Facebook ถือเป็นสุดยอดแหล่ง Traffic ( ลองคิดดู — ผู้ใช้ 2.8 พันล้าน ) ที่มีตัวเลือกดี ๆ ให้กับการทำมาร์เก็ตติ้ง สำหรับคนที่อยู่สาย Affiliate Marketing จะทราบดีว่านี้คือแพลตฟอร์มแห่งการโปรโมตสินค้า Affiliate โดยแท้ ทว่าข้อเสียสำหรับพวกเราเหล่านักการตลาด คือ ความขึ้นชื่อในเรื่องนโยบายของ Facebook ที่เข้มงวดต่อการยิงโฆษณา เป็นผลทำให้นักการตลาดมองหาวิธีที่จะมาช่วยหลีกเลี่ยงหรือหลอกตา Facebook ซึ่งหนึ่งในนั้นเรียกว่าการทำ Cloaking
ที่จริงแล้วการทำ Cloaking คือ การแยกเว็บไซต์ที่ตรวจสอบโดย Facebook Ad กับ Traffic ของจริงออกจากกัน สาเหตุที่ทำไม Facebook ถึงเป็นสุดยอดแพลตฟอร์มสำหรับ Advertiser หรือเจ้าของแบรนด์ เพราะมีการยิงโฆษณาตามข้อมูลประชากรที่ยอดเยี่ยม แต่เนื่องจากข้อบังคับที่เข้มงวดสำหรับโฆษณา ทำให้รายชื่อของสินค้าและบริการที่ไม่ได้รับอนุญาตจากแพลตฟอร์มมียาวเป็นหางว่าว ตัวอย่างเช่น ห้ามโฆษณาผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับใบยาสูบ, อาวุธยุทธภัณฑ์, ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเสพติด, ผลิตภัณฑ์และเนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่, อาหารเสิรมต่าง ๆ , ของมึนเมา, การเล่นการพนัน, การปล่อยเงินกู้ระยะสั้น ฯลฯ
บริษัทและนักการตลาดมากมายตกอยู่ที่นั่งลำบาก และไม่สามารถเข้าถึงผู้ชมหรือเป้าหมายดี ๆ จำนวนมาก จนพวกเขาค้นพบวิธีหลีกเลี่ยงการแบนและเข้าถึงผู้ชมของ Facebook แม้ว่ามาตรการที่ Facebook เพิ่มเข้ามานั้นจะเข้มงวด นักการตลาดหลายคนก็ยังเลือกที่จะเสี่ยง
แล้วนักการตลาดรู้ได้อย่างไรว่ามีการตรวจสอบจาก Facebook? จริงอยู่ที่ Facebook ไม่ได้แจ้งให้คนภายนอกทราบถึงเรื่อง IP ที่เป็นของระบบตรวจสอบ ทว่ามีข้อมูลบางส่วนรั่วไหลออกมา ทำให้เวลาที่เซิร์ฟเวอร์พวกนี้เจอคำขอที่เป็น IP ข้างต้นของ Facebook เซิร์ฟเวอร์จะแสดงเพจที่ตรงตามนโยบายและข้อกำหนดของ Facebook ปกติถ้าไม่ใช่ IP ตามข้างต้นที่กล่าวมาของ Facebook เซิร์ฟเวอร์จะแสดงเนื้อหาจริง ๆ ออกมา
ทว่าก่อนอื่นเลย มีพวกคุณไม่น้อยที่นำการทำ Cloaking ไปใช้กับแพลตฟอร์มต่าง ๆ อยู่แล้วแต่คนที่พึ่งเริ่มทำการตลาดอาจกำลังสงสัยอยู่ว่าเทคนิคนี้คืออะไร
ที่จริงแล้วคำว่า "Cloaking" ใน Affiliate Marketing มีความหมายหลัก ๆ อยู่สองอย่าง โดยที่ทั้งคู่เนี่ยมีความหมายว่า เพื่อปลอมตัวหรือหลบซ่อน โดยความหมายแรกจะเกี่ยวกับรูปแบบทั่วไปของการทำ Cloaking — การย่อลิงก์ หากคุณเคยอยู่สาย Digital Marketing คุณจะรู้ว่าลิงก์ของ Affiliate นั้นยาวและอุจาดตามากแค่ไหน นักการตลาดจึงต้อง “ทำให้สวยขึ้น” ด้วยการทำลิงก์เหล่านั้นให้สั้นลง (หรือดูดีขึ้น) ปกติถ้าคุณอ่านบทความที่เกี่ยวกับการทำ Cloaking คุณจะพบว่าบทความเหล่านั้นเน้นเรื่องการย่อลิงก์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยมีเหตุผลหลายอย่างที่ต้องนำการย่อลิงก์ไปใช้ อย่างแรก คือ เพื่อสร้าง URL ที่สั้นและน่าจดจำ เพื่อให้ง่ายขึ้นเวลาเอาไปใช้งานและแชร์ อย่างที่สอง คือ การย่อลิงก์ช่วยปกป้องคุณจากพวกแย่งคอมมิชชั่น เพราะลิงก์สวย ๆ จะช่วยซ่อนไอดี Affiliate ของคุณ
ความหมายที่สองของการทำ Cloaking คือ การซ่อนเป้าหมายของ URL กรณีนี้ นักการตลาดจงใจซ่อนเป้าหมายของ URL จากผู้เข้าชมบางประเภท (ผู้ดูแลและผู้ยืนยัน) วิธีนี้ถูกนำมาใช้เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบังคับที่ถูกประยุกต์ใช้โดยแพลตฟอร์ม ดังนั้นการทำ Cloaking จึงเป็นวิธียอดฮิตในการเอาชนะขั้นตอนการรีวิวของ Facebook เพื่อโชว์เนื้อหาที่ไม่ตรงตามนโยบายและมาตรฐานของแพลตฟอร์ม วิธีการนี้จะรวมไปถึงการซ่อนจุดหมายปลายทาง (หน้าเว็บไซต์ที่ถูกออกแบบสำหรับผู้ใช้หรือโพสต์ต่าง ๆ ) พูดง่าย ๆ ก็คือ ‘การทำ Cloaking’ เป็นเคล็ดลับที่นักการตลาดใช้เพื่อหลอกผู้ดูแลว่าเป็นเว็บไซต์ที่ถูกกฎหมายและปลอยภัย ในขณะที่ผู้ใช้จะเห็นเป็นเวอร์ชันอื่นที่มีการโปรโมตเนื้อหาคนละอีกอย่าง
จากที่กล่าวไปข้างต้น การทำ Cloaking สามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภท ขึ้นอยู่กับความหมายและการนำไปใช้
โดยสายขาวจะทำการแยกผู้ใช้ทั้งหมดออกเป็นหลาย ๆ กลุ่ม ตามความสนใจและภูมิภาคของพวกเขา เทคนิคนี้จะทำให้ตัวค้นหาเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังแพลตฟอร์มท้องถิ่น นอกจากนั้น ตลาดออนไลน์หลายเจ้ายังเสนอบริการและสินค้าตามการค้นหาของผู้ใช้ การคัดกรอง Traffic ปลอม (เซิร์ฟเวอร์ VPN, GEO ที่ไม่เกี่ยวข้อง, บอตสอดแนม ฯลฯ) ที่เปลืองงบโฆษณาของคุณยังถือว่าเป็น White Hat โดยจุดสำคัญคือการให้ผู้ใช้และผู้ดูตรวจสอบ/ดูแล มองเห็นหน้าเว็บไซต์และเนื้อหาอันเดียวกัน
สายเทาจะมีการทำ Cloaking สำหรับเนื้อหาทั่วไปยังไม่ผิดกฎหมาย แต่ขัดต่อนโยบายการให้บริการต่อบุคคล มักใช้สำหรับ SEO เพื่อให้บอตของตัวค้นหาเจอหน้าเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วย Keyword ในขณะที่แสดงบทความทั่วไปให้ผู้ใช้เห็น ตามหลักแล้วไม่ผิดกฎหมาย แต่ตัวค้นหาอาจถือว่าเป็นเว็บหลอกลวงและทำการแบนบัญชี
สำหรับสายดำ เดาได้เลยว่าต้องมีการโปรโมตเนื้อหาหรือกลุ่มที่สุ่มเสี่ยง แต่ใช่ว่าต้องเป็นสินค้าหรือบริการที่ผิดกฎหมายเสมอไป ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่มีระดับความเสี่ยงพอตัวอยู่แล้ว เช่น การพนัน, ทายผลพนัน, สกุลเงินดิจิทัล, เนื้อหาผู้ใหญ่, หาคู่หรืออาหารเสริมต้องสงสัย เป็นการทำ Cloaking เพื่อหลอกผู้ดูแล/ตรวจสอบ, ผู้ใช้ และ Affiliate Program (ในกรณีที่คุณซ่อนแหล่ง Traffic เพราะ Affiliate Program บางเจ้าจะระบุว่าไม่รับ Traffic บางประเภท เช่น Traffic จากเนื้อหาผู้ใหญ่)
โดยผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ "ฟอกสี" หรือลดเนื้อหาข้างต้นให้คล้ายกับสายขาวมากขึ้น เพราะต่อให้ผ่านการประเมินสำเร็จ คุณก็ยังมีโอกาสถูกแบนในกรณีที่ถูกร้องเรียนของผู้ใช้ อย่าลืมว่าการทำ Cloaking ช่วยให้ผ่านการประเมินเฉย ๆ ส่วนที่เหลือขึ้นอยู่กับตัวคุณเอง
เพราะความจริงแล้ว Facebook ไม่ได้ใจดีตลอดกับโฆษณา Affiliate วันต่อมาอาจพบว่าเพจถูกปิดหรือบัญชีโดนแบนไปแล้ว ยิ่งเป็นลิงก์หลักของ Affiliate ยิ่งไม่รอด
หลายคนรู้ดีว่าตลาดเฉพาะกลุ่มที่ทำเงินได้เยอะที่สุดนั้นหนีไม่พ้นเรื่องการพนัน (ผิดกฎหมาย), การหาคู่และสกุลเงินดิจิทัล การโปรโมตสิ่งเหล่านี้ให้ผลตอบแทนและค่าคอมมิชชั่นที่สูงในเวลาไม่นาน สิ่งเดียวที่ต้องการคือ Traffic จาก Facebook ที่มีผู้ใช้เป็นพันล้านและเป็นแหล่ง Traffic Source ที่สมบูรณ์แบบ แต่ตัวแพลตฟอร์มนั้นมีนโยบายการโฆษณาที่เข้มงวดมาก ๆ รวมถึงกฎข้อบังคับสำหรับโฆษณาของการพนัน, สกุลเงินดิจิทัล และหาคู่ แต่คุณสามารถมองหาแหล่ง Traffic Source ของที่อื่น หรือไปสาย Black Hat (อันตราย) เพื่อหลีกเลี่ยงข้อบังคับและใช้ประโยชน์จาก Traffic ของ Facebook
การ Cloaking จะทำงานตามสคริปต์พิเศษที่รันโดยเว็บเซิร์ฟเวอร์ เมื่อเซิร์ฟเวอร์ได้รับคำขอ มันจะตรวจสอบว่าเป็นคำขอจากผู้ใช้ หรือผู้ตรวจสอบ (ผู้ดูแลหรือหุ่นยนต์) ถ้าสคริปต์พบว่าเป็นผู้ดูแล (หุ่นยนต์) มันจะแสดง White Page หรือหน้าเว็บไซต์ (ที่สอดคล้องกับนโยบายของแพลตฟอร์ม) เพื่อให้ผ่านการประเมิน ผู้ใช้ทั่วไปจะถูกนำทางไปยังหน้าเว็บไซต์หลัก
สองวิธีการหลักที่ใช้พิสูจน์ว่าใครกดลิงก์ของคุณ :
การระบุจาก IP ถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า เพราะต่อให้บอต/ผู้ดูแลจะเปลี่ยนชื่อมา เซิร์ฟเวอร์ยังดูจาก IP Address ได้
ถึงตรงนี้อาจฟังดูยุ่งยาก แต่นักการตลาดไม่จำเป็นต้องมีเซิร์ฟเวอร์ของตัวเอง ไม่ต้องเขียนและกำหนดค่าของสคริปต์ ไม่ต้องค้นหาฐานข้อมูลสำหรับผู้ดูแลและบอต เพราะมีบริการมากมายที่รับทำเรื่องให้ บางบริการช่วยระบุตัวตนถึงสองประเภท: IP Address + ตัวแทนผู้ใช้ ถ้าเป็นบริการที่เสียเงินจะมีวิธีการตรวจสอบแบบอื่นเพิ่มเข้ามา และอัปเดตฐานข้อมูลของ IP และตัวแทนผู้ใช้อย่างต่อเนื่อง
โดยทั่วไปแล้ว การทำ Cloaking บน Facebook จะมีสามขั้นตอน: การฟาร์ม, สร้างเพจ และอุ่นเครื่อง สิ่งสำคัญคือ "ไม่ต้องรีบ!" คุณควรรอจนกว่าจะเว็บไซต์ของคุณจะพร้อม หรือเพิ่มเงินเพื่อซื้อบัญชีไปเลย มาเริ่มดูรายละเอียดของแต่ละขั้นตอนกันดีกว่า
