29 พฤษภาคม 2023 380

10 ทางเลือก Adsense ที่ดีที่สุดแห่งปี 2024

Google AdSense เป็นเครื่องมือยอดนิยมในการสร้างรายได้ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์หรือบล็อกของคุณ เป็นเวลานานมาแล้ว ที่ Google AdSense เป็นเครือข่ายสำหรับนักการตลาดทุกคนสำหรับทำโฆษณาและสร้างรายได้จากแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มีการพิจารณามาจาก ผู้ใช้งาน 10 ล้านคน แล้วว่า มันเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับเหล่านักการตลาดและผู้ลงโฆษณามากมาย

แม้ว่ามันจะเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมที่มีพร้อมประโยชน์มากมาย แต่ในวงการนี้มันก็ไม่ได้ทางเลือกเพียงตัวเดียวนะ มีทางเลือกเครือข่ายดีๆที่พร้อมให้คุณลองเลือกใช้มากมายเลย ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเรื่องการสมัครหรือคุณเพียงแค่อยากมีช่องทางกระจายรายได้เท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะมีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมเหมือนกัน และช่วยให้คุณมีรายได้เสริม นอกเหนือจากการมีเพียงแหล่งรายได้หลักอื่นๆ

เครือข่ายโฆษณาส่วนใหญ่จะใช้ระบบทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อวางโฆษณาต่างๆในพื้นที่เฉพาะของเว็บไซต์ของคุณ เมื่อผู้ใช้มีส่วนร่วมหรือว่าคลิกที่โฆษณา หรือแม้แต่ ดูโฆษณานั้นๆ คุณก็จะได้รับส่วนแบ่งรายได้หรือที่เรียกกันว่าค่าคอมมิชชั่น เพราะว่าคุณมีส่วนช่วยชักชวนผู้ใช้ด้วยการเข้าถึงของคุณเอง

ในระหว่างการศึกษาว่าเครือข่ายที่ดีที่สุด คุณจะพบกับทางเลือกมากมาย ที่นอกเหนือจาก Google AdSense อย่างไรก็ตาม มีผู้คนส่วนใหญ่รวมถึงคุณเองก็คงยังไม่ไว้ใจเครือข่ายอื่นๆนอกจาก Google AdSense เพราะเครือข่ายอื่นๆ นั้นยังไม่เป็นที่นิยมมากสักเท่าไหร่ ในบทความนี้พวกเรามีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้คุณค้นพบเครือข่ายใหม่ๆ และสำรวจทางเลือกอื่นๆที่ให้ประโยชน์ได้จริงๆ เพื่อใช้ในการสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของคุณ

ก่อนอื่นให้เราดูก่อนว่าทำไมคุณถึงต้องการทางเลือกที่มากกว่าเดิม หรือแหล่งที่มาของรายได้เพิ่มเติม


ทำไมเราถึงต้องการมีทางเลือก AdSense ด้วยล่ะ?

ไม่มีสิ่งใดในโลกนี้ที่จะมาพร้อมกับข้อเสียเพียงเล็กน้อยหรอก ซึ่งทาง AdSense ของ Google ก็เช่นกัน มันเป็นแพลตฟอร์มที่เยี่ยมยอดสำหรับการสร้างรายได้ และเป็นมิตรกับผู้ใช้มากๆ แต่ก็มีข้อดีข้อเสียที่ดูสมเหตุสมผลด้วย ต่อไปนี้คือเหตุผลจริงๆในการมองหาวิธีต่างๆ ในการสร้างรายได้จาก baby blog ของคุณ

 

ปัญหาด้านคุณสมบัติในการสมัคร

Google AdSense มีเกณฑ์กำหนดคุณสมบัติของสมาชิกที่มากเกินไป เว็บไซต์ของคุณจำเป็นต้องผ่านเกณฑ์ตัวชี้วัดที่กำหนดซะก่อน จึงจะเป็นพาร์ทเนอร์ได้

หาก Google ไม่อนุมัติให้คุณเป็นพาร์ทเนอร์ คุณก็จะต้องมองหาเครือข่ายโฆษณาอื่นๆที่ไม่เข้มงวดเพื่อสนับสนุนคุณ และอย่างน้อย ต้องพร้อมที่จะเริ่มสร้างรายได้ แต่ถ้าหากเป็นบางแพลตฟอร์มที่หลอกลวงให้คลิกอะไรบางอย่าง บัญชีของคุณก็อาจถูกปิดใช้งานไปเลย ซึ่งกรณีแบบนี้อาจเกิดขึ้นได้ถ้าหากคุณวางโฆษณาที่ไม่ควรลง หรือถ้าหากคุณคลิกโฆษณาใดโฆษณาหนึ่งของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจไปแล้ว

หากว่าคุณคอยให้ความสนใจกับการละเมิดข้อกำหนดในการให้บริการของ Google AdSense นั้นทำได้ง่าย ดังนั้นคุณจึงควรพิจารณาเส้นทางที่ให้อภัยมากขึ้น

