ปัจจุบัน YouTube มีผู้ใช้งานมากกว่า 2 พันล้านคนในหนึ่งเดือน รวมแล้วเวลาที่อยู่หน้าจอจะตกวันละประมาณ 250 ล้านชั่วโมง เทียบง่าย ๆ ระหว่างที่คุณกำลังอ่านประโยคนี้ คลิปใหม่นับร้อยคงถูกอัปโหลดลง Youtube แล้ว ถ้าคุณตะลึงกับสถิตินี้ คุณต้องตะลึงหนักกว่าเดิมแน่เมื่อรู้ว่า Youtube นั้นเป็นเครื่องมือค้นหาที่ใหญ่เป็นอันดับสองรองจากแค่ Google
สถิติเหล่านี้เป็นตัวอธิบายได้ดีเลยว่าทำไม YouTube ถึงควรเป็นตัวเลือกต้น ๆ ในลิสต์ Affiliate Marketing ของคุณ
ในบทความนี้ เราจะมาคุยกันว่าการ Affiliate Marketing หรือการตลาดแบบช่วยขายบน YouTube นั้นคืออะไร ทำไมคุณถึงควรทำ ทำแล้วจะมีรายได้เท่าไร และเคล็ดลับดี ๆ เพื่อดึงดูด Traffic หรือผู้คนให้มายังวิดีโอของคุณ
คือการทำคลิปที่มีลิงก์ไปหาสินค้าตัวนั้น ๆ และมอบข้อเสนอให้ อย่างไรก็ตาม ทางที่ดีควรทำวิดีโอที่เกี่ยวข้องกับลิงก์ของ Affiliate Marketing ที่คุณใส่ไปด้วย คุณจะใช้กลยุทธ์วางคอนเทนต์ของสินค้าลงไปในสคริปต์ของวิดีโอ หรือใส่ลิงก์ไว้ใต้คลิปก็ได้ ลิงก์ของสินค้าสามารถเป็นได้ทั้งเว็บไซต์ที่ให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มของลงตะกร้าสินค้า หรือลิงก์ที่ให้ลงทะเบียน
YouTube นั้นมีคอนเทนต์ที่หลากหลาย ทั้งบทเรียน รีวิว หรือแม้แต่เจ้าของสปอนเซอร์เอง ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสหลายช่องทางให้คุณทำคลิป ด้วยคลิปวิดีโอของสินค้าบน YouTube คุณสามารถได้รับค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายที่ทำผ่านลิงก์ของคุณ
ง่าย ๆ อย่างนั้นเลย ตัวอย่างเช่น คุณสามารถสร้างวิดีโอเพื่อสาธิตวิธีการติดตั้งธีมของ Word Press และตอนที่กำลังอัปโหลดวิดีโอ ให้วางลิงก์ของสินค้าที่เป็นธีมแบบเสียเงินไว้ใต้คลิปวิดีโอนั้น อันนี้เป็นตัวอย่างว่าคุณควรทำยังไง
คุณยังสามารถใช้วิธีการเข้าถึงแบบพูดเกี่ยวกับลิงก์ของสินค้าภายในคลิป ซึ่งคุณต้องระบุว่าจะได้เปอร์เซ็นต์นิดหน่อยจากลิงก์ทั้งหมด
ตัวอย่างเช่น การดูแลผิวของ Hyram ซึ่งเป็นช่อง YouTube ที่มักใส่ลิงก์ของสินค้าไว้ใต้คลิปวิดีโอตลอด แต่เขาก็พูดถึงภายในคลิปวิดีโอด้วย นี้เป็นวิธีตัวอย่างว่าคุณเองก็สามารถทำได้!
ท้ายที่สุดแล้วแล้ว ความพยายามทั้งหมดของคุณก็จะมาบรรจบกันที่เป้าหมายเดียว นั้นคือการดึง Traffic มายังเว็บไซต์ของคุณให้ได้มากพอ!
