17 กรกฎาคม 2023 0 276

วิธีสร้างรายได้มากกว่า $70,700 ต่อปีจากการขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลออนไลน์

ในบทความนี้ เราจะมาแบ่งปันหนึ่งใน Passive Income ที่ง่ายที่สุดในธุรกิจออนไลน์ปัจจุบัน การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนั้นสะดวกและรวดเร็วมากเมื่อเทียบกับการขายผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้

บทความนี้กล่าวถึงวิธีการที่ Oliur ใช้สร้างรายได้ประมาณ 71,000 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว โดยการขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลทางออนไลน์เพียงอย่างเดียว หากคุณใช้วิธีนี้และทำตามคำแนะนำทั้งหมดในบทความนี้ คุณจะทำเงินได้มากกว่า $5,800 ต่อเดือน Oliur เป็นดีไซน์เนอร์และครีเอเตอร์ที่มาประเทศอังกฤษ เขาเริ่มต้นจากการเป็น Visual Designer ทว่าตอนนี้เขาทำทุกอย่างตั้งแต่การผลิตสื่อจนถึงการจัดการร้านค้าอีคอมเมิร์ซ นอกจากนี้เขายังชอบลงทุนและให้คำปรึกษาด้านการออกแบบแก่สตาร์ทอัพอีกด้วย

รายได้ของ Oliur ในปี 2021 — 2022 (หลักฐาน)

  • ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนั้นสร้างง่ายกว่า

Oliur กล่าวว่า:

"การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมีประโยชน์หลายอย่างมากกว่าผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทำได้ง่ายและรวดเร็วมาก คุณสามารถสร้างมันด้วยทักษะที่มีอยู่ หรือคุณสามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ ๆ ในการผลิตได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถสร้าง แนวคิดและคุณสามารถเปลี่ยนให้เป็นธุรกิจใหม่ที่นำเสนอเทมเพลตแนวคิด คู่มือ และทรัพยากรอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง"

นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า:

"ตัวอย่างที่ดีของเรื่องนี้คือคนที่ชื่อ Easlo ซึ่งผมเห็นเขาปรากฏบน Twitter เป็นประจำ บุคคลนี้เพียงแค่แบ่งปันวิธีสร้างผลงานให้ Productive มากขึ้นด้วยผ่านแนวคิดนี้ และวิธีใช้ประโยชน์จากแนวคิดนี้ให้มากขึ้น เขาแบ่งปันกลเม็ดเคล็ดลับและแหล่งข้อมูลอื่น ๆ ซึ่งในเดือนมิถุนายน 2020 (2 ปีก่อน) เขาอ้างว่าสามารถทำยอดขายต่อเดือนได้มากกว่า 30,000 ดอลลาร์ นับเป็นเรื่องที่ค่อนข้างเหลือเชื่อ"

  • ต้นทุนการผลิตต่ำ

โดยปกติแล้วคุณต้องการเพียงเวลาส่วนตัวในการสร้าง และคุณไม่จำเป็นต้องลงทุนในการซื้อตัวอย่าง อุปกรณ์ และเครื่องจักรที่คุณอาจต้องใช้เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ คุณต้องใช้เงินจำนวนมากไปกับตัวอย่างซึ่งเป็นงานหนักมากเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ แต่ในดิจิทัลคุณไม่ต้องลงทุนในปัจจัยการผลิตและวัสดุที่จะใช้ในการสร้าง

 

  • อุปสรรคน้อยและสามารถทำให้เป็นไปได้

การขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัลอาจเป็นทางเลือกที่ได้ผลสำหรับคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ที่มีเงินทุนเริ่มต้นจำกัด ตัวอย่างเช่น คุณอาจต้องซื้อตัวอย่างผลิตภัณฑ์ดรอปชิปก่อนที่จะเริ่มโปรโมต ก่อนที่คุณจะสามารถทำเงินได้ คุณต้องใช้เงินลงทุนบางส่วนเพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้เสียก่อน
 

  • จัดส่งได้ทันที

ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ เพราะเมื่อมีคนซื้อผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ผลิตภัณฑ์นั้นจะถูกส่งออกไปทันทีในรูปแบบของลิงก์ดาวน์โหลดหรืออีเมล ทำให้ผู้ซื้อได้รับของทันที โดยไม่ต้องรอเป็นวันหรือสองสามสัปดาห์เพื่อรับสินค้า
 

