เราขอนำเสนอกรณีศึกษาจากคุณปาร์คเกอร์ วาลแบ็ค (Parker Walbeck) ซึ่งเป็นทั้งยูทูปเบอร์ ผู้สร้างภาพยนตร์ และผู้สร้างคอนเทนต์ที่สามารถสร้างรายได้ $178,602 ในปี 2021 จากแชนแนล Youtube ของเขาโดยการสร้างรายได้จากแชนแนลดังกล่าวด้วย AdSense
เขาสามารถเพิ่มรายได้ของแชนแนลของเขาให้โตอย่างก้าวกระโดดจาก $500 ในปี 2016 เป็น $32,000 ในปี 2019 และในที่สุดก็เพิ่มเป็น $178,602 ในปี 2021 นอกจากนี้เขายังสามารถเพิ่มยอดผู้ติดตามของเขาจาก 0 ถึง 1,600,000 สมาชิกในเวลาเพียง 5 ปี
รายได้ AdSense นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายได้ $4,700,000 ที่เขาสร้างขึ้นจากธุรกิจออนไลน์ของเขา ซึ่งส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับแชนแนล YouTube นี้เพื่อเพิ่มการเข้าชม
ในบทความนี้เราจะมุ่งเน้นไปที่รายได้ของ AdSense เป็นหลัก และแบ่งปันขั้นตอนสำคัญที่คุณปาร์คเกอร์ใช้ในการขยายแชนแนล Youtube ของเขา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สามารถทำซ้ำได้ โดยทุกคนที่กำลังมองหาการเริ่มต้นแชนแนล Youtube ของตัวเองในปี 2022
งั้นเรามาเจาะลึกถึง 6 ปัจจัยสำคัญกันดีกว่า
1. อย่าใช้เนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์
ปาร์คเกอร์กล่าวว่า "อาจฟังดูเหมือนเรื่องสิ้นคิด แต่นี่คือขั้นตอนที่ผมใช้แล้วได้ผลต่างจาก 20 วิดีโอแรกที่ผมลง และจากนั้นก็ลงเอยด้วยค่าใช้จ่าย $10,000 ของรายได้จาก AdSense ที่อาจเกิดขึ้นได้"
การใช้เนื้อหาที่ติดลิขสิทธิ์ถือเป็นอีกความผิดพลาดใหญ่หลวงสำหรับผู้เริ่มต้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้ YouTube มือใหม่ทั้งนั้น โดยส่วนมากจะใช้เพลงที่มีลิขสิทธิ์ แม้ว่า Youtube จะอนุญาตให้คุณอัปเดตวิดีโอได้บ่อยมาก แต่ถ้าหากวิดีโอนั้นมีเนื้อหาที่มีลิขสิทธิ์ คุณก็จะสร้างรายได้ไม่ได้เลย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมายในช่วงเริ่มต้น เพราะว่าผู้คนมากมายมักมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มจำนวนการเข้าชม แต่แล้วเมื่อเวลาผ่านไปหลายๆปี จำนวนการเข้าชมได้เติบโตขึ้นแล้ว คุณก็จะไม่ได้รับเงินอะไรจากทาง Youtube เลย
"ย้อนกลับไปในปี 2016 ปีที่ผมตั้งใจเริ่มพยายามสร้างแชนแนลของผม คลิปที่เป็นไวรัลคลิปแรกของผม “กล้อง iPhone 7 + ปะทะกล้องอาวุธสีแดง” ซึ่งตอนนี้มียอดวิวมากถึง 1 แสนกว่าวิวแล้ว แต่ดันมีเพลงที่มีลิขสิทธิ์อยู่ในนั้น ดังนั้นผมจึงไม่สามารถสร้างรายได้จากคลิปวิดีโอนั้นได้ "
"ยังมีอีกหนึ่งวิดีโอที่คล้ายกันในแชนแนล " iPhone 12 vs Canon R5 vs Red " ที่มีจำนวนการเข้าชมใกล้เคียงกันทำให้เราได้มีเงิน $4,460 จนถึงทุกวันนี้ นั่นคือจำนวนเงินที่ผมทำหายไปก็เพราะใช้เพลงที่ติดลิขสิทธิ์ และมีวิดีโอหลายสิบรายการที่ผมได้คาดหวังเอาไว้ นี้แหละเหตุผลที่สำคัญที่สุดว่าทำไมในปี 2016 ผมจึงทำเงินได้เพียงแค่ $581 จาก Adsense แม้ว่าผมจะมีวิดีโอมากมายก็ตาม" คุณปาร์คเกอร์อธิบายเอาไว้
