14 ตุลาคม 2022 0 238

ท็อป 25 อันดับเครื่องมือ SEO ที่ใช้ได้ฟรีในปี 2022

ถ้าอยากมีตัวตนบนโลกออนไลน์ง่ายๆเลย เพียงแค่คุณหา SEO ที่เหมาะสมเสียก่อน โดยทุกวันนี้มีการร่วมทุนออนไลน์จำนวนมาก SEO จึงเป็นส่วนที่สำคัญของการทำการตลาดออนไลน์

เครื่องมือ SEO ส่วนใหญ่มักจะมีราคาที่แพงมาก แต่ว่าในบทความนี้เราจะช่วยแบ่งปันเครื่องมือ SEO ที่ใช้ได้ฟรีใน 25 อันดับแรกนี้ โดยเครื่องมือ SEO เหล่านี้ได้ทำการทดสอบและพิสูจน์ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาโดยคุณหริชิเคช ปาร์เดชี (Hrishikesh Pardeshi) ผู้ร่วมก่อตั้ง Flexiple ซึ่งได้รับผู้เข้าชมแบบออเกนนิคมากถึง 1,000,000 คนต่อเดือนในเว็บไซต์สตาร์ทอัปของเขา

เราจึงแบ่งเครื่องมือออกเป็น 5 ประเภทซึ่งได้แก่:

  • Keyword Ideas
  • Keyword Research
  • Writing
  • On-page SEO
  • Tracking

Keyword Ideas

กล่องข้อความเพื่อใช้สสำหรับการค้นหาของ Google เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณพิมพ์อะไรก็ได้บน Google คุณจะเห็นการคาดการณ์ข้อความที่สามารถเป็น Seed keyword ให้คุณ โดยจะต้องพิมพ์ตัวอักษรไปตามลำดับเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น "ให้เงินทุน ก" หรือ "ให้เงินทุน ข" คุณสามารถทำได้จนถึง "ฮ" เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ดที่เข้ากับหัวข้อหลักของคุณได้ง่ายดาย

Keyworddit จะช่วยแยกคีย์เวิร์ดจาก Reddit subreddit ที่มักจะนิยมนับจำนวนความคิดเห็น คุณเพียงแค่ต้องป้อนชื่อของ subreddit และมันจะแสดงคีย์เวิร์ดที่นิยมๆ จาก subreddit นั้นโดยเรียงตามปริมาณการค้นหารายเดือนด้วยคีย์เวิร์ดเหล่านี้

Google Trends แสดงกรอบเวลาที่ให้คุณดูว่าหัวข้อที่ได้ค้นหานั้น ได้รับความนิยมมากแค่ไหน ซึ่งมันมีประโยชน์สำหรับการค้นหาหัวข้อย่อยหรือเทรนด์ต่างๆ ในกลุ่มเป้าหมายของคุณเอง

Quora เป็นแพลตฟอร์มถาม - ตอบที่ผู้คนนิยมใช้กัน คุณสามารถใช้เพื่อสร้างไอเดียของคีย์เวิร์ดโดยมันจะช่วยค้นหาคำที่กว้างพอที่คุณได้รู้จักอยู่แล้ว จากนั้นก็ตรวจสอบคำถามนั้นและคำถามที่เกี่ยวข้องที่แสดงขึ้นมาให้ดูด้วย

Wikipedia เป็นเครื่องมือในการค้นหาไอเดียของคีย์เวิร์ดที่ดีอย่างหนึ่ง โดยเฉพาะในส่วน"สารบัญ" ถ้าคุณลองเช็คดูหัวข้อเฉพาะในสารบัญเช่น "การสื่อสารทางไกล" คุณก็จะพบหัวข้อที่น่าสนใจ ตัวอย่างเช่น "ศูนย์สำนักงานระยะไกล" "ความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับพนักงานทางโทรศัพท์" และอื่นๆ เทคนิคทั้งหมดนี้สามารถลองใช้สร้างคีย์เวิร์ดที่ดูชัดเจนสำหรับบทความ หรือคอนเทนต์ในบล็อกของคุณ

