24 กันยายน 2022 0 449

$30,640 ใน 6 เดือน ด้วยเกมง่าย ๆ บนมือถือ

วันนี้เราจะมาแชร์กรณีศึกษาของคุณ Ivan Panasenko ผู้พัฒนาเกม ที่เป็นคนสร้างเกมมือถือง่าย ๆ ขึ้นมาจากศูนย์ จนสร้างรายได้กว่า $30,640 ใน 6 เดือนแรก​

ในเคสนี้ เราจะมาแชร์ยอดดาวน์โหลดและข้อมูลรายได้จากเกมที่มีชื่อว่า “Endurance” ที่เขาสร้างขึ้นภายในหกเดือน เราจะมาดูยอดดาวน์โหลด, รายได้, วิธีการสร้างรายได้ และรายละเอียดอื่น ๆ ที่นำไปสู่เงินจำนวน $30,640

แหล่งรายได้ของเกม

เป็นรายได้จากตัวเกมเวอร์ชัน Android และ IOS ซึ่งยังมีเวอร์ชันที่เป็นคอนโซลอยู่บน Steam โดย 85% ของรายได้นั้น มาจากเวอร์ชันที่เป็นของมือถือและอีก 15% จาก Steam ตัวเกมมีวิธีการสร้างรายได้อยู่ 3 แบบ:

  • โฆษณา
  • การสั่งซื้อของภายในแอป
  • ตัวแอปเวอร์ชันพรีเมียม

ยอดดาวน์โหลดใน 6 เดือน

ในหกเดือนแรกที่ปล่อยลงแพลตฟอร์มมือถือ ตัวเกมมียอดดาวน์โหลดทั้งหมดประมาณ 515,000 ครั้ง มียอดดาวน์โหลดประมาณ 2,000 ถึง 2,500 ครั้งต่อวัน โดย 90% มาจาก Google Play Store ส่วนที่เหลือมาจาก App Store รู้สึกว่าเกมจะรันได้ไม่ค่อยดีในฝั่งของ IOS

การสร้างรายได้ด้วยโฆษณา

สองสัปดาห์แรกหลังจากเปิดตัว เขาใช้เพียงแค่ AdMob ที่เป็นตัวแทนโฆษณาเพื่อสร้างรายได้และทำกำไรจากการปล่อยโฆษณา  

หลังจากนั้น เขาไปสมัครกับบริษัทโฆษณาอีกเจ้าที่ชื่อว่า Yodo1 และก็ได้รับ SDK มาจากพวกเขาหนึ่งตัว ซึ่งมีตัวแทนโฆษณาที่หลากหลายมากขึ้น และยังรวมไปถึง Unity ads, Admob, Facebook ads และอื่น ๆ  อีกเพียบ โดย Yodo จะเก็บ 10% ของรายได้โฆษณาจากคุณเป็นรายเดือน ซึ่งถือว่าพอรับได้

ตั้งแต่ที่เขาเลือกใช้ Yodo ก็ทำให้ eCPM เพิ่มขึ้นจาก $2 เป็น $7 และไต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ในบางจุด บางครั้งก็สูงถึง $9 ต่อ 1,000 การมองเห็นโฆษณา แม้ว่าในช่วงเดือนสุดท้ายจะกลับลงไปที่ $7

การมองเห็นโฆษณาทั้งหมดที่เขาได้รับต่อวันจะอยู่ที่ประมาณ 13,000 ถึง 16,000 ครั้ง และมักจะสูงขึ้นในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ สาเหตุหลักเป็นเพราะผู้คนมีเวลาเล่นเกมกันมากขึ้น

โฆษณาทำเงินให้เขาประมาณ $90 ถึง $150 ต่อวัน

ตัวเกมยังมีการสั่งซื้อของภายในแอป ที่ทำเงินได้ประมาณ $20 ถึง $35 ต่อวัน เขาพยายามลองสร้างรายได้ในแบบอื่น ๆ เช่น ข้อเสนอจำกัดเวลาและรางวัลโบนัสด้วย