 

เปอร์เซ็นต์ส่วนแบ่งรายได้

แม้ว่า Google AdSense จะเสียค่า competitive rate 68% ของรายได้ทั้งหมดที่ได้จากโฆษณา แต่บางเครือข่ายโฆษณาก็ต้องจ่ายส่วนแบ่งที่มากยิ่งขึ้น คุณจะต้องแสดงผลงานของคุณด้วยเช่นกัน ในแง่ของเว็บไซต์ที่มีความสามารถ มั่นคง และมีคุณภาพที่สูง แต่หากคุณลดอัตรานี้ได้ก็คุ้มแล้ว

 

ทางเลือกการปรับแต่งโฆษณา

เครือข่ายโฆษณาบางเครือข่ายมีอิสระในการสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ ในการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของโฆษณาบนเว็บไซต์ของคุณ ให้ได้ธีมที่เหมาะสมกับคอนเทนต์ที่คุณนำเสนอกับบล็อก ระดับการปรับแต่งถูกกำหนดไว้โดยบริการในข้อตกลงเบื้องต้น

ซึ่งมีหลายขนาดและเฉดสีมากมายให้คุณเลือก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นที่มากกว่า Google AdSense

 

ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ

ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของเครือข่ายเป็นจำนวนเงินที่คุณต้องชำระค่าบริการ ก่อนที่คุณจะสามารถถอนเงินออกจากแพลตฟอร์มได้ ค่าใช้จ่ายขั้นต่ำของ AdSense คือ $100 ซึ่งค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นๆ

หากเว็บไซต์ของคุณมีขนาดเล็ก หรือสร้างขึ้นแค่บางส่วนเท่านั้น คุณจะใช้เวลานานในการเข้าถึงค่าใช้จ่าย $100 คุณอาจต้องการมองหาทางเลือกอื่นๆที่มีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมานัก

 

แหล่งที่มาของรายได้เพิ่มเติม

แทนที่ด้วยการใช้เครือข่ายโฆษณาทั้งหมด คุณก็สามารถหาพาร์ทเนอร์ที่จะใช้ AdSense ร่วมกันได้เลย ซึ่งสามารถหารค่าใช้จ่ายของเครือข่ายได้ด้วย ถ้าหากคุณยังดำเนินการอยู่ในเงื่อนไขที่ให้บริการของทั้งสองแพลตฟอร์มได้ก็จะไม่ผิดกฏใดๆ

หากกรณีเหล่านี้สามารถทำได้จริง คุณก็จะได้สำรวจทางเลือกมากมายที่คุ้มค่าเพื่อประโยชน์ของตัวคุณเอง เดี๋ยวเราจะไปดูทางเลือกที่ดีที่สุดกัน


ประเภทเว็บไซต์ที่เหมาะใช้เครือข่ายโฆษณามากที่สุด

โดยปกติแล้ว ไม่ว่าเว็บไซต์ไหนๆก็สามารถลงทะเบียนเครือข่ายโฆษณาได้ ถ้าหากคุณปฏิบัติตามทุกข้อกำหนดในการใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่เหมาะกับเครือข่ายโฆษณามากกว่าเครือข่ายอื่นๆ นี่คือผู้แข่งขันระดับท็อป:

  • บล็อก ทางเลือกยอดนิยม เมื่อพูดถึงเครือข่ายโฆษณา หากคุณเป็นบล็อกเกอร์ที่มีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงอย่างสม่ำเสมอ บนเว็บไซต์ของคุณ คุณควรลงมือทำที่เว็บไซต์นั้น อย่างไรก็ตาม คุณควรมีไหวพริบเพียงพอที่จะผลิตคอนเทนต์คุณภาพสูงจำนวนหนึ่งสำหรับผู้ชมเป้าหมาย เพื่อให้คุณสามารถสร้างรายได้จากโฆษณาได้ องค์กร Labnor เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้เด็กๆได้เรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด และเขาใช้กลยุทธ์การวางโฆษณาในแบบไม่ครอบคลุมคอนเทนต์และช่วยให้เขาสร้างรายได้ในอีกทางหนึ่ง
  • ฟอรั่ม แทนที่จะเป็นพอร์ทัลการเขียนบล็อก คุณสามารถใช้เวลาตั้งหัวข้อกระทู้ในฟอรั่ม หัวข้อในฟอรั่มของคุณจะหมุนเวียนไปตามความสนใจของผู้ใช้ที่สามารถโต้ตอบกันได้ด้วย ซึ่งจะช่วยให้คุณมั่นใจได้เลยว่าเว็บไซต์ของคุณจะน่าติดตาม คุณสามารถสร้างรายได้จากผู้ชมด้วยเครือข่ายโฆษณาในภายหลังได้ด้วย Cat Forum เว็บไซต์ที่หมุนเวียนหัวข้อการอภิปรายเกี่ยวกับเรื่องต่างๆของสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมว วิธีนี้พวกเขาจะใช้เพื่อวางโฆษณาเพื่อสร้างรายได้กัน

