15 มีนาคม 2023 0 313

ขายหนังสือ 2 เรื่องบน Amazon ก็สร้างรายได้ถึง $97,000 เหรียญต่อปี

เรเชล ริชาร์ดส์ (Rachel Richards) นักวิเคราะห์การเงินที่มีใบอนุญาตและเป็นที่ปรึกษา ได้เขียนหนังสือเกี่ยวกับการเงินเมื่อปี 2017 เกี่ยวกับการศึกษาวิธีการทำให้การเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับหญิงสาวและคนทั่วไปที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้สักเท่าไหร่ และจากความพยายามทำให้ผลงานของเธอสร้างรายได้ยอดขายออนไลน์ถึง $97,000 เหรียญต่อปี

ในฐานะที่เป็นนักวิเคราะห์การเงินและที่ปรึกษา สิ่งหนึ่งที่เธอสังเกตุได้คือความน่าเบื่อของหนังสือการเงินและมีน้อยเล่มที่ผู้เขียนเป็นผู้หญิงวัยรุ่น เรเชลคิดอยู่ในใจว่า “จะเขียนอย่างไรให้หัวข้อดูเรียบง่านและเนื้อหาน่าสนุก”

ด้วยแนวคิดนี้จึงนำไปสู่การเขียนหนังสือสองเล่มที่ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการวางจำหน่ายบน Amazon ในปี 2017 ทำให้ตัวเธอมีรายได้ถึงปีละ $97,000 เหรียญต่อปี

ในบทความนี้ เราจะมาแบ่งปันถึงเรื่องราวของเธอที่ได้เล่าประวัติความเป็นมาของเธอกับทางทีมงาน NBC ถึงแนวทางการทำหนังสือและเพื่อให้มีจัดจำหน่ายอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้ไม่ขาด

เรเชลเริ่มต้นอาชีพของเธอโดยทำงานเป็นนักวิเคราะห์การเงินที่อุตสาหกรรมการผลิต และต่อมาได้รับใบอนุญาตด้านอสังหาริมทรัพย์ และเริ่มทำงานบางส่วนในฐานะตัวแทนอสังหาริมทรัพย์

หลายคนที่รับรู้ถึงประสบการณ์ของเธอต่างตั้งคำถามมากมายเกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคล ซึ่งเป็นคำถามที่กดดันเธอพอสมควร

“ ฉันเริ่มสงสัยว่า ทำไมพวกเขาไม่คิดที่จะศึกษาเอาเองบ้าง ด้วยการอ่านหนังสือ หาความรู้จากการฟัง podcast หรือดูตามเว็บไซต์ต่างๆ”

จึงเป็นเหตุให้เธอตระหนักได้ว่าหนังสือเกี่ยวกับการเงินที่เธอเจอมาส่วนมากน่าเบื่ออ่านแล้วคลุมเครือไม่กระจ่าง บางบทความอ่านแล้วเข้าข่ายข่มขู่ทำให้รู้สึกกลัว และน้อยมากที่จะมุ่งเน้นประโยชน์ให้กับหญิงสาวทั่วไป

เธอจึงมาคิดว่า “เธอจะเขียนบทความออกมาอย่างไรให้มีเนื้อหาสนุกและไม่ซับซ้อน”

หนังสือเล่มแรกที่เธอเขียนเดือนมกราคมปี 2017 คือ “Money Honey” และออกจำหน่ายทาง Amazon เดือนกันยานปีเดียวกัน ตามที่เธอกล่าว ว่าหนังสือของเธอประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่มแรกที่จำหน่ายในเดือนแรกขายได้ $600 เหรียญ เดือนถัดไปขายได้ $1,000 เหรียญ หลังจากนั้นเรเชลเล่าว่า ยอดขายของเธอก็ขึ้นมา $1,500 เหรียญต่อเดือนเรื่อยมา

จากนั้นปี 2019 เธอก็ปล่อยหนังสือเล่มที่สองออกมาเรื่อง “Passive Income, Aggressive Retirement” ซึ่งเธอได้ให้รายละเอียดกลยุทธ์สำหรับชีวิตก่อนวัยเกษียณเอาไว้

ภายในเดือนกรกฎาคมปี 2022 หนังสือของเธอขายไปได้มากกว่า 50,000 เล่ม บน Amazon ทำให้เธอได้กำไรมากกว่า $97,000 เหรียญ

เริ่มต้นเป็นนักเขียน

เรเชลมีฝันเหมือนนักเขียนหลายคนที่อยากเห็นชื่อของตัวเองบนโปสเตอร์ผลงานติดอยู่บนกระจกหน้าต่างของร้านหนังสือ และเธอยังหวังอีกว่าจะได้ทำข้อตกลงวางขายหนังสือตามสัญญาแบบดั้งเดิม เพื่อจะได้นำไปใช้กับงานโปรโมตหนังสือ แต่ผลไม่ได้ออกมาเป็นไปตามที่ตกลงกัน

เธอมารู้ทีหลังว่าเส้นทางการวางจำหน่ายหนังสือด้วยวิธีเดิมทำให้เธอเสียผลประโยชน์ไปมากโดยที่เธอจะต้องเสียเปอร์เซ็นต์รายได้ส่วนใหญ่ให้กับผู้จัดพิมพ์

