Linktree เป็นผู้ให้บริการหน้า Landing page ที่อ้างถึงการสร้าง Landing page ให้กับบริษัทหรือบุคคลทั่วไป เพื่อให้ลิงก์เหล่านั้นมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกันสื่อโซเซียลทั้งหมด แรงบันดานใจในการสร้างไซต์นี้มาจาก ความไม่พอใจเกี่ยวกับสื่อโซเซียลของนักพัฒนา ซึ่งมันแทบจะอนุญาตให้เพิ่มลิงก์ทั้งหลายลงไปได้
บริษัทนี้สร้างขึ้นมาในปี 2016 ในเมืองเมลเบิล ประเทศออสเตรเลีย โดย อเล็กซ์ แซคคาเรีย (Alex Zaccaria) แอนโทนี แซคคาเรีย (Anthony Zaccaria) และนิค ฮัมฟรีส์ (Nick Humphreys) และพวกเขายังอวดอีกว่า ไซต์นี้จะมีคนเข้ามใช้ไม่ต่ำกว่า 20,000,000 คน ในปี 2022 ในบทความนี้ เราจะมาวิเคราะห์ว่า Linktree สามารถทำให้มีคนเข้าใช้ไซต์ของเขาถึง 20 ล้านคน ตามที่เขาอ้างได้อย่างไร และจำนวนผู้เข้าใช้ทั้งหมดก็ไม่ได้มาจากช่องทาง affiliate program หรือเสียค่าโฆษณา ใดๆ เลย
Linktree เป็นฟรีเมียมแอปที่ให้บริการฟรี ทำให้สามารถเพิ่มลิงก์หลายๆ ลิงก์ได้ในหน้า landing page นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีกด้วย เช่น:
Linktree ทำเงินผ่านโปรแกรสมัครสมาชิกแบบชำระเงิน $6 ต่อเดือน ซึ่งมีคุณลักษณะในการปรับแต่ง เช่น การเพิ่มลิงก์วิดีโอ โซเซียลมีเดีย ไอคอน Amezon และในแต่ละลิงก์ ยังมีสีสันและเอฟเฟกให้เลือกปรับแต่งอีกมากมาย
ทางผู้ก่อตั้ง Linktree เน้นย้ำอีกว่า พวกเขาเป็นบริษัทแรกที่เปิดตัวประเภทของแอปเว็บนี้
“ตอนแรก หมวดหมู่ของแอปตัวนี้ยังไม่มีด้วยซ้ำตอนที่พวกเริ่มทำ พวกเราเป็นคน สร้างหมวดหมู่นี้ ขึ้นมาเอง” CEO อเล็กซ์ แซคคาเรีย กล่าว
อเล็กซ์ ได้เล่าว่า เขาและหุ้นส่วนของเขาแอนโทนี่ และนิค ร่วมกันสร้าง Linktree ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญที่บริษัท Bolster ของพวกเขาเองในการทำตลาดดิจิทัล ซึ่งทาง Instagram ไม่อนุญาตให้เพิ่มหลายลิงก์ในโพสต์ได้ สิ่งที่คุณทำได้คือมีลิงก์เดียวในโปรไฟล์ของคุณ ซึ่งจะแจ้งเตือน "ลิงก์ในประวัติ" อย่างต่อเนื่องเมื่อมีคนต้องการโปรโมตบางสิ่ง
ในขณะนั้น ลูกค้าส่วนใหญ่ของ Bolster มากมาจากอุตสาหกรรมดนตรี และความบันเทิง ที่เป็นลิงก์เดียวที่ไม่สนับสนุนในรูปแบบธุรกิจที่ “ค่อนข้างกระจัดกระจาย” อย่างที่ Zaccaria กล่าว หลังจากนั้น มีศิลปินอยากจะแนะนำให้แฟนเพลงของเขาไปฟังอัลบั้มเพลงล่าสุด หรือดูวันที่แสดงคอนเสิร์ต หรือการซื้อขายบนร้านค้าออนไลน์ และลิงก์อื่นๆ ในทางปฏิบัติ เว็บไซต์ทำงานแบบนั้นได้อยู่แล้ว แต่สำหรับมือถือแล้วอาจจะช้า หรือยุ่งยาก อาจทำให้ลูกค้าเกิดความลำคาน และยอมแพ้ ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงหน้าเว็บที่ต้องการ
