30 เมษายน 2023 0 224

บทสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้ง Financial Affiliate Program: วิธีทำให้ได้ Lead ละ $250 และสร้างรายได้ $25,000 ต่อเดือน

ไมค์ สาเคียน (Mike Saakyan) ทำงานเกี่ยวกับ Traffic มาแล้วกว่า 20 ปี และในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา เขาได้ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับ Niche MFI สามปีก่อนไมค์เปิดตัว LeadAvenue เครือข่าย CPA ในสหรัฐอเมริกา และสนใจที่จะร่วมงานกับ Affiliate Marketer จากรัสเซีย เราได้สัมภาษณ์เขาถึงประสบการณ์การทำงานด้านสินเชื่อส่วนบุคคลในสหรัฐอเมริกา รวมถึงความเป็นไปได้ในการสร้างรายได้จากสินเชื่อรายย่อย และ Traffic เป้าหมาย

 เป็นยังไงมายังไงถึงได้มาทำ Niche ปล่อยเงินกู้ที่เก็บเป็นรายเดือน?

อาชีพสาย IT ของผมเริ่มต้นขึ้นหลังจบการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ผมทำงานร่วมกับธุรกิจออนไลน์มากมาย โดยเฉพาะการสร้าง Lead และปล่อยเงินกู้ ภายในไม่กี่เดือน ผมก็รู้ช่องทางติดต่อทำธุรกิจและวิธีการทำงานออนไลน์

ในปี 2015 ผมเดิมพันด้วยกาารเปิดตัวเว็บไซต์เกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้ หน้าที่อย่างการวิเคราะห์, SEO และคอนเทนต์ทั้งหมด ผมเป็นคนลงมือทำทั้งหมด สามเดือนต่อมาเว็บไซต์ติดอันดับยอดนิยมบน Google รายได้หลั่งไหลเข้าเรื่อย ๆ ภายในหกเดือน มาร์จิ้นของเว็บก็แตะถึง $6,000 แม้ว่าจะอยู่ในอันดับท้าย ๆ ของการค้นหา

ทำให้ผมสามารถจ้างผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO, นักออกแบบ และนักเขียนมืออาชีพได้ ในช่วงท้ายของปี รายได้ต่อเดือนที่มาจากเว็บไซต์รวมกันได้มากกว่า $30,000 ทำให้นี้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้เข้ามาใน Niche ของการปล่อยสินเชื่อรายย่อย

ผลการค้นหาของ Google มีกี่หน้าและคุณอยู่ที่ประมาณเท่าไร?

ถ้าหากคุณกดค้นหา “Microloan Online” ตัว Google จะให้ผลออกมาประมาณ 13 หน้า โดยจะเปลี่ยนไปตามผู้ใช้ แต่ก็ไม่ต่างกันมากเท่าไร บางครั้งเว็บไซต์ของผมจะขึ้นที่อันดับ 92, 94, 97 เป็นต้น

คุณเปิดตัวเครือข่าย CPA ของตัวเองอย่างไร ได้แนวคิดนี้มาอย่างไหน และอุปสรรคแรกที่คุณเจอคืออะไร?

ผมมีลูกค้าที่เป็นผู้ให้ยืมโดยตรงอยู่มากพอสมควร และพวกเขาก็พึงพอใจในบริการของผม ทำให้ผมสามารถเข้ามาทำธุรกิจนี้ได้ในที่สุด เมื่อผมได้รับความไว้วางใจ ผมจึงเสนอให้พวกเขาขายกลุ่ม Lead ด้วยผู้ซื้อที่ผมมีอยู่ ทุกอย่างถูกจัดแจงและวางแบบแผนไว้ตั้งแต่แรก แต่ปัญหาเดียวที่เจอ คือทำยังให้มี Traffic ที่สม่ำเสมอ ผู้เชี่ยวชาญที่เขาจ้างมานั้นทำผลงานได้ดีมาก ส่งผลให้พวกเราติดอันดับ #4 ของ Google และมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ $25,000 - $35,000 ในปีนั้น แต่ละวันต้องเจอกับคู่แข่งหน้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการสร้างรากฐานและขยายการเข้าถึง พวกเราตัดสินใจเปิดเพิ่มอีกห้าเว็บไซต์ แต่คู่แข่งบางรายก็ใช่ย่อย ถึงขั้นทำให้เราลำบากในบางเวลาเลยก็มี

เราจึงต้องคอยปรับตัวเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ใหม่ ๆ ด้วยการเปิดตัว Affiliate Program เพื่อดึงซัพพอร์ตของคู่แข่ง ด้วยผู้ซื้อที่อยู่ในระดับดีเยี่ยมของเราบวกกับระบบการทำงานที่ไหลลื่น — ทำให้ 3 ใน 5 ผู้โฆษณาตกลงร่วมเข้าทำงานกับเรา

หลังจากที่เปิดตัวเว็บไซต์คุณใช้เวลาเท่าไรในการจัดตั้งเครือข่าย CPA?

