เปลี่ยนทักษะการออกแบบกราฟิกให้เป็นแหล่งรายได้ที่มั่นคง นี่คงเป็นสิ่งที่นักออกแบบกราฟิกทุกคนที่ชื่นชอบการเรียนรู้ มีหลายแพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิกที่ให้โอกาสนักออกแบบที่มีศักยภาพสามารถหาเงินเลี้ยงชีพได้ทางออนไลน์ Canva ก็เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิกที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลกตัวหนึ่ง
หลายคนใช้งานบน Canva ออนไลน์เป็นเครื่องมือที่สะดวกและง่ายต่อการออกแบบกราฟิกสื่อโซเซียลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น โปสเตอร์ เอกสาร หรือสื่อที่มองเห็นทั่วไป เครื่องมือของ Canva มาพร้อมกับเทมเพลตแบบฟรี และจ่ายเงินสำหรับผู้ใช้ ซึ่งดูเหมือนว่าหลายคนชอบเพราะทำให้ทุกอย่างดูง่ายไปหมด
หลายคนคงจะสังเกตเห็นเทมเพลตต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้สามารถอัปโหลดไปใช้งานมากมายหลายแบบบนแพลตฟอร์ม มีทั้งแบบฟรี และแบบเสียค่าธรรมเนียมเล็กน้อย มีนักออกแบบหลายคนที่ทำงานบน Canva และบางคนมีรายได้หลักพันจนถึงหลักล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากการออกแบบง่ายๆ และขายงานตัวเองบน Canva ถือว่าเป็นรายได้แบบนอนกินเลยก็ว่าได้
ในบทความนี้ เราได้นำธุรกิจของ คัทย่า วาร์บาโนวามา (Katya Varbanova) แบ่งปันให้ได้ศึกษาเป็นความรู้ ซึ่งคัทยา เป็นนักออกแบบกราฟิกและเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Viral Content Templates ที่สร้างรายได้มากถึง $750,000 ต่อปี กับการออกแบบและขายงานของตัวเองบน Canva ในขณะที่เธอเองใช้เวลาแค่ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพื่อสร้างธุรกิจของเธอ
“ฉันมองเห็นโอกาสในการออกแบบและวางขายเทมเพลตได้บนแพลตฟอร์มของ Canva ซึ่งสามารถเลียนแบบเทมเพลตให้มีแบบสวยงาม ที่กำลังเป็นที่นิยมของ Instagram โดยที่ลูกค้าของฉันสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ” คัทยา กล่าว
Katya Varbanova
คัทยา เคยทำงานในธนาคารมาก่อนที่เริ่มทำเพจ Periscope บน Facebook จากนั้นเธอตัดสินใจลาออกเพื่อมาทำอาชีพอิสระด้านที่ปรึกษาและให้คำแนะนำโซเซียลมีเดียแต่เธอมาพบว่ามันเหนื่อยเกินไป จากนั้นเธอก็เริ่มขายเทมเพลต Canva สำหรับคอนเทนต์ที่กำลังดัง จากกคำบอกเล่าของทีมงาน Business Insider
หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนกฎหมายที่ Liverpool Law School ในเดือน กรกฎาคม 2013 เธอได้รับข้อเสนอตำแหน่งงานในธนาคาร Santander Bank ในประเทศอังกฤษด้วยสัญญาจ้าง 2 ปี และในเดือนกรกฎาคม 2015 เธอเริ่มดูสตรีมมิ่งของ Periscope แล้วรู้สึกชอบนึกอยากสนุกเธอเลยลองเริ่มสตรีมเองบ้าง
Periscope เป็นแอปที่ใช้สำหรับสตรีมไลฟ์โดยเฉพาะ ซึ่งก็เหมือนกับการไลฟ์บนโซเซียลมีเดียเครือข่ายอื่น ๆ
