เดาว่าไม่จำเป็นต้องแนะนำ TikTok เนื่องจากความนิยมที่กำลังเพิ่มขึ้น และทั่วโลก ( ระหว่างถูกกักตัวเพราะ COVID-19 ) ติดตามเทรนด์ชาเลนจ์ TikTok เพื่อเพิ่มกำลังใจให้ร่าเริงขึ้นหน่อย
กรณีที่แอปยังไม่คุ้นตา เรามีสรุปมาให้ เบื้องต้นแอปเปิดตัวที่จีนในฐานะแอปแชร์วิดีโอ Douyin (2016) ถือครองโดย ByteDance สำนักงานใหญ่บริษัทไอที ตั้งอยู่ในปักกิ่ง ในปี 2017 แอปถูกปล่อยออกมาภายใต้ชื่อ TikTok สำหรับตลาดข้างนอกจีน ภายหลังได้เพิ่มแอปอีกตัวชื่อ Musical.ly ในปี 2018 นี้คือจุดเริ่มต้นของแอป TikTok ที่คุณเคยได้ยิน
ตั้งแต่นั้นแอปใหม่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เป็นแพลตฟอร์มเพื่อความสนุกและสิ่งบันเทิง รวมด้วยวิดีโอเพลง, เล่าเรื่อง, เล่นตลก, เต้น, DIY และงานฝีมือ, แฟชั่นและเทคนิคการแต่งหน้า ฯลฯ ให้ผู้ใช้สร้างและอัปโหลดวิดีโอของตัวเอง 15 วินาที ( วิดีโอเล่าเรื่อง 60 วินาที ) ผู้ใช้ TikTok บางคนชอบส่อง (หรือดูอย่างเดียว) ดังนั้นจึงดูแค่คอนเทนต์ที่มีให้
ในแง่ของจำนวนผู้ใช้ TikTok แซงหน้า Twitter, Pinterest, Snapchat, Reddit และ LinkedIn ตัวแอปมียอดคนดาวน์โหลดมากกว่า 1.5 พันล้านครั้ง จากของ Apple Store และ Google Play
กระนั้นการโฆษณาของ TikTok ยังคงอยู่ระหว่างการปรับปรุง เบื้องต้น TikTok มีเสนอไอเดียโฆษณาในปี 2018 ตัวแพลตฟอร์มเริ่มแสดงโฆษณาในเดือนมกราคมปี 2019 เวอร์ชันเบต้าของแพลตฟอร์มโฆษณาถูกปล่อยออกมาในเดือนเมษายนปี 2019 และล่าสุดระบบโฆษณาถูกทดสอบแล้วในสหรัฐและยุโรป
ปัจจุบันสิทธิการโฆษณาบน TikTok ถูกจำกัดให้เหลือเพียงบางตัวเลือก:
In-feed video เป็นโฆษณาแทรกเนื้อหาที่อยู่ตรงด้านล่างวิดีโอ TikTok หรือตรงกลางระหว่างคิวของวิดีโอ บางส่วนทำให้นึกถึงโฆษณาสปอนเซอร์ที่เป็นฟีดข่าวของ Facebook และ Instagram มีราคาถูกกว่า Brand Takeover และยังสามารถพาผู้ใช้หาเว็บไซต์หรือแอป ตรงนี้คุณต้องประมูลช่องโฆษณาของ TikTok ปัจจุบันมีเพียงโฆษณาแบบดำเนินการด้วยตัวเอง โดยให้คุณประมูลเพื่อวางวิดีโอโฆษณาในฟีดหลักของแพลตฟอร์ม
Brand Takeover โฆษณารูปแบบนี้จำกัดให้ผู้โฆษณาเพียงหนึ่งเจ้าต่อวัน เป็นรูปแบบโฆษณาขนาดใหญ่ที่ผลุดขึ้นมาตอนผู้ใช้เปิดแอป TikTok อาจรวมทั้งลิงก์ในและนอก มีหลายแบรนด์พยายามทดสอบโฆษณาตัวนี้เพื่อให้คนรู้จักแบรนด์ ตัวอย่างเช่น Grubhub บริการส่งอาหาร ใช้โฆษณาประเภทนี้เพื่อกระตุ้นผู้ใช้ให้ติดตั้งแอปบนมือถือ