เว็บไซต์อยู่มาก่อนที่เราจะเปิดตัว Affiliate Program ปีครึ่ง หกเดือนต่อมาเราจัดตั้งเครือข่ายของพาร์ทเนอร์ที่น่าเชื่อถือ และทำงานร่วมกับเรามาจนถึงตอนนี้ ปกติแล้วเว็บมาสเตอร์มากมายจะมาแล้วก็ไป จากนั้นก็ค่อยกลับมาใหม่อีกครั้ง เราไม่มีปัญหากับเว็บมาสเตอร์ที่ต้องการทดสอบลองใช้ Affiliate Program เจ้าอื่น เราเพียงแต่รู้สึกขอบคุณ พาร์ทเนอร์ที่อยู่กับเรามาโดยตลอดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราหวังว่าจะได้ร่วมงานและช่วยเหลือกันเกื้อกูลกันไปในระยะยาว

ในฐานะที่คุณทำงานมาเป็น 10 ปี ให้กับกลุ่ม Niche ทางการเงิน คุณคิดว่ากลุ่มไหมมีการพัฒนาไปได้ไกลมากที่สุด?

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าตลาดในอเมริกานั้นใหญ่ที่สุดเพราะมีจำนวนผู้กู้ที่มหาศาล สำหรับเว็บมาสเตอร์แล้วประเทศที่มี Traffic ทางการเงินมากที่สุด คือ รัสเซีย, ยูเครน, เวลารูส, โปแลนด์, โรมาเนีย จีน, ไต้หวัน, สิงคโปร์, ฮ่องกง และญี่ปุ่น

พวกเขามีผู้โฆษณาและ Traffic ที่มีคุณภาพสูงกว่า กล่าวอีกนัยหนึ่งคุณไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ในอเมริกา เพราะการสื่อสารในปัจจุบันทำให้คุณสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ทั่วโลก ตัวอย่างเช่น ทีมของผมที่เป็นมาจากรัสเซียและอาร์เมเนีย  

Affiliate Program ทางการเงิน จ้างเว็บมาสเตอร์ในอเมริกาด้วยเงินจำนวนเท่าไร? แล้วจ่ายเฉพาะรายการที่ยืนยันแล้วหรือแค่ให้กู้ก็เพียงพอแล้ว?

ในตลาดอเมริกาเปิดมาสเตอร์จะได้รับค่าจ้างโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 60% โดยอ้างอิงตามโมเดลการแบ่งรายได้ Affiliate Program ของพวกเรามีข้อเสนอในการแบ่งรายได้สูงถึง 90% นั่นเป็นเพราะเราต้องการที่จะตอบแทนให้กับคนที่ยอมทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจและเวลาของตัวเอง เราจะทำงานกันด้วยโมเดลแบบ PPL (จ่ายตาม Lead): ค่าจ้างสูงสุดจะอยู่ที่ 250 ดอลลาร์ซึ่ง 90% จะถูกนำมาจ่ายให้กับผู้โฆษณา

แหล่ง Traffic ใดที่สอดคล้องกับปัจจุบัน? วิธีติดอันดับผลลัพธ์การค้นหาของ Niche ทางการเงินที่มีการแข่งขันสูงมาก ๆ ?

