ร้านค้าดร็อปชิป (Dropshipping) ทำรายได้เกือบ $1,000 เหรียญสหรัฐฯ ในสัปดาห์แรก

ซาร่าไฟแนนซ์ (Sara Finance) เป็นผู้ประกอบการออนไลน์ที่เชี่ยวชาญด้านธุรกิจดร็อปชิป การลงทุนและทำเงินออนไลน์ ในบทความนี้เราจะแสดงให้คุณเห็นว่าเธอสร้างรายได้มากกว่า $ 800 ดอลลาร์ ในสัปดาห์แรกของธุรกิจดร็อปชิปได้อย่างไร ซึ่งเป็นไปได้ที่จะได้รับรายได้ $ 1,000 ดอลลาร์หรือมากกว่านั้นในสัปดาห์แรกโดยใช้กลยุทธ์ของเธอ

เธอไม่ได้ใช้เงินเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย ดังนั้นหากคุณต้องการเริ่มต้นธุรกิจดร็อปชิปโดยไม่ต้องเสียเงิน บทความนี้จึงเหมาะสำหรับคุณ ให้เราพาคุณไปเรียนรู้ว่าเธอสร้างบริษัทของเธอตั้งแต่เริ่มต้นอย่างไร

วันที่ 1

ตารางงานของซาร่าในวันแรกมีกิจกรรมดังต่อไปนี้:

• ค้นหาสินค้าที่ขายดี
• ค้นหาซัพพลายเออร์
• มองหาผลิตภัณฑ์ฟรี
• เริ่มต้นสร้างร้านค้า Shopify ของเธอ

วิธีการหาสินค้าที่จะขายดี

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

        "ฉันพบว่าสินค้าของฉันเป็นไวรัลประมาณ 99 เปอร์เซ็นต์บน TikTok"

นี่คือภาพหน้าจอของบัญชี TikTok ของซาร่าที่มีผู้ติดตาม 724,000 คนและมียอดไลค์ 13.4 ล้าน

ฉะนั้นเรามาพูดถึงกลยุทธ์ของเธอและวิธีที่คุณจะนำไปทำด้วยตัวเอง ค้นหาคำว่า "TikTok Made Me Buy It" แต่เขียนเป็นแฮชแท็ก: "TikTokMadeMeBuyIt"

คลิกที่ไอคอนเล็กๆคำว่า "สมัคร" ที่มุมขวาบนเพื่อแจ้งเตือนอัลกอริทึมการค้นหาของ TikTok ให้เริ่มเตรียมรายการผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของ TikTok ที่คุณสามารถโปรโมตด้วยแฮชแท็กดังกล่าว

เปลี่ยนวันที่โพสต์เป็นเดือนปัจจุบันเพื่อให้สามารถแสดงรายการสินค้าเกี่ยวข้องที่ได้รับรางวัลล่าสุด และค้นหาอย่างละเอียดเพื่อมองหาสินค้าที่จะขายดี ตัวอย่างเช่นเธอที่เลือกเครื่องม้วนผมไร้สาย

นี่เป็นตัวอย่างของทรงผมผู้หญิงที่ใช้สินค้าชิ้นนี้

เครื่องม้วนผมไร้สาย

เครื่องม้วนผมไร้สายช่วยให้ผู้หญิงจัดทรงผมได้ทุกที่ และใน TikTok มีร้านค้ามากมายที่ขายสินค้าชิ้นนี้และทำได้ดีมาก ซาร่าเชื่อว่าเธอสามารถขายสินค้านี้ได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

แฮชแท็กที่คุณสามารถใช้เพื่อค้นหาสินค้าที่ชนะรางวัล

• ค่าปรับของอเมซอน ใช้แฮชแท็ก: #AmazonFines
• ผู้ขายดร็อปชิปถูกเปิดเผย #DropShippersExposed
• สินค้าไวรัลบน TikTok #TikTokViralProducts

ด้วยแฮชแท็กทั้งสามรายการด้านบนนี้ คุณสามารถค้นหาสินค้าไวรัสเพื่อขายและทำกำไรได้ แต่จำไว้ว่าสินค้าของคุณมักจะมีผู้ขายดร็อปชิปที่ประสบความสำเร็จในการโปรโมตผลิตภัณฑ์นั้นอยู่แล้ว ดังนั้นคุณควรลองตรวจสอบคนโปรโมตเหล่านี้และเรียนรู้จากพวกเขา นี่คือภาพหน้าจอของผู้มีอิทธิพลใน TikTok ที่โปรโมตเครื่องม้วนผมไร้สายที่คล้ายกัน