วิธีป้องกันที่ดีที่สุดก็ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณใช้ภาพที่เป็นของคุณเอง และตรวจสอบให้แน่ใจอีกว่าคุณใช้เพลงที่ได้ติดลิขสิทธิ์อยู่หรือเปล่า ในระยะยาวความผิดพลาดเพียงครั้งเดียวนี้อาจมีมูลค่ามาถึง $10,000 เลยก็ได้
2. จำนวนการอัปโหลดวิดีโอทั้งหมด
ปาร์คเกอร์ได้อัปโหลดวิดีโอลงมากกว่า 170 รายการในแชนแนล YouTube ของเขาจนถึงตอนนี้ จึงมีวิดีโอมากมายทำให้เขามีรายได้มากขึ้น เพราะแต่ละวิดีโอยังคงทำรายได้ด้วยตัวของมันเองอย่างต่อเนื่อง นั่นก็แปลว่ายิ่งเขาอัปโหลดวิดีโอมากเท่าไร เขาก็จะมีรายได้มากขึ้นเท่านั้น หากสมมติว่าวิดีโอแต่ละรายการมีการเข้าชมอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ
เห็นได้ชัดว่ายังมีบางวิดีโอได้รับจำนวนการเข้าชมรายวันสูงกว่าวิดีโออื่นๆ และเมื่อเวลาผ่านไป จำนวนการเข้าชมรายวันของวิดีโอส่วนใหญ่จะลดลงอย่างช้าๆ
"แม้แต่วิดีโอเกี่ยวกับการแนะนำที่แย่ที่สุดของผมที่เคยอัปโหลดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก็ยังมียอดเข้าชม 20,000 ครั้งต่อปีและประมาณ $200 ต่อปี ดังนั้นแม้ว่าวิดีโอ 170 ทั้งหมดของผมจะมียอดลดลงต่ำสุดอยู่ที่ (170 x 200) เท่ากับประมาณ $34,000 ต่อปี
อย่างไรก็ตามยังมีวิดีโอที่ทำรายได้สูงๆ ซึ่งเป็นวิดีโอที่มียอดวิวเข้ามาสูงถึง 2,000 ครั้งต่อวัน และทำเงินได้ $3,500 แม้ถูกอัปโหลดลงมาหนึ่งปีเต็มแล้วก็ตาม " ปาร์คเกอร์อธิบายเอาไว้
ดังนั้นถ้าเฉลี่ยการดูวิดีโอ 170 รายการแบบนั้นในทุกๆปี เขาก็จะมีรายได้ AdSense ที่มากกว่า $595,000 ต่อปีเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้ทำให้เห็นข้อดีของการมีวิดีโอเยอะๆ เพียงเราแค่ทำคอนเทนต์มากขึ้นลงบนอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องทำลงใน Youtube
3. ความถี่
หนึ่งในคำถามที่ถามกันมาเยอะ เกี่ยวกับการเติบโตของแชนแนลของเราบน Youtube ที่ถามกันมาว่า "ควรโพสต์วิดีโอบน Youtube บ่อยๆไหม?" บางคนก็บอกโพสต์สัปดาห์ละครั้ง บางคนบอกว่าทุกวันนี่แหละดีที่สุดแล้ว และบางคนก็บอกโพสต์เพียงเดือนละครั้งแค่นั้น
สำหรับกรณีของ Parker เขาอัปโหลดวิดีโอลงเพียง 9 รายการในปี 2016 ซึ่งจำนวนมันน้อยกว่าหนึ่งครั้งต่อเดือนในปี 2016 จากนั้นเขาเพิ่มจำนวนวิดีโอเป็น 16 รายการในปี 2017 และ 2018 นั่นเป็นเพียงหนึ่งครั้งหรือสองครั้งต่อเดือนเท่านั้น แต่ว่าแชนแนลของเขายังคงเติบโตด้วยอัตรา 500 สมาชิกต่อวัน
หลังจากที่คิดๆอยู่ว่าถ้าเขาลงวิดีโอบ่อยขึ้น จะช่วยให้แชนแนลของเขาได้รับความสนใจมากขึ้นด้วยบ้างไหมใน Youtube และแล้วก็มีคนมากดติดตามเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดเป็น 20 คนในปี 2019 จนเป็น 37 คนในปี 2020 และ 43 คนในปี 2021
เหตุผลหลักนี้แหละที่ช่วยคุณปาร์คเกอร์เพิ่มรายได้ของเขาจาก $500 เป็น $178,000 ต่อปี