พอรวมโฆษณากับการสั่งซื้อภายในแอป จะทำให้ตัวเกมมีรายได้อยู่ที่ประมาณ $135 ต่อวัน

ตัวแอปเวอร์ชันพรีเมียม

ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะตัวเกม Endurance ยังมีเวอร์ชันเสียเงิน/พรีเมียม บน Google Play โดยเวอร์ชันนี้เนี่ยมีเหมือนของเวอร์ชันฟรีทุกอย่าง ต่างกันแค่ไม่มีโฆษณาและการสั่งซื้อภายในแอป

เวอร์ชันนั้นทำเงินให้ประมาณ $500 ถึง $600 ต่อเดือน ซึ่งมียอดดาวน์โหลดประมาณ 10 ถึง 15 ครั้ง ต่อวัน เขายังจัดโปรลดราคาในสัปดาห์สุดท้ายของทุกเดือน และนั้นก็ช่วยเพิ่มรายได้จากเวอร์ชันพรีเมียม

เราไม่ขอพูดถึงตัวเลขของรายได้จากเวอร์ชันฝั่งคอนโซลบน Steam เพราะเหตุผลทางสัญญา ทว่าเมื่อรวมรายได้ทั้งหมดของ 6 เดือน จึงมีรายได้ทั้งหมดที่ $30,640 รายได้ต่อเดือนโดยเฉลี่ยจากเกมคือ $5,100 และทั้งหมดนี้มาจากยอดดาวน์โหลดแบบออร์แกนิก หรือก็คือไม่ต้องเสียเงินจ่ายเพื่อซื้อ Traffic นั้นเอง

แหล่งที่มาของ Traffic สำหรับยอดดาวน์โหลดของแอป

เขาให้ความสนใจหลักที่ Traffic แบบออร์แกนิก เพราะว่าการซื้อ Traffic ไปทำงานไปนั้นไม่สามารถทำกำไรให้กับเขาได้ อย่างไรก็ตาม Traffic ที่เป็นแบบออร์แกนิกนั้นไม่มีความเสถียร พอเวลาผ่านไป ย่อมมีการลดลงเป็นธรรมดา เขาพยายามประคับประคองและเพิ่มจำนวน Traffic ด้วยการใช้การเพิ่มประสิทธิภาพ App Store (ASO) สำหรับเกม

เพื่อการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ App Store ของตัวเกม เขาเลือกใช้ App Radar เพราะเขาเคยใช้ Sensor Tower, App Annie และอื่น ๆ แล้ว แต่รู้สึกว่า App Radar จะตอบโจทย์มากที่สุดแล้ว

มีช่วงหนึ่งที่ยอดดาวน์โหลดของเกมตกลงไปที่ 1,000 ครั้งต่อวัน เขาจึงใช้ App Radar เพื่อเปลี่ยน ASO ภายในไม่กี่สัปดาห์ ยอดดาวน์โหลดก็กลับมาที่ 2,500 ครั้งต่อวัน

เกมอื่น ๆ 

Endurance เป็นเกมที่สองของ Ivan เกมแรกของเขามีชื่อว่า Ailment และก็ยังอยู่ทั้งบน Google Play และ App Store โดยตัวเกม Ailment เองก็ช่วยสร้างรายได้ให้เขาประมาณ $1,300 ต่อเดือน คำนวณจากทั้งแพลตฟอร์มมือถือ, PC, Nintendo และ Xbox

ทั้งคู่รวมกันทำให้เขามีรายได้ทั้งหมด $6,400 ต่อเดือน จากเกมมือถือธรรมดา ๆ นับว่าเป็น Passive Income ทั้งหมด

คำแนะนำสุดท้ายจาก Ivan ผู้พัฒนาเกม

“เรื่องสุดท้ายที่ผมอยากจะบอกกับคุณ หากคุณกำลังเริ่มทำเกมของตัวเอง แล้วกำลังประสบปัญหาและต้องการแรงบันดาลใจ คุณต้องพยายามทำให้เสร็จให้ได้นะ เกมนี้ต้องออกมาเจ๋งแน่นอน ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะได้กำไรเท่าไร มาสนใจที่ว่าคุณมีความสนุกที่ได้สร้าง และได้ประสบการณ์ไปมากแค่ไหนดีกว่า ฉะนั้นจงสร้างเกมของคุณให้เสร็จ และปล่อยเกมนั้นออกมา นั้นแหละคือสิ่งที่สำคัญที่สุด"

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?