เครื่องมือ AI มักจะพัฒนาตัวเองให้มีการเรียนรู้อยู่เสมอ เพื่อให้ตัว AI มีความฉลาดกว่า ด้วยขอบเขตการใช้งานของ AI ขยายตัวไปอย่างต่อเนื่อง จากบทความที่แล้วที่เราเคยกล่าวถึง นอกจากนี้ ยังมีโหมดแก้ไขภาพและวีดีโอใหม่ๆ ที่ใช้ AI เข้ามาจัดการ ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะนำ 12 AI ที่ทำงานเกี่ยวกับภาพโดยตรงมาให้ศึกษา เราจะได้ประเมินว่าตัวไหนมีศักยภาพเหมาะกับงานออนไลน์ของเรา
เพื่อให้ง่ายสำหรับคุณ เราได้แบ่งเป็น 5 กลุ่ม ดังนี้:
แต่.. ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกถึงรายละเอียดของบทความนี้ เราไม่อยากให้คุณพลาดกับเทรนใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวน่าสนใจที่เกิดขึ้น คำแนะนำเกี่ยวกับวิวัฒนาการใหม่ๆ บทความ และบทสัมภาษณ์ของผู้ประกอบการณ์ที่ประสบความสำเร็จ สามารถยืนยันได้จากสถิติยอดขายการตลาดออนไลน์ ที่จะช่วยให้คุณสามารถนำไปพัฒนาต่อยอดให้กับธุรกิจออนไลน์ อย่าลืมติดตามพวกเราได้แล้ววันนี้ที่ Telegram และ Twitter
ทำโฆษณาที่มีความสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร เป็นสิ่งสำคัญสำหรับวงการโฆษณา ยิ่งกับ Facebook ถ้ามีโฆษณาเหมือนกันโดนแบนทันที ความเป็นเอกลักษณ์ของภาพส่งผล ความแหวกแนวของภาพส่งผลให้สายตามนุษย์มองไม่ออกถึงการเปลี่ยนแปลง แต่ด้วยความเป็น Facebook สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ได้ แต่เราค้นพบได้ว่ามีหลายอย่างที่ใช้ AI เข้ามาเป็นตัวช่วย
เริ่มต้นด้วยแอป Prisma ที่สามารถแก้ไขภาพได้มากกว่า 700 แบบ แต่มีเพียงครึ่งหนึ่งที่อนุญาตให้ใช้ฟรี ภายในแอปคุณสามารถปรับแต่งความเข้มของการซ้อนทับของภาพด้วยการใช้ตัวเลื่อนเพื่อเปลี่ยนภาพพื้นหลังด้วยการกดแท็ปเพียงครั้งเดียว ด้วยเทคโนโลยีของ AI สามารถจดจำรูปร่างของภาพได้อัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สะดวกสบายมากขึ้น และจากการคลิกแค่ไม่กี่ครั้ง ก็สามารถสร้างภาพออกมาได้อีกแบบโดยที่ไม่ทิ้งความหมายของภาพเดิม ในระหว่างที่ทดสอบ เราใช้ภาพเสมือนคน
การทำให้รูปภาพเป็นเอกลักษณ์นั้นเกี่ยวข้องกับการปรับเปลี่ยนในลักษณะที่สายตามนุษย์มองไม่เห็น แต่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของ Facebook สามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อจุดประสงค์นี้ได้ แต่เราได้ค้นพบบริการหลายอย่างที่ใช้ AI
การสร้างตัวละครโดยใช้ AI เอาไว้เราจะพูดถึงในตอนท้าย
และเมื่อคลิกสองครั้งก็จะได้ภาพตามนี้:
เราสามารถทำการแก้ไขรายละเอียดเล็กน้อยได้ เหมือนในภาพที่สี่ หรือจะเปลี่ยนรูปแบบของภาพก็ทำได้ เหมือนกับภาพในตัวอย่างแรก โปรแกรมนี้มีให้ใช้ฟรี หรือจะซื้อรุ่น premium ในราคา 1,490 รูเบิล/ปี ด้วยรุ่นนี้คุณสามารถใช้ฟิลเตอร์ได้แบบเต็มรูปแบบและสามารถดาวน์โหลดภาพให้เป็นคุณภาพ HD ได้ด้วย คุณสามารถดาวน์โหลด Prisma ได้ที่ App Store และ Google Play Store
เป็นแอปออนไลน์ตัวที่สอง ที่มีการทำงานบนเครือข่ายประสาทเทียม (Neural Network หรือ Artificial Neural Network คือ เครือข่ายประสาทเทียม ที่ออกแบบระบบโครงข่ายคอมพิวเตอร์ให้เลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์) จะมีคุณสมบัติคล้ายกันกับแอป Prisma แต่มีการหักเหเพียงเล็กน้อย ทำให้มีกระบวนการที่ซับซ้อนและช้ากว่า แต่ว่าให้ความยืดหยุ่นในการรังสรรค์ที่มากกว่า แต่การเพิ่มสิ่งนี้เข้ามาจะจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ฐานข้อมูลทางธุรกิจหรือไม่นั้นก็ยังถกเถียงกันอยู่ เมื่อจะใช้แอป Ostagram ก็เพียงแค่อัปโหลดจากแหล่งข้อมูลที่เรามีแล้วเลือกรูปแบบของภาพ หรือเลือกจากบริการ แนะนำสไตล์ภาพที่ทางแอปมีให้ได้เช่นกัน
คุณสามารถปรับพารามิเตอร์อย่างเช่น ความเข้มของเส้นขอบและความบิดเบี้ยวของภาพ เราได้ทดลองปรับเปลี่ยนความเพี้ยนให้ภาพของ Van Gogh และ Munch แต่ผลลัพธ์ที่ได้ ความเพี้ยนของภาพก็ยังค่อนข้างแรง แม้จะเลือกการตั้งค่าการเพี้ยนของภาพต่ำสุดแล้วก็ตาม
แอป Ostagram รุ่นนี้ค่อนข้างด้อยกว่ารุ่นก่อนในเรื่องเป็นมิตรกับผู้ใช้ เพราะด้วยคุณภาพของผลงาน ความเร็วในการประมวลผล ซึ่งจะใช้เวลาประมวลผลแต่ละภาพอย่างน้อย 7 นาที แม้จะมีลูกเล่นให้ใส่ลายน้ำได้ แต่ก็มีขั้นตอนเพิ่มทำให้เสียเวลาในการครอบตัดรูปอีกที แม้ว่าแอป Ostagram จะออกแบบมาให้ปรับแต่งภาพสนุก แต่ไม่เหมาะกับคนที่นำไปใช้หาเงินหรือในทางธุรกิจตัวแทน
สำหรับแอป MJ สามารถสร้างภาพแอ็บสแทรคเองได้ เราจึงตัดสินใจว่าจะไม่รวมแอปตัวนี้เข้ากับรายการนี้ แต่ว่า นักพัฒนาแพลตฟอร์มได้แนะนำคุณสมบัติตัวใหม่เมื่อเร็วๆ นี้ ว่าคุณสามารถรวมสองรูปเข้าด้วยกันได้ เราจึงได้ทำการทดลองรวมภาพของ Mark Zuckerberg กับภาพปิศาจและรูปภาพของ Andrey Sidoropulo กับภาพตัวตลกจากในหนังเรื่อง “It” ลงในแชตเทเลแกรมของทางเว็บเรา ได้ภาพดังนี้
ถ้าหากว่าคุณอยากจะลองใช้คุณสมบัตินี้ ให้ทำตามขั้นตอนด้านล้างนี้:
ด้วยคุณสมบัติตัวนี้มีประโยชน์มากสำหรับการสร้างภาพกราฟฟิก เช่น อย่างภาพที่ตัวแทนนำไปใช้ เช่น ภาพซ้ายเป็นภาพของเชื้อรา (น่าจะเป็นยารักษาเชื้อรา) ส่วนภาพขาเป็นภาพเกี่ยวกับครีมที่ช่วยเรื่องศักยภาพเพศชาย