  • เครื่องมือออนไลน์ เครื่องมือออนไลน์มักจะสร้างการเข้าชมที่มีคุณภาพสูงมาก ซึ่งก็เป็นอีกวิธีที่ดีใช้ได้เลยในการชดเชยค่าใช้จ่ายด้วยโฆษณา ถ้าคุณได้รับการเข้าชมได้แล้ว ทำไมไม่ลองหาทางสร้างรายได้กับมันบ้างล่ะ? นี่คือตัวอย่างของโปรแกรมทำไฟล์ภาพ gif

โดยสรุปแล้ว ในทุกๆเว็บไซต์ที่มียอดการเข้าชมมากเป็นพิเศษ จะเหมาะกับการใช้เครือข่ายโฆษณา

มีสักเว็บไซต์ที่อยู่ในสามหมวดหมู่นี้บ้างมั้ย?
2 โหวต

 


Best AdSense Alternatives

อย่างที่พวกเราบอกคุณไปแล้วว่า ยังมีเครือข่ายโฆษณาอีกหลายเครือข่ายเลย ที่ทำผลลัพธ์ได้ดีไม่ต่างอะไรกับ Google AdSense เลย อย่างไรก็ตาม มันก็ค่อนข้างซับซ้อนนิดๆ ที่จะหาเครือข่ายที่ตรงกับความต้องการของเรา และมีข้อเสนอที่ดีพอที่จะปฏิบัติตาม นี่คือเหตุผลที่เราลงประกาศทางเลือก 10 อันดับเครือข่ายโฆษณาที่น่าใช้


1. Media.net

Media.net ผู้นำในด้านการโฆษณาตามบริบทเป็นเวลาหลายปี ซึ่งจะเป็นบริการที่พัฒนาโดย Bing และ Yahoo! มันเป็นทางเลือกอันดับต้นๆ ของ AdSense เนื่องจากทางเครือข่ายได้มอบเครื่องมือค้นหาและเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดหลังจาก Google AdSense

โดย Media.net นี้ คุณสามารถได้รับ $5 ต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง และก็สามารถวางโฆษณาได้สูงสุด 3 โฆษณาต่อหนึ่งหน้าเว็บ ซึ่งจำนวนเงินนี้เพิ่มขึ้นค่อนข้างมาก ดังนั้นคุณควรตรวจสอบให้ดีๆ ซึ่งสามารถใช้โฆษณาแบบดิสเพลย์และโฆษณาแบบเนทีฟหลายประเภท ที่สามารถทำได้ทั้งเวอร์ชั่นมือถือและเดสก์ท็อป

หากคุณมีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด คุณสามารถทำเงินได้เป็นจำนวนมากจากโฆษณาเหล่านี้ Media.net มีเกณฑ์ข้อกำหนดซึ่งก็คล้ายๆกับ Google AdSense บล็อกของคุณควรมีการเข้าชมที่มีคุณภาพสูง พร้อมกับมีมุมมองในหน้าเว็บที่สบายตาและดูเป็นมืออาชีพ

เกณฑ์ข้อกำหนดหลักของบริษัทคือ คุณจะต้องมีปริมาณการเข้าชมส่วนใหญ่ที่มาจากประเทศชั้นนำอย่าง สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และแคนาดา

สรุปเลยก็คือ ถ้าหากคุณกำลังมองหาทางเลือกเครือข่ายที่ใกล้เคียงกับ Google AdSense ที่สุด media.net คือคำตอบ โดยที่ทางด้าน AdSense มีความสามารถในการแข่งขันสูงในแง่ของค่าใช่จ่าย เปอร์เซ็นต์ของเงินที่คุณได้รับ แม้กระทั่งคุณภาพและคุณลักษณะ

มีค่าใช่จ่าย $100 ซึ่งเท่ากับ AdSense เลย คุณสามารถไปลงทะเบียนบนเว็บไซต์ของพวกเขาได้เลย ซึ่งใช้เวลาเกือบ 5 วัน กว่าที่คุณจะได้รับการสมัคร ซึ่งจะใช้ PayPal เพื่อรับเงินได้

ลองมาดูในเคสนี้ของคุณฮาร์ช อการ์วัล (Harsh Agarwal) จากบล็อก shout me loud เขาได้ใช้ Media.net สำหรับโฆษณาบนเว็บไซต์ของเขา และเขายินดีที่จะแบ่งปันว่าเครือข่ายโฆษณานี้มันยอดเยี่ยมไปเลย เพราะว่าเขาทำเงิน $342.83 ภายในหนึ่งเดือน

