พื้นเมือง

?

โฆษณาของพวกเขาโดยการซิงโครไนซ์โฆษณากับเนื้อหาเว็บ โฆษณาเนทีฟดูเหมือนจะเป็นส่วนที่ไม่มีรอยต่อของเนื้อหาเว็บที่ผู้ใช้ดู

15+ แพลตฟอร์มโฆษณาเนทีฟชั้นนำ [2024] — เครือข่ายโฆษณาเนทีฟที่ดีที่สุด

การที่มีฐานผู้เข้าชมที่ดีในบล็อกเยอะ ๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการตลาดแบบ Affiliate โดยจะมีหลายวิธีเลยที่จะทำให้มีคนกดเข้ามาดูโฆษณาได้เยอะ ๆ เช่น การโฆษณาบนโซเชียลออนไลน์ เว็บไซต์ ฯลฯ แต่ทุกวันนี้ มีจำนวนผู้คลิกเข้ามาดูและซื้อของจากโฆษณาน้อยลงเรื่อย ๆ แล้ว นี่คือแหล่งที่โฆษณาเนทีฟจะมาช่วยแก้ไขปัญหานี้ที่อาจเกิดกับคุณได้ ในบทความนี้ เราจะแสดงให้คุณเห็นเองว่า มีวิธีการทำการตลาดบล็อกของคุณ ด้วยโฆษณาเนทีฟ (Native Ads) ที่มันสามารถเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จของคุณได้ พร้อมเหตุผลที่คุณจึงควรคิดที่จะทำในตอนนี้


โฆษณาแบบเนทีฟคืออะไร? มันมีประโยชน์ยังไง?

โฆษณาเนทีฟ เป็นโฆษณาประเภทหนึ่ง จุดเด่นคือว่ามันได้รับการออกแบบมาให้มีลักษณะไม่เหมือนโฆษณาตามที่เราเห็นทั่วไปเลย ทีนี้ คุณอาจจะสงสัยแล้วว่า มันจะช่วยทำรายได้ให้เรายังไงล่ะ? หากโฆษณาของคุณ ไม่มีลักษณะเหมือนโฆษณาทั่วไป แล้วจะทำให้ผู้เข้าชมคลิกโฆษณาได้ยังไงล่ะ? ขอบอกเลยว่านั่นแหละที่เป็น "ข้อดี" ของการโฆษณาเนทีฟเลย คือมันไม่ได้เกะกะหรือขัดขวางคอนเทนต์บนหน้าเว็บ ไม่มีผู้ใช้คนไหนชอบให้โฆษณาที่เด้งขึ้นมาต่อหน้าหรือขัดจังหวะตอนที่กำลังเสพคอนเทนต์หรอก จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้นักการตลาดเลือกใช้การโฆษณาเนทีฟกัน

ข้อที่ได้เปรียบที่สุดของการโฆษณาเนทีฟ คือ มันจะไม่ขับไล่ลูกค้าที่มีศักยภาพออกไปแน่นอน โฆษณาเนทีฟจะช่วยแปลงร่างเป็นรูปแบบที่ดูกลมกลืนไปกับคอนเทนต์ จึงทำให้มันดูเหมือนไม่ใช่โฆษณาตามทั่วไป นี่จึงเป็นข้อได้เปรียบเลยแหละ ซึ่งจะทำให้คนอยากคลิกที่โฆษณาเนทีฟได้ง่ายขึ้น ลองจินตนาการว่าคุณกำลังเยี่ยมชมคอนเทนต์ใน Pinterest หรือ Twitter และผู้อ่านจะสามารถเห็นบทความตลอดทั้งคอนเทนต์เลย คุณอาจจะไม่สังเกตเห็นก็ได้ แต่โฆษณาเหล่านี้เป็นโฆษณาประเภทเนทีฟ จึงทำให้คนสนใจคลิกโฆษณาเหล่านี้ เนื่องจากโฆษณาเหล่านี้มีลักษณะความน่าสนที่ไม่เหมือนโฆษณาทั่วไปเลย

และยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่นักการตลาดเลือกใช้กัน โดยในด้านราคา โฆษณาแบบเนทีฟมีราคาแพงน้อยกว่าวิธีการอื่น ๆ CPC (ราคาต่อหนึ่งคลิก หรือ cost-per-click) โดยเฉลี่ยสำหรับค่าใช้จ่ายโฆษณาแบบเนทีฟสามารถลดลงเหลือ $0.6 นอกจากนี้ มันยังมีแพลตฟอร์มมากมายต่างให้บริการโฆษณาเนทีฟ มันจึงมีข้อจำกัดที่น้อยกว่าโฆษณาในเว็บไซต์เจ้าดัง ๆ ถึงแม้ แพลตฟอร์มมีแต่ข้อเสนอที่ไม่ดี แต่ คุณก็ยังสามารถหันไปหาแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีกได้เสมอ ตราบใดที่คุณทำตามคำแนะนำที่เราให้นี้ตลอด ทุกอย่างก็จะดำเนินไปด้วยดีแน่นอน

 


นักการตลาด Affiliate จะทำการโฆษณาแบบเนทีฟแบบนี้อย่างไรบ้าง?

นักการตลาด Affiliate สามารถได้รับประโยชน์อย่างมาก จากการทำโฆษณาเนทีฟ อย่างไรก็ตาม หากคุณยังไม่มีประสบการณ์ในด้านโฆษณาเลย ก็อาจเป็นเรื่องยากที่จะเริ่มลงมือ ถ้าอย่างงั้นแล้ว เพื่อประโยชน์ของการทำการตลาด Affiliate คุณสามารถเลือกวิธีที่ใช้การโฆษณาแบบเนทีฟ ใน 3 วิธี ตามนี้:

วิธีโปรโมตคอนเทนต์ที่คุณมี

ในการด้านการแชร์ลิงค์ Affiliate เพื่อจะทำให้คนคลิกลิงค์ ก่อนอื่นคุณต้องมีฐานผู้อ่านในบล็อกของคุณสักจำนวนหนึ่งก่อน เพราะว่านี่เป็นอีกหนึ่งในวิธีที่คุณสามารถใช้กับโฆษณาแบบเนทีฟได้ เพื่อสร้างประโยชน์ในฐานะนักการตลาด เพียงเช็คให้แน่ใจว่า คุณเพิ่มลิงค์ Affiliate ในคอนเทนต์ของคุณแล้ว และอย่าพลาดลืมขณะที่ใช้งานโฆษณาแบบเนทีฟอยู่ ดังนั้นจึงเป็นจุดสำคัญที่จะต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของโฆษณาคุณและเป็นมิตรกันผู้เข้าชมด้วย โฆษณาเนทีฟไม่จำเป็นต้องเป็นมืออาชีพก็ใช้รูปแบบโฆษณานี้ได้ เพียงคุณแค่ต้องทำให้แน่ใจก่อนว่า จะทำให้มีส่วนร่วมมากพอที่จะทำให้คนอยากคลิกเข้าโฆษณาดูได้

วิธีเพิ่มการเข้าชมสำหรับเว็บไซต์ของคุณ

จริง ๆ แล้วคุณไม่จำเป็นต้องจำกัดขอบเขตการทำงาน โดยให้ตัวลิงค์อยู่แค่ในโพสต์บล็อกและเชื่อมโยงกับ Affiliate ต่าง ๆ เพียงเท่านั้น ถ้าคุณให้คนกลับมาพร้อมกับคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ คอนเทนต์ที่ดี ๆ ถือเป็นสินทรัพย์ที่มีประโยชน์มากสำหรับธุรกิจของคุณ และฐานผู้เข้าชมเป็นสินทรัพย์ที่สำคัญที่สุดสำหรับนักการตลาด Affiliate ที่ประสบความสำเร็จ และคุณไม่ควรมองข้ามการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเลย คุณอาจทำให้คนจำนวนมากคลิกที่ลิงค์ Affiliate ผ่านโพสต์บล็อกที่โฆษณาได้ง่าย ๆ แต่ว่า ในระยะยาว การทำวิธีนี้อย่างเดียวก็จะไม่ยั่งยืนเท่าไหร่ หากมีฐานการเข้าชมที่ดีในเว็บไซต์ ดังนั้นแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการสร้างรายได้โฆษณาเพียงทางเดียว