Hashtag challenge เป็นฟีเจอร์เด่นของ TikTok ทางแพลตฟอร์มเลยใช้กิจกรรมบันเทิงนี้กับแคมเปญการโฆษณาด้วย มักมาพร้อมกับ #ชื่อชาเลนจ์ เพื่อให้ผู้ใช้ได้ลองทำชาเลนจ์ใหม่ ๆ และอัปโหลดวิดีโอสั้นของพวกเขา ตัวอย่างที่ฉลาดที่สุดคือ #tumbleweedchallenge ของจิมมี่ฟอลลอน ผู้ดำเนินรายการทีวี ท้าชาเลนจ์เหล่าผู้ใช้ TikTok ให้อัปโหลดวิดีโอของตัวเองที่ล้มลงแล้วกลิ้งตัวให้เหมือนกับต้นทัมเบิลวีดส์พร้อมกับเพลงประกอบสไตล์ตะวันตก ผลลัพธ์คือมีการเข้าร่วมกว่า 10.4 ล้านครั้ง และมีส่งเข้ามาถึง 8,000+ วิดีโอ ฟีเจอร์นี้อาจเป็นประโยชน์สำหรับการโปรโมตแบรนด์ผ่านช่องของตัวเองหรืออินฟลูเอนเซอร์ เมื่อมีชาเลนจ์บน TikTok ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมโดยการกดไม่กี่ครั้ง เพื่อเริ่มโฆษณาชาเลนจ์ ตัวแทน TikTok จะคอยนำเสนอแบรนด์เป็นเวลา 6 วัน ( ความนานของแคมเปญส่วนใหญ่ )
Branded lenses โฆษณารูปแบบนี้อนุญาตให้สร้างฟิลเตอร์ที่มีคอนเทนต์ของแบรนด์ คล้ายกับฟิลเตอร์ AR ของ Instagram และ Snapchat ผู้โฆษณาสามารถใช้ ฟิลเตอร์ใบหน้า เลนส์ และวัตถุ 3D ของตัวเอง ผู้ใช้ชอบใช้ฟิลเตอร์หลายแบบบนวิดีโอ เพราะทำให้น่ามองน่าสนใจ ถ้าหากพวกเขาถูกใจฟิลเตอร์นั้น แบรนด์คุณก็จะเป็นที่จดจำไปทั่วแพลตฟอร์ม
ปัจจุบันโฆษณา TikTok อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับแบรนด์ใหญ่ ( Disney, Nike, ฯลฯ ) แต่สำหรับธุรกิจเล็ก อัตราโฆษณาอาจอยู่ไกลเกินเอื้อม ทำไมนะหรือ? เพราะมีค่าใช้จ่ายสูงมาก สำหรับแคมเปญของบริษัทใหญ่อาจอยู่ที่ $25,000 ถึง $150,000 ( ขึ้นอยู่กับประเภทของแคมเปญ ) งบขั้นต่ำสำหรับโฆษณาที่ต้องดำเนินการด้วยตัวเองจะอยู่ที่ $500 ต่อแคมเปญ กับขั้นต่ำ $20 สำหรับกลุ่มโฆษณา อ้างอิงจากแหล่ง TikTok งบขั้นต่ำอาจช่วยให้ได้ผลลัพธ์และเป้าหมายที่จำเป็น
แพลตฟอร์มธุรกิจของ TikTok มีระบบการประมูลสำหรับปล่อยโฆษณา สำหรับผู้โฆษณา คุณต้องแข่งกับเจ้าอื่นเพื่อให้ได้ผู้ชม หากคุณประมูล $2 แล้วมีคนอื่นประมูลที่ $2.1 คู่แข่งของคุณจะเป็นคนได้ไป
โฆษณา TikTok แบ่งเป็นสามระดับ :
โดยเฉลี่ยอัตราจะอยู่ที่ $0.2 ถึง $2.5 ต่อการดำเนินการ และคุณควรมีต้นทุนอย่างน้อย $20 ต่อวัน สำหรับกลุ่มโฆษณา