วิธีค้นหาซัพพลายเออร์

มีหลายแพลตฟอร์มที่เราสามารถหาซัพพลายเออร์ได้ แต่ซาร่าเลือก “Spocket” คุณต้องค้นหาแพลตฟอร์มที่คุณเลือกอย่างละเอียดเพื่อหาสินค้าที่ดีที่สุด มองหาซัพพลายเออร์ที่มีชื่อเสียง ซึ่งก็คือผู้ที่ได้รับคำวิจารณ์เชิงบวกจากลูกค้ารายก่อนๆ เปรียบเทียบเวลาจัดส่งของซัพพลายเออร์กับซัพพลายเออร์รายอื่นเพื่อพิจารณาว่าบริการมีประสิทธิภาพเพียงใด อย่าลืมดูจำนวนและเปอร์เซ็นต์ของสินค้าที่ส่งคืนด้วย ข้อควรพิจารณาทั้งหมดนี้มีความสำคัญในการเลือกซัพพลายเออร์สำหรับสินค้าของคุณ ในกรณีนี้ซาร่าพบซัพพลายเออร์ที่ตรงตามเกณฑ์ข้างต้นเกือบทั้งหมด นี่คือภาพหน้าจอที่เธอเลือก

ลิสราคาคือ 28.30 ดอลลาร์ ซึ่งสมเหตุสมผลมาก และเวลาดำเนินการและเวลาจัดส่งคือ 7 ถึง 14 วันทำการ ซึ่งก็สมเหตุสมผลมากเช่นกัน ซาร่าวางแผนที่จะย้ายสินค้าไปยังร้านค้า Shopify ของเธอและขายในราคา 59.99 ดอลลาร์ แต่ราคาขายปลีกที่แนะนำคือ 111.46 ดอลลาร์ กลยุทธ์ของเธอคือขายในราคาที่ถูกลงเพื่อที่เธอจะได้ขายในปริมาณมากขึ้นและทำกำไรได้มากขึ้น

นี่คือร้านค้าที่ขายสินค้าที่คล้ายกันในราคา 109.99 ดอลลาร์

การขายในราคาที่มีส่วนลดจะทำให้คุณสามารถขายสินค้าจำนวนมากในช่วงเวลาสั้น ๆ เพราะหากผู้ซื้อเห็นราคาของคุณเป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของคู่แข่ง พวกเขามีแนวโน้มจะซื้อจากร้านค้าของคุณมากกว่า

สินค้าที่สองของซาร่า

เพื่อให้ร้านค้าของเธอมียอดขายเพิ่มขึ้น เธอได้เพิ่มสเปรย์ป้องกันความร้อนของ Hairworth Hairembrace ซึ่งเธอพบจาก Spocket ด้วย

ให้เราดูที่กลยุทธ์ของไลน์ผลิตภัณฑ์นี้:

• ผลิตภัณฑ์ 1 — เครื่องม้วนผมไร้สาย
• ผลิตภัณฑ์ที่ 2 — สเปรย์ป้องกันความร้อนของ Hairworthy Hairembrace ป้องกันความเสียหายจากความร้อนขณะจัดแต่งทรง มีส่วนช่วยในการลดความชี้ฟูของเส้นผมและสเปรย์น้ำหนักเบาสร้างเกราะป้องกันความร้อนที่มองไม่เห็นเพื่อป้องกันอุณหภูมิที่สูงถึง 230 องศาเซลเซียส (446 องศาฟาเรนไฮต์) อย่างที่คุณเห็น ผลิตภัณฑ์นี้เสริมผลิตภัณฑ์ที่หนึ่งด้านบน เนื่องจากมีราคาไม่แพง คนส่วนใหญ่ที่ซื้อเครื่องม้วนผมแบบไร้สายมักจะซื้อผลิตภัณฑ์ที่สองนี้ด้วย มีราคา 8.27 ดอลลาร์ โดยมีราคาขายปลีกอยู่ที่ 18.00 ดอลลาร์ แน่นอน คุณสามารถขายได้ในราคาต่ำกว่า 18.27 ดอลลาร์ แต่มากกว่าราคาที่ประกาศไว้ อย่างไรก็ตามซาร่าเชื่อว่าผลิตภัณฑ์นี้ช่วยเสริมสินค้าหลักของเธอ และเธอตัดสินใจที่จะขายในราคา 19.99 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาขายปลีกที่แนะนำ