  • ไม่มีการจัดส่งสินค้า

เนื่องจากผู้ขายไม่มีอะไรที่ต้องจัดส่งให้กับผู้ซื้อ ผู้ขายและผู้ซื้อจึงไม่ต้องจ่ายค่าจัดส่ง สินค้าจะถูกส่งตรงผ่านอินเทอร์เน็ต พอมีการแนบค่าขนส่งกับสินค้าที่ขาย ลูกค้าที่มีกำลังซื้ออาจเปลี่ยนใจหรือถูกจำกัดในการซื้อสินค้า
 

  • ขายได้ไม่จำกัดจำนวน

โดยทั่วไปแล้วห่วงโซ่อุปทานของผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ จะมีปัญหาเกี่ยวกับสินค้าคงคลังและของมีตำหนิ ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้ไม่สามารถขายทำเงินได้ แต่ใช้ไม่ได้กับผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เพราะคุณสามารถปรับสเกลได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเจอกับอุปสรรคที่กล่าวมาข้างต้น
 

  • บำรุงรักษาง่าย

การใช้เวลาเพียงเล็กน้อยหรือแทบไม่ต้องบำรุงรักษา จะช่วยให้คุณสามารถมีสมาธิกับการขายโดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจเวลาเกิดปัญหาที่เป็นผลอันเนื่องมาจากการบำรุงรักษาที่ไม่ดี หากคุณกำลังขายธีม WordPress หรือซอฟต์แวร์ออกแบบต่าง ๆ คุณอาจต้องเปิดห้องประชุมสำหรับบริการลูกค้าเพื่อโต้ตอบกับผู้ซื้อ อย่างไรก็ตาม การบำรุงรักษาประเภทนี้จะไม่เข้มงวดเท่ากับการที่ต้องขายผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้
 

  • กำไรสูงกว่า

แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นบางประการ แต่กำไรจากการทำการตลาดกับผลิตภัณฑ์ดิจิทัลมักมีกำไรมากกว่าของผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ สาเหตุเพราะต้นทุนในการผลิตผลิตภัณฑ์ดิจิทัลนั้นต่ำกว่าของผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ เช่น การซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ การบำรุงรักษาระดับสูง การบำรุงรักษาคลังสินค้า การขนส่ง และอื่น ๆ แพลตฟอร์มสำหรับการขายสินค้าดิจิทัล

ปัจจุบันมีแพลตฟอร์มดิจิทัลออนไลน์ให้เลือกมากมาย ส่วนแพลตฟอร์มที่ Oliur เลือกใช้นั้นมีดังต่อไปนี้:

Gumroad 

Gumroad เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ทรงพลังแต่เรียบง่าย ซึ่งรวบรวมเครื่องมือมากมายไว้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ปัจจุบันคุณสามารถขายบริการดิจิทัลได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ, ระบบสมัครสมาชิก, คอร์สหลักสูตร, ฯลฯ ให้กับกลุ่มผู้เป้าหมายของคุณ โดยคุณสามารถเข้าไปตั้งค่าร้านค้าของตัวเองบนแพลตฟอร์ม หรือนำไปฝังไว้บนไซต์ของตัวเองก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย หากคุณไม่มีเว็บไซต์หรือร้านค้าออนไลน์ ทาง Gumroad มีโปรแกรมที่ยืดหยุ่นให้คุณใช้สร้างหน้าร้านและปรับแต่งสีสันของเว็บไซต์ได้ และยังมีเครื่องมืออื่น ๆ อีกเพียบให้คุณได้ลองนำไปปรับใช้

Sellfy

Sellfy เป็นอีคอมเมิร์ซที่ใช้งานง่ายสำหรับอครีเอเตอร์ที่อยากขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัล อยากขายอะไรก็ได้ ทำให้กลายเป็นแพลตฟอร์มแบบครบวงจร จะขายผลิตภัณฑ์ดิจิทัล เช่น eBooks วิดีโอ เสียง และเพลง หรือไฟล์ อย่างเช่น PSD, AI ก็ขายได้ นอกจากนี้ คุณยังสามารถขายสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ได้ผ่านหน้าร้าน Sellfy ของคุณ

จากข้อมูลของ Oliur สาเหตุที่เขาเลือกใช้ Sellfy มีดังต่อไปนี้:

  • การสตรีมวิดีโอ — คุณสามารถนำเสนอวิดีโอได้ตามต้องการ ลดความเสี่ยงของการละเมิดลิขสิทธิ์ และขจัดปัญหาการดาวน์โหลดด้วยการสตรีมวิดีโอ
  • พิมพ์ตามต้องการ — คุณสามารถขายเสื้อยืด เสื้อฮู้ด แก้วน้ำ และหมวกได้โดยใช้การพิมพ์ตามสั่งในตัว ระบบจะพิมพ์คำสั่งซื้อที่เข้ามาและส่งให้กับลูกค้าของคุณเองโดยอัตโนมัติ
  • การสมัครสมาชิก — คุณสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีระบบการสมัครสมาชิกแบบดิจิทัล และเรียกเก็บค่าสมัครเป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปี

นอกจากนี้ ดูเหมือนว่า Oliur จะชอบฟีเจอร์ด้านการตลาดของ Sellfy ซึ่งทำการตลาดได้ดีกว่า เอาชนะคู่แข่งที่อาจต้องเผชิญ และทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างง่ายดาย โดยมีฟีเจอร์บางตัวเช่น:

  • รหัสส่วนลด — คุณสามารถใช้รหัสส่วนลดเพื่อมีส่วนร่วมกับลูกค้าและเพิ่มยอดขาย
  • การตลาดผ่านอีเมล — คุณสามารถอัปเดตข่าวสารของผลิตภัณฑ์ไปยังลูกค้าคนปัจจุบัน และรวบรวมสมาชิกที่สนใจในจดหมายข่าวไปยังร้านค้าของคุณ
  • การเพิ่มยอดขาย — ผู้ใช้สามารถเพิ่มยอดขายผ่านการมอบข้อเสนอให้กับผู้ใช้ที่ดำเนินการชำระเงินและเพิ่มมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ย (AOV)
  • พิกเซลติดตาม — เป็นฟีเจอร์ที่สามารถใช้ในการเพิ่มพิกเซลโฆษณาของ Facebook และ Twitter เพื่อสร้างโฆษณาและติดตามประสิทธิภาพของร้านค้า
  • นอกจากนี้ คุณยังสามารถขายเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย หรืออะไรที่ไหนก็ได้

ทำการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของคุณบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

Oliur กล่าวว่า

"หลายคนคิดว่าการบอกปากต่อปากเพียงพอแล้ว แต่ถ้าให้พูดกันตามตรง นั่นเป็นเพียงเรื่องเพ้อฝัน เว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีไอเดียที่หลุดโลก บางอย่างจุดประกายได้ การบอกปากต่อปากไม่เพียงพออีกต่อไป ส่วนตัวผมคิดว่าการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียนั้นถูกและง่ายมากที่สุดแล้ว หลังจากที่ลองมากับตัวเอง ต้องขอบอกเลยว่าอุปสรรคนั่นมีน้อยและต้นทุนที่ถูกมาก นี่จึงคือเหตุผลว่าทำไมการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียจึงเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ควรคิดพิจารณา หากอยากเริ่มขายสินค้าของตัวเอง"


การพูดถึงที่รวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย

Oliur ไม่ได้ใช้ความพยายามมากมายอะไรในการทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย แต่เขาเพียงแค่พูดเกริ่นถึงวิดีโอบน YouTube, Instagram, Twitter หรือ TikTok อย่างรวดเร็ว เขาใช้วิธีนี้เพื่อโปรโมตวอลเปเปอร์ คอม และผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่จับต้องได้และแบบดิจิทัล ตัวอย่างอยู่ในภาพด้านล่าง

อีกทางเลือกหนึ่งคือการอัปโหลดรูปภาพ เขามักจะอัปโหลดรูปภาพของวันหยุดพักร้อนและวันหยุดตามเทศกาลที่เขาไปมาล่าสุด และตั้งค่าเอาด้วย Preset มีคนไม่น้อยที่เข้ามาถามเขาเกี่ยวกับค่าของรูปที่ถ่าย เขาจึงใช้โอกาสนี้โปรโมตค่าที่ตั้งไว้ใน Preset และลิงก์ Affiliate ของเขา ด้านล่างนี้คือตัวอย่างภาพที่เขาถ่ายในช่วงวันหยุดพักผ่อน