ส่วนภาพนี้เราพยายามรวมข้าวโพดเข้ากับสูงระฟ้าซึ่งเหมาะใช้กับงานโฆษณา:
และยังมีภาพกล้วยรวมกับตึกสูงอีกด้วย
ภาพเหล่านี้ถูกใช้สำหรับงานโฆษณาทั้งนั้น จะเพิ่มข้อความก็ง่าย ถ้าเป็นภาพเกี่ยวกับแพกเกจสินค้า ยิ่งทำให้น่าซื้อ
เป็นโปรแกรมสำหรับลบพื้นหลังของภาพและลบวัตถุองค์ประกอบที่ไม่จำเป็นทิ้งไป โปรแกรมนี้หลายอุตสาหกรรมนิยมใช้กัน อย่างออกแบบรายชื่อสินค้าในตลาดหรือจะใช้ลบข้อความหรือลบองค์ประกอบอื่นๆ ในโฆษณา ซึ่งเราได้ค้นพบโปรแกรม AI ที่รู้จักกันดีสองตัวและได้ทดลองใช้
Pixelcut Pro เป็นแอป AI ที่ทรงพลังที่สัญญาว่าการลบพื้นหลังนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แต่ทำให้การใช้งานอาจมีข้อจำกันด้วยฟังก์ชันพื้นฐานฟรี แต่สำหรับรุ่น premium ในราคา 4,690 รูเบิลต่อปี สามารถดาวน์โหลดใช้กับสมาร์ทโฟนหหรือใช้ออนไลน์ผ่านเว็บได้บราว์เซอร์ได้ สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ จะมีโปรแกรมแก้ไขภาพได้สามแบบที่สามารถใช้ได้เลยตลอด 24 ชั่วโมงโดยที่ไม่ต้องสมัครสมาชิก แต่สำหรับบราว์เซอร์ไม่มีข้อห้ามอะไรสามารถใช้ได้ทุกโปรแกรม แม้ยังไม่ได้ลงทะเบียนก็ตาม
สำหรับรุ่น pro ถ้าสมัครสมาชิกแล้วสามารถใช้โปรแกรมแก้ไขภาพได้ไม่จำกัด รวมไปถึงเทมเพลตพื้นหลังต่างๆ และแบบตัวอักษรยังมีการอัปเดตทุกสัปดาห์อีกด้วย แอปตัวนี้เป็นที่รู้จักกันดีในต่างประเทศและเข้ากันได้ดีกับแพลตฟอร์มใหญ่ๆ อย่าง Etsy, Ebay, Amazon, และ Shopify
แอป Pixelcut มีคุณสมบัติที่จำเป็นๆ หลายตัวสำหรับการแก้ไขภาพ ประกอบไปด้วย ลบพื้นหลังของภาพ ลบวัตถุที่ไม่ต้องการ ปรับคุณภาพของภาพ ธีมพื้นหลัง การวางทับซ้อนแสงเงา ด้วยฟังก์ชันเหล่านี้มีประโยชน์มากกับงานขายออนไลน์และตัวแทนออนไลน์ต่างๆ โดยเฉพาะคนที่ขายของออนไลน์สามารถออกแบบรายการสินค้าให้ออกมาน่าดูน่าสนใจเหมือนจ้างมืออาชีพทำ ซึ่งในขณะเดียวกันคนที่ทำด้านตัวแทนการตลาดก็สามารถปรับแต่งภาพโฆษณาให้เหมาะสมกับภูมิประเทศที่เอาไปขาย
เราได้ทำการทดสอบความสามารถของแอป โดยใช้ฟังก์ชันตัวลบพื้นหลัง เพื่อลบพื้นหลังของภาพ ในภาพแรก จะเป็นภาพเดิมๆ ส่วนในภาพที่สองเป็นภาพที่พื้นหลังถูกลบออกไปแล้ว และในภาพที่สามอะไรที่เป็นส่วนเกินถูกลบด้วยยางลบวิเศษ “Magic Eraser” และหลังจากที่เราใช้เวลาไป 5 นาที เราก็ได้ภาพที่ออกมาพร้อมขายได้เลย ซึ่งคนที่ซื้อไปสามารถที่จะไปแก้ไขธีมของภาพ หรือพื้นหลังของภาพได้ ไม่ว่าจะเป็น การให้เงา ใส่สติ๊กเกอร์ หรือแม้แต่ใส่ข้อความก็สามารถเพิ่มเติมได้