TikTok ตั้งราคา 3 แบบตามเป้าหมายของโฆษณา: CPC, CPM และ CPV ( จ่ายตามยอดวิว )
หวังว่าอนาคตจะมีผู้โฆษณาเยอะขึ้นและลดต้นทุนค่าโฆษณา TikTok ปัจจุบันแคมเปญรายย่อยยังไม่เหมาะกับแพลตฟอร์มนี้
เหมือนแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ๆ ที่ลงโฆษณาบน TikTok คุณต้องสร้างบัญชีธุรกิจ จากนั้นตั้งค่าแคมเปญโฆษณา
ขั้นตอนที่ 1. เปิดเว็บ TikTok For Business และกด "เริ่มเลย" จากนั้นระบุ:
เมื่อกรอกข้อมูลครบแล้วให้กด ลงทะเบียน
ขั้นตอนที่ 2. เพื่อสร้างบัญชีให้สำเร็จ คุณต้องให้ข้อมูลทางธุรกิจ
คุณต้องใส่ข้อมูลที่เกี่ยวกับกิจการของคุณอย่างละเอียด เช่น เว็บไซต์ของบริษัท, ที่ตั้งอย่างเป็นทางการ ( รหัสไปรษณีย์, จังหวัด, ถนน ) รายละเอียดของกิจการ ( อุตสาหกรรมและเป้าหมายเฉพาะกลุ่ม ) และช่องทางการติดต่อ
ขั้นตอนที่ 3. รูปแบบการชำระเงิน
คุณสามารถเลือกชำระด้วยตัวเองหรือชำระอัตโนมัติ
การชำระเงินอัตโนมัติใช้เฉพาะบางภูมิภาค
ขั้นตอนที่ 4. ส่งข้อมูล
เมื่อกรอกครบหมดแล้ว ให้ไปที่ด้านล่างของเว็บและ กดส่ง บัญชีจะได้รับการตรวจสอบภายใน 24 ชั่วโมง
จากนั้นคุณสามารถไปยังขั้นตอนต่อไปและสร้างแคมเปญตัวแรกของคุณ
โฆษณา TikTok มีโครงสร้างดังนี้ : แคมเปญ, กลุ่มโฆษณา, โฆษณา ช่วยให้คุณตั้งเป้าหมาย กลุ่มเป้าหมายและงบการลงทุน
ขั้นตอน 5. สร้างแคมเปญโฆษณาของคุณ
เพื่อลงโฆษณาบน TikTok คุณต้องสร้างแคมเปญอันใหม่ และประเมินผลลัพธ์ ( เป้าหมาย ) ตามแผนที่วางไว้ ขั้นตอนนี้คุณต้องเลือก:
ภายในแคมเปญ คุณสามารถสร้างกลุ่มโฆษณาหลายตัว เพื่อประสิทธิภาพที่ง่ายขึ้นและวัดคุณภาพของแคมเปญ อย่าลืมใส่รูปโปรไฟล์กับชื่อของคุณ แต่ละกลุ่มคุณสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ, ตำแหน่ง, งบ, เป้าหมาย, ช่วงเวลา และการประมูลราคา
อย่างที่พูด โฆษณา TikTok ใช้ต้นทุนสูงมากกว่าแพลตฟอร์มออนไลน์อื่น ตัวอย่างเช่น คุณต้องจ่ายโดยเฉลี่ย $10 ต่อ CPM ( 1,000 วิว ) และ $100 ต่อหนึ่ง Brand Takeover อย่างไรก็ตาม ราคาอาจผันผวนตามโฆษณาที่คุณมีทั้งหมด แต่ถ้าหากผู้ชมบน TikTok คือเป้าหมายและเหมาะกับจุดประสงค์ของคุณ แบรนด์ของคุณจะต้องเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมมากขึ้นแน่นอน
ทุกกลุ่มโฆษณาอาจแฝงโฆษณาอยู่หนึ่งหรือมากกว่านั้น โฆษณาหลายตัวในกลุ่มโฆษณาเดียวทำให้เห็นความต่างของประสิทธิภาพในโฆษณาแต่ละตัว
