จะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า การจัดหน้าเว็บไซต์ให้ดูดีมีรูปแบบน่าสนใจ เป็นส่วนประกอบสำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ
การจัดวางรูปแบบให้เหมาะสมประกอบไปด้วยองค์ประกอบที่จะก่อให้เกิดความน่าสนใจดึงดูดให้กับผู้ที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของเราแล้วมีแนวโน้มจะกลายมาเป็นลูกค้าของเราได้ และพวกเขาเหล่านั้นก็อาจจะแนะนำคนอื่นให้เข้ามาชมสินค้าที่ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้อีกเช่นกัน
คนที่มีแนวโน้มอาจจะเป็นลูกค้าของเราพวกเขาจะไม่ลังเลเลยถ้าหากว่าหน้าตาเว็บไซต์ของเราดูแล้วน่าปวดหัว มีข้อผิดพลาดหลายอย่างที่เราสามารถหลีกเลี่ยงได้ดังนี้:
จากผลลัพธ์ที่ได้ ให้หันมาจัดการถึงภาพลักษณ์ที่มองดูแล้วสบายตาดีกว่าที่จะปล่อยให้ลูกค้าจากไปอย่างไม่ใยดี การลงทุนเพื่อการพัฒนาที่จะได้มาซึ่งภาพลักษณ์ของเว็บไซต์นั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก รูปแบบของเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาข้อมูลและสีสันที่สะกดคนดูให้เกิดความอยากรู้อยากค้นหาผ่านเว็บไซต์
สร้างคุณสมบัติให้มี “เอกลักษณ์และมาตรฐาน” (standard unique)
ให้โฟกัสไปที่สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เราอยากทำเกี่ยวกับธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต: อะไรที่ทำให้ร้านค้าของเราแตกต่างไปจากร้านอื่น?
หัวใจหลักคือ จุดขายที่มีเอกลักษณ์และไม่เหมือนใคร หรือ USP และต้องคิดเอาไว้ด้วยว่า บางทีการแข่งขันอาจจะมีความรุนแรงขึ้นอยู่กับตลาดกลุ่มเป้าหมายที่คุณเลือกติดตาม ธุรกิจโมเดลร้านค้าออนไลน์มีหลายตัวที่ประสบความสำเร็จที่ใช้ USP ช่วยให้คุณโดดเด่นออกจากคู่แข่ง
ในปัจจุบันการค้าขายสินค้าคล้ายกัน เดี๋ยวนี้ผู้ซื้อเขามองออก แต่ถ้าเรามีลูกเล่นจัดทำให้มันแตกต่าง ก็ย่อมสู้ตลาดที่มีสินค้าคล้ายกันได้
จำเอาไว้ว่าธุรกิจ dropshipping ที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่นั้นไม่เหมือนธุรกิจ dropshipping ทั่วไป ต้องมีความมั่นใจและรับความเสี่ยงในธุรกิจของคุณให้ได้ แล้วคุณจะประหลาดใจกับจำนวนลูกค้าที่ติตามคุณไปตลอด
เรามาดูกรณีศึกษาทั้งสามร้านค้าออนไลน์นี้ว่า พวกเขามีข้ออะไรที่สอดคล้องกับสิ่งที่ระบุไว้ก่อนหน้าอย่างไร พวกเขาได้ทดลองผิดทดลองถูกอะไรบ้าง?