คุณสามารถสร้างบัญชี Facebook ขึ้นมาใหม่ (หรือจะซื้อ หรือเช่าบัญชีก็ได้) และทำตัวเป็นผู้ใช้ทั่วไป โดยเฉลี่ยมีโอกาสสำเร็จอยู่ที่ประมาณ 60-70%
คุณควรตั้งใจให้ดีตอนเลือก IP — เพราะจะต้องเป็น IP ของที่พักอาศัย (อย่าใช้ proxy และ VPN — เพราะไม่ได้ผล) ตำแหน่ง IP ควรตรงกับ ZIP ของบัตรเครดิต คุณสามารถเช่าบัญชีของบุคคลจริงบน Facebook — ต้องเป็นบัญชีที่มีอายุและกรอกข้อมูลครบถ้วนแล้ว วิธีนี้จะมีโอกาสสำเร็จถึง 98-100%
ถัดไปให้คุณเลือก (หรือสร้าง) เพจธุรกิจท้องถิ่นหรือชุมชนที่มีคะแนนเพจสูง รักษาระดับของเพจเอาไว้ — อัปโหลดอย่างน้อย 5-7 โพสต์ ในกรณีที่คุณเลือกการฟาร์มบัญชี ลองชวนเพื่อนมากดไลก์เพจดูสิ
มาต่อกันที่คะแนนของเพจ ตรงนี้คุณต้องมีโฆษณาที่มีส่วนร่วมเยอะ ๆ ฉะนั้นคุณต้องให้ความสนใจในคุณภาพของโฆษณาเป็นหลัก คุณจะต้องมีอย่างน้อยสามแคมเปญ แคมเปญแรกต้องปล่อยจากเพจเพื่อเพิ่มยอดไลก์ คุณต้องใส่รหัสบัตรในขั้นตอนนี้ สำคัญ: หมายเลขของบัตรต้องพิมพ์เอา (ห้ามคัดลอกมาวาง) เตรียมบัญชีที่ไม่มีการเคลื่อนไหวมากกว่า 24 ชั่วโมง ถัดไปให้เริ่มตัวจัดการธุรกิจ ใส่บัญชีส่วนตัวของคุณ และใส่บัญชีสำรองอีกประมาณ 3-4 บัญชี เพื่ออะไร? เผื่อในกรณีที่บัญชีของคุณถูกแบน จะได้มีโอกาสใช้บัญชีอื่น
แคมเปญที่สองให้เน้นที่การมีส่วนร่วม เพื่อให้มีคะแนนสูงขึ้น คุณต้องเพิ่มการมีส่วนร่วมในโพสต์ สร้างแคมเปญให้เป็นสำหรับหน้าจอคอมเท่านั้น โดยไม่ใส่ลิงก์ในโพสต์ที่โปรโมต
ถัดไป แคมเปญที่สามมักถูกเรียกว่า ‘แคมเปญกดเว็บไซต์’ ให้ปล่อยแคมเปญนี้เมื่อบิลค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ $500 ส่วน URL, ตัวอักษร และรูปภาพสำหรับแคมเปญนี้ควรเหมือนกับแคมเปญของ Black Hat ปล่อยเว็บไซต์ปลอดภัย $30-40 เพื่ออุ่นเครื่อง อาจใช้เวลาประมาณ 4 วัน ถึงสองสัปดาห์ ไม่ต้องรีบและสุ่มงบของคุณตามนั้น
บริการรับทำ Cloaking บางรายมีชื่อเป็นสาธารณะและเป็นที่รู้จักกันดี เช่น LeadCloak, Linkscloaking, Cloakerly และ TrafficArmor ตอนนี้คุณอาจรู้แล้วว่าหนึ่งในผู้ให้บริการทำ Cloaking ยอดนิยม อย่าง LeadCloak มีการเผชิญหน้ากันทางกฎหมายกับ Facebook
Cloakerly เป็นหนึ่งในบริการยอดนิยมสำหรับ Affiliate Marketing ตัวแพลตฟอร์มมีบริการหลากหลายโดยเริ่มต้นที่ $149
Cloak It มีบริการทำ Cloaking ผ่านระบบคลาวด์ เหมาะสำหรับ Facebook, Instagram, Google และ WebView ไม่จำเป็นต้องติดตั้งและตั้งค่าอะไรทั้งสิ้น — ตัว Admin Panel ตั้งอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของบริษัท คุณแค่สมัครและเริ่มใช้ได้เลย ทำการทำ Cloaking ในพริบตา — ไม่มีดีเลย์ในการร้องขอ คำขอจะถูกคัดกรองด้วยตัววัดต่าง ๆ รวมไปถึง ตัวแทนผู้ใช้, IP Address และ Crawler หรือบอตรวบรวมข้อมูล โดยมีแผนสมัครสมาชิกแบบรายเดือน เริ่มต้นที่ $60 ต่อหนึ่งแคมเปญ บริษัทมีส่วนลด 50% สำหรับการสมัครแบบรายปี