โฆษณา ตรงนี้คือคอนเทนต์ที่คุณสร้าง ถูกส่งไปหากลุ่มเป้าหมายที่เลือก
TikTok อนุญาตให้เลือกฐานผู้ชมที่มีความเฉพาะ คุณสามารถกำหนดฐานผู้ชมตามแคมเปญก่อนหน้าหรือ Traffic ของเว็บไซต์ของคุณ เพื่อกำหนดผู้ชม คุณต้องติดตั้ง TikTok Pixel บนเว็บไซต์นั้น
ขั้นตอนการทำงานของโฆษณาเป็นดังนี้:
ทีนี้คุณก็พร้อมแล้วสำหรับการลงแคมเปญโฆษณาตัวแรกของคุณลงบน TikTok
นานแล้วที่นักการตลาดไม่รู้จักแอปและเป้าหมายที่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นอายุ 13-25 ปี ซึ่งตอนนี้ขยายและรวมถึงผู้คนที่อายุไม่เกิน 30 ปี หากคุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่น คุณมาถูกที่แล้วเพราะ 66% ของผู้ใช้ TikTok มีช่วงอายุไม่เกิน 30 ปี
ลองดูสถิติพวกนี้สิ! แค่นี้ก็รู้แล้ว
มีผู้ใช้เป็นคนดังอย่าง เจนนิเฟอร์ โลเปซ, เจสสิกา อัลบา, โทนี ฮอว์ก และจัสติน บีเบอร์ ที่ช่วยเพิ่มอิทธิพลของแพลตฟอร์ม โดยฐานแฟนคลับที่โตขึ้นอย่างมหาศาล พูดง่าย ๆ อย่ามองข้าม TikTok เชียว!
ถ้าหากว่าผู้ชม TikTok ไม่ตรงกับเป้าหมายของคุณ แต่การเรียนรู้แพลตฟอร์มใหม่และศักยภาพของมัน ช่วยให้คุณรู้จักเตรียมความพร้อมในอนาคตเสมอ
เปิดตัวในปี 2015 เป็นแอปสร้างหาเพื่อนแบบใหม่ที่กำลังเติบโตสำหรับวัยรุ่นอายุ 13-25 ปี ปัจจุบันเป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่มีผู้ใช้ถึง 25+ ล้าน มีเป้าหมายหลักในการสังสรรค์และมีพื้นที่ให้สร้างชุมชนด้วยสตรีมแชตสด ( ด้วยการดูแลแบบเรียลไทม์เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ) Yubo เข้าร่วม TikTok เพื่อขยายฐานผู้ใช้และเพิ่มยอดดาวน์โหลด
Yubo ทำการประมูล (In-feed) โฆษณาแคมเปญโดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนยอดวิวให้เป็นยอดดาวน์โหลด แพลตฟอร์มโฆษณาของ TikTok อนุญาตให้อัปโหลดไอเดียและเจาะกลุ่มเป้าหมายโดยสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ผลลัพธ์ที่ได้คือแคมเปญของ Yubo สร้างยอดดาวน์โหลด 238,000+ ครั้งและ Conversion 13.3%
เป้าหมายของแคมเปญคือเพิ่มความดึงดูดของแบรนด์ให้กับกลุ่มคน Gen Z และมิลเลนเนียลส์ และโปรโมตคอลเลกชัน Guess Denim Fit