เขายังบอกอีกว่า เขาชอบใจแดชบอร์ดมากๆ และมีฟีเจอร์การจัดการภาพรวมของ media.net


2. InfoLinks

InfoLinks เป็นอีกทางเลือกที่ดีเลยนะ ถ้าหากคุณกำลังมองหา Comparison Rate และการปรับแต่งการออกแบบและรูปแบบ InfoLinks มีไว้สำหรับการโฆษณาในข้อความ ซึ่งหมายความว่าเครือข่ายนี้จะค้นหาคีย์เวิร์ดในคอนเทนต์ที่คุณใส่ไว้บนเว็บไซต์ของคุณ ตัวคอนเทนต์ยังคงกลมกลืนกับรูปแบบของโพสต์บล็อก หรือแม้แต่ข้อความบนหน้า Landing Page อธิบายง่ายๆ มันจะอธิบายทุกอย่างที่คุณใส่ไว้ในเว็บไซต์และจะเน้นไปที่คีย์เวิร์ดที่คุณเลือก

จากนั้นจะสร้างโฆษณาสำหรับบล็อกของคุณให้แบบอัตโนมัติ ด้วยคีย์เวิร์ดและข้อความที่เกี่ยวข้อง เมื่อผู้ที่เยี่ยมชมได้เลื่อนเมาส์ไปที่เหนือข้อความพิเศษโฆษณา จากนั้นโฆษณาจะปรากฏขึ้นมาถัดจากข้อความนั้น

หากคุณเป็นเจ้าของบล็อก นี่คือการเดิมพันในการทำเงินที่ถือว่าน่าสนใจเลยทีเดียว ทำไมล่ะ? ง่ายๆเลย เพราะ หากในหน้าเว็บของคุณมีจำนวนคำที่มากกว่าฟอรั่มอื่นๆ ก็จะเพิ่มโอกาสที่จะโฆษณาที่เกี่ยวข้องแสดงขึ้นมาจากคำพูดในคอนเทนต์ Win-Win เลยมั้ย?

เนื่องจากพวกเขาสนใจสิ่งที่คุณจะพูดอยู่แล้ว ผู้ชมของคุณจะคลิกลิงค์ที่นำพวกเขาไปยังคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่คุณกำลังพูดถึง โฆษณาจะแสดงผลในลักษณะนี้:

แพลตฟอร์มนี้ยังมีข้อกำหนดพื้นฐานในการให้บริการ ซึ่งดูๆแล้ว บล็อกส่วนใหญ่น่าจะมีสิทธิ์ได้รับบริการนี้ ซึ่งไม่มีขีดจำกัดการเข้าชมขั้นต่ำ หรือเกณฑ์จำนวนการดูเยี่ยมชมหน้าเว็บใดๆเลย ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้งานได้ทันทีตามที่คุณต้องการเลย นอกจากนี้ยังมีแดชบอร์ด เอาไว้ตรวจสอบรายได้ของคุณอีกด้วย

มีรีวิวบนอินเทอร์เน็ตเกี่ยวกับลิงค์ข้อมูลและอื่นๆ นี่เป็นตัวอย่างของรายได้จากเว็บบล็อก shout me loud ก่อนที่พวกเขาจะใช้ Media.net พวกเขาเคยใช้กับเครือข่าย InfoLinks นี้

ใน Infolinks คุณสามารถรับเงินผ่าน PayPal, Western Union และ Payoneer ซึ่งหมายความว่า ถ้าประเทศของคุณไม่ได้อนุญาติให้ใช้แพลตฟอร์มการชำระเงินเหล่านี้เลย คุณก็จะใช้เครือข่ายนี้ไม่ได้ พวกเขายังมีเสียค่าใช่จ่ายน้อยมาก เพียง $50 เท่านั้นเอง ค่าใช้จ่ายของเครือข่ายนี้คือ $2 ต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง


3. PropellerAds

PropellerAds เป็นอีกแพลตฟอร์มที่สร้างรายได้ที่เติบโตเร็วที่สุด ซึ่งจะเปิดโอกาสให้กับทั้งเว็บไซต์ใหม่และเว็บไซต์เก่า ส่วนใหญ่จะเป็นโฆษณาแบบป๊อปอัปหรือแบบป๊อปอันเดอร์ ที่โหลดขึ้นมาหลังหน้าต่างเบราว์เซอร์ และจะปรากฏขึ้นเมื่อคุณย่อหน้าต่างหลักของคุณลง ดังนั้นโฆษณาเหล่านี้จึงไม่รบกวนคอนเทนต์ในเว็บของคุณเลย

หากคุณคิดว่าผู้ชมเป้าหมายของคุณไม่สนใจในคอนเทนต์เลย ทางเครือข่ายจะเสนอแพ็กเกจพิเศษมาให้คุณ และยังมีโฆษณาให้เลือก ทั้งแบบกำหนดเป้าหมายและไม่กำหนดเป้าหมาย สำหรับเว็บไซต์บนเดสก์ท็อป ซึ่งรวมถึงโฆษณาเนทีฟ โฆษณาแบนเนอร์ และโฆษณาวิดีโอ