ถัดมา เราได้ลองใช้แอปกับภาพโฆษณาที่เราเจอมาจากแอปสอดแนมโฆษณา เราใช้เวลา 2 นาทีในการลบข้อความ ทำให้ได้ภาพพื้นหลังเป็นแบบเบลอๆ ไม่ชัด แต่ส่วนตรงนี้ถ้าไม่สังเกตก็ไม่รู้ถ้าเราเพิ่มตัวหนังสือทับลงไปที่เดิม ภาพที่ได้ปรับปรุงคุณภาพแล้ว จะแสดงในภาพสุดท้าย ซึ่งกระบวนการในการทำความสะอาดภาพและแก้ไขภาพโฆษณาทั้งหมดเราใช้เวลาไป 4-5 นาที
แอป Cleanup.Pictures เป็นแอปฟรีที่ใช้ AI ลบวัตถุในภาพที่เราไม่ต้องการออกไป สามารถจัดการกับวัตถุขนาดใหญ่เช่นภาพคนโดยไม่ทำให้คุณภาพของภาพเสียไปด้วย ภาพโดยรวมของแอปดี และจะมีตัวแปรงสีเขียวที่เห็นได้ชัดเจนในหน้าแอป คลิกลงไปจะทำให้ได้ภาพคุณภาพสูง
สำหรับแอป Cleanup.Pictures จะมีราคาอยู่ที่ $5 ดอลลาร์ต่อเดือน จะมีฟังก์ชันลบพื้นหลังและรีทัชภาพ แต่สำหรับตัวฟรีแอปเวลาดาวน์โหลดจะได้ภาพที่มีความละเอียดต่ำ
โปรแกรมที่ถูกออกแบบมาให้ปรับปรุงฟื้นฟูกำจัดความเสียหาของภาพถ่ายให้กลับมามีคุณภาพดี ยิ่งเป็นประโยชน์มาก ถ้าเราต้องอัปเกรดหรือปรับปรุงคุณภาพของโฆษณาในแบบรูปภาพที่เราได้มาจากเครื่องมือสอดแนมโฆษณาที่มีคุณภาพต่ำ
“เรามาลองเปรียบเทียบกับแอปที่เป็นที่นิยม อย่าง Let’s Enhance ด้วยการใช้ Pixelcut เพิ่มขนาดของภาพ เพื่อทดสอบศักยภาพของแอปทั้งสองว่าสามารถทำงานได้ดีจนน่ามหัศจรรย์หรือไม่ โดยเราจะใช้ภาพที่เสียหายอย่างหนักสองภาพที่ผ่านการบีบอัดจาก JPEG มาหลายครั้ง”
ทางเว็บไซต์ Let’s Enhance อ้างว่าเป็นบริการที่ใช้ฝึกให้กับ neural network (นิวรัลเน็ตเวิร์ค เป็นวิธีหนึ่งในปัญญาประดิษฐ์ที่สอนคอมพิวเตอร์ให้ประมวลผลข้อมูลในลักษณะที่อ้างอิงมาจากสมองมนุษย์) เพื่อให้สามารถซ่อมแซมพื้นที่ที่เสียหายของภาพโดยที่ไม่ต้องเพิ่มความเบลอของภาพเข้าไป นี่เป็นผลงานการพัฒนาของนักพัมนาที่ที่พิสูจน์แล้วได้ผลเป็นที่น่าพอใจ แม้กับภาพที่มีความเสียหายมาก
ขั้นตอนก็ง่ายมาก: อัปโหลดภาพแล้วเลือกระดับสำหรับการปรับปรุงภาพที่ (x2 หรือ x4 สำหรับรุ่นฟรี) จากนั้นกด เริ่มการทำงาน “Start Processing” แต่สำหรับรุ่นฟรีอาจจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่เราคิดไว้
ในตัวอย่างภาพแรกแสดงให้เห็นว่า ภาพยังไม่มีคุณภาพเท่าไหร่ ความบิดเบือนของภาพก็ยังมีอยู่ ในขณะที่ภาพที่สองคุณภาพดีขึ้นมาหน่อย
ถ้าหากว่าใช้รุ่นที่ต้องซื้อในราคาเริ่มต้นที่ $10 ดอลลาร์/เดือน จะได้ตัวเลือกในการแก้ไขภาพที่มากกว่าและภาพก็ไม่มีลายน้ำด้วย
เปรียบเทียบดูโดยใช้ภาพเดียวกัน ปรับภาพให้ดีขึ้นด้วย PixelCut ผลลัพธ์จะได้ดังนี้