บริษัทใช้วิธี Hashtag Challenge บน TikTok โดย #InMyDenim เชิญชวนให้ผู้ใช้ TikTok มาโชว์การแต่งตัวด้วยสไตล์เดนิม Guess ใช้สโลแกนที่ว่า "เปลี่ยนจากชุดที่ไม่มีระเบียบให้เนี้ยบเรียบสวย! ด้วยเดนิม!" เพื่อให้แคมเปญโด่งดัง โดยมีเพลงของบีบี เรจา "I’m a Mess" เป็นพื้นหลังของวิดีโอหลัก และใช้ Brand Takeover สำหรับวันแรกของแคมเปญ และวิดีโอสี่ตัวจากอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อมาใช้โปรโมตชาเลนจ์
ชาเลนจ์กลายเป็นไวรัล มียอดวิวเป็นล้าน, ความคิดเห็นมากมาย และวิดีโอนับพันจากผู้ใช้
ผลลัพธ์ 6 วันของแคมเปญ: 10.5 ล้านวิว, 5,550 วิดีโอจากผู้ใช้, ผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 12,000 คน บน TikTok และ ER (ผลตอบรับ) 14.3%
โรงถ่ายภาพยนตร์ปล่อยตัวแคมเปญ #FindYourMagic เพื่อโปรโมตภาพยนตร์เรื่องใหม่อย่าง บ้านเวทมนตร์และนาฬิกาอาถรรพ์
วิดีโอประเภทแกล้งและทริกมายากลต่างได้รับความนิยมมากบน TikTok และอยู่ในขอบเขตของชาเลนจ์ Universal Pictures เสนอให้ผู้ใช้ TikTok ตีความสโลแกนในแบบของตัวเองขึ้นมา และเผยออกมาด้วยมายากลของพวกเขา รวมถึงกลสุดคลาสสิกอย่าง " ดึงกระต่ายออกจากหมวก" หรือกลเล่นไพ่
เพื่อให้แคมเปญเป็นที่เตะตา บริษัทต้องทำข้อตกลงกับอินฟลูเอนเซอร์ถึง 10 คนที่โชว์ "มายากล"
และก็เป็นไปได้ด้วยดี! ชาเลนจ์ #FindYourMagic มีคนถูกใจกว่า 1.3 ล้าน บนวิดีโอบนอินฟลูเอนเซอร์ และ 19,000 กว่าวิดีโอจากฝั่งผู้ใช้ อีกทั้งบริษัทยังมียอดผู้ติดตามใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 11,000 คน
แบรนด์แฟชั่นที่รู้จักกันดีในเรื่องของนวัตกรรมสุดล้ำ เสนอเทรนด์ Ready-to-wear หรือเสื้อผ้าพร้อมใส่ บริษัทตัดสินใจนำเสนอคอลเลกชันนี้ให้กับผู้ใช้ TikTok โดยปกติ Balenciaga จะปล่อยแคมเปญ TikTok ช่วงคริสต์มาส — ในโฆษณารูปแบบ (Brand Takeover) สำหรับอังกฤษและฝรั่งเศส รูปแบบนี้สามารถลิงก์ไปนอกเว็บไซต์ อย่างที่พวกเรารู้กันดีว่า Balenciaga ต้องพาผู้ใช้ TikTok ไปยังหน้าร้านค้า แคมเปญประสบความสำเร็จมากจนบริษัทต้องขยายออกไป รวมถึงสอง Brand Takeover ( ของอังกฤษและอิตาลี )
ผลลัพธ์ที่ได้เกินความคาดหมายอย่างมาก: 23+ ล้านการมองเห็น ( ทั้งอังกฤษ, อิตาลีและฝรั่งเศส ) CTR หรือจำนวนคนกดโฆษณาโดยเฉลี่ยคือ 18% ( 20.6% ในอิตาลี ) มากกว่า 4.5 ล้านคลิกไปหาเว็บไซต์ของ Balenciaga น่าทึ่งมากใช่ไหม?