ก่อนจะเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ เราพยายามกันอย่างหนักเพื่อที่จะขยายการมีตัวตนบนโลกโซเชียล เพื่อให้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของเรา ผ่านการซื้อโฆษณา การโฆษณาบน Facebook นั้นเป็นอะไรที่ค่อนข้างท้าทาย เพราะโฆษณาการให้กู้เงินนั้นผิดกฎระเบียบและนโยบายของ Facebook ทำให้ต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนทั้งหมด $10k ไปกับการโฆษณา ไม่กี่เดือนถัดมา เราสังเกตเห็นผลลัพธ์บางอย่าง แต่นั้นก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก ผมเชื่อว่า SEO คือ หนึ่งในแหล่ง Traffic ที่ปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากที่สุด ส่วนวิธีทำให้ตัวเองติดค้นหาในหน้าแรกนั้น ผมแนะนำลองทำการวิเคราะห์คอนเทนต์, จำนวนคอนเทนต์ และคีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้ จากนั้นจึงค่อยหาทางเอาชนะ  

ซื้อโดเมนและ Backlink ที่ถูกทิ้ง, ทำ PBN (Private Blog Network) และโพสต์แขกรับเชิญบนบล็อกการเงินดัง ๆ ทำคอนเทนต์ที่ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ ตัวอย่างเช่น  “วิธีกู้ $2,000 ใน 10 นาที”

แล้วเว็บมาสเตอร์ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านนี้ควรเริ่มตรงไหน? ควรสร้างเว็บไซต์สำหรับปล่อยกู้อย่างเดียว, ซื้อโฆษณา หรือทำงานร่วมกับโซเชียลมีเดีย?

คุณต้องเทียบเคียงจาก Google SERPs หรือหน้าผลการค้นหาของ Google โดยให้คุณลองตั้งเป้าหมายจากเมืองที่เล็ก ๆ ก่อน โพสต์ข้อมูลของบริษัทลงไปในช่องค้นหาของ Google Search และบนแผนที่ Google Map ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณสร้างเว็บไซต์ปล่อยกู้รายย่อยสำหรับคนในเมืองซอลต์เลกซิตี แน่นอนว่าอันดับเว็บที่ได้นั้นย่อมดีกว่าเมืองท้องถิ่น หรือเมืองใหญ่อย่างลอสแอนเจลิส

จำนวนประชากรของเมืองซอลต์เลกซิตีมีประมาณ 200,000 คน และมีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการกู้เงิน แน่นอนว่าคุณจะได้รับ Traffic พร้อมกับการแข่งขันที่สามารถรับมือได้ง่ายกว่าเมืองใหญ่ ๆ  

หรือคุณจะซื้อแอดเดรสท้องถิ่นเพื่อทำให้เว็บไซต์ของคุณดูน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่จำไว้ด้วยว่าอย่าทำงานกับลูกค้าด้วยแอดเดรสนั้น อีกการลงทุนที่คุ้มค่าคือการซื้อเครื่องมืออย่าง อีเมลสำหรับทำการตลาด, ข้อความ SMS และการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ของพวกนี้จะมีประสิทธิภาพในงานนี้มากกว่า Google Ads อย่างอีเมลเพื่อการตลาดที่ใช้ได้ผลดีมากกับตลาดทางอเมริกา เพราะในจดหมายจะมีปุ่มให้ยกเลิกการรับสมัครข่าวสาร ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้คอนเทนต์ของผู้ใช้สำหรับจดหมายข่าวนั้น  

คุณใช้วิธีอะไรในการหาเมืองที่มีการแข่งขันต่ำ?

การค้นหาครับ ผมไม่ได้มีรายชื่อในการเลือกเมืองแต่แรกแล้ว คุณต้องมีเกณฑ์การเลือกเป็นของตัวเอง อาจจะสุ่มจิ้มนิ้วไปบนแผนที่ของอเมริกาและลองศึกษาเกี่ยวกับเมืองนั้น เช่น กฏหมาย วิกิพีเดียอาจช่วยคุณในเรื่องนี้ได้ เลือกรัฐที่มีกฏหมายไม่เข้มงวดมาก และเลือกเมืองที่มีประชากรประมาณ 50,000-100,000 คน จัดคีย์เวิร์ดและประเมินระดับการแข่งขัน จากนั้นทำแบบเกียวกันนี้กับเมืองอื่น — และก็เลือกคีย์เวิร์ดและประเมินระดับการแข่งขัน

ในตลาดของชาติตะวันตกมีข้อกำหนดอะไรเกี่ยวกับสถาบันปล่อยเงินกู้ไหม? มีรัฐไหนในอมเริกาที่ห้ามการปล่อยกู้บ้างไหม?