“ในสัญญาจะบอกว่า คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 10% - 15% แต่ถ้าหนังสือคุณวางขายบน Amazon คุณจะได้รับค่าลิขสิทธิ์ 35%-70% เลยทีเดียว”

การเลือกที่จะเผยแพร่ด้วยตัวเองคุณสามารถประกันควบคุมค่าใช้จ่ายเองได้แต่จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายล่วงหน้า เรเชลกล่าวว่าเธอจ่ายค่าหนังสือเล่มแรกไป $2,000 เหรียญ และจ่าย $3,500 เหรียญสำหรับเล่มที่สอง ค่าใช้จ่ายหลักๆ คือ ค่าจ้างการตรวจทานหนังสือ ค่าออกแบบปกหนังสือ

สำหรับ Amazon เสนอให้เรเชลสามารถเลือกรูปแบบได้หลายชนิดสำหรับผู้อ่าน อย่างเช่น ให้เจ้าของหนังสือเลือกที่ออกหนังสือของตัวเองเป็น หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e-books) หนังสือที่มีเสียงอ่าน (audiobook) หรือ ปกอ่อน (paperbacks)

เรเชลเลือกรูปแบบของหนังสือตัวเองเป็น 3 แบบ และตั้งราคาขายไว้แต่ละแบบคือ e-book ราคา $9.99 เหรียญ สำหรับ paperback ราคา $15.99 เหรียญ และสำหรับ audiobook ราคา $17.46 เหรียญ

หาโอกาสทำให้หนังสือเป็นที่รู้จัก
 

ในขณะที่ขั้นตอนการเผยแพร่ดำเนินการแล้ว เรเชลจำเป็นจะต้องมีทีมงานสำหรับเปิดตัวหนังสือ ทีมงานของเธอจะเป็นกลุ่มผู้สนับสนุนที่ซื้อหนังสือและเป็นคนที่ถ่ายทอดเนื้อหาของหนังสือของเธอ แต่ในปี 2017 เธอมีผู้ติดตามในบัญชีโซเชียลไม่มากเหมือนสมัยนี้ หรือแม้แต่รายการอิเมลของลูกค้าเธอก็ยังไม่มีในตอนนั้น แต่ตอนนั้นเธออยู่ในกลุ่มเฟสบุ๊กที่มีกลุ่มหญิงสาวอยู่หลายกลุ่ม

“ในกลุ่มเฟสบุ๊กที่ฉันอยู่มีผู้หญิงยุคใหม่เป็นสมาชิกมากถึง 13 ล้านคน เป็นกลุ่มที่ไม่เกี่ยวอะไรกับการเงินเลย ฉันจึงจำเป็นที่จะต้องแนะนำตัวเองในกลุ่มประมาณว่า “ฉันชื่อ เรเชล ฉันเคยทำงานเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน” เรเชล กล่าว

ไม่นานเรเชลก็กลายเป็นคนหนึ่งในกลุ่มที่คอยให้คำปรึกษาเรื่องการเงินให้กับคนในกลุ่มเป็นการช่วยสร้างเครดิตให้กับตัวเองอีกด้วย

เรเชลเริ่มเสนอแนวคิด ว่าเธอกำลังจะทำหนังสือ เธอจึงถามสมาชิกในกลุ่มช่วยกันโหวตชื่อเรื่องและออกแบบปกหนังสือ”

“ พวกเขาให้ความร่วมมือดีมาก และยังเป็นการเปิดตัวหนังสือย่างไม่เป็นทางการของฉันอีกด้วย” ราเขล กล่าว

พอหนังสือได้เปิดตัวแล้ว เรเชลเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับกับทุกคนที่สนใจหนังสือแทบจะแบบตัวต่อตัวมากขึ้น

“ฉันส่งข้อความหาทุกคนหลายร้อยอิเมลแล้วบอกว่า “หนังสือออกแล้วนะ สามารถดาวน์โหลดได้แล้ว” เชื่อไหม ฉันส่งทุกคนที่มีรายชื่อในโทรศัพท์ของฉันเลยนะ”

คำติชมจากผู้อ่าน
 

การที่หนังสือของคุณได้รับคำวิจารณ์ติชมมากเท่าไหร่ยิ่งเป็นผลดีต่อการขาย เพราะ Amazon จะใส่หนังสือของคุณไว้อันดับต้นๆ เพื่อให้คนได้เห็นมากขึ้น เพราะถือว่าหนังสือของคุณมีการตอบรับมาก หลังจากที่หนังสือออกไปได้สองวัน เรเชลได้รับคำติชมเกี่ยวกับหนังสือที่เขียนมากถึง 60 ข้อความ

มองหากลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
 

เรเชลกล่าวว่า หนังสือของเธอจะไม่ประสบความสำเร็จเลยถ้าเธอเลือกกลุ่มลูกค้าไม่ถูกจุด เธอกล่าวอีกว่า หนังสือของคุณจะต้องมีคุณค่าในแบบฉบับของตัวเองเพื่อเป็นเหตุผลให้คนมาสนใจหนังสือของคุณที่ต้องแข่งกับหนังสือเป็นพันที่วางจำหน่ายอยู่ในตลาดหนังสือ