IM KLO เป็นบริการทำ Cloaking ที่เหมาะกับ Facebook แพลตฟอร์มอย่างเดียว IM KLO มีโค้ดแบบ Opensource มีการอัปเดตฐานข้อมูลของ IP Address สำหรับบอตตัวค้นหาและผู้ใช้ที่ไม่ต้องการอยู่เสมอ พอ ๆ กับตัวคัดกรองที่หลากหลาย และการรวมตัวติดตาม IM KLO ยืนหนึ่งเหนือผู้ให้บริการเจ้าอื่น (ที่ให้บริการทางคลาวด์เป็นส่วนใหญ่) เพราะตัวสคริปต์ต้องติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ของคุณ (อัปโหลดไปที่รากโดเมน) เพื่อเข้าถึงทุกฟีเจอร์ ไม่มีสมัครรายเดือน เพียงแค่จ่ายการติดตั้งไฟล์ครั้งเดียว ($330 ใช้ได้ตลอดชีวิต บางครั้งคุณอาจได้รับส่วนลดถึง 30%)
BHOLE.SPACE เป็นบริการทำ Cloaking ที่ไม่แพงเลย (แค่ $25 ต่อเดือน) ใช้ง่ายบน Facebook แบบสมัครรายเดือนสามารถใช้ได้ถึง 10 โดเมน และ 25 แคมเปญ สามารถทำงานร่วมกับ Traffic Source หลายที่ แต่มีฐานข้อมูลที่ขยายตัวมากที่สุดของตัวแทนผู้ใช้ และ IP สำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์ก
Keitaro หนึ่งในบริการที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยมีเป้าหมายเป็นนักการตลาดมืออาชีพ มีบริการหลากหลายตั้งแต่การจัดการ Traffic จนไปถึงบริการทำ Cloaking ด้วยฟังก์ชันตัวเลือกมากมายสำหรับเปลี่ยนเส้นทาง (HTTP, meta-redirect, iframe และ JS), กดคลิกเดียวเปลี่ยนการไหลของ Traffic, ตัวคัดกรองการเปลี่ยนเส้นทางของ Traffic กว่า 30 ตัว, API สำเร็จรูป, พร้อมตัวแก้ไขหน้าเว็บไซต์, เครื่องมือรีพอร์ตอัตโนมัติ, การรวมแหล่ง Traffic Source จากหลายที่ ตัวบริการทำ Cloaking มีฐานข้อมูลมากกว่า 500 แสน IP มีโหมดหลายผู้ใช้หลายคน Keitaro จำเป็นต้องติดตั้งสคริปต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์ (ไม่มีบริการคลาวด์) แผนรายเดือนเริ่มต้นที่ $25 (หนึ่งผู้ใช้ หนึ่งโดเมน) มีทดลองฟรี 7 วัน
HideClick คือหนึ่งในสุดยอดแพลตฟอร์มของการคัดกรอง Traffic ที่ถูกออกแบบมาสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ มีบริการหลายฟีเจอร์ รวมถึงการปกป้องจากการถูกสอดแนม และบล็อกการแปลงจาก Proxy โดย HideClick มีฐานข้อมูล IP ของบอตจาก Facebook, Google และแพลตฟอร์มอื่น ๆ มีบริการรวมเข้ากับ WordPress, Keitaro, Cloudflare, Apache และ Nginx ควรติดตั้งระบบบนเซิร์ฟเวอร์ผ่าน 3 ขั้นตอน แผนมาตรฐาน $145 แผนขั้นสูง และมืออาชีพคือ $245 และ $1,495 ตามลำดับ การสมัครสมาชิกแบบโปร จะรวมโหมดผู้ใช้หลายคน, การรวม JS, SDK สำหรับ iOS และ Android, บล็อกพวกสอดแนมและ Proxy มีให้ทดลองฟรี 7 วัน
