อสังหาริมทรัพย์ดิจิตอลคือหนึ่งในสุดยอดพรมแดนที่โลกนี้เคยมีมา การซื้อขายเว็บไซต์และแพลตฟอร์มดิจิตอล สามารถทำให้คุณรวยเละได้เลย ในบทความนี้ เราจะมาแชร์ข้อมูลเชิงลึกของคุณ Mushfiq Sarker ผู้ก่อตั้ง The Website Flip ผู้ที่สามารถซื้อ เพิ่มมูลค่า และขายเว็บไซต์ได้อย่างประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2008
เขาทำธุรกรรมมาแล้ว 135 ครั้ง ทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขายให้กับ Flippa และอีก 76 ธุรกรรมส่วนตัวผ่าน Escrow, Paypal หรือโบรกเกอร์บุคคลที่สาม ทำให้รวมแล้วมีธุรกรรมมากกว่า 200 ครั้ง
Mushfiq สามารถขายไปแล้ว 39 เว็บไซต์ ตั้งแต่ 2018 จนถึงปัจจุบัน และเราจะมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่เขาแชร์จากประสบการณ์การซื้อเว็บไซต์, เพิ่มมูลค่าเว็บไซต์, จนกระทั่งขายเว็บไซต์เหล่านี้ให้เป็นกำไร โดยข้อมูลเชิงลึกนี้จะมี:
ยอดขายเชิงลึกจากธุรกรรมทั้ง 39 ครั้ง จากปี 2018
ก่อนที่เราจะมาเจาะลึกข้อมูล นี้คือไฮไลต์ของดีลโดยเฉลี่ยที่ปิดการขายไปแล้ว:
ไอเดียที่แชร์โดย Mushfiq ส่วนใหญ่ใช้ได้กับเว็บไซต์ที่มีเรทราคาต่ำกว่า $50,000 สำหรับเรทที่สูงกว่านี้ เขาแนะนำให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของโบรกเกอร์อย่าง Empire Flippers, Investors Club, FE International, ฯลฯ การแจกแจงรายละเอียดของดีลทั้งหมด สามารถอ่านได้จากตรงนี้: ดูข้อมูลของดีลทั้ง 39 อัน
มาต่อกันที่ข้อมูลเชิงลึก
แหล่งการสร้างรายได้ทั่วไปคืออะไร?
ตอบ: Amazon Associate
ดีลเกือบทั้งหมดที่ Mushfiq ทำมา มากกว่า 80% เป็นการสร้างรายได้กับ Amazon Associate จากดีลทั้งหมด 39 ครั้ง ที่เขาปิดการขายไป มี 30 ดีล ที่ Amazon Associate เป็นแหล่งที่มาของรายได้
เป็นไปได้อย่างไร? ในอดีต การสร้างรายได้กับ Amazon เป็นอะไรที่ง่ายมากมาย แค่วางลิงก์ของ Amazon สักสองสามลิงก์ แล้วส่ง Traffic ไปให้ โดย Amazon เป็นเจ้าแห่งการทำยอดขายอยู่แล้ว ยังไงสุดท้ายคุณก็ได้เงิน
เว็บไซต์ที่คูณยอดขายจากแหล่งสร้างรายได้ที่เยอะสุดคือเว็บไซต์อะไร?
ตอบ: ไม่ได้จาก Amazon Associate
Mushfiq ชี้ให้เห็นว่าเว็บไซต์ที่เจาะจงเฉพาะ Amazon Associate มีคูณยอดขายโดยเฉลี่ยที่ 24x ในทางตรงกันข้าม เว็บไซต์ที่แสดงโฆษณาและเว็บไซต์เจาะจง Affiliate เป็นหลักนั้น กลับมีคูณยอดขายสูงกว่าถึง 30x
นี้หมายความว่า เว็บไซต์ที่สร้างรายได้จากการแสดงโฆษณาและโปรแกรม Affiliate อื่น ๆ นอกเหนือจากของ Amazon มีผลตอบแทนการขายที่สูงกว่า
กลุ่ม Niche ที่ขายได้เร็วมีอะไรบ้าง?
