25 สิงหาคม 2023 0 232

ทำรายได้เกิน 740,000 ดอลลาร์ใน 16 เดือนจากธุรกิจสกินแคร์โดยไม่พึ่งโฆษณาที่ต้องใช้เงิน

ในโลกของอีคอมเมิร์ซ การโฆษณาที่ต้องจ่ายเงินถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม แนล มอคฮาร์ทาร์ ผู้ร่วมก่อตั้งของ Next Level Skin จากซิดนีย์ ออสเตรเลีย ได้แสดงให้เห็นว่าเป็นไปได้ที่จะการเติบโตธุรกิจโดยที่ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเลยด้วย

พร้อมกับน้องสาวของเธอ พัลวาชา นาซีรี แนลเริ่มต้นแบรนด์สกินแคร์ของตัวเองบน Shopify และใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย อย่างเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมตผลิตภัณฑ์

ผลลัพธ์: ในเวลาเพียง 16 เดือนพวกเขาสร้างรายได้มากกว่า 740,000 ดอลลาร์ ในบทความนี้ เราจะไปสำรวจแนวทางและเรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์ที่พวกเขาใช้ในการสร้างธุรกิจสกินแคร์ที่เจริญรุ่งเรืองโดยไม่ต้องพึ่งพาโฆษณาที่เสียเงิน

เนล มอคฮาร์ทาร์ (ด้านซ้าย) และน้องสาวของเธอ พัลวาชา นาซีรี (ด้านขวา)

 

ก่อนที่เราจะเข้าสู่บทความต่อไปนี้ โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณไม่พลาดข่าวสารใดๆ ที่เราอัปเดตเกี่ยวกับกรณีศึกษา คู่มือ ผลงานตีพิมพ์ และการสัมภาษณ์ที่เต็มไปด้วยข้อมูลและสถิติที่เชื่อถือได้จากนักการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ ช่วยให้คุณเริ่มต้นและเติบโตธุรกิจออนไลน์ของตัวเองได้ สมัครสมาชิกเพื่อติดตามช่อง Telegram และติดตาม Twitter ของเราได้แล้ววันนี้!

เรามาลุยเข้าสู่บทความนี้กันเลย...

จุดเริ่มต้น

เนลกล่าวว่าเธออาศัยอยู่ที่บ้านของพ่อแม่พร้อมกับสามีและลูกคนที่สองอายุ 2 ปี ในช่วงการล็อกดาวน์ COVID-19 ปี 2021 เธอไม่มีงานและรายได้และเธอกำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง การเริ่มต้นธุรกิจไม่ได้อยู่ในความคิดของเธอในเวลานั้น

หลังจากที่เธอคลอดลูกชาย เนลพบว่าเธอมีอาการเรื้อรังทั่วทั้งใบหน้า รวมถึงหนังตาและคอ ทำให้ใบหน้าของเธอแดงและคันพร้อมกับมีรังแค นับเป็นประสบการณ์ที่แสนเจ็บปวด เธอได้ไปพบแพทย์เพื่อรักษา ซึ่งมีการสั่งจ่ายยาทาตามผิวสองชนิดเพื่อบรรเทาอาการเรื้อรัง

เธอต้องการค้นหาทางเลือกทางธรรมชาติ เพื่อนำมาใช้เป็นอีกหนึ่งทางเลือก เธอจึงเริ่มต้นการวิจัยส่วนประกอบทางธรรมชาติที่คนเคยใช้ในอดีตหลายสิบปีผ่านทางอินเทอร์เน็ต

"ฉันเริ่มต้นด้วยการสั่งซื้อน้ำมันธรรมชาติผ่านทางอินเทอร์เน็ตและทดสอบบนผิวหน้าของตัวเอง" เนลกล่าว

เนลสั่งซื้อส่วนประกอบในรูปแบบของวัตถุดิบและนำมาทำการผสมในครัวช่วงฤดูร้อนเพื่อสร้างน้ำมันบำรุงผิว แม้จะเป็นการลองและลองถูก แต่ในที่สุดเธอพบสูตรที่เหมาะสมสำหรับเธอ