ตอนนี้คุณสามารถโฆษณาบน TikTok คำถามคือการโฆษณาบาแพลตฟอร์ม TikTok เหมาะกับคุณหรือเปล่า? ในเมื่อเราเป็นคนนำเสนอ เราจะแชร์คำแนะนำว่าสิ่งนี้ทำงานอย่างไร และวิธีการเข้าร่วม นอกเหนือจากแพลตฟอร์มโฆษณาที่ต้องเสียเงิน เรายังมีเคล็ดลับในการโฆษณาผ่าน TikTok แบบไม่ต้องลงทุนอีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย
ตอนนี้อธิบายโฆษณา TikTok จบแล้ว มาดูกันว่านักการตลาดและเว็บมาสเตอร์สามารถใช้ประโยชน์จาก TikTok อย่างไรบ้าง
ตอนนี้ TikTok กำลังทดสอบการใส่ลิงก์ภายนอกกับวิดีโอของผู้ใช้ หวังว่าในอนาคตอันใกล้ นักการตลาดจะสามารถใส่ลิงก์ขายของกับวิดีโอของพวกเขา ปัจจุบันคุณสามารถใส่ได้เพียงลิงก์โซเชียลไปยังบัญชี Youtube หรือ Instagram ของคุณ การเพิ่มโซเชียลโปรไฟล์ในบัญชี TikTok ของคุณ จะช่วยเรียกผู้ชมบน TikTok ให้ไปติดตามคุณบนโซเชียลแพลตฟอร์มอื่น ๆ วิธีนี้คุณจะพาความสนใจของพวกเขาไปยังคอนเทนต์อื่นด้วยลิงก์ขายของ โค้ดส่วนลดเป็นการตลาดอีกแบบ คุณอาจทำข้อตกลงกับเจ้าของสินค้าเพื่อมอบ "โค้ดส่วนลดพิเศษ" แก่ผู้ชมของคุณ เพื่อให้คุณแชร์โค้ดส่วนลดในคอนเทนต์วิดีโอบน TikTok ควรเป็นโค้ดที่อ่านง่ายและอย่าลืมใส่ลิงก์ใน Affiliate ID ของคุณด้วยนะ!
เราแนะนำให้คุณลองพิจารณาส่วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ก่อนใช้ TikTok สำหรับธุรกิจ Affiliate ของคุณ:
สมัยนี้อะไรก็ง่ายขึ้น นักการตลาดหัวใสบางคนคงเดาออกอยู่แล้วว่าต้องทำอย่างไร เพราะเป็นสิ่งขั้นตอนที่ตรงไปตรงมา
คุณสามารถขายของได้ $1,000 ต่อสัปดาห์ โดยไม่ต้องแตะสินค้า, ส่งสินค้า หรือลุกออกจากเก้าอี้แสนสบายของคุณ
แบรนด์และบริษัทสามารถสร้างช่องของตัวเองเพื่อโปรโมตสินค้าและบริการผ่านวิดีโอที่เกี่ยวข้อง คอนเทนต์ของผู้ใช้อาจเป็นประโยชน์มากในแง่ของการโปรโมตแบรนด์ จำให้ดีว่าในผู้ชมของ TikTok มี: Gen Z ( หรือ "ซูมเมอร์" ) หลีกเลี่ยงอะไรที่เรื่อยเปื่อยและเน้นการมีส่วนร่วม
บางแบรนด์ประสบความสำเร็จจากการใช้ฟีเจอร์นี้ ด้วยช่องแบรนด์ของคุณหรือผ่านอินฟลูเอนเซอร์ คุณอาจชักชวนให้ผู้ใช้ TikTok แชร์วิดีโอว่าพวกเขาใช้สินค้าของคุณอย่างไร นี้จะเพิ่มการรับรู้ถึงแบรนด์และได้รับการยอมรับ ร้านอาหารจีนไห้ตี้เหลา สร้างข้อได้เปรียบจากเมนูมีให้สั่งแบบ DIY ลูกค้าที่เลือก สามารถสร้างเมนูพิเศษในแบบของตัวเองและถ่ายผลลัพธ์เก็บเป็นวิดีโอเอาไว้ ทางร้านเสนอและส่งเสริมให้แชร์วิดีโอบน TikTok ของจีน ( โต่วอิน )