มีกลุ่มลูกค้ามากมายหลายแบบให้คุณได้ลอง อย่างไรก็ตาม นอกจากกลุ่มลูกค้าแล้ว คุณยังต้องทำคลิปวิดีโอให้หลากหลาย เพราะ YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ค่อนข้างเป็นที่นิยม นี้เป็นประเภทและตัวอย่างทั้งหมดไว้ให้คุณได้ลองศึกษาดู
การแสดงให้เห็นถึงวิธีการทำงานของตัวสินค้า พร้อมกับวิธีการใช้งานภายในคอนเทนต์ สามารถปูทางให้คุณกลายเป็นนักทำ Affiliate ที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างทั้งหมดที่พูดไว้ข้างล่างจะมีลักษณะสำคัญอยู่สามอย่างที่เหมือนกัน คือ พวกเขาคุ้นเคยกับตัวสินค้าเป็นอย่างดี มีวิธีในการเข้าถึงที่น่าสนใจ และให้ข้อมูลสำคัญของตัวสินค้าแก่ผู้เข้าชมในแบบที่น่าติดตาม!
การสอนแต่งหน้าถือเป็นหนึ่งในประเภทของวิดีโอที่ดังมากบน YouTube ตัวอย่างเช่น ผู้ติดตามกว่า 1.4 ล้าน Daisy Marquez หนึ่งในยูทูบเบอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดบน Youtube ในโลกของการแข่งขันคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับสินค้าความสวยความงามด้วยยอดผู้ติดตามถึง 1.4 ล้านคน ตัวอย่างที่เธอสอนวิธีการใช้แบรนด์น้องใหม่อย่าง Maybelline ซึ่งมียอดวิวกว่า 1.5 ล้านวิว One Brand Makeup Tutorial: Maybelline | Daisy Marquez
อย่างต่อมาที่คล้าย ๆ กัน ในคลิปวิดีโอนี้ Joshua Weissman สอนผู้ชมอย่างเชี่ยวชาญถึงวิธีการหล่อและเคลือบเครื่องครัวอย่างกระทะเหล็ก ในขณะที่ใส่ลิงก์ไปหาสินค้าและบริการไว้ใต้คลิป The Easy Guide On Seasoning and Restoring Cast Iron
นักทำ Affiliate ที่ดีจะต้องปรับตัวเข้ากับสินค้านั้น ๆ และเลือกที่จะโฟกัส แล้วค้นคว้าข้อมูลของสินค้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน ความพยายามนี้มีส่วนทำให้โดดเด่นจากคนทั่วไป พูดอีกอย่างก็คือ การอ่านคู่มือของสินค้า และการใช้งานจะทำให้มีเรื่องไว้พูดคุย ยิ่งไปกว่านั้น ถ้ามีรายละเอียดยิบย่อย หรือเรื่องเฉพาะทางอันน่าสนใจที่มือใหม่ชอบพลาดกัน ให้ใช้โอกาสนี้และนำเสนอตัวคุณเองในฐานะผู้เชี่ยวชาญ
ดูอย่าง Shane Starnes ที่เข้าเนื้อหาหลักเลยโดยที่ไม่ต้องเกริ่นอะไรมาก Samsung Galaxy Note 20 / Note 20 Ultra — TOP 10 FEATURES!