ดังนั้น แทนที่จะต้องสลับลิงก์ไป-มา บน Instagram และโปรไฟล์โซเซียลมีเดียอื่นๆ ในโปรไฟล์ของ Linktree ก็มีลิงก์ใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ Linktree ได้อัพเดทได้ตลอดเวลาถ้าจำเป็น
จากแนวคิดในการแก้ปัญหานี้ จึงนำไปสู่การสร้าง Linktree ขึ้นมา และนับแต่นั้นมา Linktree ก็มีผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคน ภายในระยะเวลา 5 ปี และยังมีจำนวนผู้สมัครสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นวันละ 28,000 คน/วันอีกด้วย
ผู้ก่อตั้ง Linktree ไม่ได้สมัครโฆษณาแบบ PPC และก็ไม่ได้สมัครแพลตฟอร์ม affiliate program ใดๆ เลย แต่มีจำนวนผู้เข้าใช้เพิ่มขึ้นแบบโดดเด่นมาก จากการเข้าเว็บไซต์ของพวกเขาโดยตรง
เมื่อตอนที่เปิดตัวครั้งแรกปี 2016 เป็นที่น่าสนใจมากในเรื่องของการจัดการ “single-link” หรือลิงก์เดี่ยว ที่เป็นปัญหาสำหรับนักดนตรีบน Instagram แต่ตั้งแต่ที่มันกลายเป็นเครื่องมือสำหรับนักดนตรี ตั้งแต่นั้นมันก็กวาดพื้นที่ของ influencer และร้านค้าออนไลน์ต่างๆ โดยที่ไม่ต้องทำเรื่องการตลาดเลย
แต่อย่างไรก็ดี มันมีความจริงอยู่ 2-3 อย่างที่จะทำให้บัญชีของ Linktree ดังเปรี้ยงป้างขึ้นมา มีดังนี้:
คนกลุ่มแรกที่ใช้ Linktree ส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรมดนตรีและสายบันเทิง เมเบิลสตาร์ทอัพ กล่าวว่า คนมากกว่า 20 ล้านคน พวกนี้เขาสร้างโปรไฟล์บนแพลตฟอร์มของ Linktree เองและโปรไฟล์เหล่านั้นมีคนเข้าดูมากกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน ดาราดังๆ อย่าง Selena Gomez และ Dua Lipa และยังมีแบร์นดังอย่าง HBO และ Red Bull ซึ่งทำให้เห็นได้ชัดเจนว่า เหล่าผู้มีอิทธิพลทางสื่อหลายๆ คนบน Instagram ก็ใช้ Linktree เพื่อสนับสนุนผลงานของพวกเขา ตั้งแต่ Linktree เปิดตัวแรกๆ
นี่คือตัวอย่างของ Selena Gomez ที่เป็นลิงก์เพลงและวิดีโอผลงานล่าสุดของเธอ และยังรวมไปถึงแบรนด์เครื่องสำอางค์ Rare Beauty เป็นร้านค้าอย่างเป็นทางการของเธอ และเรื่องราวเกี่ยวกับงานที่ไม่หวังผลกำไรของเธอ
เหล่าคนดังสาธารณะอย่าง ( ดารา คนมีชื่อเสียง และรวมไปถึง เหล่านักสร้างคอนเทนต์อื่นๆ ) และอีกหลายๆ แบรนด์ที่ใช้ Linktree พวกเขามีผู้ติดตามรวมๆ กันไม่ต่ำกว่า พันล้านคนบน Instagram ความจริงพวกเขาแค่ใส่ลิงก์ลงไปในประวัติหรือใน bio นั่นก็เพียงพอแล้วสำหรับที่จะทำให้แพลตฟอร์มของพวกเขา เป็นที่รู้จัก และน่าสนใจสำหรับผู้ใช้ทั้งหลาย