เขาพูดถึงกล้อง iPhone 13 Pro ของเขาในภาพด้านบนและใส่ลิงก์ Affiliate ไว้ในโพสต์

Oliur ไม่ได้โปรโมตผลิตภัณฑ์ของเขามากจนเกินไป และไม่ได้จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่อะไร เขาชอบสไตล์ที่เป็นออร์แกนิกและธรรมชาติมากกว่า นี่เป็นกลยุทธ์อันยอดเยี่ยมที่ใช้ได้ผลกับเขา และทำเงินให้เขาได้มากกว่า $70,000 เมื่อปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การพยายามโพสต์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพก็ยังถือเป็นเรื่องที่เราทุกคนควรทำอยู่ดี

แล้วถ้าหากยังไม่มีฐานผู้ชมหรือกลุ่มเป้าหมาย?

คำตอบง่าย ๆ คือ คุณควรสร้างฐานผู้ชมขึ้นมา โดย Oliur กล่าวว่า:

"การสร้างฐานผู้ชมเป็นวิธีที่ถูกที่สุดและง่ายที่สุด เว้นแต่คุณจะมีเงินเป็นหลายพันดอลลาร์สำหรับการปล่อยโฆษณาบน Facebook หรือ Google หรือทำการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์"


สูตรการสร้างฐานผู้ชม

คือสูตรพื้นฐานในการสร้างฐานผู้ชมที่ Oliur ใช้ได้ผล เป็นสูตรที่คนทั่วไปสามารถทำตามได้

  1. แบ่งปันสิ่งที่มีคุณค่าโดยไม่คิดเงิน พยายามจัดหาสิ่งที่ช่วยเหลือ, สอน หรือทำให้ชีวิตของพวกเขานั้นง่ายขึ้นไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
  2. แบ่งปันสิ่งที่มีคุณค่าอย่างสม่ำเสมอ การแบ่งปันคุณค่าบนแพลตฟอร์มโซเชียล เช่น TikTok, Facebook, Instagram, Pinterest และอื่น ๆ เป็นประจำคือวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง ซึ่งจำเป็นอย่างมากสำหรับการสร้างฐานผู้ชม และถ้าหากคุณลงคอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ ผู้คนย่อมสนใจและตั้งหน้าตั้งตารอคุณค่านั้น
  3. มอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่ามากเป็นพิเศษ ในการขายผลิตภัณฑ์ คุณต้องหวังพึ่งฐานผู้ชมที่คุณสร้างขึ้นมา ผลิตภัณฑ์ที่สร้างขึ้นมาในขั้นตอนสุดท้าย เป็นการรวบรวมทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณแบ่งปันไปก่อนหน้านี้ โปรดจำไว้ด้วยว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อ แค่ให้จับตาดูผู้ชมส่วนน้อยที่ซื้อ เพราะพวกเขาคือผู้ชมที่มีค่าที่สุดของคุณ และคุณควรพยายามรักษาพวกเขาไว้ จากนั้นก็ทำซ้ำต่อไปเรื่อยเรื่อย นำเสนอคุณค่า และออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า (ควรเลือกเวลาที่เหมาะสมและอย่ามากจนเกินพอดี)
  4. อดทนและสม่ำเสมอ อย่าคาดหวังว่าวิธีนี้จะทำให้คุณมีรายได้มหาศาลในชั่วข้ามคืน เพื่อการสร้างฐานผู้ติดตามที่ดี คุณจึงจำเป็นต้องขยันและอดทน

บทสรุป

การมีฐานผู้ชม และการให้คุณค่าแก่ผู้ชม จนไปถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า นับเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดของการสร้างรายได้หลายพันดอลลาร์ในแต่ละปี Oliur นักการตลาดผลิตภัณฑ์ดิจิทัลออนไลน์ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อสร้างรายได้มากกว่า 70,000 ดอลลาร์ในปีที่แล้ว

ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการโปรโมตบนโลกออนไลน์ และสร้างรายได้ที่สมเหตุสมผล ดังนั้นการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียก็ยังคงถือเป็นวิธีที่ถูกและดีที่สุด เว้นเสียว่าคุณจะมีเงินหลายพันดอลลาร์เพื่อใช้ในการลงโฆษณาบน Facebook และ Google หรือจ่ายเงินจ้างอินฟลูเอนเซอร์ได้โดยไม่มีปัญหา

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?
#digital