Propeller Ads มีฟีเจอร์ให้ใช้มากมาย มีความครอบคลุมทั่วโลก โฆษณาสะอาด หลีกเลี่ยงการตรวจจับ adblock และมีชุมชนผู้เผยแพร่โฆษณาขนาดใหญ่ที่คอยช่วยสนับสนุน

นอกจากนี้ ทางเครือข่ายยังมีแพคเกจที่หลากหลายที่สามารถใช้ได้กับเว็บไซต์บนมือถือ และยังมีทางเลือกสำหรับการแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับผู้ที่ใช้บนมือถือ

เช่นเดียวกับ InfoLinks เลย เพราะเครือข่ายโฆษณานี้ไม่มีข้อกำหนดขั้นต่ำสำหรับการลงทะเบียนใช้บริการของพวกเขา แต่ในด้านมีราคาก็ถือว่าเหมาะสม โดยคุณจะได้รับ $2 ต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง สำหรับเว็บไซต์ที่เปิดตัวมาสักพักใหญ่ๆ และ $1.5 ต่อการแสดงผล 1,000 ครั้งสำหรับบล็อกใหม่

อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการบริการที่ไม่ต้องจ่ายแพง เครือข่ายนี้จะเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งของคุณเลย เนื่องจากค่าใช้จ่ายในบริการของพวกเขาเสียเพียงแค่ $5 ผ่าน PayPal และคุณยังชำระเงินรายเดือนได้ด้วย


4. Amazon Native Shopping Ads

พวกเราเชื่อว่าคุณจะต้องคุ้นเคยกับ Amazon แน่ๆ ในฐานะเครื่องมือค้นหา แต่คุณคิดว่าพวกเขามีโปรแกรมโฆษณาแบบเนทีฟบ้างมั้ย? พวกเราขอนำเสนอ Amazon Native Shopping Ads ผู้นำในการโฆษณาแบบเนทีฟ และเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรม Amazon Associates ซึ่งจะช่วยให้บล็อกเกอร์และเจ้าของเว็บไซต์สามารถวางรายการโปรดัก Amazon แบบเนทีฟบนหน้าบล็อกได้

เนื่องจาก Amazon มีหมวดหมู่โปรดักให้เลือกจำนวนมากในเว็บไซต์ของพวกเขา เครือข่ายนี้จึงมีเปอร์เซ็นต์ค่าคอมมิชชั่นที่แตกต่างกันไปตามตัวโปรดักแต่ละประเภท แผนภูมินี้ที่จะช่วยคุณได้

โดยปกติแล้ว จะมีโฆษณาที่มาผสมผสานในคอนเทนต์ของคุณได้กลมกลืนดี และยังสามารถปรับแต่งได้ด้วย ในด้านของขนาดและสี ดังนั้นโฆษณาจึงไม่ดูขัดตากับธีมในเว็บไซต์ของคุณเลย เนื่องจากโฆษณาเหล่านี้ เป็นโฆษณาที่กำหนดเป้าหมาย โฆษณาเหล่านี้จึงมักจะอยู่รอบๆคอนเทนต์ในหน้าเว็บของคุณ นี่จะเป็นตัวอย่าง ลักษณะของโฆษณา ที่อยู่บนเว็บไซต์ของคุณ ในภาพหน้าจอนี้ได้พูดถึงเรื่องของ "เทนนิส" โฆษณาจึงมีหมวดหมู่โปรดักที่อยู่ในหัวข้อเดียวกันเช่นกัน

เมื่อมีผู้เข้าชมคลิกที่โฆษณาและซื้อสินค้าจาก Amazon คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการซื้ออักด้วย ดังนั้นจึงเหมือนกับโปรแกรม Affiliate เลย ซึ่งเพื่อที่จะใช้งาน คุณไม่จำเป็นต้องมีเว็บไซต์เฉพาะเลย ด้วยความสามารถของ Amazon ที่สามารถการขายสินค้าหลายล้านชิ้นต่อวัน คุณจะสร้างกระแสเงินที่แข็งแกร่งผ่านโปรแกรมได้มากกว่าคู่แข่งรายอื่น

โดย Amazon จ่ายเป็นรายสองเดือน ดังนั้นคุณจะได้รับค่าตอบแทนทุกๆ 60 วัน และคุณจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้กับบริการเพียง $10 ซึ่งจะตัดเงินผ่านการฝากเงินผ่านบัญชีธนาคารโดยตรง

ไม่มีการกู้ยืมเงินสำหรับการแสดงผล 1,000 ครั้ง หรืออะไรทำนองนั้น เนื่องจากพวกเขาจ่ายเป็นค่าคอมมิชชั่นซึ่งเท่ากับ 4% ถึง 8% ขึ้นอยู่กับรายการสินค้า