ผู้ก่อตั้ง Linktree ได้แก่ แอนโทนี แซคคารี่ อเล็กซ์ แซคคารี่ และ นิค ฮัมฟรี
แคมเปญระดมเงินทุนบนโซเซียลมีเดียว มีบทบาทอย่างมากที่ทำให้ Linktree ดังขึ้น เริ่มจาก แคมเปญ GoFundMe แคมเปญ Kickstarter รวมไปถึงเหตุอื่นๆ บนสื่อโซเซียล อย่าง Black Lives Matter พวกแคมเปญเหล่านี้ใช้แพลตฟอร์ม Linktree จนทำให้มีผู้ติดตามเป็นพันล้านคน ดังนั้น ในทางกลับกัน ก็ทำให้ Linktree เป็นที่รู้จักมากขึ้น จนทำให้มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น
ซึ่งที่จริงแล้ว Black Live Matter ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ Linktree เติบโตมาได้ถึงทุกวันนี้ ก็เพราะพวกนักกิจกรรม และผู้ใช้คนอื่นๆ อยากจะให้คนมาสนับสนุนกิจกรรมของตนโดยใช้โปรไฟล์ตัวเองนำเสนอสิ่งที่พวกเขารณรงค์อยู่ เพื่อให้ผู้เข้าชมสามารถจะบริจาค เรียนรู้ และมีส่วนในการช่วยแก้ปัญหาต่างๆ อันที่จริง Linktree ไดเปิดตัวแบนเนอร์ของ Black Lives Matter ตลอดในช่วงหน้าร้อน เพื่อให้ใครก็ได้สามารถนำไปใส่ใว้ในโปรไฟล์ของพวกเขา
Linktree เปิดโอกาสให้เจ้าของแบรนเนอร์อีคอมเมิร์ซต่างๆ สร้าง landing page ได้ไวขึ้นเพื่อที่พวกเขาจะได้ใส่ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของพวกเขาลงบนเว็บไซต์ ผู้ขายทั้งหลายสามารถที่จะเพิ่มลิงก์ข้อเสนอต่างๆ ของแจก และรายการสินค้าได้สะดวกขึ้น จากประวัติบน Instagram ของพวกเขาเพื่อช่วยเพิ่มยอดขายได้อีกทางหนึ่ง
หลังจากที่ Linktree เป็นที่รู้จัก พวกเขาก็ร่วมมือกับ Amazon และ Shopify สร้างเพื่อสร้างกระบวนการที่คล่องตัวยิ่งขึ้นสำหรับผู้ขายเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ของตน
ปัจจุบันนี้บัญชีของ Linktree ใช้ลิงก์ของ Amazon โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน TikTok ซึ่งยังไม่ได้เป็นผู้อ้างอิงที่ได้รับการยอมรับสำหรับโปรแกรม Influencer ของ Amazon --- นั่นก็หมายความว่า นัก TikToker จะต้องอ้างอิงไซต์บุคคลที่สาม ถ้าพวกเขาอยากได้ค่าคอมมิชชั่น
ผู้ประกอบการหลายคนทราบดี ว่าพวกเขาเริ่มส่งโซเซียลมีเดียของพวกเขามากขึ้นอย่างช่องทาง (Instagram) ผ่านลิงก์ของ Linktree ในประวัติของพวกเขา ซึ่งทำให้แพล็ตฟอร์มของพวกเขาเป็นที่รู้จัก และดึงดูดผู้ใช้มากขึ้น
เทคนิคของบล็อกเกอร์ และนักเขียนคอนเทนต์ทางโซเซียลมีเดียทั้งหลายมีบทบาทอย่างมากในการโปรโมต Linktree แม้ว่าทางแพลตฟอร์มยังไม่ได้เสนอช่องทางสำหรับ affiliate program สำหรับบล็อกเกอร์ และนักเขียนคอนเทนต์เพื่อให้โปรโมต แต่ก็มีนักบล๊อกเกอร์หลายร้อยรายที่ทำได้เช่นนั้น