"น้องสาวของฉัน พัลวาชา นาซีรี ได้ลองใช้และเสนอให้ทำขายเลย - เธอลงทุน 5,000 ดอลลาร์ด้วยเงินออสเตรเลียจากเงินออมของตัวเอง ตีเป็น 3,363 ดอลลาร์ เพื่อร่วมธุรกิจและเป็นหุ้นส่วนกับฉัน" เนลกล่าว

พวกเธอทั้งสองลงทุนเงินในการซื้อสารส่วนประกอบและบรรจุภัณฑ์ใหม่ พวกเธอเริ่มต้นด้วยขวดยางบางและตั้งชื่อแบรนด์ว่า Next Level Skin ซึ่งผลิตภัณฑ์แรกของพวกเธอ คือ Supercharge Facial Oil

การใช้ TikTok และ Instagram เพื่อสร้างฐานผู้ติดตามก่อนเปิดตัว

เนลกล่าวว่า พวกเธอเริ่มโพสต์วิดีโอบน TikTok และ Instagram เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564 เพื่อสร้างความตื่นเต้นสำหรับการเปิดตัวที่กำลังจะมาถึง น้องสาวของเธอ พัลวาชา ได้สร้างชื่อเสียงใน TikTok เป็นอย่างมาก โดยแบ่งปันประสบการณ์ของเธอที่มีปัญหาเรื่องสิว ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจสกินแคร์

เมื่อพัลวาชาเริ่มใช้น้ำมันของเนลและมีผู้ติดตามสอบถามเกี่ยวกับวิธีดูแลผิวหน้าของเธอ ทำให้พวกเธอมองเห็นโอกาสในการทำการตลาดผลิตภัณฑ์บน TikTok พัลวาชาโพสต์วิดีโอเป็นประจำทุกวันเพื่อโชว์ผลิตภัณฑ์และสาธิตวิธีการใช้เพื่อดูแลผิวหน้าของเธอ

เพื่อสร้างความตื่นเต้นเวลาเปิดตัวผลิตภัณฑ์ พวกเธอทำการแจกตัวอย่างน้ำมันให้กับผู้ติดตามที่สนใจ โดบจำกัดเป็นบางคนเท่านั้น แล้วเนลพัลวาชาจะติดตามผลตอบรับที่ได้ให้กับผู้ติดตามอื่นๆ

"เมื่อเราเปิดตัวผ่าน Shopify เราก็ขายสินค้าหมดเกลี้ยงเลย"

เนลทำน้ำมันสำหรับ Next Level Skin ในครัวของแม่ พร้อมเลี้ยงลูกชายชอบตื่นขึ้นมาร้องไห้ในทุกๆ ครึ่งชั่วโมง

หลังจากได้รับการรับรองจากกรมดูแลสุขภาพประจำออสเตรเลีย เธอและน้องสาวก็เปิดร้านค้าบน Shopify ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2564 พวกเธอเชื่อมโยงบัญชีของพวกเธอกับ TikTok ของพัลวาชาและหน้า Instagram เพื่อทำการโปรโมต

ในวันเปิดตัว พวกเธอมีน้ำมันสต็อกไว้ 120 ขวดและหวังจะขายให้หมดในห้าสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม เนลกลัวว่าจะขายสินค้าไม่ออกเลย แต่น่าแปลกใจที่สินค้ากลับขายหมดลงไปในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง เป็นอะไรที่ผิดคาด เพราะคาดไม่ถึงว่าความต้องการจะมีสูงมากถึงขนาดนี้

วิดีโอ TikTok ของพัลวาชานั้นได้ช่วยดึงลูกค้ามาเป็นจำนวนมาก

การใช้อินฟลูเอนเซอร์โปรโมตผลิตภัณฑ์แบบไม่ต้องเสียเงิน

เนลกล่าวว่า พวกเธอเริ่มการโปรโมตผลิตภัณฑ์แบบปากต่อปาก เป็นข้อความของลูกค้าที่ระบุถึงเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่แนะนำแบรนด์ของพวกเธอ บ่อยครั้งเวลาที่มีคนซื้อผลิตภัณฑ์ พวกเขาจะโพสต์เกี่ยวลงบน TikTok หรือ Instagram และแท็กแบรนด์ของพวกเธอลงไปในโพสต์ของพวกเขา

