มอื่นๆ มีให้เห็นมากมายลองไปตามดูกันได้
แน่นอน พื้นที่ที่ใช้เก็บรูปภาพย่อมไม่ฟรี แทบจะทุกคนที่ทำงานออนไลน์ หรือจะเป็นนักออกแบบภาพกราฟฟิก นักเขียนคอนเทนต์ ต่างก็ต้องมีคลังเก็บภาพของตัวเอง สมมุติว่า คุณอยากจะได้ภาพรถแวนที่ดูเป็นธรรมชาติหน่อย ถ้าเป็นเคสนี้ คุณคงไม่ไปใช้ภาพออนไลน์ของคืนอื่นที่มีคนเคยดาวน์โหลดไปใช้แล้วสองล้านคน เพราะถ้าเป็นแบบนี้คอนเทนต์ของคุณจะขาดความเป็นตัวตนของคุณไปทันที เสียเวลาเปล่า ดังนั้น การใช้ AI เพื่อวาดภาพแล้วเก็บไว้เป็นผลงานของตัวเองในเวลาที่คุณจะนำไปใช้เกี่ยวกับบล็อกหรือเกี่ยวกับช่องทางโซเชียลมีเดียของคุณเอง คงจะดีมากที่ได้แสดงความเป็นตัวตนเป็นเอกลักษณ์ของสิ่งที่ผู้ติดตามบนโซเชียลได้เห็น
ในหัวข้อนี้ เราจะมาแบ่งปันเคล็ดลับที่จะทำให้คุณเก่งในการใช้โปรแกรมวาดภาพโดยใช้ข้อความ อย่างที่เคยได้กล่าวไปแล้วว่า คุณอาจจะต้องสั่งสมประสบการณ์มากมายกว่าจะได้ผลลัพธ์ให้ออกมาตามใจปารถนา และเพื่อเป็นการกำจัดเวลาในการทดลองทั้งหมดตรงนั้นไป และมาทำให้การทดลองแค่หนึ่งหรือสองครั้งมีประสิทธิภาพตลอดไป ด้วยการใช้เคล็ดลับต่อไปนี้เพื่อทำให้ AI แสดงผลลัพธ์ออกมาตรงตามสิ่งที่คุณคิดมากที่สุด
ชุดข้อความ prompt ของเราในคอลัมน์แรกยิ่งยาวเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะจะทำให้ภาพของเรายิ่งมีรายละเอียดมากขึ้นเท่านั้น สำหรับการคำอธิบายข้อความยาวๆ เพื่อใช้ AI ให้สร้างรูป เป็นกฎสากลที่ยอมรับได้ นั่นหมายความว่า ยิ่งเราใส่คำอธิบายรูปภาพมากเท่าไหร่ AI ก็จะออกแบบภาพได้ครบตามรายละเอียดที่เราใส่ไป และทำให้องค์ประกอบในภาพชัดขึ้นอีกด้วย ในกรณีนี้ มากกว่าย่อมดีกว่าเสมอ
สมมุติว่า เราอธิบายไปว่า สุนัขนั่งยิ้มมีความสุขอยู่บนพื้นมีเสื้อที่เกาะอยู่ตรงจมูก โดยที่เราสามารถเขียนข้อความลงไปว่า “สุนัขนั่งอยู่ในทุ่งที่มีหญ้าสีเขียวยาวประมาณครึ่งตัวสุนัข แสงอาทิตย์ส่องกระทบมาที่ตัวสุนัข วิวด้านหลังเป็นภูเขาหินและภูเขา สุนัขเป็นพันธ์โกลเดนรีทรีฟเวอร์มีสีดำและน้ำตาล และมีผีเสื้อบินมาอยู่เหนือจมูก ในขณะที่สุนัขดูมีความสุขและปนสงสัยกับผีเสื้อ ผีเสื้อมีสีน้ำเงินและดำสลับกัน ทำภาพให้ออกมาสมจริงในระดับ 4k” เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาตรงกับสิ่งที่เราคิดเอาไว้ให้มากที่สุด