วิธีรวบรวมลิสต์รายชื่ออีเมล

นี่เป็นหนึ่งในวิธีอันชาญฉลาด ที่คุณสามารถทำได้กับการโฆษณาเนทีฟ โดยการตั้งค่าบริการการสมัครสมาชิกอีเมลให้เรียบร้อย จากนั้นก็เช็คว่า ผู้เข้าชมตั้งใจที่จะกรอกอีเมลของพวกเขาจริง ๆ หรือเปล่า คุณคาดเดาไม่ได้หรอกว่า ผู้เข้าชมสนใจที่จะติดตามเรื่องราวคอนเทนต์ที่น่าตื่นเต้น การอัปเดตใหม่ ๆ ฯลฯ เมื่อคุณสร้างลิสต์อีเมลได้สำเร็จแล้ว แค่นี้ก็สามารถโปรโมตข้อเสนอ Affiliate ให้กับพวกเขาได้เข้าถึงมากขึ้นผ่านการสมัครสมาชิกอีเมล ขอย้ำอีกครั้งว่า ต้องส่งอีเมลพร้อม ๆ กับตัวลิงค์ Affiliate ไปให้ผู้สมัครรับข้อมูลของคุณ ซึ่งนี้ถือเป็นเทคติกที่สำคัญจริง ๆ หากคุณไม่ทำแบบนั้นแล้ว ก็จะเป็นเรื่องที่ยากในการรักษาผู้เข้าชมให้อยู่ในช่องทางของคุณ


ต้นทุนและผลกำไร

อย่าลืมว่าคุณกำลังทำธุรกิจด้วยโฆษณาเนทีฟ เงินที่คุณลงทุนไปกับโฆษณาของคุณ ก็ควรได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าด้วย ถ้าไม่งั้นธุรกิจของคุณอาจไม่ประสบความสำเร็จ ถ้าอยากใช้โฆษณาแบบเนทีฟให้ประสบความสำเร็จ คุณควรคำนึงถึงงบที่เอาไว้จ่ายค่าบริการโฆษณาในแต่ละแพลตฟอร์มด้วย

รูปแบบการกำหนดราคา

โดยทั่วไปแพลตฟอร์มส่วนใหญ่จะเรียกเก็บเงินค่าบริการผ่านรูปแบบการกำหนดราคา CPM และ CPC ซึ่งอัตรา CPM สูงสุดอยู่ที่ประมาณ $2 นอกจากนี้ยังมี เกณฑ์การชำระเงินขั้นต่ำ อีกด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณไม่สามารถสั่งซื้อโฆษณาที่ต่ำกว่าจำนวนดังกล่าวได้เลย

นอกจากนี้คุณควรรู้ไว้ก่อนว่า ประเทศที่คุณสามารถวางโฆษณาของคุณได้นั้นจะแบ่งเป็น 3 ระดับ อย่างใน Tier 1 จะเป็นประเทศกลุ่มที่ร่ำรวยที่สุด เช่น สหรัฐอเมริกา หรือสหราชอาณาจักร และมีการแข่งขันมากที่สุด โดยปกติจะมีผลกำไรมากที่สุด ส่วนใน Tier 2 จะมีการแข่งขันน้อยกว่า และมีรายได้เฉลี่ยต่อคนต่ำกว่าด้วย ประกอบไปด้วยประเทศจีน เม็กซิโก หรือซาอุดีอาระเบีย Tier 3 เป็นกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา และผู้บริโภคมีกำลังซื้อต่ำ ตัวอย่างเช่น บาห์เรน และอินเดีย

นอกจากนี้ ยังมีบางประเทศ หรือบาง GEO สามารถทำกำไรดีจากโฆษณาเนทีฟเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น 50% ของจำนวนการเข้าชม บนแพลตฟอร์มที่มีโฆษณาเนทีฟนั้นมาจาก GEO ในกลุ่มประเทศ Tier 1 กันทั้งนั้น เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น และฝรั่งเศส โดยปกติแล้ว สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และฝรั่งเศส จะอยู่ใน GEO อันดับต้น ๆ บนแพลตฟอร์มที่หลากหลาย

ในตอนนี้ ไม่ว่าภูมิศาสตร์ไหนหรือแพลตฟอร์มใดก็ตามที่คุณกำลังจะตั้งเป้าหมาย สิ่งสำคัญเลยคือรับรายได้ของคุณได้มากกว่าที่คุณใช้จ่ายไป สิ่งนี้จึงเรียกว่า ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI หรือ Return on Investment) คุณต้องมุ่งมั่นเพื่อเพิ่มอัตรา ROI สูงขึ้นกว่าเดิม  และการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายนั้นก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าหากคุณจดจำและนำแนวทางไปใช้ได้ดีแล้ว

จะรู้ได้ไงว่าโฆษณามันได้ผลดี?