​​​วิธีสร้างร้านค้า Shopify ของคุณ

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

"ฉันเริ่มสร้างร้านค้า Shopify ของฉัน และต้องการให้ร้านค้าของฉันดูเหมือนแบรนด์จริง ดังนั้นคงจะต้องใช้เวลามากกว่านี้หน่อยในการสร้างมันตอนนี้"

วันที่ 2

นี่คือกำหนดการของเธอสำหรับวันที่สอง:

• ออกแบบร้านของเธอให้เสร็จ
• เพิ่ม “AfterSel”l ยอดขายหลังการซื้อ
• เริ่มโฆษณาสินค้าของเธอ

​​รายละเอียดร้านค้า Shopify ของซาร่า

ซาร่าสร้างร้านค้า Shopify ของเธอเสร็จในวันที่สอง และมันก็เรียบง่ายและสะอาดตา ด้านล่างนี้คือภาพหน้าจอของลูกค้าถูกเปลี่ยนรูปแบบไป เธอเพิ่มสิ่งต่อไปนี้ในหน้าแลนดิ้ง:

• เครื่องม้วนผมไร้สาย.
• ราคา — 59.99 ดอลลาร์
• สีต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ — โรสโกลด์ น้ำเงิน เทา ฯลฯ
• ตัวเลือกการชำระเงิน — PayPal
• ตัวจับเวลาการขายเพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วน
• รูปภาพคุณภาพสูง
• คำชี้แจงเพื่อสร้างความไว้วางใจให้กับลูกค้า

• คำถามที่พบบ่อย.
• สิ่งที่รวมอยู่ในแพ็คเกจ
• รายละเอียดเนื้อหาในบรรจุภัณฑ์และประโยชน์ของการซื้อเครื่องม้วนผมไร้สาย

• รับประกันคืนเงินภายใน 30 วัน ลูกค้าจำนวนมากจะไม่ซื้อสินค้าของคุณหากคุณไม่เพิ่มเนื้อหาส่วนนี้เข้าไป

• คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีการใช้เครื่องม้วนผมไร้สาย ต้องอธิบายวิธีใช้ผลิตภัณฑ์อย่างตรงไปตรงมา

• ความคิดเห็นของลูกค้าสามารถดูได้ที่ด้านล่างของหน้า เธอนำบทวิจารณ์ทั้งหมดมาเขียนที่ร้านของเธอในตอนแรก แต่เธอมักจะมีบทวิจารณ์จากลูกค้าจริงสำหรับสินค้าของเธอ หากคุณทำซ้ำสิ่งที่เรากำลังสอนคุณในบทความนี้ คุณจะเริ่มได้รับคำติชมที่แท้จริงเกี่ยวกับร้านค้าของคุณ

วิธีเพิ่มยอดขายหลังการซื้อ

หลังจากสร้างร้านค้า Shopify เรียบร้อย เธอเพิ่มแอป Shopify ชื่อ "AfterSell" เพื่อเพิ่มรายได้

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

"ฉันเพิ่ม AfterSell เพราะมันสามารถเพิ่มรายได้ของฉันจาก 10 เป็น 15 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันต้องการจริงๆ และ AfterSell ใช้สำหรับการเพิ่มยอดขายหลังการซื้อ"

เมื่อคุณเสนอสินค้าให้กับลูกค้าหลังจากที่พวกเขาซื้อสินค้าบางอย่างจากร้านค้าของคุณแล้ว สิ่งนี้เรียกว่าการขายเพิ่มหลังการซื้อ ซาร่ารวมสเปรย์ป้องกันความร้อนไว้ด้วยเพราะใช้ได้ดีกับเครื่องม้วนผมไร้สาย การขายเพิ่มหลังการซื้อทำงานได้ดีเพราะหากลูกค้าเพิ่งซื้อของจากร้านค้าของคุณไป เขาก็มีแนวโน้มจะซื้ออย่างอื่นจากคุณเช่นกัน ท้ายที่สุดคุณก็ได้สร้างความไว้วางใจเรียบร้อยแล้ว