หลังจากลูกค้าอัปโหลดเมนูสุดครีเอทีฟ ผู้คนต่างก็แห่กันมาที่ไห้ตี้เหลาเพื่อสั่งเมนูนี้และถ่ายวิดีโอ ผลลัพธ์คือผู้คนมากกว่า 15,000 คน สั่งเมนู DIY ในนั้น 2,000 คน อัปโหลดวิดีโอลงบนแพลตฟอร์ม และมียอดคนดูวิดีโอทั้งหมด 50 ล้านคน
ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรเลย ทุกวันนี้เราเห็นอินฟลูเอนเซอร์ใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มอย่าง YouTube, Instagram, Twitter, ฯลฯ แม้เป็นแอปที่ค่อนข้างใหม่ TikTok ก็มีอินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน ตัวอย่างเช่น ลอเรน เกรย์ ที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดบน TikTok ( ผู้ติดตาม 34 ล้านในปี 2019 )
ก่อนอื่น คุณต้องพิจารณาว่าสินค้าหรือบริการตรงกับอินฟลูเอนเซอร์เฉพาะกลุ่มหรือไม่
ถัดไปคือการปล่อยให้อินฟลูเอนเซอร์สร้างวิดีโอ เพราะพวกเขารู้ดีว่าผู้ชมของเขาอยากดูอะไรและสนใจคอนเทนต์แนวไหน อย่าลืมสิว่าอินฟลูเอนเซอร์ถูกติดตามเพราะคอนเทนต์ที่พวกเขาสร้าง พวกเขาจึงไม่อยากเสียผู้ติดตาม บางครั้งแค่ให้ใส่หรือใช้สินค้าก็เพียงพอแล้ว อ้างอิงจากบางแหล่ง หุ้นส่วนของอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok อาจคิดราคา $500 ถึง $5,000 ต่อหนึ่งโพสต์ ( ขึ้นอยู่กับอินฟลูเอนเซอร์และแคมเปญ )
TikTok เสนอคอนเทนต์ของผู้ใช้ทั้งหมดตามขั้นตอน ( หรือ “ดัน” ) ขั้นตอนแรกคือการทดสอบวิดีโอของคุณ ถ้าคอนเทนต์ของคุณอยู่ในอันดับที่สูง ( พิจารณาว่าอยู่เหนือเกณฑ์ที่กำหนด ) ก็จะไปสู่ขั้นตอนที่สอง กุญแจสำคัญในการผ่านขั้นตอนทั้งหมดคือ อัตราการแข่งขันวิดีโอที่ควรอยู่สูงกว่า 95% วิธีชวนผู้ใช้ให้ดูคอนเทนต์ของคุณจนจบ? หัวเรื่อง, ปริศนา และกลอุบายช่วยคุณได้ ( เฉพาะในกรณีที่คอนเทนต์นั้นน่าสนใจจริง ๆ ) อีกอย่าง หากผู้ใช้ดูวิดีโอของคุณหลายครั้ง อัตราการแข่งขันอาจพุ่งทะลุ 100%
ในปี 2020 TikTok เพิ่ม "ของในโลกเสมือน" ในฟีเจอร์ "Small Gestures" โดยมีแบบมาจากการให้ของขวัญออนไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากในจีน แบรนด์ความงามเข้าร่วมกับ TikTok เพื่อโฆษณาฟีเจอร์ใหม่นี้ ที่ถูกปล่อยออกมาเนื่องจากการล็อกดาวน์ทั่วโลก "เพื่อสร้างความรู้สึกของการสนับสนุนและการมีส่วนร่วมกับชุมชนของ TikTok ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเหล่านี้" ยิ่งไปกว่านั้น ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2020 TikTok ปล่อยฟีเจอร์ "โหมดความปลอดภัยของครอบครัว" สำหรับให้ผู้ปกครองควบคุมกิจกรรมออนไลน์ของลูก ๆ ฟีเจอร์นี้ รวมถึงโหมดจำกัดเนื้อหา, จำกัดข้อความส่วนตัว และการจัดการเวลาบนหน้าจอ