คุณต้องทำความคุ้นเคยกับ "เมทริกซ์" ก่อนที่คุณจะข้ามไปยังขั้นตอนยิงโฆษณาบนเว็บไซต์ ในหน่วยการวัดประสิทธิภาพสำหรับตัวโฆษณา คุณควรให้ความสนใจกับมาตรฐานต่อไปนี้ ก่อนที่จะยิงโฆษณา

  • Click-through rate (CTR) ในเมทริกซ์นี้ คุณควรจะแสดงความน่าสนใจของโฆษณาของคุณ หรือพูดง่าย ๆ มันหมายถึง "เปอร์เซ็นต์ของผู้ที่กดคลิกที่โฆษณา จากผู้ที่เห็นโฆษณาทั้งหมด CTR ที่ดีจะต้องอัตราเท่าไหร่? สำหรับโฆษณาเนทีฟ ประมาณ 0.5% ก็จะจัดว่าดี แม้ว่าจำนวนเงินนี้จะเปลี่ยนไปในอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเฉลี่ยแล้วคุณต้องการลองมากกว่า 0.2%
  • อัตรา Conversion เมทริกซ์นี้หมายถึง เปอร์เซ็นต์ของผู้เข้าชมที่ถูกแปลงเป็นลูกค้า ซึ่งใครก็ตาม ที่คลิกโฆษณาของคุณและลงเอยด้วยการลงชื่อสมัครใช้เว็บไซต์ของคุณ หรือกดไปที่ลิงค์ Affiliate หรือสมัครรับข้อมูลจากในลิสต์อีเมลของคุณ ก็จะถือว่าเป็น conversion แล้ว ดังนั้นแล้ว แค่คลิกอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องมีส่วนร่วมด้วย อัตรา Conversion ที่มากกว่า 2% เป็นเรตที่ดี แต่คุณจะได้รับอัตรา Conversion ที่สูงยิ่งขึ้นจากโฆษณาบางรายการได้อย่างแน่นอน ดังนั้นก็เลยไม่มีข้อจำกัด
  • ROI (ผลตอบแทนจากการลงทุน) ผลตอบแทนจากการลงทุน จะบ่งบอกถึง จำนวนเงินที่คุณได้รับจากธุรกิจหลังจากที่คุณลงทุนไปแล้ว โดยพื้นฐานแล้วในการโปรโมตเว็บไซต์หรือโปรดัก Affiliate ของคุณในเครือข่ายโฆษณาเนทีฟ คุณจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนหนึ่งและจำนวนเงินที่คุณจะได้รับจากผู้ใช้ทั้งหมดที่คุณได้รับคือผลตอบแทนที่คุณจะได้รับ ROI ที่ดีมีอัตราเท่าไหร่? สมมติว่ามีอัตราอยู่ที่ ROI 0% หมายความว่าคุณไม่ได้รับ หรือสูญเสียอะไรเลย ซึ่งคุณได้รับผลตอบแทนเท่ากับเงินที่คุณใช้ไป ถ้าอัตราสูงกว่านั้น ก็จะถือว่าเป็น ROI ที่ดี ดังนั้นแล้ว ROI 20% หมายความว่า คุณได้ 100% ของการลงทุนของคุณกลับมา บวกกับอีกกำไร 20%

ตอนนี้ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมหรือกลุ่มเฉพาะของคุณแล้ว คุณอาจคำนวณจำนวนเงินที่คุณได้รับต่อคลิกหรือต่อการเข้าชมแตกต่างกันไป บางครั้งคุณ "จ่ายเงิน" ให้กับเครือข่ายโฆษณาตามการคลิก และคุณยัง "ได้รับรายได้" จากยอดการคลิกโฆษณาด้วย ในบางครั้งคุณต้องจ่ายค่าบริการต่อการเข้าชม ซึ่งคุณก็จะได้รับเงินตามการคลิกด้วย เช็คให้แน่ใจว่า รูปแบบการชำระเงินที่คุณเลือกนั้นตรงกับรายได้ที่คุณได้รับจากธุรกิจ Affiliate ของคุณหรือเปล่า?