แซคคาเรีย กล่าวว่า หลังจากที่เปิดตัวผลิตภัณฑ์ในปี 2016 ทีมงานของเขาก็ได้ค้นพบว่าผู้ใช้ทั้งหลาย แม้กระทั่งคนดังต่างๆ ก็มีปัญหาแบบเดียวกัน ดังนั้น พวกเจาจึงจำเป็นที่จะต้องแยก Linktree ออกจาก Bolster เพื่อที่จะได้โฟกัสไปแอปได้อย่างเต็มที่
“ตัวเลือกที่จะทำให้พวกเรามั่นคงขึ้น คือเราจำเป็นที่จะต้องเติมเชื้อไฟเพื่อสร้างกระแส” แซคคาเรีย กล่าว
ความสำเร็จของ Linktree เริ่มจากการแก้ปัญหาบน Instagram ให้กับผู้ใช้ที่เกิดปัญหาทั้งหลาย หลักๆ เลยก็ผู้ใช้ทั้งหลาย หลังจากที่ความนิยมลดลงจากบัญชีผู้ใช้ตัวเล็กๆ ผู้ที่เคยเป็นแฟนคลับของบัญชีผู้ใช้ดังๆ
แซคคารี่ กล่าวว่าแพลตฟอร์มดังกล่าวกำลังพัฒนาไปสู่แพลตฟอร์มที่กว้างขึ้นมาก ซึ่งสามารถรวมระบบนิเวศดิจิทัลทั้งหมดของคุณให้เป็นหนึ่งเดียว และทำให้สถานะดิจิทัลของคุณเป็นประชาธิปไตย เขากล่าวว่าในขณะที่ลูกค้าบางรายยังคงรักษา "เว็บไซต์ขนาดใหญ่อย่าง brand-immersive website" สำหรับคนอื่น ๆ Linktree ได้เปลี่ยนแนวคิดของเว็บไซต์เป็นแบบสแตนด์อโลนอย่างสมบูรณ์
ในแถลงการณ์- กรรมการผู้จัดการ Jeff Lieberman กล่าวว่า “เมื่ออินเตอร์เน็ตมีการกระจายตัวมากขึ้น สินค้าต่างๆ รวมถึงการเผยแพร่ทั้งหลาย และอินฟลูเอนเซอร์ต้องการที่จะแก้ไขปรับปรุงการแชร์คอนเทนต์ของตนเอง ให้สามารถเชื่อมต่อโซเซียลมีเดียของผู้ติดตามทั้งหมดกับวงจรออนไลน์ทั้งหมด ในท้ายที่สุด จะช่วยเพิ่มการรับรู้ของแบรนด์ และรายได้เพิ่มขึ้น
Linktree ประสบความสำเร็จ ในการสร้างหมวดหมู่ขึ้นมาใหม่เรียกว่า “microsite” ที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ สามารถสร้างรายได้จากอินเตอร์เน็ตในรุ่นต่อไป ผ่านฮับแบบอินเทอร์แอคทีฟเพียงแห่งเดียว
สิ่งที่น่าประทับใจที่ฉุดให้จำนวนลูกค้าของ Linktree เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นในสองสามเดือนที่ผ่านมา ว่าได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเหมาะสมกับตลาดจริงๆ และพวกเราก็รู้สึกตื่นเต้นอย่างมากที่จะได้ร่วมงานกันทีม Linktree ในสถานะที่พวกเขาได้เปลี่ยนขั้นตอนไปสู่การเติบโตแบบ Scaleup”
บทสรุป
ในเดือนมีนาคม ปี 2022 Linktree เพิ่มรอบในการระดมเงินทุนได้มากถึง $110,000,000 ดอลลาสหรัฐ ด้วยมูลค่า $1.3 พันล้าน ดอลลาสหรัฐ ทำให้เป็นส่วนหนึ่งของยูนิคอร์น ปัจจุบันนี้มีสมาชิกมากกว่า 240 ทีมใน 13 ประเทศ และในอีก 17 เมือง