เป็นภาพที่น่าพอใจมากขึ้น: ได้ภาพวัตถุที่ใหญ่ขึ้นแถมความผิดเพี้ยนก็ไม่มี ทำให้ได้ภาพดูดีและสีสันสม่ำเสมอขึ้น แม้จะมีเอฟเฟ็กต์คล้ายสบู่เพียงเล็กน้อยเนื้องจากการลบรอยหยัก หรือแม้แต่ขั้นตอนเกี่ยวกับตัวอักษร แอป Pixelcut ก็ทำได้ดีกว่าด้วยขั้นตอนการฟื้นฟูก็ทำได้เต็มรูปแบบกว่าภาพออกมาสวยงามกว่า เมื่อเทียบกับแอป Let’s Enhance แล้ว PixelCut ดีกว่าชนะกว่า
ตอนนี้บอตนี้ฟรี เพราะอยู่ช่วงของนักพัฒนาทดลองใช้อยู่ แต่เราก็นำมาเป็นเคสหนึ่งในบทความ เพราะว่าเราพบว่าข้อบกพร่องบางอย่าง เช่น แม้ว่าคุณภาพของภาพวิดีโอมีมจะมีคุณภาพดีจนน่าทึ่ง ด้วยเครื่องมือ AI ที่ทำงานได้ดีเกี่ยวกับใบหน้า แต่เราก็พบกับปัญหาบางอย่างมีความผิดปกติรอบๆ ตัวเด็ก
คุณสมบัติข้อนี้อาจจะไม่จำเป็นกับธุรกิจเครือข่ายเท่าไหร่ แต่มันมีประโยชน์มากสำหรับบล็อกเกอร์อินสตาแกรมเพื่อใช้สำหรับเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าตา และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมอาหารเสริมและยาเพราะต้องใช้สำหรับตกแต่งแก้ไขใบหน้าและร่างกาย
เป็นโปรแกรมที่ใช้โครงข่ายประสาทเทียมตรวจจับส่วนต่างๆ ของร่างกายแบบอัตโนมัติ ช่วยให้คุณแก้ไขภาพถ่ายได้อย่างง่ายดายเพียงแค่เลื่อนแถมเลื่อน จะทำให้ได้ภาพเป็นธรรมาติมากขึ้น สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมเพื่อติดตั้งลงในเครื่องคอมฯ ของเราได้จากเว็บไซต์โดยตรง
เราได้ทดสอบแอป PortraitPRO Body 3 ด้วยการสร้างโฆษณาเกี่ยวกับการลดน้ำหนัก โดยที่เราตั้งใจทำให้เห็นภาพ “ก่อน” และ “หลัง” เพื่อให้ภาพเกิดความน่าสนใจ ตัวอินเตอร์เฟสของโปรแกรมใช้งานง่ายพร้อมคำแนะนำทีละขั้นตอน
เราใช้ภาพลดน้ำนักจากแหล่งข้อมูลเปิดคือโหลดเอาตามอินเตอร์เน็ตแล้วทำการแก้ไขภาพเอา:
ตัวโปรแกรมทำการเปลี่ยนรูปร่างได้อย่างน่าพอใจ แต่ภาพด้านหลังยังดูไม่ดีอยู่ เพราะประตู ลายพื้น และตู้เย็นยังดูบิดเบี้ยวอยู่ เราจึงต้องใช้เวลาเพิ่มอีกสักหน่อยเพื่อแก้ไขภาพ หรือจะต้องใช้โปรแกรมที่เกี่ยวกับการแก้ไขโดยเฉพาะอย่าง watermarkremover.io หรือ theinpaint.com
จากตัวอย่างที่สอง จะเห็นได้ว่าผลลัพธ์ของภาพที่ได้ออกมาดีกว่าเพราะพื้นหลังเป็นสีเดียวกัน เราจงใจทำให้ภาพสุดท้ายออกมาดูไม่ธรรมชาติเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่เราตั้งใจไว้ แต่เราก็ไม่สามารถจะเซฟงานชิ้นนี้ของเราไว้ได้ เพราะเราใช้โปรแกรมเป็นรุ่นทดลอง ดังนั้นมันจะมีลายน้ำให้เห็น ถ้าต้องการจะลบลายน้ำทิ้ง จำเป็นต้องใช้โปรแกรมที่มีตัวลบโดยเฉพาะ ถ้าอยากให้ปัญหางานของเราหมดไป แนะนำให้ใช้รุ่น full version ในราคา $44.99 ดอลลาร์ ในราคาส่วนลด 50% หรือจะเป็นราคาเต็ม $89.99 ดอลลาร์