คัทยาเริ่มไลฟ์เรื่องราวของเธอก่อน และจากการไลฟ์ครั้งนั้นทำให้มียอดคนดูเพิ่มขึ้นเป็น 1,300 คนภายใน 3 สัปดาห์ เธอเริ่มสร้างกลุ่ม Facebook เพื่อทำการไลฟ์ให้กับ Periscope เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2015 เป้าหมายของเธอคือให้นักสตรีมเมอร์ช่วยกันเพิ่มจำนวนผู้ติดตามใน Periscope แค่เพียงเท่านั้น
คัทยากล่าวว่า หลังจากนั้นเธอก็เริ่มเก็บเงินเป็นค่าเข้ากลุ่ม Facebook ของเธอ:
“มีคนแนะนำให้ฉันเรียกเก็บเงินสำหรับเป็นค่าเข้ากลุ่ม เงินที่ได้มาก็เพื่อเป็นการสนับสนุนชุมชนของกลุ่ม ปลายเดือนสิงหาคม 2015 ฉันเริ่มเก็บเงินค่าสมาชิกครั้งแรก เริ่มที่ $15 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน สำหรับสมาชิกครั้งแรก 20 คน จากนั้นคิดค่าสมาชิกเพิ่มเป็น $25 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน สำหรับอีก 20 คน และคิดเป็นราคามารตฐานที่ $35 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อเดือน
สมาชิกจะได้รับเรียกให้เข้าร่วมห้องสนทนาทุกรายการกับผู้ชมและเหล่าสมาชิกคนอื่นๆ ที่ได้รับสิทธิ์”
หลังจากที่คัทยาทำธนาคารไปได้สักพักก็เริ่มรู้สึกเบื่อที่ต้องทำงานในกรอบเวลาเดิมๆ และยังต้องคอยหาสมาชิกให้กับกลุ่มเพิ่มวนอยู่แบบนี้ จากนั้นในเดือนกันยายน 2015 เธอก็เริมทำธุรกิจแบบจริงจังโดยเริ่มจากการเก็บค่าสมาชิก
ในเวลานั้นเธอมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็น 60 คน แต่เธอบอกว่ามันเป็นการทำงานที่หนักมากในตอนนั้นเพราะต้องใช้ความเร่งรีบในการทำงาน
โดยในเดือนตุลาคม 2015 คัทยามีรายได้จากค่าสมาชิก $26,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเท่ากับเงินเดือนที่เธอทำที่ Santander นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอลาออกจากงาน แล้วทุ่มเทให้กับธุรกิจของเธอ
คัทยากล่าวว่า เธอเริ่มเป็นที่ปรึกษาให้กับแพลตฟอร์มโซเซียลมีเดียอื่นๆ โดยใช้ประสบการณ์ภายในที่เธอได้จากการขายและการตลาดที่ Santander จากการที่เธอเคยทำงานให้กับแคมเปญของธนาคารในสมัยที่เธอยังเรียนอยู่ที่วิทยาลัย
ตั้งแต่ปี 2015 – 2019 โดยตลอด 4 ปีที่ผ่านมาคัทยา มีฐานผู้ชมที่เป็นเจ้าของกิจการมากถึง 100,000 ราย บนแพลตฟอร์มโซเซียลของเธอ และได้ช่วยผู้ประกอบการเหล่านี้สำรวจตลาดของโซเซียลมีเดีย เธอเปิดฝึกอบรม ให้คำปรึกษา ปฏิบัติการหน้างาน และผลิตภัณฑ์ข้อมูลดิจิทัล เช่น หนังสือ วิดีโอ ฟรี สำหรับลูกค้าของเธอ
เธอค้นพบว่าการสอนฟรีหรือการให้ข้อมูลโดยไม่ได้อะไรเป็นสิ่งที่เหนื่อยมาก ในขณะที่เธอก็อยากให้ธุรกิจเติบโตโดยทำงานให้น้อยลง ดังนั้นในปลายปี 2019 เธอตัดสินใจหยุดการให้แนวทางฟรี แต่มาเน้นการสอนโดยสร้างสื่อดิจิทัลแบบศึกษาด้วยตนเองเพื่อขาย
เธอเริ่มขายค่าเข้าชมไลฟ์วิดีโอ และแบบไฟล์ PDF พร้อมด้วยบทหรือเนื้อหาในการทำคอนเทนต์ แต่เธอก็รู้สึกยังไม่น่าพอใจ