สำหรับมนุษย์เราแล้ว การนึกภาพนั้นง่ายมากแต่การที่จะต้องมานั่งจดรายละเอียดลงบนกระดาษนั้นค่อนข้างลำบากสักหน่อย แต่ข้อดีสำหรับ AI คือสามารถวาดภาพให้เราได้ทันที
มาถึงขั้นตอนนี้ แต่ก็เคยได้เอ่ยถึงเคล็ดลับไปแล้วในหัวข้อที่แล้ว ว่าเราจำเป็นที่จะต้องใช้ไปตลอดโปรเจคที่เราทำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องเขียนให้ได้จำนวนคำน้อยที่สุดหรือมากที่สุดอย่างเดียว แต่เราต้องใส่รายละเอียดลงไปทุกคำที่เราอยากจะให้ภาพออกมาเป็นสิ่งที่เราต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าเราอยากจะให้ภาพของเรามี “เด็กสาวดูเท่ห์ๆ ใส่ชุดสตรีทแนวไซเบอร์พังก์” โดยเขียนรายละเอียดลงไปว่า “เด็กสาวลักษณะเท่ห์ๆ สวมเสื้อผ้าแนวสตรีทออกมีไสตล์ไปทางไซเบอร์พังก์ สวย ภาพคนคมชัดทุกรายละเอียด แต่องค์ประกอบภาพมีความสลับซับซ้อน ในสไตล์ของ Krenz Cushart แนวโตเกียวอะนิเมะ ของ Greg Rutkowski ให้มีความว้าว สวยระดับ 4k บรรยากาศดราม่าในโรงภาพยนตร์” ก็จะทำให้ได้ผลลัพธ์ของภาพดังนี้
ภาพนี้แสดงให้เห็นว่า ถ้าเราไม่ใส่รายละเอียดลงไป AI ก็จะไม่เน้นองค์ประกอบใดๆ ที่เราไม่ได้กล่าวถึงเลย ซึ่งอาจะทำให้ AI ประสาทหลอนหรือเกิดการล้มเหลวในการเชื่อมต่อจุดต่างๆ และทำให้เกิดความเข้าใจทึกทักไปเองว่าจะเอาส่วนไหนของภาพควรเชื่อมต่อกัน แต่ในขณะที่มนุษย์คิด ทุกส่วนของภาพถูกเชื่อมต่อกันอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าจะเป็นระดับของสังคมหรือระดับของวัฒนธรรม แต่สำหรับ AI เราจำเป็นจะต้องระบุรายละเอียดทุกอย่าไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่องง่ายๆ หรืออะไรที่ใครก็ไม่สามารถสังเกตุเห็นได้ก็ต้องระบุลงไป
สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดที่คนมักเข้าใจผิดคิดว่าการสั่งงาน AI ให้สร้างอะไรให้เราสักอย่างแล้วคาดหวังว่า AI จะต้องคิดแทนเราหมดทุกอย่างนั้น เป็นไปไม่ได้เลย เพราะ AI จะทำงานตามที่เราป้อนข้อมูลเข้าไปเท่านั้น ดังนั้น มันจะไม่เพิ่มรายละเอียดหรือเพิ่มเติมความซับซ้อนให้กับภาพของเราโดยที่ไม่มีคำสั่งแน่นอน โดยพื้นฐานแล้ว ถ้าเราไม่รู้ว่าเราต้องการอะไร นั่นก็ทำให้ AI มีโอกาสที่จะไม่รู้ว่าเราต้องการอะไรเหมือนกัน ดังนั้น การพยายามให้ AR เพิ่มหญ้าให้ในภาพ โดยที่เราไม่ได้สั่ง ดังนั้น การที่จะมีหญ้าในภาพก็แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ เหมือนเรากำลังใช้เครดิตฟรีที่มีทั้งหมด หมดไปกับเครื่องมือที่ใช้ในการสร้าง AI