ตั้งเป้าหมาย

หนึ่งในวิธีพื้นฐานโดยที่คุณสามารถทำได้คือ การตั้งเป้าหมายและพยายามเข้าถึงเป้าหมาย ตัวอย่างสมมติว่า คุณต้องการที่จะลองทำโฆษณาเนทีฟโดยใช้ Taboola ต้นทุนโดยเฉลี่ยของการโฆษณาต่อคลิกนั้น อาจสูงถึง $0.1 ต่อคลิก ซึ่งหมายความว่า ถ้าคุณมีงบประมาณ $200 คุณก็จะได้รับเป็นจำนวน 2,000 คลิกเลย หากคุณสามารถสร้างรายได้อย่างน้อย $250 ด้วยจำนวนเงินนี้คิดเป็นค่า ROI 25% จากงบประมาณของคุณ ดังนั้น คุณสามารถกำหนดเป้าหมายให้สอดคล้องกับงบประมาณของคุณ และพยายามเข้าถึงเป้าหมายเหล่านั้นด้วย

เลือกนิชที่ทำกำไรได้ดี

น่าจะเป็นที่รู้กันดีว่า ถึงวิธีนี้จะไม่ทันใจคุณสักเท่าไหร่ แต่ยิ่งมีความเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่มากเท่าใดก็ ก็จะยิ่งสร้างกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น มันเป็นตรรกะง่าย ๆ ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการโฆษณา คนควรทำการบ้านมาอย่างดีว่า กลุ่มตลาดใดที่ทำกำไรได้ดีในช่วงนี้ และจะสามารถใช้การตลาด Affiliate ได้ด้วย

โดยเราขอยกตัวอย่างบางส่วนของนิชที่ดีที่สุดสำหรับการโปรโมตโปรดักและบริการ ในปี 2022 เช่น กลุ่มหาคู่เดท การพนัน การเงิน ความงาม การรักษาความปลอดภัยในบ้าน และกลุ่มอีสปอร์ต แม้คุณต้องการแค่เน้นทำการตลาดกับกลุ่มลูกค้าของคุณเอง และพยายามหาเว็บไซต์ผู้เผยแพร่โฆษณาที่มีศักยภาพในการดึงดูดลูกค้ามายังเว็บไซต์ Affiliate แต่ทุกขั้นตอนนั้นจะราบรื่นได้ ก็จะต้องตั้งความคาดหวังของคุณไว้ก่อน เมื่อต้องรับมือกับกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกัน ลองเช็คลิสต์ของของนิชที่ทำกำไรได้มากที่สุดในการตลาด Affiliate


เคล็ดลับการขายสุดปังสำหรับการตลาด Affiliate ด้วยโฆษณาเนทีฟ

ความจริงแล้ว โฆษณาแบบเนทีฟมีประสิทธิภาพมากกว่าโฆษณาประเภทอื่นซะอีก แต่คุณต้องคำนวณก่อนว่าได้รับประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญโฆษณาแบบเนทีฟของคุณแล้ว นี่จึงเป็นขั้นตอนที่คุณควรใส่ใจก่อนเริ่มต้นใช้งานแคมเปญ

ใส่ใจเลือกเครือข่ายโฆษณาของคุณ

มีแคมเปญโฆษณาเนทีฟที่ยอดเยี่ยมมากมาย ตามที่กล่าวไว้ในหน้านี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้อาจจะไม่ได้เป็นสิ่งที่คุณชื่นชอบ หากคุณกำลังยิงโฆษณาในกลุ่มเฉพาะ ควรเช็คว่า ใช้เครือข่ายที่กำหนดเป้าหมายกลุ่มประชากร ที่คุณต้องการเข้าถึงโดยเฉพาะ มีผู้โฆษณาจำนวนมาก แต่ไม่ใช่ทุกรายที่มีลูกค้าที่คุณอยากได้ ดังนั้น หากธุรกิจ Affiliate ของคุณได้ทำเกี่ยวกับโปรดักด้านความงาม คุณควรหลีกเลี่ยงการใช้เว็บไซต์ของผู้เผยแพร่เกี่ยวกับรถยนต์ หรืออื่น ๆ เพื่อโปรโมตคอนเทนต์ของคุณ พยายามใช้เครือข่ายโฆษณาที่มีความเข้าใจในปัญหาด้านการลงโฆษณานี้ ก็จะช่วยให้คุณสามารถเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับกลุ่มเป้าหมายของคุณได้