โดยในปัจจุบันความถี่ในการอัปโหลดวิดีโอของเขาก็เกือบจะเป็นหนึ่งครั้งต่อสัปดาห์แล้ว อย่างไรก็ตามการสร้างวิดีโอให้มากขึ้นก็จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีเหมือนกัน หากคุณเลือกใช้ปริมาณวิดีโอมากแต่คุณภาพของคอนเทนต์ต่ำ
ดังนั้นคำตอบของปาร์คเกอร์ก็คือ
"คุณควรโพสต์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
เรื่องของคุณภาพนี่ไม่ใช่แค่สร้างมูลค่าการผลิตที่สูงด้วยกล้องที่ดี และเสียงที่ดีเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างหัวข้อเนื้อหาที่สามารถทำให้เกิดการมีส่วนร่วมสูงๆและสามารถนำไปบอกกันปากต่อปากได้อีกด้วย ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับผู้ชมจำนวนมาก "
4. เว้นช่วงเวลาให้กับโฆษณา
การเพิ่มช่วงพักโฆษณาในวิดีโอ ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้คุณปาร์คเกอร์เพิ่มรายได้ด้วย AdSense ของเขา มันก็จริงที่โฆษณาในวิดีโอเหล่านี้ค่อนข้างน่ารำคาญสำหรับผู้ชม แต่ก็ถือว่าสร้างจำนวนเม็ดเงินมหาศาลให้กับผู้สร้างคอนเทนต์ลงบน Youtube โดยที่สามารถทำได้จากความพยายามของพวกเขาเองในการสร้างและให้เสพคอนเทนต์แบบฟรีๆ
"นี่เป็นเหตุผลสำคัญที่สุดที่ผมทำรายได้ด้วยโฆษณาเลยก็ว่าได้ ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม $32,000 ในปี 2019 จนเป็น $147,000 ในปี 2020 — โดยทำรายได้เพิ่มขึ้น 5 เท่า ถ้าจะเห็นได้ชัดๆก็ต้องย้อนกลับไปในปี 2019 การสร้างรายได้จากที่ผมทำในวิดีโอ ก็จะให้มีโฆษณาที่ปรากฏขึ้นก่อนที่วิดีโอของผมจะเริ่มต้นขึ้น จากนั้น Youtube ก็เริ่มอนุญาตให้วิดีโออะไรก็ได้ที่มีความยาวมากกว่า 8 นาทีต้องมีช่วงพักโฆษณาด้วย"
จุดสีเหลือง หมายถึงช่วงโฆษณา
"ดังนั้นเราจึงทำวิดีโอที่มีความยาวมากกว่า 8 นาทีทุกวิดีโอ โดยเพิ่มช่วงโฆษณา 2 หรือ 3 โฆษณาลงไปเพื่อเพิ่มรายได้โฆษณาของเราเป็นสามเท่าได้ทันที จากจุดนั้นเราต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกวิดีโอมีความยาวน้อยกว่า 8 นาทีรึเปล่า เพื่อให้เราสามารถเพิ่มช่วงโฆษณาลงไปได้
อย่างไรก็ตามก็เหมือนกับเรื่องความถี่ คุณจะทำให้วิดีโอของคุณยาวขึ้นโดยไม่มีเหตุผลไม่ได้นะ หากคุณไม่สามารถทำให้วิดีโอสร้างแรงจูงใจให้คนรับชมต่อจนถึง 8 นาทีเต็มได้ ผู้คนก็จะกดข้ามเร็วขึ้นๆ และพวกเขาก็จะไม่ได้ดูโฆษณาที่เป็นรายได้ของคุณหรอก" คุณปาร์คเกอร์ได้กล่าวเอาไว้
ดังนั้นตราบใดที่คุณสามารถทำให้ผู้ชมของคุณมีส่วนร่วมได้ตลอด 8 นาที คุณก็สามารถเพิ่มช่วงโฆษณาได้แล้ว โดยสถิติรายได้ของคุณปาร์คเกอร์ได้แสดงให้เห็นว่าวิธีนี้ช่วยทำรายได้มหาศาลที่สุดที่เขาใช้เพื่อเพิ่มรายได้ AdSense ของเขาเลย
5. คอนเทนต์คือหัวใจหลัก
การมีคอนเทนต์ที่ยอดเยี่ยมจะช่วยให้วิดีโอกลายเป็นไวรัลได้ โดยขณะนี้ก็มีวิดีโอที่มียอดผู้ชมสูงสุดของคุณปาร์คเกอร์อยู่ที่ 12,000,000 ครั้ง และมันทำเงินไปมากกว่า $35,000 แล้ว นั่นคือพลังแห่งไวรัลวิดีโอยังไงล่ะ!