ในระหว่างการสร้างคอนเทนต์สำหรับโฆษณา คุณต้องทำให้เข้าถึงเป็นรายบุคคล ตัวอย่างเช่น การเขียน “เงินกู้ระยะสั้น” แทนการเขียน “ไมโครไฟแนนซ์” เนื่องจากไมโครไฟแนนซ์นั้นถูกกฏหมายใน 27 รัฐ อีก 9 รัฐอนุญาตให้ใช้ตามเกณฑ์ที่รัฐนั้นกำหนด ส่วนสำหรับที่เหลืออีก 14 รัฐและเขตปกครองพิเศษของโคลัมเบียนั้นไม่อนุญาตให้มีไมโครไฟแนนซ์

เรามีเครือข่ายของผู้ให้กู้ที่ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงรัฐเกือบทั้งหมด เป็นองกรค์ที่เรียกว่า Tribal Lending Enterprise เป็นสถาบันทางการเงินที่ตั้งอยู่ตามเขตที่มีประชากรพื้นเมือง และเปิดโดยคนขององกรค์ โดยให้บริการที่คล้ายคลึงกับไมโครไฟแนนซ์ และเพราะตั้งอยู่ในเขตดินแดนอธิบไตย ที่ได้รับการคุ้มครอง กฏข้อบังคับทั่วไปจึงไม่มีผลกับพวกเขา    

แล้วทางตัวค้นหากับผู้ที่มีอำนาจในการกำกับดูแลนั้น มีท่าทีอย่างไรต่อเว็บไซต์สินเชื่อรายย่อยในประเทศตะวันตก?

ในปี 2016 ทาง Google ได้ประกาศแบนการโฆษณาสินเชื่อรายย่อย โดยจัดให้เป็นสิ่งผิดกฏหมายเช่นเดียวกับการค้าอาวุธ, วัตถุระเบิด และสารเสพติด

Google ไม่เผยแพร่โฆษณาที่เป็นสินเชื่อรายย่อย แต่อย่างไรก็ตาม ในเครื่องมือค้นหาอื่น ๆ เช่น Yahoo ที่อนุญาตให้มีโฆษณาประเภทนี้อยู่ คนที่มีโอกาสเป็นลูกค้าสามารถค้นหาผู้ให้กู้ผ่านการค้นหาของ Google อย่างไรก็ดี โฆษณาสินเชื่อรายย่อยจะไม่ถูกวางในส่วนโฆษณาแรกหรือด้านข้างของหน้าเว็บไซต์

ประสิทธิภาพของ Yahoo Ads? ตรงส่วนนี้คุณมีข้อมูลอะไรบ้าง?

Yahoo ไม่ห้ามการโฆษณาสินเชื่อรายย่อย พวกเขามีหลักเกณฑ์ทั่วไปเกี่ยวกับสิ่งที่โฆษณาไม่ควรมีและกฏที่ไม่ซับซ้อน บน Yahoo มีการค้นหาที่ไม่ซ้ำกันถึง 117 ล้านครั้งต่อเดือน ถ้าคุณเพิกเฉยต่อ Yahoo Ads คุณก็อาจสูญเสีย 30% ของตลาดที่มีศักยภาพมากขนาดนี้ไป

กลุ่มเป้าหมายของสินเชื่อเงินด่วนคืออะไร? ลูกค้ากังวลเรื่องใดและจะมีวิธีการดึงดูดพวกเขาได้อย่างไร?

จากการวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ พบว่าผู้หญิงในวัย 30 และ 40 ปีนั้น มีแนวโน้มที่จะสมัครขอสินเชื่อรายย่อย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงโสดที่ประสบปัญหาทางการเงิน พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวเองก็เป็นหนึ่งของกลุ่มเป้าหมายเช่นกัน พวกเขาใช้เงินเดือนชนเดือน ถ้ามีอะไรที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น พวกเขาจะไม่มีเงินออมเลย หากมีรายจ่ายเกินลิมิตที่กำหนด พวกเขาก็ต้องออกมาหาเงินเร่งด่วน

คนเหล่านี้มักมีเครดิตที่ไม่ค่อยดี เพราะพวกเขาไม่มีเงินออม นั่นเลยเป็นเหตุผลที่ธนาคารปฏิเสธการให้สินเชื่อ ทำให้พวกเขาหาทางแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากเป็นหนี้ — นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับพวกเขา หากคุณอธิบายให้พวกเขาทราบว่าวันที่ครบกำหนดอาจล่าช้าได้ และให้รายละเอียดเกี่ยวกับวิธีจัดการการชำระเงินที่ชัดเจน พวกเขาจะกรอกแบบฟอร์มสมัครให้คุณทันที    

กล่าวคือ หากเป็นมือใหม่ในตลาดอเมริกา ควรเน้นเสนอสินเชื่อเงินด่วนแก่พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวที่อาศัยในเมืองเล็ก ๆ โดยใช้ SEO และการตลาดทางโซเชียลใช่ไหม?