ตอบ: ครัวเรือน, บ้าน, กีฬา, เทคโนโลยี, ยานยนต์, สัตว์เลี้ยง
ลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เน้นเครื่องอุปโภคบริโภคจะขายได้เร็ว กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างรายได้ผ่าน Amazon Associate ได้อยู่แล้ว แต่ทว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Amazon เราอาจมีโอกาสได้เห็นช่วงที่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มแบบใหม่ขึ้นมาถือหางเสือก็เป็นได้
การต่อรอง 9% ของสินค้าราคาปลีก
ผู้ซื้อมักต้องการที่จะต่อรองเพื่อขอลดราคาเสมอ นอกเสียจากว่าจะเป็นราคาที่ได้เปรียบอย่างชัดเจน
โดยเฉลี่ย จากราคาปลีกเริ่มต้น ประมาณ 9% ของราคาขายจะถูกลดลง จากทั้งการต่อรองราคาหรือการแก้ไขของผู้ซื้อ
ข้อมูลเชิงลึกของกลยุทธ์การถอนตัวของเขา
กลยุทธ์การถอนตัวทั้งสี่แบบที่ Mushfiq ใช้ในการดีล:
แต่ละข้อจะมีเอกลักษณ์และข้อดีแตกต่างกันไป และเพราะอะไรก็ไม่รู้ทำให้โยงไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เราต่างคุ้นเคยกัน
กลยุทธ์ซื้อมาทำให้โตแล้วขายทำกำไร (BGF)
นี้เป็นวิธีการดีลที่จะให้คุณซื้อเว็บไซต์ที่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่า นำมาเพิ่มคอนเทนต์ เพิ่มอันดับ และสร้างรายได้ไปก่อนสัก 12 - 24 เดือน จากนั้นค่อยตั้งราคาที่สูงขึ้น นี้เป็นกลยุทธ์ที่ Mushfiq ชอบมากที่สุดแล้ว แต่ก็เป็นกลยุทธ์ที่เขามีการดีลน้อยมากที่สุด เพราะดีลพวกนี้ต้องแบกรับต้นทุนและระยะเวลาที่ค่อนข้างนานอยู่พอสมควร
Mushfiq จะใช้กลยุทธ์นี้กับเว็บไซต์ที่เขามั่นใจจริง ๆ เท่านั้น หมายความว่าจะต้องเป็นโดเมนที่มีชื่อเสียง (หรือโดเมนที่หมดอายุแล้ว) ที่มี Backlink ดีเยี่ยม และต้องมีศักยภาพในการสร้างรายได้หลายช่องทาง ท่ามกลางปัจจัยอื่น ๆ
ข้อดี:
ข้อเสีย:
ซื้อมาทำให้โตแล้วหาหุ้นส่วน (BGP)
จะคล้ายกับกลยุทธ์ก่อนหน้านี้ แต่แทนที่จะขายทำกำไร Mushfiq เลือกหาหุ้นส่วนมาเทกโอเวอร์เว็บไซต์และกินส่วนแบ่งกำไร
เขาจะเลือกใช้กลยุทธ์นี้เมื่อแน่ใจแล้วว่า เว็บไซต์มีศักยภาพพอที่จะไปต่อได้อีก แต่จะนำเงินออกมาในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อกระจายส่วนแบ่ง ปกติสำหรับกลยุทธ์นี้ Mushfiq จะถือไว้ราว 15-30% ของดีลในฐานะผู้ขายที่เป็นฝ่ายให้กู้เงิน ส่วนนักลงทุนก็ซื้อหุ้นที่เหลืออยู่
ข้อดี:
ข้อเสีย:
ซื้อมาแล้วขายทำกำไร (BF)
ดั่งคำที่ว่าเงินคือพระเจ้า ในโลกของการลงทุนเว็บไซต์ คำนี้จริงซะยิ่งกว่าจริง สำหรับอสังหาริมทรัพย์ ต่อให้คุณมีเงินสด การทำธุรกรรมก็ยังอาจใช้เวลาเกิน 30+ วัน
สำหรับสินทรัพย์ที่เป็นเว็บไซต์ Mushfiq สามารถหาแหล่งดีล และพบผู้ซื้อได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง แล้วก็เป็นไปอย่างที่บอก ในการดีลนี้ใช้เวลาไปถึง 7 วัน
เหตุผลหลักสองข้อที่ทำให้เงินสดมีความสำคัญ:
โบรกเกอร์ (BR)
ในฐานะโบรกเกอร์ Mushfiq จะนำเสนอแทนผู้ขายที่กำลังหาผู้ซื้อ แล้วรับค่าคอมมิชชั่นเพื่อทำธุรกรรมสำเร็จ ดีลส่วนใหญ่ของเขานั้นเรียกว่าไปได้สวย Mushfiq ตรวจดีลไปอย่างน้อย 25-30 ดีลต่อสัปดาห์ และเสนอเพียงตัวเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ซื้อ
ทำไมให้เพียงตัวเลือกเดียว? เนื่องจากเว็บไซต์ส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์ในการตรวจสอบของเขา เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่เลือกใช้ PBN หรือไม่ก็มีคอนเทนต์ที่แย่จนเกินไป, หรือเคยโดนลงโทษจากระบบอัลกอริทึม หรือโดยผู้ดูแลเอง, หรือเป็น Niche ที่ทำกำไรได้ยาก มาตรฐานการควบคุมคุณภาพของเขาเลยเข้มงวด