เรามาเริ่มดูตัวอย่างแรกที่เกิดผลกระทบเกี่ยวกับธุรกิจ dropshipping ก่อนเลย ซึ่ง Buy It Carl เป็นร้านค้าทั่วไปที่มีสินค้าให้เลือกมากมายแต่ไม่ได้เน้นไปที่สินค้าตัวใดตัวหนึ่งเป็นหลัก
ยอดนี้รวมถึงรายได้ประจำอย่างด้วย
ภาพด้านบนแสดงตัวอย่างของรายได้ในแต่วันทั่วไป และจากการสะสมรายได้เหล่านี้ก่อให้เกิดเป็นรายได้รายวัน
แค่มองที่หน้าเพจครู่เดียวก็รู้ได้ cvghio0-=แล้วว่าร้านนี้มีอะไรน่าสนใจอย่างไร เพราะมีหมวดหมู่สินค้ามองหาได้ง่าย ไม่เกิดความยุ่งยากในการค้นหาสินค้า
นอกเหนือไปจากนั้น ปุ่มค้นหาสินค้า ก็มองง่ายเพราะอยู่ด้านบนสุดของหน้าเพจ จึงส่งผลให้ลูกค้าสามารถค้นหาสินค้าได้อย่างง่ายดาย
และยังมีภาพ รถเข็นใส่สินค้า ที่มองเห็นเด่นชัดอยู่ขวามือด้านบนสุด ทำให้ลูกค้าสามารถมองเห็นได้ว่าตัวเองได้สั่งสินค้าไปแล้วกี่ชิ้น จึงทำให้ผู้ที่เข้ามาชมที่เพจเกิดความสนใจ เพราะที่หน้าโฮมเพจแสดงรายละเอียดอย่างเห็นได้ชัดเจน
อย่างที่คุณสามารถมองเห็นได้ว่า ข้อความหัวข้อต่างๆ ถูกจัดวางได้อย่างลงตัว ทำให้ลูกค้ามองเห็นข้อมูลหัวข้อที่สำคัญที่ตัวเองต้องการอย่างชัดเจนไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลการติดต่อ ข้อมูลธุรกิจสินค้า และข้อมูลการสั่งซื้อ
และยังมีข้อความที่ทางร้านค้าให้บริการที่สามารถมาองเห็นได้อย่าง “ส่งคืนฟรีไม่เสียค่าส่ง” “ส่งสินค้าฟรี” และยังมี “การการันตีการคืนเงิน”
เรามาดูกันว่าร้านนี้มีวิธีจัดการอย่างไร
จะสรุปได้ 3 ขั้นตอน 1.เราจะดูถึงข้อมูลทั่วไปและข้อมูลเฉพาะของร้านค้า 2.เราจะมาพิจารณาถึง keyword และ จำนวนผู้เข้าชม 3.เราจะมาเปรียบเทียบต้นทุนทั้งหมดกับรายได้ทั้งหมดหลังจากที่ได้ประมาณการถึงต้นทุนของสองส่วนแรก
อย่างแรก เรามาดูความเก่าว่าร้านนี้มีมานานหรือยัง จากนั้นเราก็มาดูว่าเจ้าของใช้แพลตฟอร์มอะไรในการโฮสต์ และข้อมูลเบื้องหลังอื่นๆ โดยพื้นฐานแล้ว ร้านนี้มีโครงสร้างอย่างไร
อ้างอิงจาก who.is เว็บไซต์ของร้านี้จดทะเบียนผ่าน GoDaddy.com เป็นโดเมนสำหรับจดชื่อเว็บไซต์เกี่ยวกับลาดออนไลน์ จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2015 มีอายุประมาณ 7 ปี 8 เดือน และเว็บไซต์ และอ้างอิงตามเว็บไซต์เดียวกัน ทำให้ไซต์ของร้านค้านี้ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ที่ $1,179 ดอลลาร์สหรัฐฯ
ทีนี้เราก็มาดูที่แพลตฟอร์มที่ร้านนี้ใช้โฮสต์นั่นก็คือ Leaseweb เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญในการให้บริการด้าน cloud แบบออนไลน์ การโฮสต์ไซต์ เนื่องจากไซต์นี้เป็นอีคอมเมิร์ซ มีความเข้าใจใช้ระบบจัดการคอนเทนต์ที่เป็นประโยชน์ อย่างใช้ WordPress 5.8.5 เป็นระบบจัดการคอนเทนต์ที่ใช้ cmsdetect.com ดังนั้น จึงมีรูปแบบของ WordPress ที่เหมาะสมมากมายสำหรับเอาใช้กับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ อย่าง E1-Greco ทางร้านก็เลือกใช้เหมือนกัน และเพิ่มเติมส่วนที่ใช้สำหรับ plugins อย่างเช่น Adsfbcatalog, Alids, Alids Ga Enhanced E-commerce และ Yoast SEO ก็ถูกใช้ด้วยเหมือนกัน