ในทางที่ดีวิดีโอที่เป็นไวรัลนั้นก็จะเป็นที่รู้จักก็ต่อเมื่อคอนเทนต์อยู่ในสามประเภทต่อไปนี้:
วิดีโอนี้จะช่วยแนะนำวิดีโอสามตัวที่ทำให้ผู้คนคลิกตรงภาพขนาดย่อได้ จากนั้นเมื่อพวกเขาคลิกแล้ว พวกเขาจะดูไปเรื่อยๆ จนได้ดูวิดีโอทั้งหมด อัตราการคลิกผ่านและเวลาในการดู จะเป็น 2 สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ Youtube ต้องการเพื่อพิจารณาว่าระบบควรแสดงวิดีโอนี้ลงในฟีดของคนอื่นดีหรือไม่ ซึ่งวัฏจักรของการคลิก การดู และการแชร์อย่างต่อเนื่องนี่แหละจะช่วยกระตุ้นอัลกอริทึมของ Youtube จนทำให้วิดีโอกลายเป็นไวรัลบน Youtube
เห็นได้ชัดว่า, คุณไม่สามารถคาดเดาโอกาสเป็นไวรัลของวิดีโอได้จริงๆ เพราะบางรายการก็อาจจะล้มเหลว บางรายการก็จะเริ่มต้นขึ้นเอง มันยังมีองค์ประกอบของความโชคดีปนอยู่เสมอสำหรับคนพวกนั้น แต่ยิ่งคุณใส่วิดีโอที่เป็นไปตามกฎความสัมพันธ์กัน ความเกี่ยวข้องกัน และแบ่งปันกันได้พวกนี้มากเท่าไหร่ วิดีโอก็ยิ่งมีโอกาสเป็นไวรัลได้แน่นอน
6. การทำงานหนักอย่างสม่ำเสมอ
มันไม่ง่ายเลย เมื่อคุณมุ่งหวังที่จะคว้าความสำเร็จ คุณปาร์คเกอร์ก็ต้องออกมายอมรับเลยว่า เขาต้องทำงานอย่างหนักเป็นเวลา 5 ปีมาโดยตลอดที่จะสร้างวิดีโอคุณภาพสูงให้ได้ทุกเดือน และบางครั้งก็ทุกสัปดาห์
นั่นคือจำนวนภาระงานที่คนส่วนใหญ่อาจไม่ขอเลือกที่จะทำ แต่ถ้าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จล่ะก็ — ไม่ใช่แค่งานทำแชนแนล Youtube ในโลกความเป็นจริงคุณต้องเต็มใจที่จะทำงานหนักมาก และสม่ำเสมอมากในระยะเวลาที่ยาวนานกว่าคนธรรมดาๆเขาทำกัน
"มันก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการที่จะประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ถ้าหากว่าการทำงานของคุณมีความสม่ำเสมอ โดยมีจรรยาบรรณและความอดทนในการทำงานนั้นด้วย ทั้งหมดนี้จะเป็นคำตอบให้กับตัวคุณเองว่าคุณต้องการประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน
เมื่อมีคนถามคำแนะนำจากผมเกี่ยวกับวิธีการเพิ่มศักยภาพรายได้ให้กับพวกเขา ผมมักให้พวกเขาเรียนรู้สองสิ่งนี้ที่จะช่วยให้การทำเงินกลายเป็นเรื่องง่าย สองสิ่งนั้นก็คือความมั่นใจและการทำงานหนัก ถึงแม้ว่าผมเป็นคนไม่มีทักษะและความสามารถพิเศษอะไรเลย แค่ผมมีความมั่นใจในตัวเองและทำงานหนักมากกว่าคนทั่วไปเท่านั้นเอง" คุณปาร์คเกอร์ได้กล่าวไว้
สรุป
ทั้งหมดนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญ 6 ข้อที่ช่วยให้คุณปาร์คเกอร์สามารถเพิ่มรายได้ด้วย AdSense อย่างก้าวกระโดดมากถึง $178,000 /ปีผ่านแชนแนล Youtube ของเขาเอง
AdSense เป็นเพียงส่วนหนึ่งของรายได้ $400,000 ที่เขาได้รับทางออนไลน์ในปี 2021 เท่านั้น คุณปาร์คเกอร์ยังสร้างรายได้จากการขายหลักสูตรการสร้างภาพยนตร์ทางออนไลน์ การตลาด Affiliate การเป็นสปอนเซอร์ และ AdSense ซึ่งทั้งหมดนี้อาศัยแชนแนล Youtube ของเขาที่เป็นแหล่งที่มาของการเข้าชมทั้งนั้น
สำหรับใครก็ตามที่ฝันอยากจะสร้างแชนแนล Youtube เป็นของตัวเอง ซึ่งในปี 2022 หากว่าคุณมีแผนที่ถูกต้องและพร้อมที่จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ ก็จะมีความเป็นไปได้ที่คุณจะเติบโตแบบทวีคูณอย่างคุณปาร์คเกอร์ได้แน่นอน
เราหวังว่าบทความนี้จะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์สำหรับคุณ