เราจะไม่สามารถดำเนินงานของเราไปโดยที่ไม่ต้องระบุคุณภาพของภาพไม่ได้เลย แต่ก็มีโอกาสสูงที่เราสามารถทำให้ภาพเรามีคุณภาพสูงได้ ถ้าหากว่าเราใส่รายละเอียดลงไปในคำอธิบาย prompt ตัวอย่างเช่น ระบุลงไปว่าเราอยากให้ภาพของเราเป็นมีคุณภาพระดับ 4K หรือความละเอียดอื่นๆ ที่เราต้องการให้มีคุณภาพสูงสุด ด้วยวิธีนี้จะทำให้ AI เข้าใจได้ว่าเราต้องการภาพชนิดไหนจริงๆ ทำให้ได้ผลลัพธ์ออกมาตรงตามที่เราต้องการ
นอกเหนือไปจากคุณภาพของภาพแล้ว เรายังสามารถระบุให้ภาพเราออกมาเหมือนศิลปินวาดได้ อย่างเช่น เราต้องระบุลงไปเลยว่าเราอยากให้ภาพเราออกมีสไตล์วินเทจ, อานิเมะ, การ์ตูน, ภาพขาวดำ หรือจะเป็นความเบ่งบานของดอกไม้ เป็นต้น อย่างที่เคยกล่าวไปแล้ว ถ้าไม่มีการระบุสิ่งเหล่านี้ลงไป เราจะไม่ได้ภาพตามใจที่เราต้องการ เพราะฉะนั้น ต้องมั่นใจได้ว่าเราได้ใส่รายละเอียดที่เราต้องการให้ภาพออกมาเป็นศิลปะสไตล์ไหน แต่ถ้าหากว่าเราไม่รู้จักสไตล์ของศิลปะ ก็สามารถที่จะไปหาความรู้ได้บน google
ในกรณีที่เราสามารถปรับแต่งภาพของเราได้เองบนแพลตฟอร์ม สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องจำให้ดีคือเราจะต้องทำหลายขั้นตอนมาก กว่าเราจะได้ภาพที่ตรงตามใจเรา ต้องใส่รายละเอียดเพิ่ม คุณภาพของภาพต้องดีที่สุด และภาพที่ออกมาต้องตรงกับคำสั่งที่เราป้อนเข้าไป เราสามารถทำขั้นตอนทั้งหลายนี้ได้ง่ายๆ โดยสั่งให้ AR จัดการเรื่องปรับปรุงภาพให้เราแค่นี้ก็จบ
เราได้อธิบายถึงเคล็ดลับบางอย่างที่จะทำให้ได้ภาพที่ถูกต้องมากที่สุดจาก AI แต่นี่คือเคล็ดลับยอดนิยมและไอเดียสร้างสรรค์สำหรับการใช้ AI ให้สร้างงานศิลปะเพื่อให้ประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีก
เมื่อไม่นานมานี้ เราได้เห็นการทดลองเกี่ยวกับ AI ในรูปแบบต่างออกไป สิ่งที่พวกเขาทำคือ การใช้ AI ในรูปแบบของภาษา และทำให้ AI มีความสามารถแก้ไขข้อความได้เอง และได้มีการใส่คำถามเพื่อให้ AI เสนอไอเดีย แล้วป้อนเป็นคำสั่งให้สร้างเป็นภาพออกมา อย่างเช่น ถ้าเราอยากทำธุรกิจเกี่ยวกับเพลง เราใช้ให้ AI เขียนเนื้อเพลงขึ้นมา และเรายังสามารถที่จะสั่งให้ AI แสดงชุดคำอธิบาย สำหรับภาพปกเพลงของเราได้อีกด้วย โดยที่ AI จะแสดงชุดคำอธิบายออกมาหลายรูปแบบ แล้ว AI จะหาผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุดออกมา เพื่อวาดภาพออกมาให้ถูกต้องที่สุด
