คุณจำกางเกง leggings บน TikTok ได้หรือไม่? ถ้าจำไม่ได้ แสดงว่าคุณไม่ได้ให้ความสนใจสื่อโซเซียลมีเดียมากพอ ถ้าคุณจำไม่ได้เลย เราจะขอแนะนำให้คุณได้รู้จัก ผู้ชายสองคน ที่ทำให้มันเป็นไวรัล ทำยอดขายได้มากกว่า 120,000 ตัว ภายในเวลา 2 เดือน ด้วยการทำให้กางเกงเกิด hype ไปทั่ว TikTok
Jem Bourouh และ Jose Torres ผู้ประกอบการ ธุรกิจอีคอมเมิร์ช และเป็นนักการตลาดดิจิทัลที่รับผิดชอบการทำให้กางเกง laggings เกิดความ hype ดังไปทั่ว TikTok ซึ่งสองคนนี้มาพบเส้นทางที่จะทำให้ แบรนด์กางเกง leggings ของพวก สามารถทำยอดขายได้กำไรมากกว่า $2,000,000 ดอลลาร์ภายในไม่ถึง 2 เดือน
ในบทความนี้ เราจะมาแบ่งปันกระบวนการ 10 ขั้นตอนที่เจม เบอรัฟ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเขาดังติดตลาด และยังทำให้พวกเขามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วผ่านการทำให้สินค้าของพวกเขาเกิดกระแสดังบน TikTok และหลังจากนั้นก็ใช้โฆษณาของ Facebook, Google และ Youtube เพื่อให้สินค้าของพวกเขาได้มียอดขายเพิ่มขึ้น
เจมและจ๊อซ เริ่มสังเกตุเห็นถึงศักยภาพของกางเกง leggings ก่อนหน้านี้ และพวกเขารู้ว่าจะทำให้สินค้าของพวกเขาดังขึ้นมาได้อย่างไร เพราะว่ากางเกง leggings ของพวกเขาค่อนข้างจะไม่เหมือนใคร ก็เพราะว่ามันทำให้ก้นของผู้หญิงที่ใส่ดูกระชับ และ “ยกขึ้น” ด้วยคุณสมบัติการยกกระชับก้น ด้วยมุมมองทางการตลาดที่ยังไม่มีใครขาย ทำให้เจมและจ๊อซมั่นใจได้ว่า กางเกง leggings ของพวกเขาจะต้องเป็๋นที่นิยมอย่างแน่นอน ดังนั้น พวกเขาก็ร่างแผนการเดิมเกมธุรกิจนี้ขึ้นมา
พวกเขาใช้กลยุทธ์ในการเดิมเกม ด้วยการทำให้สินค้าของพวกเขาเกิด hype ขึ้นมาได้ด้วยการส่งไปให้ influencers ทั้งหลายใส่ เพื่อโปรโมตสินค้าของพวกเขา และยังทำให้นัก Tiktokers ทั้งหลาย ใช้แบรนด์ของเขาสร้างคอนเทนต์ (UGCs)
คอนเทนต์ UGC จะช่วยให้พวกเขาสามารถนำคอนเทนต์เหล่านี้ ไปใช้กับโฆษณาแบบจ่ายเงินของ Facebook Google และ Youtube เพื่อเพิ่มยอดขายให้พวกเขาได้
แผนของพวกเขาไม่ได้มีอะไรซับซ้อน เพราะพวกเขาใช้หลักความจริงในสิ่งที่เขาขาดและมีความต้องการมันจริงๆ ซึ่งมันก็คือ คอนเทนต์ของผลิตภัณฑ์นั่นเอง พวกเขาไม่สามารถที่จะปล่อยโฆษณาบน Facebook ได้โดยปราศจากเนื้อหาของโฆษณาที่เหมาะสม ดังนั้นพวกเขาจึงคิดถึงวิธีที่จะใช้ UGC ซึ่งในทางกลับกันมันสร้าง hype ให้กับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเป็นอย่างมากพวกเขาได้พิจารณาที่จะใช้แพลตฟอร์มของ Tiktok เป็นอีกทางเลือกเพื่อดูปฏิกิริยาตอบรับที่อาจเกิดขึ้นอย่างฉับไว ถ้าในกรณีที่มีอะไรผิดพลาดบนบัญชีโฆษณา Facebook ของพวกเขา ที่จะช่วยให้โปรไฟล์ Facebook ของพวกเขาอาจถูกแบน หรือ ทำให้เพจใช้ไม่ได้ เพราะในมุมมองของเนื้อหาโฆษณาของพวกเขามันถูกหยิบคำว่า “กางเกงกระชับก้น” ซึ่งมันอาจจะเกิดขึ้นตอนไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับอารมณ์ของผู้ตรวจสอบของ Facebook
“ก่อนที่สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้น พวกเราคิดมาแล้วว่า อย่างไร สินค้าของเราจะต้องเป็นที่นิยมแน่ๆ ดังนั้น พวกเราเลยตัดสินใจสั่งตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต จำนวน 2-3 ตู้เอามาสต็อกสินค้า เพื่อที่จะได้ทำการส่งออกตามออร์เดอร์ได้เร็วพอ เพื่อป้องกันการถูกแบนด์และการถูกกักสินค้าเอาใว้” เจมกล่าว