ใช่แล้ว วิธีการนี้มีประสิทธิภาพไม่แพ้มืออาชีพ หากคุณมั่นใจใน Traffic และผลตอบแทนที่ได้รับ ยินดีด้วยคุณมาถูกทางแล้ว อย่างไรก็ตาม หากนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของคุณและยังคงประสบกับปัญหาอยู่ ให้ลองใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นดูนะ

ช่วงที่มีโรคระบาดนั้นส่งผลกระทบต่อตลาดสินเชื่อรายย่อยอย่างไร? และคุณคิดว่าจะเป็นอย่างไรในอนาคต?

หลายคนตกงานและหากไม่ได้รับเงิน การขอกู้ก็จะน้อยลง โดยรวมแล้วที่ผ่านมาอุตสาหกรรมนี้ได้รับผลกระทบเยอะมาก โดยเฉพาะเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนที่ถือเป็นเดือนอันเลวร้ายที่สุดด ด้วยกำไรที่ลดครึ่งต่อครึ่ง แต่ทันทีที่เริ่มได้รับเงินชดเชยจากการว่างงาน หลายคนก็รู้สึกปลอดภัย ทำให้ในเดือนกรกฎาคม รายรับทางการเงินก็เริ่มเพิ่มมากขึ้น ชาวอเมริกันจะได้รับการชำระเงินครั้งต่อไปในเดือนสิงหาคม ดังนั้นรายได้ของสถาบันการเงินรายย่อยจึงมีโอกาสเพิ่มขึ้นอีก โดยเราคาดหวังให้ตัวเลขแตะถึงของช่วงก่อนมี "โควิด-19" ที่เคยมีในช่วงเดือนธันวาคม

รายได้เฉลี่ยของเว็บมาสเตอร์ใน Niche สินเชื่อเงินด่วนคือเท่าไร??

โดยเฉลี่ยแล้ว เว็บมาสเตอร์ที่ดีสามารถสร้างรายได้ประมาณ $25,000 ต่อเดือนโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่านัก เรายังมีเว็บมาสเตอร์ที่สามารถสร้างรายได้ $800,000 ต่อเดือน แต่อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างนั้นขึ้นอยู่กับเว็บไซต์ที่ทำและคุณภาพของการตลาด หากคุณมีทักษะที่เหมาะสม อะไรก็ก็หยุดคุณไม่ได้

ในเมื่อคุณมีประสบการณ์ในการเปิดตัวเว็บไซต์ขนาดนี้ ช่วยบอกเราทีได้ไหมว่าควรลงทุนเท่าไรกับเว็บไซต์ถึงจะมีเงิน $25,000-35,000 ตามที่คุณบอก?

สำหรับการลงทุนในเรื่องของเวลา ขอบอกว่ายิ่งมากยิ่งดี รายได้ดังกล่าวนั้นพวกเราได้รับหลังจากผ่านไปประมาณหนึ่งปีครึ่ง — ทีมงานทั้งสี่คนนั้นทำงานบนเว็บไซต์เป็นประจำทุกวัน

สำหรับเงินนั้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ทีมของคุณรับผิดชอบ ตัวอย่างเช่น ในรัสเซีย จะมีเงินเดือนประมาณ $5,000 ต่อเดือน และค่าการตลาดประมาณ $2,000

ท้ายที่สุดแล้ว การลงทุนทั้งหมดจะสมเหตุสมผลได้หากคุณมีรายได้ถึง $25,000 ต่อเดือน แต่เหนือสิ่งอื่นใด พยายามทำให้การตัดสินใจทั้งหมดของคุณสมดุลกับความสามารถที่ตัวเองมี แม้รายได้ปัจจุบันของคุณจะอยู่ในระดับนี้ แต่ก็ควรลงทุนกลับไปอย่างน้อย 30%

พอไว้ก่อนแค่นี้ สำหรับคนที่ต้องการทุบตลาดปล่อยสินเชื่อรายย่อยของสหรัฐอเมริกา หรืออยากถามคำถามอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าของ LeadAvenue หรือโดยตรงทางผ่าน Skype หรือ Viber ได้เลย

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?