ส่วนลดการขายเพิ่มหลังการซื้อ

หากคุณเสนอส่วนลดสำหรับการขายเพิ่มหลังการซื้อ คุณจะขายได้มากขึ้น ซาร่าตัดสินใจเสนอส่วนลด 25% และทำราคาใหม่อยู่ที่ 14.99 ดอลลาร์เพื่อดึงดูดให้พวกเขาซื้อมากขึ้น อย่างไรก็ตามอย่าให้ส่วนลดสินค้าแก่พวกเขาก่อนที่จะซื้อเพราะมีแต่จะทำให้พวกเขาสับสนและทำให้พวกเขาไม่สนใจสินค้าของคุณ

วิธีโฆษณาผลิตภัณฑ์ของคุณ

โดยปกติแล้วเป็นเรื่องยากสำหรับมือใหม่ในการโฆษณาสินค้าดร็อปชิป เนื่องจากพวกเขามักไม่มีเงินที่จะทำ แต่ซาร่ามีวิธีแก้ไข เธอต้องการใช้ประโยชน์จากการสร้างวิดีโอไวรัลบน TikTok, Instagram หรือ Pinterest ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะสร้างวิดีโอไวรัลบนแพลตฟอร์มเหล่านี้

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

"สิ่งที่ฉันทำคือการสั่งสินค้ามาที่บ้านและทำวิดีโอ หรือบางครั้งฉันก็จ้างคนใน Upwork ให้ทำวิดีโอให้ฉัน แต่ในกรณีนี้ เนื่องจากฉันมีเวลาไม่มาก สิ่งที่จะทำคือไปที่ TikTok และพยายามหาวิดีโอที่อินฟลูเอนเซอร์ของ TikTok ใช้อยู่แล้วเพื่อโปรโมตที่ม้วนผมไร้สาย ฉันกำลังจะลงเอยด้วยการโพสต์วิดีโอเหล่านั้นในบัญชีโซเชียลมีเดียของฉัน และแน่นอนว่าฉันจะให้เครดิตเจ้าของวิดีโอนั้นๆด้วย"

หากคุณกำลังสร้างธุรกิจระยะยาว คุณควรทำวิดีโอของคุณเอง แต่เนื่องจากคุณเพิ่งเริ่มต้น การใช้วิดีโอเหล่านี้จากอินฟลูเอนเซอจึงไม่เป็นไร

• ค้นหาวิดีโอดีๆ ที่คุณสามารถใช้ได้บน TikTok
• ตั้งค่าหน้าโซเชียลมีเดียทั้งหมดของคุณและใส่ลิงค์ร้านค้าของคุณในประวัติส่วนตัวของคุณ
• โพสต์ 1 ถึง 2 วิดีโอบนทุกแพลตฟอร์มของโซเชียลมีเดียทุกวัน

หนึ่งในวิดีโอทั้งหมดที่คุณโพสต์ทางออนไลน์คือสิ่งที่คุณต้องการให้มันเป็นไวรัลเพื่อสร้างรายได้มากกว่า 1,000 ดอลลาร์

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

“พูดตามตรง ตราบใดที่ฉันสามารถสร้างวิดีโอไวรัลด้วยสินค้าได้ และมีความต้องการสูง ฉันสามารถทำเงินได้เกือบ 1,000 ดอลลาร์ในสัปดาห์แรก"

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

ซาร่าได้สร้างบัญชี TikTok ใหม่เพื่อจุดประสงค์นี้ ดังนั้นคุณจึงสามารถทำได้หากคุณเป็นมือใหม่โดยสมบูรณ์ นี่คือบัญชีของเธอ

เธอโพสต์วิดีโอ 26 ตัวและมีผู้ติดตาม 108 คน มีผู้ถูกใจ 4,787 คน วิดีโอหนึ่งทำงานได้ดีอย่างยอดเยี่ยมด้วยจำนวนการดู 16,500 ครั้ง วิดีโอนี้เพียงพอที่จะทำให้เธอมีรายได้ประมาณ 1,000 ดอลลาร์ในสัปดาห์แรก