5. Revcontent

Revcontent เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มสำหรับโฆษณาแบบเนทีฟ ซึ่งได้รับการปรับแต่งตามเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้โฆษณาเหล่านั้นไม่โดดเด่นมากนัก นอกจากนี้ ยังช่วยเพิ่มคอนเทนต์ให้กับบล็อก โดยผสมผสานให้เข้ากับธีมในเว็บไซต์ โฆษณาเหล่านี้เป็นโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายสูง ซึ่งจะดูกลมกลืนอย่างลงตัวเลย และมีรูปแบบที่หลากหลาย เช่น เดสก์ท็อป จอแสดงผล มือถือ และวิดีโอ

Revcontent ได้รับการรีวิวดีเป็นพิเศษจากทั้งลูกค้าที่มาจากผู้เผยแพร่โฆษณาและผู้ลงโฆษณาอีกด้วย เนื่องจากพวกเขามีบริการที่น่าประทับใจ พวกเขาเลือกทำงานร่วมกับบริษัทมีแนวโน้มสร้างจำนวนการเข้าชมโฆษณาที่สูง ซึ่งทำให้ผู้ลงโฆษณาต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นที่สูงขึ้นด้วย

ข้อเสียที่นี่คือ ในด้านการรับสมาชิก ที่มีเกณฑ์มาตราฐานสูงและตามความถูกต้องด้วย เครือข่ายโฆษณาเนทีฟนี้ ให้บริการที่ยอดเยี่ยมกับลูกค้า และมีลูกค้าก็มีรายได้ดี ถ้าหากคุณต้องการใช้บริการของเครือข่ายนี้ คุณต้องมีผู้เข้าชมรายเดือน 50,000 คน บนเว็บไซต์ และควรลงโพสต์เป็นประจำ

เครือข่ายนี้จะมีฟีเจอร์พื้นฐานเกือบทั้งหมดเลย รวมถึงแบบฟอนต์ตัวอักษรที่ปรับแต่งได้ ตัวเร่งการโหลดหน้าเว็บ อีเมลและจดหมายข่าว Google AMP และวิดีโอโฆษณา

ถึงแม้ทางเครือข่ายจะมีอัตราการปฏิเสธที่สูง แต่ก็มีผลประโยชน์คุ้มค่าพอที่จะนำมาใช้งาน พวกเขามีการชำระเงินรายเดือนผ่านระบบ PayPal ด้วยการจ่ายเงินเพียง $50 พวกเขามีอัตรา $4 ถึง $40 ต่อการแสดงผล 1,000 ครั้ง ดังนั้นจึงมีโอกาสสูงมากที่คุณจะทำเงินได้ดี


6. RevenueHits

RevenueHits เป็นแพลตฟอร์มค่อนข้างใหม่ในสร้างรายได้ แต่ก็น่าจับตามองในฐานะแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ RevenueHits มีเครื่องมือเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานสูง ซึ่งจะศึกษาประสิทธิภาพโฆษณาของคุณ และแนะนำจุดที่เหมาะสมที่สุดในการวางโฆษณา

เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มน้องใหม่ จึงไม่มีเกณฑ์ข้อกำหนดเรื่องการเข้าชมขั้นต่ำรายเดือน หากเป็นเว็บไซต์ใหม่ ก็สามารถเข้าร่วมได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม พวกเขาจะจ่ายค่าตอนตามผลการดำเนินงาน แทนที่การจ่ายต่อคลิก ซึ่งหมายความว่าคุณต้องจริงจังเพื่อที่จะสร้างรายได้

ผู้ชมของคุณต้องคลิกที่โฆษณาและแอ็กชั่นตามที่โฆษณานั้นชี้นำเพื่อให้คุณทำเงินได้ การแอ็กชั่นนี้อาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของโฆษณา ตัวอย่างเช่น การซื้อสินค้า การกดติดตามข้อมูลสินค้า หรือการกดดูวิดีโอ

Stream SEO ตรวจสอบ RevenueHits และรายงานสถิติการแสดงผลของเขา:

Iftiseo เป็นอีกบล็อกเกอร์ที่อวยเครือข่ายโฆษณานี้มากๆ ข้อมูลของเว็บไซต์นี้:

โดย RevenueHits คุณจะได้รับค่าตอบเป็นรายเดือนผ่าน PayPal หรือ Airbnb โดยมีค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ $20 พวกเขาจ่าย $0.5 ถึง $30 ต่อ CPM สำหรับการแสดงผล 1,000 ครั้ง