Keyword Research

มันก็คือเครื่องมือที่ช่วยค้นหาคีย์เวิร์ดของ Google นี้เองที่ทั้งให้บริการฟรี และมีข้อมูลที่สมจริงมากที่สุด ซึ่งจะแสดงให้คุณเห็นถึงช่วงตัวเลขของปริมาณข้อมูลคีย์เวิร์ด ข้อมูลการแข่งขันและอื่นๆ แต่ก็เป็นเพียงตัวเลขประมาณการคร่าวๆ

Ahrefs เป็นเครื่องมือการทำวิจัยคีย์เวิร์ดในแบบ “Freemium” ในเวอร์ชันฟรีจะเป็นเครื่องมือทำวิจัยคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพสูง โดยจะแสดงไอเดียคีย์เวิร์ดให้เห็นถึง 100 อันดับแรกตามปริมาณรายเดือนและรวมทั้งความยากง่ายของคีย์เวิร์ด นอกจากนี้ยังแสดงคำถามที่เกี่ยวข้อง 50 อันดับแรกอีกด้วย

Answer The Public เครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการค้นหาไอเดียของ Seed keyword หรือหัวข้อบล็อกต่างๆ ซึ่งจะกรองผลลัพธ์การค้นหาสุดนิยมจากการเติมข้อความที่ขึ้นมาอัตโนมัติของ Google แต่ว่าเวอร์ชันฟรีจะยอมให้เราค้นหาเพียง 2 ครั้ง/วันเท่านั้น

Writing

Hemingway เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้งานเขียนของคุณดูชัดเจนและน่าอ่านมากขึ้น ซึ่ง Hemingway สามารถชี้ส่วนของเนื้อได้เลยว่าจุดไหนอ่านง่ายหรือจุดไหนอ่านยาก

Grammarly เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจสอบข้อผิดพลาดทางไวยากรณ์และข้อความที่พิมพ์ผิด ส่วนขยายของเบราว์เซอร์จะช่วยให้สามารถใช้งานกับเนื้อหาที่คุณเขียนได้ในทุกๆเว็บไซต์เลย

LSI Graph เป็นเครื่องมือสร้างดัชนีความหมายแฝง ซึ่งจะทำการค้นหาและรวบรวมคีย์เวิร์ดที่เครื่องมือค้นหาพิจารณาว่าคล้ายกัน จากนั้นก็จะให้คีย์เวิร์ด LSI ที่คุณสามารถนำไปใช้ในคอนเทนต์ของคุณได้เลย

On-page SEO

Yoast SEO ให้สถิติที่สำคัญในหน้าเว็บและสถิติทางเทคนิคของ SEO สำหรับบล็อกหรือเว็บไซต์ ซึ่งจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเรื่อง คำอธิบายหลัก ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ดที่ใช้กัน ผลแสดงของคีย์เวิร์ด ในหัวข้อและอื่นๆอีกมากมาย

Rank Math เป็นอีกทางเลือกของปลั๊กอิน Yoast SEO ซึ่งมีฟีเจอร์ที่คล้ายกับข้อมูลเกี่ยวกับชื่อเรื่อง คำอธิบาย หลัก ความหนาแน่นของคีย์เวิร์ด การแสดงคีย์เวิร์ดในหัวข้อ และอื่นๆอีกมากมาย

Moz Toolbar เป็นส่วนขยายที่ให้แสดงผลชุดเมตริกในลิงก์ของโดเมนลิงก์ที่น่าไม่ติดตาม/ไม่ได้ติดตามเลย และทำการวิเคราะห์ SEO ในหน้าเว็บ ซึ่งมีประโยชน์มากๆ เพราะมันจะอยู่แถบด้านบนเสมอ ของทุกๆเว็บไซต์ในเบราว์เซอร์ของคุณ

