ในบทความนี้ เราจะมาแบ่งปันหนึ่งใน Passive Income ที่ง่ายที่สุดในธุรกิจออนไลน์ปัจจุบัน การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนั้นสะดวกและรวดเร็วมากเมื่อเทียบกับการขายผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้
บทความนี้กล่าวถึงวิธีการที่ Oliur ใช้สร้างรายได้ประมาณ 71,000 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยการขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว หากคุณใช้วิธีนี้และทำตามคำแนะนำทั้งหมดในบทความนี้ คุณจะทำเงินได้มากกว่า $5,800 ต่อเดือน Oliur เป็นดีไซน์เนอร์และครีเอเตอร์ที่มาประเทศอังกฤษ เขาเริ่มต้นจากการเป็น Visual Designer ทว่าตอนนี้เขาทำทุกอย่างตั้งแต่การผลิตสื่อจนถึงการจัดการร้านค้าอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้เขายังชอบลงทุนและให้คำปรึกษาด้านการออกแบบแก่สตาร์ทอัพอีกด้วย
รายได้ของ Oliur ในปี 2021 — 2022 (หลักฐาน)
Oliur กล่าวว่า:
"การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมีประโยชน์หลายอย่างมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทำได้ง่ายและรวดเร็วมาก คุณสามารถสร้างมันด้วยทักษะที่มีอยู่ หรือคุณสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในการผลิตได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถสร้าง แนวคิดและคุณสามารถเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจใหม่ที่นำเสนอเทมเพลตแนวคิด คู่มือ และทรัพยากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า:
"ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือคนที่ชื่อ Easlo ซึ่งผมเห็นเขาปรากฏบน Twitter เป็นประจำ บุคคลนี้เพียงแค่แบ่งปันวิธีสร้างผลงานให้ Productive มากขึ้นด้วยผ่านแนวคิดนี้ และวิธีใช้ประโยชน์จากแนวคิดนี้ให้มากขึ้น เขาแบ่งปันกลเม็ดเคล็ดลับและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2020 (2 ปีก่อน) เขาอ้างว่าสามารถทำยอดขายต่อเดือนได้มากกว่า 30,000 ดอลลาร์ นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ"
โดยปกติแล้วคุณต้องการเพียงเวลาส่วนตัวในการสร้าง และคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนในการซื้อตัวอย่าง อุปกรณ์ และเครื่องจักรที่คุณอาจต้องใช้เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ คุณต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับตัวอย่างซึ่งเป็นงานหนักมากเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ แต่ในดิจิทัลคุณไม่ต้องลงทุนในปัจจัยการผลิตและวัสดุที่จะใช้ในการสร้าง
การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอาจเป็นทางเลือกที่ได้ผลสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินทุนเริ่มต้นจำกัด ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องซื้อตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดรอปชิปก่อนที่จะเริ่มโปรโมต ก่อนที่คุณจะสามารถทำเงินได้ คุณต้องใช้เงินลงทุนบางส่วนเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้เสียก่อน
ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ เพราะเมื่อมีคนซื้อผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ผลิตภัณฑ์นั้นจะถูกส่งออกไปทันทีในรูปแบบของลิงก์ดาวน์โหลดหรืออีเมล ทำให้ผู้ซื้อได้รับของทันที โดยไม่ต้องรอเป็นวันหรือสองสามสัปดาห์เพื่อรับสินค้า
เนื่องจากผู้ขายไม่มีอะไรที่ต้องจัดส่งให้กับผู้ซื้อ ผู้ขายและผู้ซื้อจึงไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่ง สินค้าจะถูกส่งตรงผ่านอินเทอร์เน็ต พอมีการแนบค่าขนส่งกับสินค้าที่ขาย ลูกค้าที่มีกำลังซื้ออาจเปลี่ยนใจหรือถูกจำกัดในการซื้อสินค้า
โดยทั่วไปแล้วห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ จะมีปัญหาเกี่ยวกับสินค้าคงคลังและของมีตำหนิ ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ไม่สามารถขายทำเงินได้ แต่ใช้ไม่ได้กับผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เพราะคุณสามารถปรับสเกลได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเจอกับอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้น
การใช้เวลาเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ต้องบำรุงรักษา จะช่วยให้คุณสามารถมีสมาธิกับการขายโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจเวลาเกิดปัญหาที่เป็นผลอันเนื่องมาจากการบำรุงรักษาที่ไม่ดี หากคุณกำลังขายธีม WordPress หรือซอฟต์แวร์ออกแบบต่าง ๆ คุณอาจต้องเปิดห้องประชุมสำหรับบริการลูกค้าเพื่อโต้ตอบกับผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาประเภทนี้จะไม่เข้มงวดเท่ากับการที่ต้องขายผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้
แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นบางประการ แต่กำไรจากการทำการตลาดกับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมักมีกำไรมากกว่าของผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ สาเหตุเพราะต้นทุนในการผลิตผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนั้นต่ำกว่าของผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ เช่น การซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ การบำรุงรักษาระดับสูง การบำรุงรักษาคลังสินค้า การขนส่ง และอื่น ๆ แพลตฟอร์มสำหรับการขายสินค้าดิจิทัล
ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มดิจิทัลออนไลน์ให้เลือกมากมาย ส่วนแพลตฟอร์มที่ Oliur เลือกใช้นั้นมีดังต่อไปนี้:
Gumroad
Gumroad เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทรงพลังแต่เรียบง่าย ซึ่งรวบรวมเครื่องมือมากมายไว้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ปัจจุบันคุณสามารถขายบริการดิจิทัลได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ, ระบบสมัครสมาชิก, คอร์สหลักสูตร, ฯลฯ ให้กับกลุ่มผู้เป้าหมายของคุณ โดยคุณสามารถเข้าไปตั้งค่าร้านค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม หรือนำไปฝังไว้บนไซต์ของตัวเองก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย หากคุณไม่มีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ ทาง Gumroad มีโปรแกรมที่ยืดหยุ่นให้คุณใช้สร้างหน้าร้านและปรับแต่งสีสันของเว็บไซต์ได้ และยังมีเครื่องมืออื่น ๆ อีกเพียบให้คุณได้ลองนำไปปรับใช้
Sellfy
Sellfy เป็นอีคอมเมิร์ซที่ใช้งานง่ายสำหรับอครีเอเตอร์ที่อยากขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล อยากขายอะไรก็ได้ ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจร จะขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น eBooks วิดีโอ เสียง และเพลง หรือไฟล์ อย่างเช่น PSD, AI ก็ขายได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้ผ่านหน้าร้าน Sellfy ของคุณ
จากข้อมูลของ Oliur สาเหตุที่เขาเลือกใช้ Sellfy มีดังต่อไปนี้:
นอกจากนี้ ดูเหมือนว่า Oliur จะชอบฟีเจอร์ด้านการตลาดของ Sellfy ซึ่งทำการตลาดได้ดีกว่า เอาชนะคู่แข่งที่อาจต้องเผชิญ และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างง่ายดาย โดยมีฟีเจอร์บางตัวเช่น:
ทำการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของคุณบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
Oliur กล่าวว่า
"หลายคนคิดว่าการบอกปากต่อปากเพียงพอแล้ว แต่ถ้าให้พูดกันตามตรง นั่นเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีไอเดียที่หลุดโลก บางอย่างจุดประกายได้ การบอกปากต่อปากไม่เพียงพออีกต่อไป ส่วนตัวผมคิดว่าการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียนั้นถูกและง่ายมากที่สุดแล้ว หลังจากที่ลองมากับตัวเอง ต้องขอบอกเลยว่าอุปสรรคนั่นมีน้อยและต้นทุนที่ถูกมาก นี่จึงคือเหตุผลว่าทำไมการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียจึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ควรคิดพิจารณา หากอยากเริ่มขายสินค้าของตัวเอง"
การพูดถึงที่รวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย
Oliur ไม่ได้ใช้ความพยายามมากมายอะไรในการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย แต่เขาเพียงแค่พูดเกริ่นถึงวิดีโอบน YouTube, Instagram, Twitter หรือ TikTok อย่างรวดเร็ว เขาใช้วิธีนี้เพื่อโปรโมตวอลเปเปอร์ คอม และผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่จับต้องได้และแบบดิจิทัล ตัวอย่างอยู่ในภาพด้านล่าง
อีกทางเลือกหนึ่งคือการอัปโหลดรูปภาพ เขามักจะอัปโหลดรูปภาพของวันหยุดพักร้อนและวันหยุดตามเทศกาลที่เขาไปมาล่าสุด และตั้งค่าเอาด้วย Preset มีคนไม่น้อยที่เข้ามาถามเขาเกี่ยวกับค่าของรูปที่ถ่าย เขาจึงใช้โอกาสนี้โปรโมตค่าที่ตั้งไว้ใน Preset และลิงก์ Affiliate ของเขา ด้านล่างนี้คือตัวอย่างภาพที่เขาถ่ายในช่วงวันหยุดพักผ่อน
เขาพูดถึงกล้อง iPhone 13 Pro ของเขาในภาพด้านบนและใส่ลิงก์ Affiliate ไว้ในโพสต์
Oliur ไม่ได้โปรโมตผลิตภัณฑ์ของเขามากจนเกินไป และไม่ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่อะไร เขาชอบสไตล์ที่เป็นออร์แกนิกและธรรมชาติมากกว่า นี่เป็นกลยุทธ์อันยอดเยี่ยมที่ใช้ได้ผลกับเขา และทำเงินให้เขาได้มากกว่า $70,000 เมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การพยายามโพสต์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพก็ยังถือเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรทำอยู่ดี
แล้วถ้าหากยังไม่มีฐานผู้ชมหรือกลุ่มเป้าหมาย?
คำตอบง่าย ๆ คือ คุณควรสร้างฐานผู้ชมขึ้นมา โดย Oliur กล่าวว่า:
"การสร้างฐานผู้ชมเป็นวิธีที่ถูกที่สุดและง่ายที่สุด เว้นแต่คุณจะมีเงินเป็นหลายพันดอลลาร์สำหรับการปล่อยโฆษณาบน Facebook หรือ Google หรือทำการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์"
สูตรการสร้างฐานผู้ชม
คือสูตรพื้นฐานในการสร้างฐานผู้ชมที่ Oliur ใช้ได้ผล เป็นสูตรที่คนทั่วไปสามารถทำตามได้
บทสรุป
การมีฐานผู้ชม และการให้คุณค่าแก่ผู้ชม จนไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า นับเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดของการสร้างรายได้หลายพันดอลลาร์ในแต่ละปี Oliur นักการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลออนไลน์ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างรายได้มากกว่า 70,000 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว
ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการโปรโมตบนโลกออนไลน์ และสร้างรายได้ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียก็ยังคงถือเป็นวิธีที่ถูกและดีที่สุด เว้นเสียว่าคุณจะมีเงินหลายพันดอลลาร์เพื่อใช้ในการลงโฆษณาบน Facebook และ Google หรือจ่ายเงินจ้างอินฟลูเอนเซอร์ได้โดยไม่มีปัญหา