7. Bidvertiser

Bidvertiser มีฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่าเครือข่ายโฆษณาอื่นๆ เนื่องจากพวกเขาทำงานด้วยระบบเสนอราคาอัตโนมัติให้กับการทำแคมเปญ แทนที่จะวางโฆษณาผ่านระบบอัลกอริทึม ทาง Bidvertiser จะเอาพื้นที่โฆษณาแบบดิสเพลย์มาประมูลขาย ซึ่งใครก็ตามที่จ่ายมากที่สุดก็จะไปพื้นที่โฆษณานั้นไป ฟังดูก็คล้ายๆกับการเสนอราคาหรือการประมูล

ซึ่งมี 5 รูปแบบโฆษณาที่แตกต่างกัน รวมถึงโฆษณาเนทีฟ การแจ้งเตือนแบบพุชสำหรับผู้ใช้มือถือ การนำทางโดยตรงสำหรับผู้ใช้เดสก์ท็อป โฆษณาป๊อปอันเดอร์สำหรับเดสก์ท็อป และ XML

โดยมีทั้งข้อดีและข้อเสียของระบบนี้ ถ้าหากเว็บไซต์ของคุณมีการเข้าชมที่ดี ผู้ลงโฆษณาจะจ่ายค่าพื้นที่ของเว็บไซต์คุณมากขึ้นด้วย คุณก็จะได้รับรายได้จากผลประมูล ซึ่งมากกว่าที่คุณจ่ายจาก AdSense

ในทางกลับกัน หากคุณมีการเข้าชมเว็บไซต์ไม่เพียงพอ ก็จะไม่มีใครเสนอราคาให้คุณเลย นี่คือเหตุผลที่คุณควรสำรวจหมวดหมู่บล็อกที่ทาง Bidvertiser มีให้ เพื่อดูว่า ระบบการเสนอราคานั้น จะได้ผลดีกับคุณรึเปล่า?

ถ้าหากได้ผลดี คุณจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากเครื่องมือปรับแต่งที่ใช้งานที่ไม่ยากๆ นี้ของ Bidvertiser การชำระเงินจากทั้ง Conversion และการคลิก และไม่มีข้อจำกัดในการสมัครใช้บริการ ค่าใช้จ่ายเพียง $10 ด้วยการชำระเงินผ่าน PayPal

เครือข่ายนี้มีบริการที่มีคุณภาพสูงด้วยความน่าเชื่อถือการกำหนดเป้าหมาย และการเพิ่มประสิทธิภาพ

Bidvertiser มีอัตราการจ่ายต่อคลิกที่ผันแปรอยู่ระหว่าง $0.1 ถึง $1 ต่อคลิกขึ้นอยู่กับว่าผู้ลงโฆษณาต้องการจ่ายอะไรในเวลานั้น หากกลุ่มเป้าหมายจากลิงค์ของคุณได้กลายมาเป็นลูกค้า คุณก็จะได้รับรางวัลเป็น $10 สำหรับการลงทะเบียน


8. Adcash

Adcash ให้บริการผู้ใช้มากกว่า 200 ล้านคน และมียอดดาวน์โหลดเกือบ 850,000 ครั้ง ในแต่ละเดือน ความจริงแล้ว สถิติเหล่านี้เป็นทางเลือกที่สนใจมากๆ ซึ่งมีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย เริ่มตั้งแต่ระดับพรีเมียม เช่น โฆษณาแบบเนทีฟ และโฆษณาแบบป๊อปอันเดอร์ ไปจนถึงระดับมาตรฐาน เช่น โฆษณาแบบแบนเนอร์

ไม่น่าเชื่อเลยว่า แพลตฟอร์มนี้ยังเป็นมิตรกับผู้ใช้ ซึ่งโฆษณาสามารถปรับแต่งได้ และมาพร้อมกับแผงประสิทธิภาพของโฆษณาแบบเรียลไทม์ นี่ถือเป็นความฝันของผู้เผยแพร่โฆษณาทุกคนเลย เพราะไม่เพียงแต่จ่ายเงินเป็นจำนวนที่พอดี แต่ยังมีข้อมูลเชิงลึกให้ด้วย เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับประสิทธิภาพของโฆษณาในคอนเทนต์ด้วย

ซึ่งเครือข่ายโฆษณานี้ใช้รูปแบบการจ่ายต่อคลิก สำหรับการชำระเงินด้วย $1 หรือ $2 สำหรับการเข้าชม tier one ต่อ CPM มีค่าใช้จ่ายที่ต่ำมาก เพียงแค่ $25 ผ่าน PayPal Skrill WebMoney และ Payoneer Adcash มีสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกคือ ไม่มีข้อกำหนดการเข้าชมขั้นต่ำ


9. BuySellAds

BuySellAds ถือเป็นทางเลือกอันดับหนึ่งเลย ถ้าหากว่าฟอรั่มหรือบล็อกของคุณ สามารถสร้างการเข้าชมสูงอย่างต่อเนื่องได้แล้ว โดยทาง Buy-Sell Ads ก็มีมาตรฐานสูงนะ โดยที่คุณต้องมีการดูหน้าเว็บอย่างน้อย 100,000 ครั้งต่อเดือนก่อน เพื่อที่จะสมัครใช้บริการของแพลตฟอร์มนี้ได้