ข้อสำคัญ : ผู้ชมบน TikTok สนใจคอนเทนต์บันเทิงที่มีเอกลักษณ์, ไม่ใช่วิดีโอในคุณภาพสูงในระดับสตูดิโอมืออาชีพ จำไว้เสมอว่าในระหว่างที่สร้างวิดีโอสำหรับช่องแบรนด์ของคุณ ให้ทำ Hashtag challenge หรือทำการตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์
การมีปฏิสัมพันธ์บนโลกออนไลน์ของผู้คนกำลังเปลี่ยนแปลงไป อัปเดตส่วนตัวเริ่มดูไม่น่าสนใจ นี้คือหนึ่งในเหตุผลที่ช่องในโซเชียลเริ่มเอียงมาสายเอนเตอร์เทนกันมากขึ้น เทรนด์ล่าสุดนี้เรียกว่า “Passive browsing”
ตัวแอปที่รวบรวมชุมชนจากทั่วโลก, เทรนด์, ความคิดสร้างสรรค์ และความบันเทิงเข้าด้วยกัน Hashtag challenge เป็นกระแสโด่งดัง และกระตุ้นให้ผู้ใช้ TikTok สร้างคอนเทนต์ในวิดีโอของพวกเขาเอง
เมื่อปีที่แล้ว โดยเฉพาะช่วงล็อกดาวน์ หลายแบรนด์สนใจให้ TikTok เป็นวิธีดึงดูดความสนใจ, สร้างแบรนด์, การรับรู้แบรนด์และเพิ่มลูกค้าใหม่ TikTok มีแนวโน้มเป็นสื่อโซเชียลมีเดียชั้นนำ เพราะขนาดตัวแอปยังแย่งซีน และความสนใจจากเหล่าคนดังและแบรนด์ชั้นนำอย่าง NBA, วิลล์ สมิธ, เดอะวอชิงตันโพสต์, ฯลฯ
ลองคิดดู! ขนาดมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลส์ยังขยายสถานะทางโซเชียลมีเดียผ่าน TikTok เพื่อให้เป็นที่จดจำและรับนักเรียนใหม่เพิ่มขึ้นเลย!
ชาเลนจ์ของ Kroger บริษัทค้าปลีกของอเมริกาคืออีกตัวอย่างของการประสบความสำเร็จในแคมเปญการตลาดของ TikTok บริษัทจัด Hashtag challenge ที่เกี่ยวกับ Back-to-school #TransformUrDorm ด้วยความช่วยเหลือของอินฟลูเอนเซอร์บน TikTok หลายคน แต่ส่วนที่ดีที่สุดของชาเลนจ์คือการที่ผู้ใช้สามารถเข้าร่วมในชาเลนจ์ของสินค้าจาก Kroger ที่พวกเขาซื้อมาจากเว็บไซต์ Kroger ภายในแอปของ TikTok ( แค่คลิกแถบค้นพบเพิ่มเติม ) แม้ว่าฟีเจอร์ยังอยู่ในช่วง Beta-testing, เราทุกคนหวังว่าแอปจะมีฟีเจอร์ซื้อสินค้า เพื่อให้กลายเป็นสวนผลไม้สำหรับนักทำการตลาด Affiliate หากคุณไม่คุ้นกับแพลตฟอร์ม ถึงเวลาทำความรู้จักแล้วเพื่อนใหม่อย่าง TikTok แล้ว
TikTok ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและขยายการเข้าถึง ตัวแพลตฟอร์มต้องการคอนเทนต์เพิ่มจากผู้ใช้ นี้หมายความว่าอะไร? นี้หมายความว่าแพลตฟอร์มมอบโอกาสให้คุณสร้างคอนเทนต์ในแบบตัวของคุณเอง และสร้าง Traffic แบบ Organic ( ฟรี ) ให้กับธุรกิจของคุณ