ในปี 2019 — คัทยาเริ่มสังเกตเห็นว่ามีคอนเทนต์ประเภทหนึ่งที่กำลังมาแรงจนทำให้การโพสต์คอนเทนต์บน Instagram เปลี่ยนไป เพราะเริ่มมีการโพสต์ภาพที่เป็นกราฟิกเกี่ยวกับการศึกษา ภาพวงล้อที่สามารถหมุนได้ จึงทำให้ลูกค้าส่วนใหญ่ของเธอประสบปัญหาในการปรับตัวกับกระแสที่เกิดขึ้น เพราะพวกเขาไม่มีทักษะด้านการออกแบบหรือมีความเชี่ยวชาญด้านการตลาดที่จะรู้วิธีสร้างกราฟิกเหล่านี้
คัทยาตัดสินใจออกแบบเครื่องมือกราฟิกสำหรับ Canva ที่เธอเคยใช้ออกแบบกราฟิกให้กับแพลตฟอร์มของเธอเองเมื่อปี 2017
เธอกล่าวอีกว่า เธอชอบสร้างของพวกนี้ เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างภาพให้กับธุรกิจของเธอ จึงมองเห็นโอกาสที่ออกแบบเทมเพลตขายบน Canva เพื่อให้ลูกค้าได้นำไปปรับแต่งตามความต้องการให้ออกมาสวยงามแล้วนำไปใช้บน Instagram
“ถ้าจะต้องใช้เวลาในการสร้างเทมเพลตเหล่านี้ ฉันก็ต้องการดูว่าเทมเพลตเหล่านี้มีความต้องการมากน้อยแค่ไหน ถ้าฉันตัดสินใจขายเทมเพลตบน Canva ฉันจึงตัดสินใจที่จะทำตามออเดอร์เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าจะขายได้”
ก่อนที่จะตัดสินใจสร้างเทมเพลต คัทยาได้สอบถามกับผู้ติดตามของเธอว่า เธอจะทำทำเทมเพลตขึ้นมา 100 ชุด มีใครสนใจจะช่วยชื้อเพื่อช่วยสร้างคอนเทนต์ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่ได้หรือไม่ จากนั้นเธอก็ได้รับคำตอบจากลูกค้า 100 รายภายในวันนั้นจึงทำให้คัทยาลงมือทำเทมเพลตเพื่อทดลองขายดูท่าทีของตลาดทันที ด้วยการสร้างเพจขึ้นมาเพื่อให้คนที่สนใจสามารถเข้ามาดูและสั่งชุดเทมเพลตได้ในวันเดียว ทำให้เธอขายได้ 100 ชุดตามที่เธอต้องการ
ในช่วงสองสามวันแรกของการทดลองขายในเดือนธันวาคมปี 2019 เธอขายเทมเพลตได้ 255 ชุด คิดเป็นเงิน $7,647 ดอลลาร์สหรัฐฯ
หลายสัปดาห์ผ่านไป เธอขายได้ 799 ชุด คิดเป็นมูลค่า $23,362 ดอลลาร์สหรัฐฯ และภายในสามสัปดาห์เธอสามารถทำยอดขายได้ 1,300 ชุด ซึ่งคนที่ซื้อก็มาจากเพจของเธอทั้งหมด
คัทยาเล่าว่า เธอนำเงินที่ได้จากการขายงานชุดที่แล้วจำนวน $1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯไปซื้อโฆษณาของ Facebook ทำให้เธอขายเทมเพลตได้ $6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเธอไม่คิดเลยว่าความต้องการของตลาดจะมีมากขึ้น จึงนำไปสู่แนวคิดที่จะสร้างธุรกิจเว็บไซต์ชื่อ Viral Content Template นั่นจึงเป็นที่มาของเทมเพลตที่มีเนื้อหาโดดเด่นน่าสนใจชุดแรก 100 Viral Content Templates เกิดขึ้น
คัทยาจะถามลูกค้าก่อนเสมอว่าต้องการรูปแบบของเทมเพลตให้ออกมาเป็นอย่างไร และจะทำการตรวจสอบดูว่ามีเทมเพลตแบบไหนบ้างแล้วที่มีอยู่ในท้องตลาด และเป็นคอนเทนต์ประเภทใดที่จะมีผลกระทบดึงดูดคนอื่นให้สนใจดีที่สุดสำหรับบัญชี Instagram ของลูกค้าของเธอ
นี่คือเว็บไซต์ Viral Content Templates ที่เธอสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกแล้วไปซ้ำกันกับของ Jamie ซึ่งเป็นคู่หมั้นของเธอ
