24 พฤษภาคม 2023 0 311

ขายไปแล้ว 39 เว็บไซต์: และนี้คือสิ่งที่คุณสามารถเรียนรู้ได้จากผม

อสังหาริมทรัพย์ดิจิตอลคือหนึ่งในสุดยอดพรมแดนที่โลกนี้เคยมีมา การซื้อขายเว็บไซต์และแพลตฟอร์มดิจิตอล สามารถทำให้คุณรวยเละได้เลย ในบทความนี้ เราจะมาแชร์ข้อมูลเชิงลึกของคุณ Mushfiq Sarker ผู้ก่อตั้ง The Website Flip ผู้ที่สามารถซื้อ เพิ่ม​มูลค่า และขายเว็บไซต์ได้อย่างประสบความสำเร็จมาตั้งแต่ปี 2008

เขาทำธุรกรรมมาแล้ว 135 ครั้ง ทั้งด้านผู้ซื้อและผู้ขายให้กับ Flippa และอีก 76 ธุรกรรมส่วนตัวผ่าน Escrow, Paypal หรือโบรกเกอร์บุคคลที่สาม ทำให้รวมแล้วมีธุรกรรมมากกว่า 200 ครั้ง

Mushfiq สามารถขายไปแล้ว 39 เว็บไซต์ ตั้งแต่ 2018 จนถึงปัจจุบัน และเราจะมาวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกที่เขาแชร์จากประสบการณ์การซื้อเว็บไซต์, เพิ่ม​มูลค่าเว็บไซต์, จนกระทั่งขายเว็บไซต์เหล่านี้ให้เป็นกำไร โดยข้อมูลเชิงลึกนี้จะมี:

  • สุดยอดแหล่งการสร้างรายได้
  • ลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ขายได้เร็ว
  • เรทการต่อรองราคาทั่วไป
  • ประเภทของโครงสร้างการซื้อขายที่เขาได้ทำทั้งในฐานะผู้ขายและโบรกเกอร์
  • สาเหตุทั่วไปที่เกิดการขาย
  • เคล็ดลับที่ทำได้จริงเพื่อวางขายเว็บไซต์

ยอดขายเชิงลึกจากธุรกรรมทั้ง 39 ครั้ง จากปี 2018

ก่อนที่เราจะมาเจาะลึกข้อมูล นี้คือไฮไลต์ของดีลโดยเฉลี่ยที่ปิดการขายไปแล้ว​:

  • การคูณกำไรของยอดขายสุดท้าย: 25 ครั้ง (กล่าวคือ 25X)
  • การทำรายการก่อนหมดเวลา: 7.12 วัน
  • การทำรายการเพื่อตอบรับข้อเสนอ: 2.58 วัน
  • เรตติ้งโดเมนจาก AHREFs: 9
  • เรตติ้ง URL จาก AHREFs: 9.8
  • Referring Domains: 132
  • Backlinks: 3.025
  • ราคาขายสุดท้ายต่ออัตราส่วนทางราคา: 0.910 (คาดว่ามีการลด 9% หลังจากการทำรายการ จากการเจรจาต่อรองหรือ การแก้ไขของผู้ซื้อ)

ไอเดียที่แชร์โดย Mushfiq ส่วนใหญ่ใช้ได้กับเว็บไซต์ที่มีเรทราคาต่ำกว่า $50,000 สำหรับเรทที่สูงกว่านี้ เขาแนะนำให้ปล่อยเป็นหน้าที่ของโบรกเกอร์อย่าง Empire Flippers, Investors Club, FE International, ฯลฯ การแจกแจงรายละเอียดของดีลทั้งหมด สามารถอ่านได้จากตรงนี้: ดูข้อมูลของดีลทั้ง 39 อัน 

มาต่อกันที่ข้อมูลเชิงลึก

แหล่งการสร้างรายได้ทั่วไปคืออะไร?

ตอบ: Amazon Associate

ดีลเกือบทั้งหมดที่ Mushfiq ทำมา มากกว่า 80% เป็นการสร้างรายได้กับ Amazon Associate จากดีลทั้งหมด 39 ครั้ง ที่เขาปิดการขายไป มี 30 ดีล ที่ Amazon Associate เป็นแหล่งที่มาของรายได้

เป็นไปได้อย่างไร? ในอดีต การสร้างรายได้กับ Amazon เป็นอะไรที่ง่ายมากมาย แค่วางลิงก์ของ Amazon สักสองสามลิงก์ แล้วส่ง Traffic ไปให้ โดย Amazon เป็นเจ้าแห่งการทำยอดขายอยู่แล้ว ยังไงสุดท้ายคุณก็ได้เงิน

เว็บไซต์ที่คูณยอดขายจากแหล่งสร้างรายได้ที่เยอะสุดคือเว็บไซต์อะไร?