ข้อมูลเชิงลึกที่ว่าทำไมคนถึงขายเว็บไซต์
ในระหว่างที่จัดดีลการซื้อขาย Mushfiq ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้สร้างเว็บไซต์หลายคน มีทั้งคนที่พึ่งเริ่มขายเป็นครั้งแรก และคนที่มากประสบการณ์ปะปนกันไปทั่วเว็บบอร์ด
เหตุผลยอดนิยมที่คนเลือกขายเว็บไซต์ของตัวเอง:
ข้อมูลเชิงลึกของการหาจุดวางขายเว็บไซต์
อ้างอิงตาม Mushfiq การหาจุดวางขายเว็บไซต์ให้ได้มูลค่าสูงสุดนั้นมีอยู่หลายวิธี แน่นอนว่าเป็นเทคนิคในการหาจุดวางเว็บไซต์ แต่ข้างล่างนี้จะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เขาพบว่ามันช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้จริง
1.เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อคนใหม่
หากคุณมีแผนจะขายเว็บไซต์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า อย่าโชว์ของทั้งหมดที่มี แล้วมาจัดทำกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้กับเจ้าของใหม่
เจ้าของใหม่จะต้องชอบแน่นอนที่คุณไม่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ 10 หน้าเว็บที่ได้รับความนิยมเพื่อเพิ่มยอด Conversion Rate หรือที่คุณไม่สนใจในคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่ทำกำไรได้ หรือที่คุณไม่ใส่โฆษณาบนเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสทำเงินให้กับผู้ซื้อคนใหม่
2.ทำเว็บไซต์ให้ดูดี
หลีกเลี่ยงการใช้ธีมแบบหยาบ ๆ , โล้โก้ดูไม่รู้เรื่อง (หรือการไม่มีโลโก้), โครงสร้างเว็บไซต์ไม่ได้เรื่อง หรือการเรียงคอนเทนต์ที่ไม่เอาไหน สำหรับนักลงทุนที่ช่ำชองอาจมองเป็นโอกาส แต่สำหรับคนอื่นอาจมองแล้วไมเกรนกำเริบ
รับรองว่าถ้าคุณแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้ครบ กำไรที่ได้รวมแล้วเบ็ดเสร็จคุ้มแน่นอน
3.การวิเคราะห์คือกุญแจสำคัญ
คุณต้องคอยหมั่นติดตาม Traffic และผลกำไรของตัวเองให้ดี ตรวจสอบการตั้งค่า ID การติดตามของ Google Analytics ให้ถูกต้อง ตรวจสอบ Affiliate ID ที่ใช้เป็นเอกลักษณ์ในหน้าเว็บแต่ละอัน
ตรวจสอบจุดเล็ก ๆ พวกนี้เพื่อให้ผ่านการประเมินจากผู้ซื้อ แถมยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ
4.จำนวนที่ต้องการจริง ๆ คือเท่าไร?
ยอดขายจะขึ้นอยู่กับหลายตัวชี้วัด เมื่อต้องการจะขาย คิดให้ดีว่าคุณต้องการเงินเท่าไรกันแน่ การวางจุดขายเว็บไซต์ไว้ที่ราคาสูงสุดนั้น จะต้องใช้เวลาหาผู้ซื้อที่เหมาะสม
ไม่มีใครหรอกที่อยากซื้อตามมูลค่าของตลาด หากจำนวนเงินที่คุณพอใจหมายถึง มูลค่าเพิ่มที่ลดลง งั้นลุยเลย คุณจะขายออกได้อย่างรวดเร็วและพอใจกันทั้งทุกฝ่าย อย่าวิ่งไล่ตามมูลค่าเพิ่ม!
หัวใจสำคัญในการเรียนรู้จาก Mushfiq
ในการซื้อเว็บไซต์ ต้องตรวจสอบก่อนว่าคุณมีแผนแบบหนึ่งในนี้:
แต่ถ้าคุณมีคอนเนกชั่นที่ดีอยู่แล้ว งั้นคุณก็สามารถเลือกทำงานเป็นโบรกเกอร์ได้
สรุป
แล้วถ้าซื้อมาทำให้โตแล้วเก็บเอาไว้เองล่ะ? แน่นอนว่า คุณสามารถซื้อเว็บไซต์มาทำให้โต แล้วเก็บไว้พอร์ตของคุณก็ได้ แต่คุณต้องพร้อมมีจุดที่จะวางขายเสมอ คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต การเตรียมความพร้อมที่จะวางขายเพื่อทำกำไร หรือเพื่อหาหุ้นส่วน จึงเป็นบันไดสู่ความสำเร็จอีกก้าวที่คุณมี