TikTok — วิธีทำให้บัญชีของคุณเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

มันง่ายมากที่จะมีผู้ติดตามจำนวนมากและยังได้รับการมีส่วนร่วมที่สูงมากหากคุณโพสต์เนื้อหาอย่างสม่ำเสมอและมีคุณภาพบน TikTok ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

"ใช้บัญชีใหม่เสมอ และใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องสำหรับวิดีโอของคุณ อย่าลืมติดตามเทรนด์และใช้เพลงที่กำลังมาแรงในวิดีโอของคุณ นอกจากนี้ดูว่าธุรกิจขนาดเล็กอื่นๆ กำลังทำอะไรบน TikTok และทำซ้ำ เพียงแค่วิดีโอไวรัลหนึ่งตัวบน TikTok ก็ทำให้ทั้งบัญชีของคุณดัง จงอดทนและสม่ำเสมอ แม้ว่าคุณจะไม่ได้รับยอดดูมากมายในช่วงแรก แค่ทำต่อไปและฉันสัญญาว่ามันจะคุ้มค่า"

Instagram

แคมเปญการตลาดบน Instagram ของเธอทำได้ไม่ดีนัก แต่วิดีโอสองตัวแรกมีจำนวนการดูที่เหมาะสม วิดีโอที่เหลือทำได้ไม่ดีนัก

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

"เพื่อให้ประสบความสำเร็จกับ Instagram คุณต้องสม่ำเสมออย่างน้อยหนึ่งเดือนจึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์"

Pinterest

เธอไม่ได้มีส่วนร่วมในบัญชี Pinterest ของเธอในสัปดาห์แรก

ตามที่ซาร่ากล่าวว่า

"ใน Pinterest คุณจะต้องโพสต์อย่างน้อยหนึ่งเดือนอย่างสม่ำเสมอหากต้องการดูผลลัพธ์"

ซาร่าทำเงินได้เท่าไหร่ในสัปดาห์แรก?

• ร้านค้าออนไลน์ — 719.88 ดอลลาร์
• AfterSell การเพิ่มยอดขายหลังการซื้อ — 119.94 ดอลลาร์
• ยอดขายรวม — 839.82 ดอลลาร์
• ระยะเวลา — 26 มีนาคม 2565 ถึง 2 เมษายน 2565 (7 วัน)

เธอทำเงินได้ 839.82 ดอลลาร์ในสัปดาห์แรกที่เปิดร้าน Shopify และผลลัพธ์นี้ก็ดีมาก โดยปกติแล้วคุณไม่ได้คาดหวังว่าจะทำเงินได้มากนักในสัปดาห์แรกเนื่องจากคุณจะต้องทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ อย่างที่คุณเห็น การใช้ AfterSell การเพิ่มยอดขายหลังการซื้อเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการเพิ่มรายได้ของคุณ

• เซสชันของร้านค้าออนไลน์ — 1,490 ราย
• ผู้เยี่ยมชมร้านค้า Shopify ของเธอ — 1 392 ราย
• อัตราลูกค้าที่กลับมา: 42.86 %
• มูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย — 41.99 ดอลลาร์
• ยอดสั่งซื้อทั้งหมด — 20 รายการ

สรุปรายได้

• แผน Shopify — 0 ดอลลาร์
• ค่าธรรมเนียม Shopify /PayPal — 30 ดอลลาร์
• ต้นทุนผลิตภัณฑ์ — 407.22 ดอลลาร์ (ค่าใช้จ่ายในการซื้อผลิตภัณฑ์และจ้างวิดีโอ)
• กำไรทั้งหมด — 432.60 ดอลลาร์
• อัตรากำไร — 50 %

บทสรุป

​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​​ด้วยผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมพร้อมกับการขายเพิ่มหลังการซื้อที่เหมาะสมและโปรโมตด้วยวิดีโอไวรัลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย คุณจะได้รับรายได้เกือบ 1,000 ดอลลาร์ในสัปดาห์แรกของธุรกิจดร็อปชิป คุณจะประสบความสำเร็จหากคุณใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียฟรีสามแพลตฟอร์มเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ดร็อปชิปของคุณ: TikTok, Instagram และ Pinterest