ตอบ: ไม่ได้จาก Amazon Associate

Mushfiq ชี้ให้เห็นว่าเว็บไซต์ที่เจาะจงเฉพาะ Amazon Associate มีคูณยอดขายโดยเฉลี่ยที่ 24x ในทางตรงกันข้าม เว็บไซต์ที่แสดงโฆษณาและเว็บไซต์เจาะจง Affiliate เป็นหลักนั้น กลับมีคูณยอดขายสูงกว่าถึง 30x

นี้หมายความว่า เว็บไซต์ที่สร้างรายได้จากการแสดงโฆษณาและโปรแกรม Affiliate อื่น ๆ นอกเหนือจากของ Amazon มีผลตอบแทนการขายที่สูงกว่า

กลุ่ม Niche ที่ขายได้เร็วมีอะไรบ้าง?

ตอบ: ครัวเรือน, บ้าน, กีฬา, เทคโนโลยี, ยานยนต์, สัตว์เลี้ยง

ลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่เน้นเครื่องอุปโภคบริโภคจะขายได้เร็ว  กลุ่มเหล่านี้ส่วนใหญ่ยังสามารถสร้างรายได้ผ่าน Amazon Associate ได้อยู่แล้ว แต่ทว่า ด้วยการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Amazon เราอาจมีโอกาสได้เห็นช่วงที่ลูกค้าเฉพาะกลุ่มแบบใหม่ขึ้นมาถือหางเสือก็เป็นได้

การต่อรอง 9% ของสินค้าราคาปลีก

ผู้ซื้อมักต้องการที่จะต่อรองเพื่อขอลดราคาเสมอ นอกเสียจากว่าจะเป็นราคาที่ได้เปรียบอย่างชัดเจน

โดยเฉลี่ย จากราคาปลีกเริ่มต้น ประมาณ​ 9% ของราคาขายจะถูกลดลง จากทั้งการต่อรองราคาหรือการแก้ไขของผู้ซื้อ

ข้อมูลเชิงลึกของกลยุทธ์การถอนตัวของเขา

กลยุทธ์​การถอนตัวทั้งสี่แบบที่ Mushfiq ใช้ในการดีล:

  1. ซื้อมาทำให้โตแล้วขายทำกำไร (BGF)
  2. ซื้อมาทำให้โตแล้วหาหุ้น​ส่วน (BGP)
  3. ซื้อมาแล้วขายทำกำไร (BF)
  4. โบรกเกอร์ (BR)

แต่ละข้อจะมีเอกลักษณ์และข้อดีแตกต่างกันไป และเพราะอะไรก็ไม่รู้ทำให้โยงไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เราต่างคุ้นเคยกัน

กลยุทธ์ซื้อมาทำให้โตแล้วขายทำกำไร (BGF)

นี้เป็นวิธีการดีลที่จะให้คุณซื้อเว็บไซต์ที่มีศักยภาพในการเพิ่ม​มูลค่า นำมาเพิ่มคอนเทนต์ เพิ่มอันดับ และสร้างรายได้ไปก่อนสัก 12 - 24 เดือน จากนั้นค่อยตั้งราคาที่สูงขึ้น นี้เป็นกลยุทธ์ที่ Mushfiq ชอบมากที่สุดแล้ว แต่ก็เป็นกลยุทธ์ที่เขามีการดีลน้อยมากที่สุด เพราะดีลพวกนี้ต้องแบกรับต้นทุนและระยะเวลาที่ค่อนข้างนานอยู่พอสมควร

Mushfiq จะใช้กลยุทธ์นี้กับเว็บไซต์ที่เขามั่นใจจริง ๆ เท่านั้น หมายความว่าจะต้องเป็นโดเมนที่มีชื่อเสียง (หรือโดเมนที่หมดอายุแล้ว) ที่มี Backlink ดีเยี่ยม และต้องมีศักย​ภาพในการสร้างรายได้หลายช่องทาง ท่ามกลางปัจจัยอื่น ๆ

ข้อดี:

  • ซื้อต่ำและขายได้สูงผ่านมูลค่าเพิ่ม
  • โอกาสทำกำไรสูง
  • ขอบเขต 12 - 24 เดือน

ข้อเสีย:

  • สินทรัพย์ที่มีมูลค่าต่ำจะมีความเสี่ยงและเปลี่ยนแปลงได้ง่าย
  • เป็นการลงทุนระยะยาว