แถบเครื่องมือ Moz ในเวอร์ชันของ Ahrefs นี้ โดยในขณะที่คุณกำลังเรียกดูเว็บไซต์ มันก็จะแสดงชุดเมตริกของ SEO ที่ใช้ประโยชน์ได้ดีมากๆ เช่นชื่อเรื่อง เมต้า จำนวนคำ และอื่นๆอีกมากมาย

เครื่องมือนี้จะทั้งแสดงผลและคาดการณ์อีกด้วยว่าหน้าเว็บของคุณจะปรากฏในผลการค้นหาตามชื่อ URL รึเปล่า และคำอธิบายหลังของคุณแสดงขึ้นมาเป็นอย่างไร คุณสามารถใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในข้อมูลโค้ดให้มีอัตราการคลิกที่สูงมากขึ้น

Animalz Revive ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลใน Google Analytics ของคุณ จากนั้นก็จะแนะนำว่าเนื้อหาไหนหรือโพสต์อะไรบ้างในเว็บไซต์ที่ควรต้องฟื้นฟู นอกจากนี้มันยังแสดงข้อมูลการสูญเสียการเข้าชมจากวันที่มีโอกาสสูงสุดในหน้าเว็บหรือบล็อก

Siteliner เครื่องมือที่เอาไว้สแกนเว็บไซต์ของคุณ และส่งรายงาน SEO ฉบับเต็มให้กับคุณ ซึ่งจะเน้นไปที่ปัญหาต่างๆ เช่น เนื้อหาที่ซ้ำกัน ลิงก์เสีย และอื่นๆอีกมากมาย

Google Analytics ให้ข้อมูลที่จำเป็นในการวิเคราะห์เว็บไซต์ของคุณ มันเป็นเครื่องมือที่ต้องมีไว้ตั้งค่าหรือกำหนดค่า SEO ในทุกๆครั้ง

Google Search Console ยังเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการตั้งค่า SEO ในทุกๆครั้ง ซึ่งจะให้ข้อมูลการค้นหาเฉพาะเกี่ยวกับเว็บไซต์ของคุณ เช่น คีเวิร์ดที่คุณจัดอันดับไว้ จำนวนการคลิก และอื่นๆ

นี่ก็เหมือนกับ Google Search Console แต่เป็นเวอร์ชันของ Bing นะ Bing Webmaster Tools ก็ควรใช้เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งค่า SEO ของคุณด้วย ถ้าหากเป้าหมายของคุณก็คือการเพิ่มประสิทธิภาพคอนเทนต์ใน Bing

Tracking

Ahrefs Backlink Checker ช่วยแสดงเมตริกของ SEO ที่สำคัญสำหรับเว็บไซต์ที่ยังรวมถึงการจัดอันดับโดเมน เรตติ้งของ URL และรายการของ backlinks 100 อันดับแรก มันจะเป็นประโยชน์เมื่อคุณกำลังมองหาเครื่องมือที่เอาไว้เช็คสถิติ SEO ของเว็บไซต์ของคู่แข่งของคุณได้

Ahrefs SERP Checker ช่วยแสดงเมตริก SEO ที่สำคัญสำหรับผลการค้นหา 3 อันดับแรกของคีย์เวิร์ดที่สามารถกรองได้ตามถิ่นที่อยู่ โดยชุดเมตริกนี้จะรวมถึง จำนวนของ backlink จำนวนโดเมนที่มีการอ้างอิง จำนวนการจัดอันดับคีย์เวิร์ดและอื่นๆ

Ahrefs Broken Link Checker จะแสดง 10 อันดับแรกของลิงก์ที่เสียสำหรับทุกๆเว็บไซต์ มีประโยชน์มากเวลาคุณจะทำการ outreach เพื่อใช้รับลิงค์ที่มีโอกาสเป็นลิงค์ที่เสียได้

Google Pagespeed Insights ช่วยให้คุณได้รับสถิติและข้อมูลที่สำคัญบนพื่นที่ต่างๆ ที่คุณสามารถปรับปรุงเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความเร็ว และประสิทธิภาพให้ดียิ่งขึ้น

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?