ต่อไปนี้ ก็นำชุดคำ prompt ที่ได้มาป้อนข้อมูลให้กับ AI เพื่อวาดภาพให้ตรงตามต้องการต่อไป นั่นหมายความว่า เราไม่ต้องเข้าไปแทรกแซงคำสั่งอะไรแล้ว จากนั้นผลลัพธ์ที่ได้ออกมาส่วนใหญ่ก็จะเกิดจากการสร้างขึ้นของ AI เพียงอย่างเดียว
เราสามารถสร้างวิดีให้ออกมาน่าสนใจได้ ด้วยการใช้ AI ให้วาดภาพจากข้อความเข้าด้วยกันเพื่อทำเป็นวิดีโอสั้นออกมา ตัวอย่างเช่น วิดีโอบน TikTok และ Instagram ซึ่งที่จริงแล้ว หลายคนก็ใช้ภาพถ่ายที่สร้างด้วย AI แล้วก็ทำให้เป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจจากนั้นก็สร้างเป็นวิดีโอสั้นๆ เพื่อให้ผู้ที่ใช้แพลตฟอร์ม TikTok ได้ดูแบบเร็วๆ แต่ก็มีหลายคนที่ไม่รู้ว่าวิดีโอพวกนี้ถูกสร้างโดย AI นั่นเป็นเพราะพวกคนเหล่านั้นคิดว่าเป็นฝีมือของคนที่ถ่ายรูปได้สวยขนาดนี้ แต่จริงๆ ในระบบถ่ายรูปมันถูกจัดการด้วย AI โดยที่คนไม่รู้เลย
จากในหลายๆ เคส โดยเฉพาะเคสของการตลาด เรามักจะดึงความสนใจของผู้ใช้ที่สนใจใช้ภาพจาก AI เพราะภาพที่ถูกถ่ายด้วย AI เป็นที่รู้กันดีว่ามีความแปลกใหม่และพิเศษ เพราะจากการใช้ภาพจาก AI พวกนี้ แม้ว่าภาพจะไม่เหมือนฝีมือคน และบางภาพดูแล้วมีความตลกขบขัน จึงทำให้เราได้ประโยชน์จากภาพพวกนี้เพื่อนำไปใช้เกี่ยวกับการตลาด หรือใช้เพื่อดึงความสนใจบนโลกออนไลน์ได้
แต่ก็มีหลายคนที่ใช้ภาพเพื่อยิงแอดโฆษณาบนแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Twitter หรือ Instagram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้เยอะและสนใจเรื่องภาพจาก AI เราจะต้องมีความเข้าใจเรื่องของแพลตฟอร์มในส่วนหนึ่งเพราะส่วนมากเราอาจจะได้ลูกค้าจากแพลตฟอร์มนั้นด้วย โดยเฉพาะ Instagram และ Twitter จะมีผู้ที่สนใจชอบดูภาพจาก AI อยู่เยอะ บางที่ก็มีการใช้ภาพพวกนี้ทำเป็นมีม เพื่อเป็นการดึงดูดให้ผู้ใช้คนอื่นๆ สนใจในโปรไฟล์เรามากขึ้น ทำให้เราเพิ่มยอดผู้ติดตามหรือคนดูไปในตัวด้วย