ประโยชน์จากการออกแบบโฆษณา

มีหลายวิธีที่จะช่วยให้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับโฆษณาเนทีฟของคุณ แม้ว่า โฆษณาเนทีฟจะต่างจากโฆษณาดิสเพลย์ โดยที่โฆษณาเนทีฟก็ไม่สามารถกำหนดค่าความกว้างในขอบเขตได้ แต่คุณก็สามารถเพิ่มลูกเล่นบางอย่างได้ เช่น CTA ที่มีการแสดงผลน่าสนใจ และบางครั้ง แม้แต่เพิ่มภาพเคลื่อนไหวเข้าไปในโฆษณาเหล่านั้นได้อีก ดังนั้นคุณควรทำให้โฆษณาของคุณน่าดึงดูดได้เสมอ เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านหรือผู้เยี่ยมชมได้คลิกเข้ามาดูและอ่านคอนเทนต์ของคุณ ลองดูตัวอย่างด้านล่างนี้สิ คุณได้เห็นโฆษณาเหล่านี้ด้วยตัวคุณเองอย่างแน่นอน และน่ากลับมาชมคอนเทนต์อีกเป็นครั้งที่สอง โฆษณาเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ดีในการเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาของคุณด้วยการออกแบบโฆษณา ซึ่งมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถสร้างสรรค์โฆษณาได้เสมอ

ทดสอบประสิทธิภาพแคมเปญของคุณ

ถึงแม้ต้องยอมเสี่ยงเสียค่าใช้จ่ายในการทดลอง ก่อนที่จะเริ่มต้นแคมเปญของคุณจริง ๆ และดำเนินการแคมเปญ ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ให้ลองเช็คความพร้อมในแคมเปญของคุณก่อน เพราะบางครั้งโฆษณาอาจไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่คุณคิดก็ได้ โดยในปัญหานี้ ให้คุณลองเปลี่ยนกลยุทธ์ เปลี่ยนเครือข่าย ลองใช้ตำแหน่งที่แตกต่างกัน และคิดหาวิธีใหม่ ๆ ในการเพิ่มโฆษณาเนทีฟที่เข้ากับเว็บไซต์ผู้เผยแพร่โฆษณาต่าง ๆ ยังมีวิธีที่คุณสามารถประหยัดเงินได้เยอะ ถ้าหากคุณต้องการทดสอบเพียงเวลาสั้น ๆ จนกว่า คุณจะเริ่มชินและมั่นใจว่า คุณได้พบวิธีการโปรโมตคอนเทนต์ของคุณที่มันให้ผลกำไรสูงสุดแล้ว

กำหนดเป้าหมายผู้ชมที่เหมาะสม

ก็เป็นขั้นตอนที่คล้าย ๆ กันกับหัวข้อการทดสอบเลย แต่ว่าขั้นตอนนี้ เราขอแนะนำให้คุณลองจำแนก อีกว่า คุณมีกลุ่มเป้าหมายประเภทใดบ้าง หากคุณกำลังโปรโมตธุรกิจ Affiliate สำหรับข้อเสนอการพนัน คุณอาจต้องการมุ่งเน้นไปที่ ผู้ใช้งานบนมือถือ มากกว่า ผู้ใช้งานบนเดสก์ท็อป นอกจากนี้ คุณอาจต้องการตรวจสอบ GEO ที่คุณกำลังมุ่งเน้น ซึ่งระหว่างที่กำลังรันแคมเปญ ก็จะช่วยรักษามาตรฐานของคุณให้สอดคล้องกับเครือข่ายโฆษณาที่คุณเลือก


สรุป

โฆษณาแบบเนทีฟเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจมาก ๆ เลย โดยเราสามารถทำคอนเทนต์โฆษณาที่กลมกลืนและมีประสิทธิภาพมากกับเว็บไซต์มาก ๆ ซึ่งก็ต่างจากโฆษณาแบบดิสเพลย์ที่เราก็รู้กันดีว่ามันมีโอกาสที่ผู้เข้าชมจะหนีออกจากโฆษณาสูง แต่ว่าโฆษณาเนทีฟได้รับการพิสูจน์แล้วว่าผู้ใช้รู้สึกชื่นชอบมันจริง ๆ ดังนั้นแล้ว ควรใช้โอกาสของคุณไปกันโฆษณารูปแบบนี้ และอย่าลืมว่า คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่จะเพิ่มการเข้าชมที่มาจากสื่อโซเชียลออนไลน์ฟรี เช่น ใส่แฮชแท็กใน Twitter และ Pinterest ก็ได้เช่นกัน แม้ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์เหล่านี้ อาจจะไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าไหร่ แต่ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยให้เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จให้คุณได้