ซื้อมาทำให้โตแล้วหาหุ้น​ส่วน (BGP)

จะคล้ายกับกลยุทธ์ก่อนหน้านี้ แต่แทนที่จะขายทำกำไร Mushfiq เลือกหาหุ้นส่วนมาเทกโอเวอร์เว็บไซต์และกินส่วนแบ่งกำไร

เขาจะเลือกใช้กลยุทธ์นี้เมื่อแน่ใจแล้วว่า เว็บไซต์มีศักยภาพพอที่จะไปต่อได้อีก แต่จะนำเงินออกมาในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่เพื่อกระจายส่วนแบ่ง ปกติสำหรับกลยุทธ์นี้ Mushfiq จะถือไว้ราว 15-30% ของดีลในฐานะผู้ขายที่เป็นฝ่ายให้กู้เงิน ส่วนนักลงทุนก็ซื้อหุ้นที่เหลืออยู่

ข้อดี:

  • ซื้อต่ำและขายสูงผ่านมูลค่าเพิ่ม
  • โอกาสทำกำไรสูง
  • เป็นการลงทุนแบบต่อเนื่อง

ข้อเสีย:

  • ยังคงถือหุ้นในสินทรัพย์หลังขายให้กับหุ้นส่วน

ซื้อมาแล้วขายทำกำไร (BF)

ดั่งคำที่ว่าเงินคือพระเจ้า ในโลกของการลงทุนเว็บไซต์ คำนี้จริงซะยิ่งกว่าจริง สำหรับอสังหาริมทรัพย์ ต่อให้คุณมีเงินสด การทำธุรกรรมก็ยังอาจใช้เวลาเกิน 30+ วัน

สำหรับสินทรัพย์ที่เป็นเว็บไซต์ Mushfiq สามารถหาแหล่งดีล และพบผู้ซื้อได้ภายใน 24-48 ชั่วโมง แล้วก็เป็นไปอย่างที่บอก ในการดีลนี้ใช้เวลาไปถึง 7 วัน

เหตุผลหลักสองข้อที่ทำให้เงินสดมีความสำคัญ:

  • จบเร็ว: บ​าง​ครั้งอาจใช้เวลาเพียงแค่ 24 ชั่วโมง ในการถ่ายโอนสินทรัพย์, รูปภาพของรายได้, Google Analytics, ถ่ายโอนเว็บไซต์, ฯลฯ
  • อำนาจในการต่อรอง: การมีเงินสดอยู่ในมือ ทำให้มีอำนาจในการต่อรองตรงที่สามารถกดดันให้ผู้ขายลดราคาลงไปได้เป็นเท่าตัว ด้วยสัญญาที่ว่าจะจ่ายทันที และไม่มีช่วงตรวจสอบก่อน

โบรกเกอร์ (BR)

ในฐานะโบรกเกอร์ Mushfiq จะนำเสนอแทนผู้ขายที่กำลังหาผู้ซื้อ แล้วรับค่าคอมมิชชั่นเพื่อทำธุรกรรมสำเร็จ ดีลส่วนใหญ่ของเขานั้นเรียกว่าไปได้สวย Mushfiq ตรวจดีลไปอย่างน้อย 25-30 ดีลต่อสัปดาห์ และเสนอเพียงตัวเลือกที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ซื้อ

ทำไมให้เพียงตัวเลือกเดียว? เนื่องจากเว็บไซต์ส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์ในการตรวจสอบของเขา เพราะเว็บไซต์ส่วนใหญ่เลือกใช้ PBN หรือไม่ก็มีคอนเทนต์​ที่แย่จนเกินไป, หรือเคยโดนลงโทษจากระบบอัลกอริทึม หรือโดยผู้ดูแลเอง, หรือเป็น Niche ที่ทำกำไรได้ยาก มาตรฐานการควบคุมคุณภาพของเขาเลยเข้มงวด

ข้อมูลเชิงลึกที่ว่าทำไมคนถึงขายเว็บไซต์

ในระหว่างที่จัดดีลการซื้อขาย Mushfiq ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้สร้างเว็บไซต์หลายคน มีทั้งคนที่พึ่งเริ่มขายเป็นครั้งแรก และคนที่มากประสบการณ์ปะปนกันไปทั่วเว็บบอร์ด

เหตุผลยอดนิยมที่คนเลือกขายเว็บไซต์ของตัวเอง:

  • ผู้ขายต้องการเงินทุน
  • เว็บไซต์โตเร็ว
  • ผู้ขาย "ไม่สนใจ" ใน Niche ของลูกค้าเฉพาะกลุ่ม
  • เต็มศักยภาพแล้ว