และดูว่าเขามีวิธีการใส่ลิงก์ใต้คลิปวิดีโออย่างไร
Kai W ที่ให้อารมณ์ของคนทั่วไปมารีวิวสินค้าของ Canon ด้วยความกระตือรือร้นบวกกับฉากในลอนดอน และอารมณ์ขัน เขาจึงได้ใจของผู้ชมไปเต็ม ๆ Canon EOS R Hands-on Review
วิดีโอเรียบง่ายที่มี Affiliate ของการแกะสินค้าออกจากกล่อง และอธิบายสิ่งที่เจอแก่ผู้ชมนั้นถือได้ว่าเป็นคอนเทนต์การตลาดอีกประเภทหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ความนิยมของคลิปวิดีโอเหล่านี้ ทำให้นักเขียนสายเทคต่างสงสัย ที่พบว่าผู้ชมนับล้านมองว่า การให้ใครสักคนนำสินค้าออกมาจากกล่องบรรจุและบรรยายในสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้น เป็นสิ่งเรื่องน่าสนใจ
ส่วนใหญ่จะเป็นการเจอกันครั้งแรกของผู้ชมกับสินค้าใหม่ที่อยู่นอกเหนือจากแคมเปญทางการตลาด ผู้นำเสนอจะเป็นคนทั่วไปที่กำลังแชร์ความตื่นเต้นที่ได้รับของในชีวิตจริง
อย่างไรก็ตาม การได้เห็นคนจริง ๆ ในมุมมองแบบเป็นกันเอง หยิบสินค้าใหม่ออกมาจากกล่อง นำสินค้าไปในสถานการณ์ทั้งหลายแหล่ สามารถกระตุ้นให้ผู้ชมอยากซื้อสินค้าชิ้นนั้นให้กับตัวเองบ้าง
ซึ่งมีองค์ประกอบของความตื้นเต้นและอารมณ์แบบของขวัญวันเกิดแบบเพื่อความบันเทิงอย่างเช่นวิดีโอนี้ของช่อง DJ TLM TV
เขาสร้างการนำเสนอของอุปกรณ์เครื่องเล่นพร้อมกับลิงก์หลายตัว และตัวเลือกในคำบรรยายอีกที DENON DJ SC5000 & X1800 PRIME UNBOXING
จัดลิสต์สิ่งของ
เป็นการกำกับวิดีโอตามแบบที่เว็บไซต์อย่าง Wirecutter, Kinja Deals และ The Strategist ใช้ในรูปแบบการเขียน วิดีโอที่เป็นลิสต์อุปกรณ์สามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมให้อยู่ต่อด้วยความสงสัยว่าสินค้าต่อไปจะเป็นอะไรตลอดทั้งคลิป
รูปแบบนี้เป็นวิธีช่วยโปรโมตสินค้าหลายชิ้นในคลิปเดียว รายการของสินค้าที่แนะนำสำหรับหัวข้อนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ตั้งแคมป์ของ Teck X: 7 Cool Camping Gear 2019 — You Should Know About
ช่อง The Endless Adventure ที่ลงลึกรายละเอียด ในระหว่างที่จัดลิสต์อุปกรณ์เดินทางที่พวกเขาชอบ กลยุทธ์การขายของพวกเขา คือ การเสนอโค้ดคูปองและการอ้างอิง : Our Top Travel Items & Gadgets After 4 YEARS OF TRAVEL! — 2019 Travel Packing Guide
ส่วนของการสร้างแรงบันดาลใจและส่วนของการให้คำแนะนำ ทำให้วิดีโอเหล่านี้เป็นที่ชื่นชอบในหมู่ผู้ติดตาม พวกนี้จะช่วยให้คุณแก้เบื่อและเริ่มต้นออกกำลังกายตามในที่สุด
ช่อง Obi Vincent ที่มีทั้งกำลังและความรู้เกี่ยวกับการเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัวในขณะที่สร้างแรงจูงใจให้ผู้ชมอยากซื้ออุปกรณ์ออกกำลังกาย MY GYM BAG ESSENTIALS | MUST-HAVES
การสร้างความน่าเชื่อถือในเรื่องเฉพาะด้านจะทำให้คุณสามารถทำวิดีโอจัดอันดับเพื่อหาจำนวนผู้ชม คุณค่าที่แท้จริงจะมาจากการปั้นตัวคุณให้เป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้น ๆ เพื่อที่ผู้ชมจะเริ่มให้คุณค่ากับความคิดเห็นของคุณ