Zeustrak หนึ่งในบริการทำ Cloaking ผ่านคลาวด์ที่มีตลาดการประมูลโฆษณาทุกตัว มีบริการฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (และอัปเดตเป็นประจำ) ของ IP Address สำหรับผู้ดูแล, บอตตัวค้นหาและผู้ใช้ที่ไม่ต้องการ ผู้ใช้สามารถเพิ่ม URL ของตัวเองเพื่อเพิ่มการคัดกรอง เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลให้คลิกแบบเรียลไทม์, ประมูล, CTR และการประเมินกำไร ส่วนหนึ่งในฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากที่สุด คือ โหมดผู้ใช้หลายคนที่ช่วยให้ผู้ใช้หลายคนสามารถทำงานด้วยโปรไฟล์เดียว มีบริการทดลองใช้ฟรี 7 วัน แผนเริ่มต้นที่ 249 ยูโร (10 โดเมน 5 เซิร์ฟเวอร์) พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 30% สำหรับแผนรายปี ใช้งานได้กับ Facebook Ads และ Google Ads
Traffic Armor แพลตฟอร์มชื่อดังในเรื่องของการคัดกรอง Traffic ของตัวแทนผู้ใช้และ IP Adress ตัวแพลตฟอร์มมีฐานข้อมูลที่ครอบคลุมเรื่องบอต, Spyware, Proxy Server และ VPN โดยผู้ใช้สามารถเพิ่ม IP ที่ไม่ต้องการลงไปในฐานข้อมูลได้ บริการทำ Cloaking สามารถใช้ได้กับเน็ตเวิร์กหลักทั้งหมด แผนจะขึ้นอยู่กับจำนวนการคลิก: แผนปกติคือ $129 สำหรับ 32,500 คลิกต่อเดือน
NoIpFraud บริการแบบพิเศษสำหรับการคัดกรอง Traffic ที่ไม่ต้องการ แต่น่าเสียที่ยังไม่แผนหรือการประกาศเรื่องของราคา เพราะการที่คุณจะเข้าถึงบริการได้ ต้องเจรจากับฝ่ายสนับสนุนด้านเทคนิคโดยตรงเท่านั้น แผนทั้งหมดจะถูกพัฒนาขึ้นเป็นรายบุคคล ไม่มีทดลองฟรี
Fairlab คุณอาจเคยได้ยินว่า FairLab เป็นหนึ่งในบริการทำ Cloaking ที่แพงที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น ระบบก็มีประสิทธิสูงภาพมากในการคัดกรอง Traffic คุณสามารถเพิ่มลิงก์ไปยัง สร้าง แล้วเลือกตัวคัดกรองที่ต้องการ จากนั้นคลิกปล่อย — แค่นี้เอง ซึ่งทางผู้ให้บริการมีเน็ตเวิร์กของตัวเองที่สามารถวิเคราะห์ 25 อย่างสำหรับอุปกรณ์ทุกเครื่อง สามารถตรวจสอบบอตและผู้ดูแล แม้จะเปลี่ยน IP หรือ VPN มาแล้วก็ตาม อ้างอิงตามผู้พัฒนา พวกเขาพยายามที่จะนำหน้าผู้เล่นทุกคนในตลาดเสมอ ตัวบริการถูกออกแบบมาสำหรับ Facebook Ads และ Google Ads แต่สามารถใช้กับเน็ตเวิร์กอื่น ๆ อย่าง Pinterest, Twitter, MyTarget ฯลฯ ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยมีแผนทั้งแบบรายวัน, รายเดือน และรายปีพร้อมรับการตั้งราคาที่ยืดหยุ่น ตัวอย่างเช่น แผนรายวันราคา $19.99 และไพร์มราคา $39.99 ลูกค้าใหม่สามารถทดลองใช้ฟังก์ชันฟรี 7 วัน