ท้ายที่สุด แต่ยังไม่สุดท้าย อย่าลืมลองนำภาพที่สร้างจาก AI ไปใช้กับอุปกรณ์ตัวช่วย AR อื่นๆ ดูบ้าง อย่างเช่น เรานำภาพจาก AI ที่ได้จากคำอธิบาย prompt อาจจะเป็นภาพที่ผ่านการปรับปรุงแล้ว หรือภาพที่ยังไม่ได้ผ่านการปรับปรุง แล้วอัปโหลดไปให้ AI วาดภาพต่ออีกที เพื่อให้ได้ภาพใหม่ทั้งหมดอีกที ก็สามารถทำได้ หรือแม้แต่การนำภาพใส่เข้าไปที่ AI เพื่อให้ทำเป็นเพลงหรือเป็นเสียง soundtrack จากการอ่านภาพที่ถูกอัปโหลดเข้าโปรแกรม AI อีกที หรือเราจะวาดภาพใหม่ขึ้นมาแล้วอัปโหลดไปที่โปรแกรม AI เพื่อให้ AI เขียนกลอนหรือเนื้อเพลงสำหรับภาพที่เราใส่เข้าไป ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เราสามารถใช้ให้ AI เหล่านี้ทำงานกลับไปกลับมาเพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการ
ตอนนี้ เรามาถึงส่วนที่ต้องเลือกใช้ AI ให้เหมาะสมกับงานที่เราต้องการ สิ่งที่เราจะต้องรู้คือ เหล่าบรรดาโปรแกรม AI ที่ใช้วาดภาพนั้นไม่ฟรี ยังไงเสียเราก็ต้องจ่ายจริงตามการใช้งานหรือเป็นรายเดือน พวกโปรแกรม AI นั้นมีเครื่องมือที่มีความสามารถในแต่ละอย่างแตกต่างกันมากมาย ฉะนั้น เป็นไปไม่ได้เลยที่เราจะใช้ความสามารถของ AI ทั้งหมดที่มีในเวลาเดียวกัน ดังนั้น เราจำเป็นที่ต้องเลือกอันหนึ่งอันใด แล้วใช้ตัวนั้นเพื่อให้รู้แจ้งถึงศักยภาพของโปรแกรม ฉะนั้น ในส่วนต่อไปนี้เราจะเจาะลึกถึงข้อเท็จจริงที่จะช่วยให้คุณเลือกซื้อโปรแกรม AI ใช้ได้อย่างเหมาะสม
แน่นอน เรื่องราคาเราต้องดูก่อน เพราะโปรแกรม AI แต่ละตัวนั้นมีจุดกำหนดราคาต่างกัน จึงทำให้ความสามารถในแต่ละ AI มีความต่างกัน โดยที่คุณสามารถเปรียบเทียบราคาโปรแกรม AI ที่คนนิยมกันบางรุ่นเพื่อดูว่าตัวใดเหมาะสำหรับคุณ และในตารางที่เรานำมาให้คุณดู คุณจะเห็นได้ว่ามีแพลตฟอร์มไหนบ้างมีรุ่นให้ทดลองฟรี
เรื่องต่อไป ที่เราจะต้องพิจารณาคือเรื่องของคุณสมบัติที่แพลตฟอร์มมีให้ คุณสมบัตินอกเหนือจากที่ได้กล่าวไว้ในบทความนี้ ใช่ว่าโปรแกรม AI ทุกตัวจะวาดภาพได้ ดังนั้น จำเป็นที่สุดสำหรับเราที่จะต้องเลือกเครื่องมือที่มีคุณสมบัติที่เราจำเป็นต้องใช้มากที่สุด ดังนั้น เราจึงได้รวบรวมคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับโปรแกรมวาดภาพด้วย AI ไว้ในตารางด้านล่าง เพื่อให้ได้เปรียบเทียบเป็นทางเลือก
โปรแกรมวาดภาพด้วย AI เหล่านี้ไม่ฟรี ดังนั้น รุ่นใช้ฟรีจะมีข้อจำกัดในการใช้ ดังนั้น ถ้าเรายังไม่มีแพลนที่จะซื้อ ก็ต้องทำความเข้าใจว่าแต่ละตัวจะมีข้อจำกัดในการใช้อยู่ เช่น ในบางกรณี บางรุ่นอาจจะให้เราสร้างภาพได้ 5 ภาพ ก่อนที่เราจะตัดสินใจซื้อโปรแกรม ส่วนของโปรแกรมอื่นๆ อาจจะให้ทดลองสร้างภาพได้มากถึง 50 ภาพ จากตารางเปรียบเทียบราคาด้านบน เราได้รวมรุ่นทดลองสำหรับแต่ละรุ่นไว้ด้วยกันน เพื่อให้ได้เปรียบเทียบอย่างถูกต้อง