เนลยังพบว่ามีอินฟลูเอนเซอร์ประมาณห้าถึงหกคนที่ซื้อผลิตภัณฑ์และโพสต์รีวิวกันเอง ไม่ช้าหลังจากนั้นพวกเธอก็เริ่มได้รับอีเมลและข้อความจากเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ที่ต้องการขอรีวิวผลิตภัณฑ์ของพวกเธอ

เนลตัดสินใจส่งผลิตภัณฑ์ไปให้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์รีวิว โดยขอให้ลองใช้ประมาณสองสามสัปดาห์ก่อนที่จะโพสต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

การลงทุนในการออกแบบและบรรจุภัณฑ์ที่ดีขึ้น

เนลและพัลวาชาน้องสาวของเธอ เริ่มพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนแรก โดยเป็นบาล์มที่เธอสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยลดอาการเรื้อรังของโรคผิวหนังอักเสบที่ลูกชายของเธอและมาส์กโคลน พวกเธอจัดส่งน้ำมันบำรุงผิวให้ลูกค้าพร้อมกับแถมมาส์กโคลนด้วย พวกเธอมีการรับประกันคืนเงินเต็มจำนวนให้กับลูกค้า หากผลิตภัณฑ์ให้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการไม่ได้ในระยะเวลา 30 วัน

พวกเธอใช้เงินไปกับการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และซื้อกล่องสั่งทำสำหรับผลิตภัณฑ์ แม่พ่อและพี่ชายของเนลกำลังช่วยพวกเขาในการบรรจุบาล์ม ซึ่งพวกเธอเริ่มมีเงินสำหรับจ่ายค่าแรงให้พวกเขา จนถึงขนาดที่พ่อของเนลสามารถลาออกจากงานประจำได้ - ถือเป็นเรื่องดีที่มีการให้ค่าตอบแทนกับพวกเขา

นอกจากนำเข้ากระบวนการผลิตและการจัดการสินค้าคงคลัง

ในช่วง 3 เดือนแรก เนลทำผลิตภัณฑ์ในครัวของแม่เธอ แต่ด้วยความต้องการที่มากขึ้น พวกเธอตัดสินใจนำเข้าการผลิตที่ออสเตรเลียในช่วงเดือนธันวาคม อีกเรื่องหนึ่งคือพวกเธอไม่มีห้องพอสำหรับเก็บสินค้าทั้งหมด

ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา พวกเธอเช่าพื้นที่ในเมลเบิร์นเพื่อเก็บรักษาสินค้าและกล่องทั้งหมด อย่างไรก็ตามพวกเธอยังคงส่งผลิตภัณฑ์ไปที่บ้านของเนล เมื่อมีสินค้ามาถึงแม่ของเนลจะนำสินค้าลงกล่องและน้องสาวของเนลจะจัดส่งสินค้าดังกล่าวไปให้กับลูกค้าทั่วโลก

การเห็นความสำเร็จ

เมื่อเนลและน้องสาวของเธอสร้างรายได้รวม 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียในเดือนกุมภาพันธ์ พวกเธอพาครอบครัวออกไปทานอาหารเพื่อฉลองความสำเร็จ ถือเป็นช่วงแห่งความสุขที่น่าเหลือเชื่อ

ช่วงที่สำคัญที่สุดของเธอ คือ ตอนที่พวกเธอทำยอดขายรวมกัน 36,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียในช่วงสุดสัปดาห์ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2565 พวกเธอจึงเสนอให้มีการจัดส่งฟรี ทำให้มียอดสั่งซื้อทยอยเข้าเว็บไซต์เป็นจำนวนมาก