ในทางกลับกัน โพสต์นี้ที่มียอดวิวกว่า 7,000 วิว ในคำอธิบายก็จะมีลิงก์ให้เพื่อสั่งซื้อเครื่องตัดหญ้าอย่างละสิบเครื่องบน Amazon
ไม่ใช่เรื่องยากเลยถ้าให้ลองคิดวิดีโอแนวนี้ออกมาในหลายกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น :
พวกนี้แต่ละอันมีโอกาสที่จะเป็นวิดีโอที่ประสบความสำเร็จ และสร้างรายได้จำนวนมากจาก Affiliate คุณสามารถใช้ตัวค้นหาของ Google เพื่อหาวิดีโออื่นที่เป็นที่นิยมสูง
Affiliate Marketing บน Youtube คือ การหายอดวิวให้ได้เยอะ ๆ นี้เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมคุณถึงต้องตั้งใจสร้าง Traffic หรือยอดผู้เข้าชมบนช่องของคุณให้ได้มากพอ เพียงแค่ศึกษาจากคนที่มีประสบการณ์
วิธีที่ดีที่สุดในการสร้างยอด Traffic ที่มีคุณภาพคือผ่าน Organic search หรือการค้นหาทั่วไปที่ติดอันดับบน Google อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจค่อนข้างยาก เพราะมีลิงก์และวิดีโอที่จัดอันดับสำหรับคีย์เวิร์ดอันเดียวกันอยู่เป็นล้าน ด้วยเหตุนี้ จะเป็นการดีกว่าถ้าทำการค้นคว้าคีย์เวิร์ดโดยใช้เครื่องมืออย่างเช่น Google Keyword Planner
ด้วยเครื่องมือแบบนี้ ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดที่กำลังมาแรง แต่ยังสามารถหารายละเอียดเล็ก ๆ ที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้คุณตัดสินใจได้ดีขึ้น
อย่าลืมว่าต้องมีเวลาให้กับการค้นคว้าคีย์เวิร์ดก่อนสำหรับวิดีโอแต่ละตัว นี้ไม่เพียงแค่ทำให้คุณได้อันดับที่สูงขึ้น แต่ยังทำให้คุณเข้าใจถึงคะแนนนิยมของหัวข้อนั้น ๆ
วิธีที่ไม่เข้าท่าคือการสร้างวิดีโอสำหรับคีย์เวิร์ดที่มีการค้นหาเพียง 10 ครั้งต่อเดือน
ก่อนจะกระโดดไปในโลกของ Affiliate Marketing ต้องให้แน่ใจก่อนว่าช่องของคุณมีผู้ติดตามมากพอที่สร้างยอดขายบนลิงก์ แต่ละครั้งที่คุณอัปโหลดวิดีโอ ผู้ติดตามทุกคนจะได้รับการแจ้งเตือน แบบนี้จะทำให้คลิปวิดีโอของคุณไม่เสียเปล่าและอย่างน้อยก็ได้วิวมาบ้าง
ผู้ติดตามจะแสดงอยู่ตรงด้านขวาข้างล่างชื่อช่องของคุณ
คนนี้ในรูปมียอดผู้ติดตามถึง 496,000 แสนคน และมียอดวิวโดยประมาณ 300,000 วิว ต่อวิดีโอ
David Seymour ยังลงคลิปที่มีลิงก์ของ Affiliate อยู่บ้างเป็นบางครั้ง อย่างไรก็ตาม ถือว่าคนนี้มีวิธีการเข้าถึงที่น่าสนใจให้ไปยังลิงก์ของเขา ตัวอย่างเช่น เขาชอบระบุในวิดีโอเสมอตอนที่เขาจะพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้เขามีสร้างรายได้
นอกจากนี้ เขายังใส่ลิงก์ของ Affiliate ไว้ใต้คลิปด้วย ตัวอย่างด้านล่าง
เพิ่มประสิทธิภาพให้กับวิดีโอของคุณ หากคุณต้องการให้ค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น เพราะแบบนี้คุณถึงต้องมี SEO หรือการเพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา ให้ความสนใจไปที่การเขียนคีย์เวิร์ดตรงกลางของชื่อวิดีโอ, แท็ก, และคำอธิบายใต้คลิปพร้อมกับปกคลิปที่โดดเด่น ชื่อคลิปของคุณควรมีคำที่จะช่วยแก้ปัญหา ตัวอย่างเช่น