เจมและจ๊อซเริ่มส่งสินค้าให้กับเหล่า influencers บน Tiktok ก่อนเพื่อที่จะได้เก็บ UGC เพื่อที่จะได้เอาไปใช้โฆษณาของพวกเขา โดยที่เหล่า Tiktok influencers เหล่านี้จะทำการโพสต์ภาพสินค้า และแนบลิงก์การช่องทางการสั่งสินค้าออนไลน์บนหน้าแอป Tiktok
สินค้าเริ่มขายดีขึ้น และมีลูกค้าให้ความสนใจของกางเกง leggings ทำให้เกิดกระแสบน Tiktok มากขึ้นไปอีก
ทำให้เจมและจ๊อซจบลงด้วยการมีคอนเทนต์ UGC มากมาย ซึ่งในทางกลับกัน เขาก็ใช้คอนเทนต์พวกนั้นไปโฆษณาบน Facebook
“ภายในวันเดียวรายได้ของพวกเราขยับขึ้นจาก $0 - $100,000 ดอลลาร์ และพวกเราก็ได้ทดปล่อยโฆษณาจำนวนมากมาย ภายใน 2 สัปดาห์ ถ้าผมจะกำลังจะพูดถึงจำนวนมากมายมหาศาล นั่นก็หมายความว่าบางวันพวกเราปล่อยโฆษณามากกว่า 80 ตัว/วัน
สำหรับช่องทางทั้งหมด เราใช้โฆษณาของ Facebook และ Google ผสมกันไป ตั้งแต่การหาลูกค้าใหม่ไปจนถึงการกำหนดเป้าหมายใหม่และทำให้มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าให้มากที่สุด และยังรวมถึงการแสดงโฆษณา ทำให้ค้นพบโฆษณาบน YouTube สำหรับโฆษณาอีกช่องทางหนึ่ง" เจม กล่าว
เจมกล่าวว่า กลยุทธ์โฆษณาของพวกเขานั้นยังไม่เป็นทางการเท่าไหร่ แต่อย่างไรก็ดี เป้าหมายหลักของพวกเขา คือการทำให้หลักการสามขั้นตอนนี้ถูกต้องลำดับ
“ถ้าข้อความของคุณไม่ตรงข้อ 1 และ ข้อ 3 คุณมีปัญหาแน่ หรือถ้าสินค้าของคุณไม่เหมาะกับตลาด คุณมีปัญหาแน่ และถ้าข้อเสนอของคุณไม่ดีพอ คุณจะถูกคู่แข่งคุณฝังทั้งเป็นแน่นอน” เจมกล่าว
ในแง่ของกลยุทธ์ของนักซื้อสื่อ มันดูค่อนข้างง่าย พวกเขาตั้งค่าแคมเปญใว้หลายรายการ และทดลองใช้ชุดโฆณาหลายตัว เช่น ชุดโฆษณาที่ให้มีความสนใจเดียว หรือชุดโฆษณาที่ให้ความสนใจแบบซ้อน และชุดโฆษณาแบบกว้าง พอระบุชุดโฆษณาที่ทำงานได้ดีที่สุดแล้ว พวกเขาก็ปรับค่าโฆษณาให้มันสูงขึ้นและก็ปล่อยโฆษณาชุดนั้นให้ทำงานไป
“การปรับขนาดและเพิ่มงบโฆษณาระหว่างวัน เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก และสมควรทำก็ต่อเมื่อ คุณพบสามประเด็นที่กล่าวมาแล้วข้างต้นเท่านั้น" เจมกล่าว
ในเรื่องที่กล่าวถึงโฆษณาของ Google นั้น เจมกล่าวว่า พวกเขาก็ใช้หลักการง่ายๆ เพื่อให้เข้าถึงเหมือนกัน โดยที่พวกเขาใช้ STAGs ที่ประกอบไปด้วยตัวโต้ตอบของโฆษณา การช๊อปปิ้งกับหน้าฟีดแบบกำหนดเองของ Google Sheet พร้อมการกำหนดคำหลักให้มีความหลากหลาย และเทคนิคการกำหนดเป้าหมายใหม่อย่างเรียบง่าย
“เพื่อเป็นการอ้างอิง พวกเราได้ทดลองข้อเสนอของสินค้ามากกว่า 10 รายการแตกต่างกันไป แต่ข้อเสนอที่ทำงานดีที่สุดคือ BOGO (Buy one, get one free) หรือซื้อ 1 ฟรี 1 ตั้งราคาขายใว้ ที่ $34.99 ดอลลาร์ ในขณะที่คู่แข่งขายกางเกง leggings คู่เดียว ราคา $29.99 ดอลลาร์
พวกเราคิดว่าการสื่อสารเรื่องข้อเสนอของเราชัดเจนมากพอบน Facebook และก็หน้าแลนดิ้งเพจของพวกเราเองด้วย ลูกค้าแค่ต้องทำการกดที่ตัวสินค้า 2 ครั้งบนตะกร้าของพวกเขา และส่วนลดมันจะลดให้เองโดยอัตโนมัติ” เจมกล่าว
สรุป
จากการที่เรามีเนื้อหาโฆษณาที่ดี สินค้าของเราเหมาะสมกับตลาด และข้อเสนอที่น่าตื่นเต้น จึงทำให้เจมและจ๊อซบรรลุอัตราการการเปลี่ยนแปลงบนร้านค้าของพวกเขาถึง 5.6% กางเกง leggings ของพวกเขาเติบโตไวมากจากโฆษณาบน Facebook และ Google แต่คอนเทนต์ทั้งหมดนี้ที่อยู่เบื้องหลัง ก็เห็นจะเป็นคอนเทนต์ของผู้ใช้ Tiktok ที่ทำให้พวกเขามีรายได้จากกระแส hype ของสินค้า ในทางกลับกัน พวกเขาสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้มากกว่า 120,000 รายการ ภายในระยะเวลา 2 เดือน