ในขั้นตอนนี้ เราจะมาตรวจสอบดูว่าร้านนี้มีคนเข้ามาใช้มากน้อยแค่ไหน จากการวิเคราะห์ของ Similarweb จากเดือน มิถุนาย ถึง สิงหาคม 2022 มีจำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด 15,688 ราย เฉลี่ยแล้วประมาณ 5,299 รายต่อเดือน ใช้ระยะเวลาในการเข้าชมเพจเฉลี่ยที่ 4.57 หน้าต่อ 2:47 นาที และมีอัตราการตีกลับที่ 42.32% สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับจำนวนการเช้าชมร้านนี้คือ จำนวนลูกค้าที่มาจากการค้นหาโดยเฉพาะ จึงส่งผลให้เห็นว่าร้านนี้จัดอยู่ในอันที่ดีของระบบ search engines
ตามที่ได้กล่าวมาแล้วก่อนหน้าว่า มูลค่าปัจจุบันของเว็บไซต์ร้านนี้อ้างอิงจาก GoDaddy.com นั่นคือราคา $1,179 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งราคานี้เป็นแพ็คเกจสำหรับโฮสติ้งอย่างเดียว แต่ก็ไม่แน่ใจว่าใช้แพ็คเกจไหน แต่แพ็คเกจที่สูงสุดที่ GoDaddy.com ให้บริการคือราคา £15 ปอนด์ ถ้าคิดต่อปีอยู่ที่ราคา £180 ปอนด์ บนเว็บไซต์ใช้ธีม E1-Greco ราคา 67 ดอลลาร์สหรัฐ ราคานี้จ่ายครั้งเดียวจบ
เรามาดูกันว่า Mr.Instrument เป็นตัวอย่างร้านค้าออนไลน์ที่สองที่ขายสินค้าเกี่ยวกับเครื่องมือซ่อมแซมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเกี่ยวกับบ้านที่ค่อนข้างประสบความสำเร็จดีมากอีกร้านหนึ่ง
ขายเฉพาะอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านอย่างเดียวก็ทำรายได้มากถึง $6,000 ดอลลาร์ต่อเดือนเลยทีเดียว
ภาพของรายได้ประจำ
ก็มีรูปแบบเหมือนกับเคสแรก แต่ร้าน Mr.Instrument ได้มีการวิวัฒนาออกแบบจึงทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางยอดขายได้มากมายขึ้นก็ให้เกิดได้เปรียบหลายทาง ตรวจสอบได้ว่าอะไรที่ทำให้ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านค้า dropshipping ที่พวกเรารวบรวมมาเป็นร้านที่มีคนเข้าซื้อเยอะกว่าร้านอื่น นั่นก็คือสินค้า เรามาดูกันอันดับแรกว่าหน้าเพจที่ขายสินค้าเป็นอย่างไร
เห็นได้ว่าการจัดภาพหน้าเพจดูดีแม้จะมีภาพสินค้าหลายภาพที่แสดงให้เห็นในมุมที่แตกต่างกันไป ทำให้อ่านง่าย และทำให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่าย เพราะว่าลูกค้าสามารถเลือกสีและจำนวนของสินค้าได้ตามที่ต้องการ ซึ่งขั้นตอนการซื้อก็เรียบง่าย
และยังมีป้ายลดราคาที่แสดงให้ลุูกค้าเห็นได้สะดวกว่าลดราคาไปเท่าไหร่ จึงทำทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้ขั้นตอนการตัดสินใจซื้อสินค้านั้นดูลื่นไหลไม่ติดขัด และมีองค์ประกอบที่สำคัญอีกสิ่งหนึ่งคือ การอธิบายถึงคุณลักษณะของสินค้า ทำให้ลูกค้าเข้าใจตัวสินค้าได้มากขึ้น
ถ้าเราแค่มองดูที่ข้อมูลของสินค้า ก็จะเห็นคุณสมบัติของสินค้าที่ถูกเขียนอธิบายไว้อย่างดีช่วยทำให้สินค้าอาจขายออกได้ง่ายขึ้น
เช่นเดียวกันกับร้านค้าแรกที่เราได้วิเคราะห์ไป ก็จะยังคงประกอบไปด้วยสามส่วนที่เน้นการทำงานของร้าน ปริมาณการใช้ข้อมูล และค่าใช้จ่ายทั้งหมด
เว็บไซต์ของร้านี้ลงทะเบียนผ่าน GoDaddy.com เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2019 เปิดมาได้แล้ว 2 ปี กับ 10 เดือน
เว็บไซต์ Mr.Instrument โฮสต์บนแพลตฟอร์ม Leaseweb ใช้ระบบจัดการคอนเทนต์เป็น WordPress ใช้ธีม E1-theme Greco’s จาก Alidropship และใช้ส่วน plugins เป็น Adsbulkdiscount, Yoast Seo และ Adsfbcatalog รวมอยู่ในทั้งหมด