ข้อมูลเชิงลึกของการหาจุดวางขายเว็บไซต์

อ้างอิงตาม Mushfiq การหาจุดวางขายเว็บไซต์ให้ได้มูลค่าสูงสุดนั้นมีอยู่หลายวิธี แน่นอนว่าเป็นเทคนิคในการหาจุดวางเว็บไซต์ แต่ข้างล่างนี้จะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่เขาพบว่ามันช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้จริง

 1.เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อคนใหม่

หากคุณมีแผนจะขายเว็บไซต์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า อย่าโชว์ของทั้งหมดที่มี แล้วมาจัดทำกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้กับเจ้าของใหม่

เจ้าของใหม่จะต้องชอบแน่นอนที่คุณไม่เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ 10 หน้าเว็บที่ได้รับความนิยมเพื่อเพิ่มยอด Conversion Rate หรือที่คุณไม่สนใจในคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ที่ทำกำไรได้ หรือที่คุณไม่ใส่โฆษณาบนเว็บไซต์ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นโอกาสทำเงินให้กับผู้ซื้อคนใหม่

2.ทำเว็บไซต์ให้ดูดี

หลีกเลี่ยงการใช้ธีมแบบหยาบ ๆ , โล้โก้ดูไม่รู้เรื่อง (หรือการไม่มีโลโก้), โครงสร้างเว็บไซต์ไม่ได้เรื่อง หรือการเรียงคอนเทนต์ที่ไม่เอาไหน สำหรับนักลงทุนที่ช่ำชองอาจมองเป็นโอกาส แต่สำหรับคนอื่นอาจมองแล้วไมเกรนกำเริบ

รับรองว่าถ้าคุณแก้ไขเรื่องพวกนี้ได้ครบ กำไรที่ได้รวมแล้วเบ็ดเสร็จคุ้มแน่นอน

3.การ​วิเคราะห์คือกุญแจสำคัญ

คุณต้องคอยหมั่นติดตาม Traffic และผลกำไรของตัวเองให้ดี ตรวจสอบการตั้งค่า ID การติดตามของ Google Analytics ให้ถูกต้อง ตรวจสอบ Affiliate​ ID ที่ใช้เป็นเอกลักษณ์ในหน้าเว็บแต่ละอัน

ตรวจสอบจุดเล็ก ๆ พวกนี้เพื่อให้ผ่านการประเมินจากผู้ซื้อ แถมยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อ

4.จำนวนที่ต้องการจริง ๆ คือเท่าไร?

ยอดขายจะขึ้นอยู่กับหลายตัวชี้วัด เมื่อต้องการจะขาย คิดให้ดีว่าคุณต้องการเงินเท่าไรกันแน่ การวางจุดขายเว็บไซต์ไว้ที่ราคาสูงสุดนั้น จะต้องใช้เวลาหาผู้ซื้อที่เหมาะสม

ไม่มีใครหรอกที่อยากซื้อตามมูลค่าของตลาด หากจำนวนเงินที่คุณพอใจหมายถึง มูลค่าเพิ่มที่ลดลง งั้นลุยเลย คุณจะขายออกได้อย่างรวดเร็วและพอใจกันทั้งทุกฝ่าย อย่าวิ่งไล่ตามมูลค่าเพิ่ม!

หัวใจสำคัญในการเรียนรู้จาก Mushfiq

ในการซื้อเว็บไซต์ ต้องตรวจสอบก่อนว่าคุณมีแผนแบบหนึ่งในนี้:

  • ซื้อมาทำให้โตแล้วขายทำกำไร (BGF)
  • ซื้อมาแล้วขายทำกำไร (BF)
  • ซื้อมาทำให้โตแล้วหาหุ้นส่วน (BGP)

แต่ถ้าคุณมีคอนเนกชั่นที่ดีอยู่แล้ว งั้นคุณก็สามารถเลือกทำงานเป็นโบรกเกอร์ได้

สรุป

แล้วถ้าซื้อมาทำให้โตแล้วเก็บเอาไว้เองล่ะ? แน่นอนว่า คุณสามารถซื้อเว็บไซต์มาทำให้โต แล้วเก็บไว้พอร์ตของคุณก็ได้ แต่คุณต้องพร้อมมีจุดที่จะวางขายเสมอ คุณไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต การเตรียมความพร้อมที่จะวางขายเพื่อทำกำไร หรือเพื่อหาหุ้นส่วน จึงเป็นบันไดสู่ความสำเร็จอีกก้าวที่คุณมี

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?