งานแรกของเธอตอนที่เป็นพนักงานต้อนรับ เธอมีเงินเดือนทั้งหมดปีละ 36,000 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เธอยังจำได้ถึงความยากลำบากที่ต้องทำงานอย่างหนัก แต่ตอนนี้ด้วยธุรกิจ Next Level Skin เธอสามารถสร้างรายได้ในเพียงไม่กี่วันในขณะที่นั่งอยู่บ้านและคอยเช็กโทรศัพท์ของตัวเอง

ตอนนี้เนลกล่าวว่า เธอมีเวลาให้ความสำคัญกับการพัฒนาธุรกิจ เธอยุ่งอยู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่และกำลังวางแผนในการเติบโตของธุรกิจ แม้ว่าพวกเธออาจต้องเริ่มจ่ายค่าโฆษณาในอนาคต และนั่นหมายถึงต้องจ้างโกดังอีกแห่งเพื่อจัดเก็บสินค้าที่เพิ่มขึ้น

ปัจจุบัน Next Level Skin มียอดขายรวมเป็นเงินทั้งหมด 1,112,304 ดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือประมาณ 740,000 ดอลลาร์

"ถ้าหากฉันไม่ได้เริ่มทำ Next Level Skin ฉันคงต้องใช้เวลาหลายสิบปีไปกับการทำงาน เพียงเพื่อทำให้คนอื่นร่ำรวยมากขึ้น ต่างจากการทำธุรกิจเพื่อครอบครัวและตัวเองโดยสิ้นเชิง ตอนนี้ฉันมีทั้งเงินและเวลาสำหรับทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการ" เนลกล่าว

สรุป

ในเวลาเพียง 16 เดือน เนล โมฆะธาร และน้องสาวของเธอ พัลวาชา นาซีรี ต่างช่วยกันได้สร้างรายได้มากกว่า 740,000 ดอลลาร์ผ่านการขายผลิตภัณฑ์สกินแคร์ออนไลน์ พวกเธอทำทั้งหมดนี้ได้โดยที่ไม่ต้องซื้อหรือจ้างสื่อโฆษณาเลย

เรื่องราวความสำเร็จของเนลและพัลวาชาถือเป็นการยืนยันถึงพลังของโซเชียลมีเดียและการตลาดของอินฟลูเอนเซอร์ เนลและพัลวาชาเลือกใช้ช่องทางโซเชียลแบบออร์แกนิกเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย พวกเธอใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโชว์ผลิตภัณฑ์และแบ่งปันเคล็ดลับดูแลผิวหน้า รวมถึงรูปแบบการดูแลผิวให้กับผู้ติดตามของพวกเธอ

น้องสาวคู่นี้ยังใช้การตลาดของอินฟลูเอนเซอร์เพื่อส่งเสริมยอดขายให้กับแบรนด์อีกด้วย โดยร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ที่อยู่ในวงความงามและดูแลผิวหน้า เพื่อเข้าถึงผู้ติดตามของอินฟลูเอนเซอร์รายนั้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพอย่างกว้างขวางมากขึ้น กลยุทธ์นี้พิสูจน์แล้วว่าได้ผลดี เพราะอินฟลูเอนเซอร์หลายรายที่ร่วมงานด้วยได้กลายมาเป็นลูกค้าประจำให้กับ Next Level Skin ของพวกเธอ

สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่านั้นคือเนลและพัลวาชาต่างประสบความสำเร็จทั้งหมดนี้ด้วยเงินทุนเพียงแค่ 5,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียเท่านั้น พวกเธอสามารถสร้างยอดขายราว 100,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียในระยะเวลา 3 เดือนแรกของการเปิดธุรกิจ ความสำเร็จนี้ได้กระตุ้นแรงบันดาลใจให้พวกเธอต่อยอดการเติบโตของแบรนด์และขยายฐานการผลิตสินค้าต่อไป

ตอนนี้เนลและพัลวาชามีอิสระในชีวิตมากขึ้น และยังสามารถสนับสนุนครอบครัวและคนที่รักได้อีกด้วย เรื่องราวของพวกเธอจึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างธุรกิจออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จโดยที่ไม่ต้องเสียเงินไปกับการโฆษณา

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?