อย่างไรก็ตาม ต้องให้แน่ใจว่าคุณไม่ใช้แท็กมากจนเกินควร และทำให้ตัวค้นหาสับสน ควรตั้งแท็กที่มีคุณภาพไว้ที่ประมาณ 10 ถึง 12 ตัว และพยายามใช้อยู่แบบนั้น เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะกับทั้งวิดีโอของคุณ และเป็นที่นิยมในการค้นหาด้วย
คำอธิบายใต้คลิปเป็นส่วนที่ยากที่สุด เพราะไม่มีทางใดเลย ที่จะทำให้คำอธิบายติดอันดับได้ แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องเขียนให้เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อนหรือเติมคีย์เวิร์ดเยอะเกินไป พอเริ่มสร้างช่องใหม่ ให้คุณลองทำดูจนกว่ามั่นใจ เพื่อให้ได้คำอธิบายที่เหมาะกับผู้ชมของคุณมากที่สุด
รายชื่อของวิดีโอที่เป็นสอดคล้องกับธีม พร้อมกับคำอธิบายที่เกริ่นแทนตัวเอง และตามด้วยสิ่งที่จะทำภายในคลิปวิดีโอนั้น
แบบที่คล้าย ๆ กันของช่อง The Try Guys ที่มีธีมอยู่สองสามแบบ บนช่องของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขาสามารถใช้คำอธิบายที่ไม่จำเจ
อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยดึงดูดความสนใจ ให้ไปยังคลิปวิดีโอก็คือ ปกคลิป การใช้ความสว่างและดึงจุดเด่นของปกคลิปนั้นจะดึงดูดผู้ชมมาแน่นอน ใช้รูปภาพที่คุณถ่ายตอนเช้าหรือรูปอาหารที่น่ากิน นอกจากนี้ คุณสามารถใช้ Photoshop เพื่อสร้างปกคลิป
ก็เหมือนกับสิ่งอื่น ๆ รายได้ของคุณจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ชม และสินค้าที่คุณเลือกมาใช้ทำการตลาด ไม่มีค่าธรรมใด ๆ ทั้งสิ้น อีกอย่าง ส่วนที่ทำ Affiliate บน YouTube นั้นไม่มีการเปิดเผยรายได้แก่ผู้ชม จึงเป็นการยากที่จะวัดได้ว่าระดับการประสบความสำเร็จจากการทำ Affiliate บน YouTube
เราทำได้แค่เพียงคาดคะเนจากรายได้บางส่วนของ Affiliate Network ที่เป็นตัวกลาง
คอมมิชชั่น 3-5% ต่อสินค้าที่ขายไปคือการจ่ายตามปกติของ Amazon Affiliate อย่างไรก็ตาม ยอดขายจะเป็นตัวประเมินรายได้ทั้งหมดของคุณ ยอดขายของคุณจะขึ้นอยู่กับจำนวนของยอดวิวในคลิปที่คุณได้ และยอดซื้อของสินค้าของคุณ ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 1-8%
ยกตัวอย่าง: สมมุติว่าคุณลองกำลังโฆษณาสินค้า ที่มีมูลค่า $60 อัตราคอมมิชชั่น 5% แล้ววิดีโอบน YouTube ของคุณมียอดวิวที่ 50,000 ใน 50,000 นี้ คุณมี Conversion Rate ที่ดีมากถึง 2%
คุณได้ 5% ของ $60,000 นั้นคือ $3,000
ดังนั้น คุณจะทำได้ $3,000 จากคลิป ๆ หนึ่ง ตัวเลขเหล่านี้เป็นเพียงการคาดคะเนเท่านั้น แต่ก็พอช่วยให้คุณสามารถประเมินรายได้ที่ยูทูบเปอร์คนอื่นมี
อีกเรื่องหนึ่งชอง Affiliate Marketing คือ เปอร์เซ็นต์การจ่ายเงิน แบบเดียวกับที่พวกเขาติดตามดูผู้ชมจากยอดวิวของคุณว่า ใครบ้างที่กดลิงก์ลิงก์เหล่านี้ คุกกี้จะแนบไปกับคอมพิวเตอร์ของคนที่กดลิงก์ของ Affiliate ที่มีการติดตามเป็นพิเศษ เพื่อบันทึกในสิ่งที่พวกเขาซื้อ