โปรแกรม PortraitPRO Body 3 ทั้งสองรุ่นจะใช้เวลาในการทำงานประมาณ 30 นาที แต่รุ่นที่ต้องจ่ายเงินก็จะให้ผลลัพธ์ของงานออกมาดีกว่ารุ่นฟรี จะดีมากควรใช้ภาพพื้นหลังทึบที่ไม่มีเส้นแนวตั้งและแนวนอน เพราะจะทำให้เกิดการบิดเบี้ยวเกิดขึ้นได้ระหว่าที่เราทำการแก้ไข
การสร้างหน้าคนสามารถใช้ได้หลายแบบ รวมถึง การสร้างอวตาสำหรับบัญชีโซเชียลมีเดีย ซึ่งสามารถยืนยันการใช้บนโซเชียลมีเดียได้ และยังมีการสร้างรีวิวปลอม เพราะหน้าที่เราสร้างขึ้นมาไม่สามารถยืนยันตัวตนคนนจริงได้ จึงไม่เสี่ยงที่จะโดนฟ้องจากการใช้ความคล้ายคลึงของคนอื่น
มีโปรแกรม AI อยู่สามตัว ที่สามารถสร้างผลงานให้ออกมามีคุณภาพสูงตามวัตถุประสงค์โดยเฉพาะของแต่ละงาน ดังนี้:
แอปนี้ใช้ประโยชน์ที่ได้จากโครงข่ายประสาทเทียม ในการสร้างภาพถ่ายให้เสมือนคนจริง โดยมีตัวเลือกในการปรับแต่ง เช่น เพศ อายุ การวางตำแหน่งแนวศีรษะ การแสดงออกทางสีหน้า สีผิว สีผม และความยาวข้องเส้นผม ใส่แว่น แต่งหน้า ด้วย เพราะมีการตั้งค่าการปรับแต่งได้หลากหลาย จึงทำให้คุณสามารถสร้างใบหน้าให้ออกมาสมบูรณ์แบบตามที่ต้องการ เรามาลองทดสอบความสามารถของแอปจากการใช้ตัวเลือกสักสองสามตัวที่มีพารามิเตอร์ที่แตกต่างกัน
เราสร้างภาพเหมือนออกมาสี่ภาพ โดยได้ปรับพารามิเตอร์ให้มีความหลากหลาย เช่น อายุ เพศ ความยาวของเส้นผม และอื่นๆ ซึ่งขั้นตอนการสร้างภาพค่อนข้างง่ายจะใช้เวลาประมาณ 2-3 นาทีในการสร้างภาพเดี่ยวสักคนนึงขึ้นมา
การดาวน์โหลดภาพให้มีความละเอียดสูงที่ (1024x1024) คุณสามารถซื้อได้ในราคา $8.97 ดอลลาร์ หรือสมัครสมาชิกในราคา $19.99 ดอลลาร์ คุณถึงจะโหลดภาพได้ 15 ภาพ โดยภาพเหล่านั้นจะไม่มีเครื่องหมายการค้าติดมาด้วย
หรือถ้าอยากดาวน์โหลดภาพฟรี คุณก็จะได้ความละเอียดที่ 512x512 ที่มีลายน้ำติดมาด้วย แต่ปัญหานี้สามารถแก้ได้ด้วยการใช้โปรแกรมที่สามารถลบลายน้ำได้โดยเฉพาะอย่างแอป watermarkremover.io หรือ theinpaint.com
เป็นโครงข่ายประสาทเทียมตัวที่สองที่ถูกพัฒนาโดย NVIDIA ที่สามารถสร้างภาพคนได้เหมือนจริงมาก โดยที่คุณไม่สามารถเลือกเฉพาะเจาะจงพารามิเตอร์ได้ โดยที่ภาพคนจะถูกสุ่มสร้างขึ้นมา
ภาพคนดูเหมือนมีชีวิตชีวา เพราะแสดงสีหน้าได้หลายอารมณ์ แสดงถึงช่วงอายุ การเอียงหน้า เป็นต้น สำหรับแอป AI ตัวนี้ดีอยู่อย่างหนึ่งคือ สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีแล้วได้ภาพที่มีความละเอียดสูงด้วย เมื่อเทียบกับภาพคนที่ถูกสร้างโดย AI ตัวอื่น ตัวนี้ดีสุดเพราะได้เปรียบตรงรูปลักษณ์ของภาพมีรายละเอียดที่เป็นธรรมชาติ