เรื่องสุดท้ายที่สำคัญมากที่สุด จะต้องเปรียบเทียบคุณภาพของหลายๆ โปรแกรม ไม่ใช่แค่จะมาพิจารณาแค่ปัญหาตัวสองตัวแต่ต้องศึกษาจากปัญหาของผู้ใช้หลายๆ คน โดยทั่วไปแล้ว เราจะต้องไปเช็คที่เครื่องมือหลักของโปรแกรม ที่ AI แต่ละรุ่นมักจะให้อัปเดตโปรแกรมเพื่อให้ทันสมัยที่สุด เช่น AI แบบเปิดของ DALL-E มักจะอัปเดตโปรแกรมให้ล่าสุดอยู่เรื่อยๆ ซึ่งโปรแกรมตัวอื่นๆ ก็จะต้องเป็นแบบนี้เหมือนกัน เหมือนอย่าง Stable Diffusion แต่ก็จะมีโปรแกรมอื่นๆ ที่เบื้องหลังของ AI ใช้อัลกอลิทึมเหมือนกัน ดังนั้น โดยรวมแล้ว ให้สนใจโปรแกรมที่มีการอัปเดตฐานข้อมูลล่าสุดที่เครื่องมือในโปรแกรมสามารถใช้เทคโนโลยีล่าสุดได้
บทสรุป
จากนี้ไป คิดว่าผู้อ่านคงทำความเข้าใจเรื่อง AI วาดภาพได้เป็นอย่างดี ว่ามีความสามารถอะไรบ้าง เราได้ประโยชน์อะไรบ้าง การใช้ออนไลน์ใช้อย่างไร และอื่นๆ เคล็ดลับในการใช้เครื่องมือที่โปรแกรมมีให้จะทำให้คุณอยู่ในจุดที่เหมาะสมในการเริ่มต้นใช้เครื่องมือเหล่านี้ ดังนั้น สิ่งที่คุณจะต้องทำทั้งหมดนี้ คือเริ่มใช้โปรแกรมหนึ่งในที่ชอบ เช็คดูข้อจำกัดของรุ่นฟรีว่าจำกัดความสามารถอะไรบ้าง แล้วลองใช้เทคนิคที่ได้จากบทความนี้ลองเขียน prompts ชุดคำอธิบาย และลองเจาะจงรายละเอียดทุกอย่างที่เราอยากให้มีลงไปเพื่อให้ได้ AI วาดภาพให้ออกมาตรงกับสิ่งที่เราต้องการให้มากที่สุด
สุดท้ายนี้ คุณอาจจะได้ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้มาไปกับงานการตลาด ในเรื่องการออกแบบ จงใช้มันให้เพลิดเพลินให้เกิดความสนุกสนานไปกับสิ่งที่กำลังทำ เพราะคุณรู้แล้วนี้ถ้าจะทำธุรกิจตรงนี้จะต้องใช้ AI อย่างไร เพราะเครื่องมือพวกนี้สามารถออกแบบตัวละครในเกมได้ด้วย หรือแม้แต่โปรเจคอื่นๆ ก็สามารถทำได้ ด้วยเทคโนโลยีนี้จะช่วยยให้คุณตามทันโลกแห่งการออกแบบภาพกราฟฟิก ต่อไปนี้ คุณก็สามารถเป็นส่วนหนึ่งของนักออกแบบและเริ่มต้นออกแบบภาพด้วย AI ได้ทันที
หรือคุณจะต้องดาวน์โหลดสิ่งที่คนอื่นดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 2 ล้านคน ซึ่งจะทำให้ความเป็นเอกลักษณ์ของคอนเทนต์ของคุณหายไป ซึ่งมันไม่คุ้มเลย