LinkTrackr บริการที่มีฟังก์ชันครอบจักรวาล ซึ่งถูกออกแบบสำหรับ Marketing Automation หรือการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้า ถือเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการที่โด่งดังที่สุดและมีราคาที่ไม่แพง ด้วยเครื่องมือมากมาย เช่น การทำ Cloaking ลิงก์, ติดตามโฆษณา, ติดตาม PPC, ติดตาม Pixel, ติดตาม subID, ตัวหมุน URL ฯลฯ นักการตลาดสามารถใช้โดเมนได้ไม่จำกัด และปกปิดลิงก์ของสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพใน Facebook ข้อดีคือเป็นบริการที่เหมาะกับทั้งมือใหม่และมืออาชีพ แผนเริ่มต้นที่ $17 มีส่วนลด 10-20% สำหรับซื้อแผนสมัครสมาชิกรายปี
FraudFilter.io มีบริการบล็อก Traffic ที่ไม่ต้องการ ประเมินผู้เข้าชมด้วยปัจจัยหลายอย่าง แพลตฟอร์มมีฐานข้อมูลที่น่าทึ่งและอัปเดตอยู่เสมอ ค่าใช้บริการคือ 162 ยูโร ต่อเดือน บริการทำ Cloaking สามารถใช้งานได้กับเน็ตเวิร์กโฆษณา 130 เจ้า และแพลตฟอร์มของ CMS ส่วนใหญ่ รวมไปถึง WordPress, Joomla, Shopify, Drupal, Weebly ฯลฯ
ถ้าหากคุณสงสัย และไม่รู้ว่าจะเลือกบริการทำ Cloaking ไหนดี สามารถลองดูรีวิวบางส่วนได้ที่เว็บบอร์ดของ BlackHatWorld ในกระทู้เกี่ยวกับการทำ Cloaking บน Facebook
สมมุติคุณมีบริษัทที่เชี่ยวชาญในเรื่องของอาหารเสริม ( เป็นผู้ผลิตหรือขาย ) คุณไม่สามารถปล่อยแคมเปญโฆษณาบน Facebook ได้เพราะโฆษณาของคุณจะถูกบล็อก ( หรือถูกบล็อกไปแล้ว ) คุณจึงต้องตัดสินใจทำการทำ Cloaking ที่นี่มาดูกันว่าคุณต้องทำอย่างไรเพื่อให้คุณโฆษณาได้
คุณสร้างบัญชีและเพจขึ้นมาใหม่ แล้วเริ่มแคมเปญโฆษณาสามถึงสี่ตัวบน Facebook เพื่อเพิ่มยอดไลก์และรีวิว ( คุณอาจจะจ้างเอา ) เพจและโฆษณาของคุณจะต้องถูกตรวจสอบอย่างแน่นอน แต่ไม่เป็นไรตราบใดที่เพจของคุณขาวสะอาด
จากนั้นคุณต้องตรวจสอบ IP Address ของผู้ตรวจสอบ Facebook และอัปเดตพวกนี้เรื่อย ๆ บางบริษัทมีบริการนี้ให้ คุณสามารถเช็ครีวิวจากนักการตลาดคนอื่น ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ บอกตามตรงว่า บางครั้งการใช้บริการทำ Cloaking นั้นคุ้มกว่าการทำตามขั้นตอนทั้งหมดนี้ด้วยตัวคนเดียว
เมื่อทุกอย่างพร้อม อย่าพึ่งเริ่มเลยทันที ให้เปิดเพจ "ธรรมดา" ไปก่อนสักพัก แล้วค่อยสลับไปใช้ระบบคัดกรอง IP ของคุณ เพื่อให้ผู้ใช้มองเห็นเพจที่เป็นการโปรโมตอาหารเสริม และแสดงเวอร์ชันที่ถูกต้องให้ผู้ตรวจสอบ Facebook เห็น โอกาสถูกจับได้ค่อนข้างสูง นี้คือการอธิบายให้เห็นในกรณีโฆษณาแบบมุทะลุที่นักการตลาดจำนวนมากชอบใช้
ปัจจัยที่ทำให้ผู้ดูแล Facebook เริ่มสงสัยในตัวโฆษณา :
ในปี 2017 Rob Leathern หัวหน้าฝ่ายการจัดการธุรกิจผลิตภัณฑ์ และ Bobbie Chang Software Engineer ได้ลงความคิดเห็นบนนโยบายของ Facebook เกี่ยวกับการทำ Cloaking สรุปสั้น ๆ คือ พวกเขาเครียดมากที่ Facebook ต้องมาสู้กับโฆษณาหลอกลวงต่าง ๆ ที่มาไม่หยุดหย่อน ทางฝ่ายบริหารของ Facebook ถือว่า "การทำ Cloaking" เป็นการกระทำที่ผิดต่อนโยบายการโฆษณาและมาตรฐานของชุมชนบน Facebook