โปรแกรม Pornpen.ai เป็นโครงข่ายประสาทเทียมใช้สำหรับสร้างภาพผู้หญิงเปลือยให้ดูเสมือนจริงมากที่สุด ทำให้รูปร่างดูเป็นธรรมชาติ แต่หน้าตาหรือผมบางครั้งก็ยังไม่เหมือน ภาพด้านล่างนี้เป็นสิ่งที่ AI สร้างได้แตกต่างกันถึงสามแบบ:
อีกข้อดีของโปรแกรมนี้คือ สามารถปรับแต่งภาพได้อย่างเต็มที่ตามความต้องการ สามารถเลือกขนาดหน้าอก น้ำหนัก ส่วนสูง สีผม สัญชาติ ด้านหน้า ด้านหลัง มุมมองด้านข้าง ก็สามารถเลือกได้ แม้แต่ภาพในห้องหรือจะเพิ่มชุดชั้นในก็สามารถทำได้
โปรแกรม Pornpen.ai อาจจะเหมาะกับทำโฆษณาหาคู่ แต่มีอยู่สองเหตุผล โอกาสที่คนจะใช้ระบบเซลล์ประสาทให้เกิดขึ้น “ในทางปฏิบัติ” มีอยู่ค่อนข้างน้อย คือ:
โปรแกรมนี้ใช้ได้ฟรี แต่จะใช้เวลาในการสร้างรูปคร่าวๆ 5 นาที หลังจากที่ได้รับคำสั่งของเรา แต่บางครั้งโปรแกรมนี้ก็ผลิตรูปที่ออกมาดูตลกหรือน่ากลัวอย่างเช่นรูปด้านล่าง:
คุณเดาได้ไหมว่า AI สามารถสร้างภาพเกี่ยวกับเซลล์อะไรได้อีก? ก็เป็นภาพเกี่ยวกับ สิ่งนั้น ของผู้ชายยังไงหละ เพราะผู้เขียนโปรแกรมนี้เคยถูกแฟนสาวของเขาขอให้ส่งรูป เซลฟี ตัวเองให้ แต่เขาตัดสินใจสร้าง AI ตัวนี้ขึ้นมาแทน
ซึ่งเป็นบริการที่สามารถนำไปทำโฆษณาเกี่ยวกับ ของเล่นผู้ใหญ่ได้ อาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ขยายขนาดความเป็นชาย ซึ่งอาจจะมีไม่กี่คนที่ใช้จริงๆ
สำหรับคนที่ไม่มีปัญหากับ เนื้อหา แบบนี้บนโลกอินเตอร์เน็ต คุณสามารถค้นหาภาพเหล่านี้ได้จากช่องทางหนังโป๊ยอดนิยมโดยการแท็กหาที่คำว่า “big dick” แต่ไม่เพียงแค่นั้น คุณยังใช้คำว่า r/penis, r/cock, r/dicks, r/averagepenis, r/MassiveCock, r/tinydick และอื่นๆ อีกมากจากผู้เขียนที่ใช้ชุดข้อมูลเกี่ยวกับเซลล์ประสาทส่วนนี้ (ชุดข้อมูลสำหรับการฝึกอบรมโครงข่ายประสาทเทียม)- ในนั้นเขาใช้ภาพจริงถึง 40,000 ภาพ
เราคงไม่จำเป็นต้องใส่ภาพตัวอย่างให้ดู ถ้าคุณอยากดูก็สามารถไปดูได้ตามเว็บไซต์ มีภาพให้คุณเลือกดูไม่จำกัด อาจจะมีหลายภาพที่คุณจะรู้สึกเข้าใจได้ยากก็มี
สรุป
ถ้าความเชื่อของคุณก่อนหน้านี้ว่าเรื่อง AI เป็นเรื่องไกลตัวไม่น่าเกี่ยวข้องกับงานของคุณ เราหวังว่าคุณคงเปลี่ยนมุมมอง หลังจากที่ได้อ่านบทความนี้ เพราะเราได้ประเมิณบริการของโปรแกรม AI ที่แตกต่างกันถึง 12 โปรแกรม และยังได้สาทิตการใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน มีหลายโปรแกรมที่มีประโยชน์ แต่ก็มีหลายตัวที่อาจจะทำให้ผิดหวัง
จากโปรแกรมทั้งหมด มี Pixelcut นี่แหละที่ทำงานได้ดีที่สุดในเรื่องการฟังก์ชั่นการแก้ไขภาพ ในมุมมองของเรา แอปพลิเคชันพวกนี้ได้แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งที่จะทำให้การทำงานเป็นมืออาชีพได้ง่ายขึ้น