นอกจากนี้ทางเครือข่ายยังมีอุปสรรคด้านภาษา เนื่องจากมีเพียงเว็บไซต์ที่มีคอนเทนต์คุณภาพสูงต้องใช้ภาษาอังกฤษเท่านั้น ถึงจะได้รับการอนุมัติเพื่อใช้บริการของเครือข่ายนี้ การออกแบบของคุณควรมีสไตล์อย่างชัดเจน มีความคิดสร้างสรรค์ และมีความเป็นมืออาชีพสูง หากคุณสามารถสร้างบล็อกดังกล่าวได้ คุณจะได้รับอัตราค่าคอมมิชชั่นที่มากถึง 75% ของทุกๆการซื้อ และขายโฆษณา ซึ่งสูงกว่า Google AdSense ซะอีก และสูงกว่าเครือข่ายอื่นๆเกือบทั้งหมด

มีค่าใช้จ่ายของบริการที่ต่ำสุดเพียง $20 ผ่าน PayPal เครือข่ายนี้มีรูปแบบโฆษณาที่หลากหลาย เช่น โฆษณาแบบข้อความฟีด RSS โฆษณาแบบแบนเนอร์ โฆษณาอีเมล โฆษณาแบบเนทีฟ และสปอนเซอร์ของคอนเทนต์

ซึ่งแตกต่างจากเครือข่ายอื่นๆ โดยที่โฆษณาของทาง Buy Sell จะไม่มีการกำหนดเป้าหมายหรือโฆษณาแบบอัตโนมัติ นั่นก็หมายความว่า ผู้เผยแพร่โฆษณามีอิสระที่จะจัดสรรพื้นที่โฆษณาให้กับผู้ที่ต้องการ


10. Skimlinks

Skimlinks เครือข่ายโฆษณาที่มีชื่อเสียงในด้านการตลาดแบบ Affiliate เครือข่ายนี้จึงมีเอกลักษณ์ที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับในลิสต์เครือข่ายอื่นๆทั้งหมดของเรา แค่ชื่อก็บ่งบอกแล้วว่า การโฆษณาของเครือข่ายนี้ จะสแกนข้อความในเว็บไซต์ของคุณและแปะลิงค์ที่จะพาไปยังหน้าเว็บไซต์อื่น ถ้าหากคุณมี backlink และ hyperlink บนเว็บไซต์ ที่มาจากหนึ่งในลูกค้าของพวกเขา ทางเครือข่ายจะเปลี่ยนลิงค์นั้นให้เป็นลิงค์ Affiliate ซึ่งจะทำให้คุณมีสิทธิ์ได้รับค่าคอมมิชชั่น สำหรับการขายสินค้าหรือการแสดงผลแต่ละครั้ง

เมื่อใดก็ตามที่ผู้เข้าชมคลิกที่ลิงค์ คุณก็จะได้รับ 75% ของค่าคอมมิชชั่น ซึ่งถือว่าเยอะ คุณจะได้รับค่าคอมมิชชั่นเป็นรายได้เพิ่มเติมไปอีก หากสามารถปิดการขายได้จากลิงค์ Affiliate ของคุณได้ Skimlinks เหมาะกับนักเขียนบล็อกรีวิวมากๆ เพราะเครือข่ายนี้จะเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้จากการโฆษณา

Skimlinks จะจ่ายค่าตอบแทนในทุกๆ 90 วัน และมีค่าใช้จ่ายสำหรับบริการเพียง $10 โดยที่คุณสามารถเลือกตัดเงินผ่านบัญชีธนาคารโดยตรง หรือ PayPal ก็ได้


สรุป

AdSense ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดในการสร้างรายได้จากเว็บไซต์และความนิยมใช้กันมาก อย่างไรก็ตาม Google AdSense ก็ยังไม่ใช่วิธีเดียวที่ตอบโจทย์ปัญหาของผู้ใช้บางคน หากคุณเลือก AdSense ที่เหมาะกันตัวคุณเอง ก็จะช่วยให้คุณมีช่องทางรายได้เพิ่มเติม ที่คอยเพิ่มไฟในการทำงานในการสร้างคอนเทนต์เยอะๆและมีคุณภาพดีขึ้นไปอีก

ในเวลาที่คุณเลือก อย่าเพิ่งไปเลือกสิ่งที่คนอื่นๆเขาบอกว่าดี คุณลองให้เวลากับตัวเองในการเลือกบ้าง และทดสอบทางเลือกอื่นที่มีมากมายหลากหลาย ซึ่งอาจเหมาะกับตัวคุณก็ได้นะ

คุณเคยใช้บัญชี AdSense อื่นที่ไม่ใช่ Google AdSense บ้างมั้ย?
2 โหวต

 

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?