ทางแพลตฟอร์มเพิ่มเทคโนโลยีขั้นสูง รวมถึง AI เพื่อเปิดเผย และแบนโฆษณาที่ใช้ ‘การ cloaked’ เพื่อกำหนดปลายทางของเพจ "เราได้ใช้ AI และเพิ่มขั้นตอนการรีวิวด้วยมนุษย์ เพื่อช่วยระบุ, จับกุม และยืนยันการทำ Cloaking ตอนนี้เราสามารถสังเกตเห็นประเภทของเนื้อหาที่แสดงให้ผู้คนดูผ่านการใช้แอปเปรียบเทียบกับระบบภายในของเรา… เรามองว่าการทำ Cloaking เป็นเรื่องที่ทำโดยเจตนาและหลอกลวง ไม่สมควรมีอยู่บน Facebook เราจะทำการลบเพจที่มีส่วนในการทำ Cloaking ฉะนั้น เพจไม่ควรเห็นความเปลี่ยนแปลงของ Traffic ที่กล่าวถึง"
Facebook ได้เพิ่มความเข้มงวดให้กับนโยบายของการ 'Cloaking' อย่างชัดเจน ผู้โฆษณาและเพจที่มีการ ‘Cloaking’ ในโฆษณาของตนจะถูกแบนออกมาแพลตฟอร์ม
วันที่ 20 เมษายน ปี 2020 Facebook ยื่นฟ้องต่อ LeadCloak สำหรับซอฟต์แวร์การ 'Cloaking' ที่เป็นเส้นทางผู้ใช้ของ Facebook Facebook กล่าวหาว่าซอฟต์แวร์ของ LeadCloak มีจุดประสงค์ในการใช้เพื่อปกปิดเว็บไซต์หลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับ ข่าวปลอม, COVID-19, ยาลดความอ้วน และสกุลเงินดิจิทัล
สถานการณ์ฟังดูยุ่งยากซับซ้อน ไม่มีใครอยากโดนแบน และต่างอยากร่ำรวยด้วย Affiliate Program เมื่อแผนเก่าใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป คุณสามารถถามหาคำแนะนำได้เสมอ
ถ้าคุณไม่ได้เป็นสมาชิกในชุมชนของการตลาด นี้ถึงเวลาแล้วที่จะเข้าร่วมและปรึกษาหารือในกลุ่มสนทนาที่เน้นเรื่องอุตสาหกรรม Warrior Forum, BlackHatWorld และ AffilateFix เป็นแพลตฟอร์มยอดฮิต และมีประโยชน์มากในหมู่นักการตลาด คุณสามารถมองหาชุมชนที่ชอบ เพื่อแชร์ประสบการณ์, ตั้งคำถาม และเรียนรู้เกี่ยวกับเทรด์ใหม่ ๆ และอัปเดตข้อมูลข่าวสารในโลกแห่งการตลาด
สรุป
การทำ Cloaking ไม่ใช่เรื่องใหม่ แค่มีการพัฒนาจนกลายมาเป็นกลยุทธ์ในรอบหลายปี คุณอาจรู้อยู่ตั้งแต่แรกแล้วว่า การทำ Cloaking ถูกใช้มานานเพื่อหลอกตัวค้นหา และปกปิดเว็บไซต์ที่เต็มไปด้วยมัลแวร์ หรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ต่อมา การทำ Cloaking ขยายตัวมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนครอบคลุมโซเชียลมีเดียไปด้วย แม้จะมีความเสี่ยงมากมายจากการทำ Cloaking แต่นักการตลาดหลายคนก็ยังคงเลือกใช้วิธีนี้เพื่อโปรโมตข้อเสนอของสินค้า
แน่นอนว่าจะมีการทำ Cloaking ที่เยอะและซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ จนตรวจสอบได้ยาก พอ ๆ กับ Facebook ที่เชี่ยวชาญในเทคโนโลยีมากขึ้น ( ตัวอย่างเช่น AI ) เพื่อเปิดเผยการทำ Cloaking และพวกที่ใช้เครื่องมือเพื่อหลีกเลี่ยงกลไกการตรวจจับ