คัทยากับคู่มั่นใช้เวลาด้วยกันทำเทมเพลตบน Canva ประมาณสองสามสัปดาห์ก่อนที่จะปล่อยให้ลูกค้าสั่งซื้อล่วงหน้าเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2019 แล้วมีลูกค้าบางคนที่ชอบเทมเพลตมากแล้วได้กลายมาเป็นตัวแทน พวกเขาได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการโพสต์และแชร์ลิงก์ของคัทยาในหมู่เพื่อนสมาชิกลูกเพจการชายผ่านลิงก์ affiliate
เธอยังซื้อโฆษณาเพิ่มตั้งแต่ ธันวาคม 2019 ถึง เมษายน 2020 ทำให้เธอมีรายได้จากธุรกิจตัวนี้ถึง $105,013 ดอลลาร์สหรัฐฯ และมีค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าโฆษณาอยู่ที่ $36,502 ดอลลาร์สหรัฐฯ และหลังจากหักค่าคอมมิชชั่นให้กับตัวแทน เธอได้กำไร $52,619 ดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในห้าเดือนแรกของการทำธุรกิจ
คัทยากล่าวว่า ณ จุดนี้ story ของลูกค้าของเธอประสบความสำเร็จอย่างมากและมีหลายคนที่อยากให้เธอทำเทมเพลตเพิ่ม นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เธอเริ่มเปิดรับสมาชิก Viral Content Club
ค่าสมาชิกเริ่มต้นที่ $499 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ปี หรือรายเดือนๆ ละ $57 ดอลลาร์สหรัฐฯ/เดือน
ในเทมเพลตนี้จะมีเครื่องมือที่ใช้ปรับแต่งคอนเทนต์ที่ลูกค้าสร้างขึ้นจะอยู่ได้ 30 วัน ใช้เวลาในการสร้างคอนเทนต์ด้วยเทมเพลตชุดนี้เพียงหนึ่งหรือสองชั่วโมงและสามารถแก้ไขแบบออนไลน์ได้
ตั้งแต่ปล่อยเทมเพลตชุดนี้ออกมา มีสมาชิกเพิ่มขึ้นถึง 1,500 ราย ภายใน 13 เดือน ทำให้มีรายได้มากถึง $688,957 ดอลลาร์สหรัฐฯ และตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2019 ที่เริ่มเปิดตัวธุรกิจเทมเพลตของ คัทยา สร้างรายได้ให้เธอถึง $1,400,00 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯพร้อมกับธุรกิจทีเติบโตขึ้นเรื่อย เธอกล่าวอีกว่า ชั่วโมงทำงานของเธอเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ภายในสองปี และมาปี 2022 เธอทำงานสัปดาห์ละ 10 ชั่วโมง
“ฉันใช้เวลาส่วนมากไปกับการออกแบบสื่อการตลาด บางวันชั่วโมงหนึ่งฉันทำได้ 23 เทมเพลต ขายได้ทั้งหมด $2,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากการขายบนช่องทางมีเดียของฉันเอง” คัทยา กล่าว
ตอนนี้เธอมีลูกค้า 13,000 ราย และยังมีตัวแทนกับสมาชิกที่แชร์ลิงก์อีกมากกว่า 1000 ราย ตัวเธอเองเป็นเจ้าของเพียงคนเดียวและทีมงานรวมถึงเจมีคู่หมั้นของเธออีกด้วย เจมีทำประสานงานต่างๆ ไม่ว่าจะออกแบบ ทำแบรนด์ ทำเทมเพลต และยังเป็นผู้จัดการด้านการเงินอีกด้วย และยังมีฟรีแลนซ์อีกสองสามคนที่รับงานเฉพาะกิจ ไม่มีใครเป็นพนักงานประจำเลยสักคน
คัทยาและคู่หมั้น เจมี
คัทยากล่าวว่า เทมเพลตมีส่วนสำคัญกับธุรกิจของเธออย่างมาก ทำให้เธอมีธุรกิจอื่นต่อยอดเพิ่มไปอีกเช่น เปิดครอส เทรนนิง เวิร์คซอป และให้คำปรึกษาเรื่องธุรกิจ
“ฉันรู้สึกโชคดีมากที่ได้มาเจอ Canva ช่วยให้ธุรกิจของฉันหาเงินได้มากถึง $750,000 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี” คัทยา กล่าวอย่างภาคภูมิใจ