ข้อดีเกี่ยวกับคุกกี้พวกนี้ คือ การที่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับสินค้าเพียงชิ้นเดียว ตัวอย่างเช่น คุณจะได้รับคอมมิชชั่นในสิ่งที่พวกเขาอาจซื้อ จากเว็บไซต์ที่เข้าถึงผ่านลิงก์ของคุณ ถือว่าได้ประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย ในกรณีที่พวกเขาซื้อสินค้าหรือซื้อของอย่างอื่นแทน
อัตราคอมมิชชั่นจะต่างกันไปในแต่ละเจ้า เหมือนกับ Amazon ที่ขึ้นไปประมาณ 10% สำหรับสินค้าทุกชิ้น ที่ขายได้ภายในหนึ่งเดือน แต่อย่างไรก็ตาม บางคนก็ได้ 5% ฯลฯ ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับคุณที่ต้องค้นคว้าเองว่า ผู้โฆษณาแบบไหนที่คุณอยากทำงานด้วย รวมถึงค่าคอมมิชชั่นที่พวกเขากำหนดไว้
ง่าย ๆ ก็คือ ถือเป็นเรื่องดีหากคิดที่จะทำ Affiliate Marketing เพื่อขายของให้ผู้กับอื่น จากเดิมที่พูดถึงตัวสินค้าเฉย ๆ คุณอาจสร้างรายได้ไปด้วย อีกวิธีหนึ่ง คุณสามารถสร้างช่องที่แค่รีวิวสินค้าแล้วค่อยขายทีหลัง คุณสามารถทำของออกมาโปรโมตเองได้ด้วยเช่นกัน
เพราะเราไม่ควรหวังพึ่งรายได้จากสปอนเซอร์เพียงอย่างเดียว การทำ Affiliate Marketing จึงเป็นตัวช่วยในการสร้างรายได้อีกทาง
John Crestani หนึ่งในนักทำ Affiliate บน YouTube ที่โด่งดังมากบนแพลตฟอร์ม ที่มีรายได้มากกว่า $500,000 ต่อเดือน จากแค่ลิงก์ของ Affiliate เขาอ้างว่าสามารถสร้างรายได้ราว $225 ถึง $500 ต่อวัน เพราะเขาศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับวิดีโอมาเป็นเรียบร้อยแล้ว
John ยังมีคอร์ส Affiliate Marketing ที่แชร์แดชบอร์ดและรายได้ของตัวเอง นี้เป็นภาพถ่ายเผื่อว่า คุณจะมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง
อีกหนึ่งยูทูบเปอร์ Lawrence Systems ที่เลือกทำ Affiliate Marketing บน Youtube ให้เป็นรายได้หลักของเขา เขายังมีอีกช่องบน YouTube ที่แชร์วิดีโอสำหรับสายเทคโดยเฉพาะ
ในครึ่งปีแรกของ 2019 เขาสร้างรายได้ไปมากกว่า $13,000 ด้วยลิงก์ Affiliate บน YouTube!
สรุป
ถ้าหากคุณกำลังมองหาแนวทางการใช้ช่อง YouTube ของคุณสำหรับการ Affiliate Marketing งั้นเวลานั้นได้ก็มาถึงแล้ว แต่ต้องจำไว้เสมอว่า YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่มีการแข่งขันสูงที่มากและมีวิดีโอให้ดูเป็นล้าน นี้จึงเป็นเหตุผลที่คุณควรโฟกัสไปที่การสร้างคอนเทนต์ที่ทั้งแปลกใหม่ และมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างสูง
ถือเป็นความคิดดีที่จะเปิดช่อง YouTube สำหรับ Affiliate Marketing แต่ทางที่ดีควรสร้างฐานผู้ติดตามขึ้นมาเสียก่อน ไม่ควรรีบร้อนเกินไป Affiliate Marketing จะทำให้คุณมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นในการสร้างรายได้จากช่อง YouTube ของคุณ แค่จำเอาไว้ว่าต้องเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ทำกำไรได้ พยายามพัฒนากลยุทธ์แล้วคุณก็จะพร้อมลุย!