หนังสือของเธอไม่เหมือนใคร เพราะมีเนื้อหาที่น่าสนใจไม่ซับซ้อนอ่านแล้วสนุกมีมุกเสียดสี ไม่เหมือนหนังสือเล่มอื่นที่มีเนื้อหาน่าเบื่อ

ทำราคาให้ถูกกว่าคู่แข่ง
 

เรเชล เริ่มต้นจูงใจลูกค้าด้วยข้อเสนอดาวน์โหลดหนังสือดิจิตอลฟรี 5 วัน เธอตั้งเป้าให้หนังสือของเธอมีราคาน่าสนใจทุกแบบของหนังสือที่เธอผลิตออกมาขาย และเพื่อเป็นการเพิ่มยอดวิวได้เร็วขึ้นด้วย

เรเชล กล่าวว่า “การหวังกำไรเล็กน้อยนั้นแลกมากับความคุ้มค่าที่หนังสือทุกเล่มจะถึงมือคนอ่านได้ง่าย” โดยที่เธอทดลองเรื่องราคาของหนังสืออยู่หลายปี เพื่อดูว่าจะเกิดผลกระทบกับกำไรหรือไม่และเพื่อไม่ให้ราคาต่างจากคู่แข่งมากด้วย

“ฉันตั้งใจจะให้ราคาต่ำกว่าคู่แข่งนิดหน่อย ถ้า [หนังสือของคู่แข่ง] ราคาอยู่ที่ $6.99 เหรียญ ฉันก็อยากให้ราคาหนังสือของฉันขายอยู่ที่ราคา $5.99 เหรียญ”

หลังจากการเปลี่ยนแปลงราคาขายเร็วๆ นี้ เธอได้รับค่าลิขสิทธิ์สูงสุดจากการขาย “Money Honey”  ในรูปแบบของ e-book  โดยราคาหนังสือของเธอมีสามราคา:

  • หนังสืออิบุ๊ก (e-book) ราคา $6.68
  • หนังสือปกอ่อน (paperback) ราคา $6.39
  • หนังสือเสียง (audiobook) ราคา $4.31

เรเชล เปิดเผยว่าปกติแล้วหนังสือของเธอช่วยแก้ปัญหาสถานการณ์การเงินให้กับผู้อ่าน และเธอมักจะได้รับอิเมลขอบคุณจากลูกค้าเป็นประจำ

“ถ้าการที่หนังสือของฉัน สามารถช่วยคนได้ ฉันคงดีใจมาก จากนั้นอีก 6 เดือนให้หลังที่หนังสือของฉันได้วางจำหน่าย ฉันได้รับอิเมลจากคนที่ไม่รู้จักทั่วประเทศเขียนมาขอบคุณฉัน” เรเชล กล่าว

เธอเล่าว่า คนที่อ่านหนังสือของเธอเป็นคนที่มีหนี้บัตรเครดิตกับทุนการศึกษาที่ต้องรับผิดชอบ แต่หลังจากที่ได้อ่านหนังสือของเธอ ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาก็เปลี่ยนไปมาก

 เรเชลจ่ายเงินค่าโฆษณาหนังสือของเธอไป $75 เหรียญ จากผลของโฆษณาให้ผลเกินคาดมากกว่าที่เธอตั้งเป้าไว้ซะอีก

“ฉันคิดว่าหนังสือของฉันขายได้เพราะปากต่อปาก ซึ่งถ้าหนังสือสามารถช่วยอะไรคนได้บบ้าง ฉันก็จำเป็นต้องเขียนให้มีดีและมีประโยชน์” เรเชล กล่าว

บทสรุป

ถึงแม้เรเชลจะเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน แต่เธอก็เบื่อที่จะต้องคอยให้คำแนะนำเวลามีคนมาถาม เธอจึงเปลี่ยนเป็นหารายได้จากที่คอยให้คำแนะนำเหล่านั้นมาเป็นเขียนหนังสือจัดทำเป็น ebooks เพื่อให้มีเนื้อหาที่สนุกและเข้าใจถึงปัญหาหลักของคนได้ ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้เธอมีรายได้มากกว่า $97,000 เหรียญ จากการขายบน Amazon

การได้จัดการปล่อยหนังสือของตัวเองโดยที่ไม่ต้องพึ่งสำนักพิมพ์ช่วยให้เธอประหยัดเงินที่จะต้องโดนสำนักพิมพ์คิดค่าเปอร์เซ็นต์จำนวนมากจากการขายที่เธอทำได้

ตอนนี้เรเชลเป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์และยังได้เปิดหลักสูตรออนไลน์เกี่ยวกับการเงินส่วนบุคคลเพิ่มอีกด้วย เพื่อเป็นการหารายได้เพิ่มอีกทางหนึ่ง ในขณะที่ยังได้รับรายได้จากการขายหนังสือที่ทำมาแล้วมากกว่า 5 ปี

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?