จากการอ้างอิงของ similarweb.com ว่าเว็บไซต์ Mr.Instrument มีคนเข้าชมเว็บไซต์น้อยกว่า 5,000 ราย ในระหว่างเดือน มิถุนายน ถึงเดือน สิงหาคม เฉลี่ยการเข้าชมเว็บไซต์ใช้เวลาน้อยที่สุด 1.53 นาที อย่างน้อย 5 หน้าเพจ นอกจากข้อมูลของเว็บที่คล้ายกัน การเข้าชมเว็บส่วนใหญ่ก็มาจากการอ้างอิงจากลูกค้าเก่าของเว็บไซต์
ปัจจุบันของโดเมนร้านมีมูลค่าอยู่ที่ $1,284 ดอลลาร์สหรัฐฯ อ้างอิงจาก Godday นอกเหนือจากนี้ ตามเนื้อหาที่ได้ระบุใว้ก่อนหน้า ราคาของธีม WordPress ที่ใช้สำหรับร้านค้ามีราคาอยู่ที่ $67 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่อย่าลืมว่ามีค่า โฮสติ้ง ตกอยู่ที่ประมาณ £15 ปอนด์ต่อเดือน
เรามาดูที่ร้าน Gardenient ที่เป็นร้าน dropshipping ที่ขายสินค้าเกี่ยวกับบ้านและสวน
ร้าน Gardenient ทำยอดขายได้ $16,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน
อะไรที่ทำให้คนตัดสินใจได้อย่างถูกต้องก่อนที่จะเลือกซื้อ? แน่นอนว่าต้องเป็นการจัดอันดับ
ปัจจุบันนี้ลูกค้าให้ความเชื่อใจลูกค้าด้วยกันเองมากกว่าที่จะเชื่อในสินค้าหรือโฆษณา ด้วยเหตุนี้ การตลาดจึงนำประโยชน์จากลูกค้าที่มีประสบการณ์จากการใช้สินค้ามารีวิว จนทำให้ร้านค้า dropshipping มียอดขายดี
การรีวิวสินค้าจากประสบการณ์โดยตรงของลูกค้าช่วยให้การตัดสินใจซื้ออย่างสะดวก เพราะเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับประสบการณ์ของลูกค้ารายอื่น ยิ่งมีภาพประกอบด้วย โอกาสที่คนจะซื้อสินค้านั้นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นไปอีก
เว็บไซต์จดทะเบียนเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2020 ด้วยชื่อ cheap และโฮสต์บนแพลตฟอร์ม Leaseweb ใช้ระบบจัดการคอนเทนต์บน WordPress ธีมของร้านเป็น E1-Greco และ plugins ที่ใช้มี Adsbulkdiscount, Adsbundle, Adsfbcatalog, Alids, Alids Ga Enchanced E-commerce, Popup Builder by OptinMonster (WordsPress Popups for Options, Email Newsletter, Lead Generation) และ Yoast SEO
ค่าเฉลี่ยของผู้เข้าชมเว็บไซต์ในสามเดือนที่ผ่านมามีน้อยกว่า 5,000 ราย ระยะเวลาเฉลี่ยต่อการเข้าชมหนึ่งครั้งคือ 14 วินาทีต่อสองหน้าเพจ สังเกตได้ว่าการเข้าชมส่วนใหญ่มาจากการอ้างอิงจากลูกค้าเก่าของเว็บไซต์
ณ ปัจจุบันนี้พอจะคาดเดาได้ว่า มูลค่าเว็บไซต์ของ Gardenient มีมูลค่าอยู่ที่ $908 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นอยู่กับโครงสร้างและรูปแบบของเว็บไซต์ จากการพิจารณาแล้วค่าใช้จ่ายก็พอกับร้านอื่นก่อนหน้านี้
บทสรุป
จากตัวอย่างที่น่าสนใจของ dropshipping เหล่านี้ เมื่อพิจารณาตามเหตุผล หากคุณต้องการสร้างร้านค้าออนไลน์และอยากประสบความสำเร็จ คุณต้องมีการออกแบบเว็บที่ใช้งานง่าย ต้องมีภาพที่สวยคมชัด สีสันต้องประทับใจคนคู สะอาด ตัวอักษรทันสมัย อย่าออกแบบให้หน้าเพจดูรก เพราะเมื่อลุกค้าเห็นแล้วต้องมีความรู้สึกที่อยากจะซื้อสินค้า เหมือนตัวอย่างที่ได้แสดงไว้ด้านบน
โดยรวมแล้วควรออกแบบเว็บไซต์ให้เรียบง่าย สะดวกต่อลูกค้าในการมองหาสินค้าที่ตัวเองต้องการได้สะดวก และยิ่งเป็นเว็บไซต์สมัยใหม่ควรออกแบบให้ตอบสนองต่ออุปกรณ์เคลื่อนที่ด้วย เหตุผลง่ายๆ ที่ว่าความล้มเหลวในการสร้างเว็บไซต์ที่เหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่อาจส่งผลให้สูญเสียผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าจำนวนมากได้