27 เมษายน 2023 0 428

วิธีสร้างรายได้จากการซื้อโดเมนหมดอายุ: กรณีศึกษาจากการวิเคราะห์ชื่อโดเมน 10,000 ชื่อ

ดมิทรี โซคาช (Dmitry Sokhach) ผู้เชี่ยวชาญ SEO และเป็นผู้ก่อตั้ง Shared.domains ได้กล่าวถึงเรื่องเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากโดเมนหมดอายุให้ได้มากที่สุดในงานประชุมออนไลน์ครั้งที่ 20 ของ NaZakhid โดยเป็นการวิจัยที่เขาทำการวิเคราะห์โดเมนหมดอายุทั้งหมด 10,000 โดเมน ที่ใช้บริการ Shared.domains

ในบทความนี้เราจะพูดถึงสิ่งที่ดมิทรี โซคาช ค้นพบเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากโดเมนหมดอายุให้ได้มากที่สุด

โดเมนหมดอายุ

โดเมนหมดอายุ คือ โดเมนที่ลงทะเบียนโดยบุคคลหรือนิติบุคคล แต่ถูกระงับในเวลาต่อมา หรือไม่มีการต่อสัญญาโดยเจ้าของ ทำให้สามารถลงทะเบียนใหม่ได้ มักถูกนำมาขายทอดตลาดบนเว็บไซต์อย่าง Godaddy, Namejet และอื่น ๆ ชื่อของโดเมนถูกนิยมใช้สำหรับ:

  • สร้างเว็บไซต์
  • สร้างบล็อก
  • 301 Redirect
  • นำมาขายต่อ

วิเคราะห์ชื่อโดเมน 10,000 ชื่อ

ดมิทรีกล่าวว่า ด้วย Shared.domains เขาและเพื่อน ๆ มักคอยซื้อโดเมนหมดอายุทีละมาก ๆ เพื่อนำมาช่วยเพิ่มอันดับการค้นหาเว็บไซต์ที่พวกเขาโปรโมตกันอยู่

ผ่านมากว่า 2 ปี ดมิทรีและเพื่อน ๆ ได้เข้าซื้อโดเมนไว้เป็นจำนวนมาก แต่ก็พลาดตรงที่ไม่ได้ซื้อให้เยอะกว่า 10,000 โดเมน เหตุผลหลักเกิดจากราคาประมูลที่สูงหรือต่ำเกินไป อย่างไรก็ตามหลังผ่านมา 2 ปี พวกเขาศึกษาค้นคว้าโดเมนทั้งหมด จนพบเข้ากับตัวอย่างที่น่าสนใจ

โดเมนที่ดมิทรีซื้อมา ถูกวิเคราะห์ด้วยเครื่องมือและตัวชี้วัดดังต่อไปนี้:

  • Ahrefs: ใช้วิเคราะห์ดัชนีเกี่ยวกับ Traffic, ประวัติอันดับ, คีย์เวิร์ดที่แปลกสำหรับโดเมน, ลิงก์ External ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์อื่น และข้อความที่เป็นลิงก์แบบ Anchor
  • Web Archive: ใช้ตรวจสอบว่าชาติไหนเคยใช้โดเมนนี้ หรือเคยถูกแฮ็ก หรือเคยเป็นสมาชิกในเครือข่ายบล็อกส่วนตัว และอื่น ๆ

เขายังใช้ตรวจสอบเครื่องหมายการค้า และข้อมูลส่วนตัวที่เกี่ยวข้องกับโดเมน

บริการวิเคราะห์โดเมนที่ดมิทรีขอแนะนำ

นอกเหนือจาก Ahrefs และ Web.Archive แล้ว ดมิทรีแนะนำให้ใช้แพลตฟอร์มดังต่อไปนี้ เพื่อประเมินโดเมนหมดอายุ

1. Namebio

ด้วยค่าบริการ $10/เดือน คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของเว็บไซต์ มีการแสดงระยะเวลาและราคาที่โดเมนถูกซื้อ ช่วยให้คุณเห็นประวัติการซื้อขายและติดตามค่าความนิยมของโดเมน

ตัวอย่าง ในรูปนี้คือโดเมนที่ถูกซื้อปี 2017 ด้วยราคา $155 และถูกขายปี 2020 ในราคา $455

2. Spamzilla

Spamzilla เป็นหนึ่งในบริการไม่กี่เจ้าที่ช่วยให้คุณสามารถค้นหาข้อมูลและประวัติทั้งหมดของโดเมน นอกจากนั้นยังติดตามการเปิดประมูลและสถิติของโดเมนใหม่ ๆ ให้ทุกวัน

3. Domain Rank

ใช้ Domain Rank เพื่อดูเรทติ้งหรืออันดับของโดเมน

4. Trust Flow

ใช้ Trust Flow สำหรับเพิ่มดัชนีความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ในรูปนี้คุณจะเห็นคลังบันทึกของตัวเว็บไซต์ รวมถึงเจออายุของเว็บไซต์, หัวข้อ และข้อมูลอื่น ๆ

ราคาโดเมนขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง

ราคาโดเมนจะขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย:

1. ความยาวและแบรนด์ของชื่อ ตัวอย่าง โดเมนที่แพงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ คือ Voice.com ซึ่งถูกซื้อไปในราคา $30,000,000 ผ่านการซื้อขายในรูปแบบ NFT ตัวอย่างอื่น ๆ ของการขายโดเมนที่สั้นในราคาหลายล้านดอลลาร์:

  • Sex.com — $14,000,000
  • Slots.com — $5,500,000
  • Wise.com — $2,000,000

2. จำนวนลิงก์ External และหัวข้อต่าง ๆ

3. โดเมนที่ลิงก์น้อยแต่กลับมี Traffic มากจะมีมูลค่าสูง นี้เป็นเพราะหากมี Traffic ก็แสดงว่าผ่านการคัดกรองของ Google แล้ว ลักษณะของเว็บไซต์ใน Ahrefs จะเป็นแบบในรูป: ลิงก์น้อยแต่มี Traffic

โดเมนนี้ถูกขายไปวันที่ 18 มิถุนายน 2022 ในราคา $3,250

บ่อยครั้งที่มีการนำโดเมนประเภทนี้มาใช้หาเงิน — ด้วยการกู้คอนเทนต์เก่าและนำมาใช้สร้างรายได้

กรณีตัวอย่าง: ใช้ประโยชน์จากโดเมนที่เคยเป็นของ Redirect Page มาก่อน

ดมิทรีกล่าวถึงโดเมนที่เขาซื้อมา โดยเป็นโดเมนที่ก่อนหน้านี้ถูกลิงก์ไปยัง Redirect Page และจากนั้นก็สูญเสีย Traffic ไปในปี 2016 ไม่นานหลังจากนั้นตัวเว็บก็ถูกนำออกไปจากดัชนีของ Google และ Traffic ทั้งหมดก็จางหายเข้ากลีบเมฆไป

ทีมของเขาซื้อโดเมนนี้มาปี 2019 ในราคา $300 พวกเขาทำการลิงก์มันไปยังเว็บใหม่ และเพิ่มคอนเทนต์ให้กับเว็บไซต์ ปัจจุบันเว็บไซต์นี้มี Traffic ประมาณ 20,000 ครั้งต่อเดือน

ดมิทรีเชื่อว่าทีมของเขาได้ประหยัดเงินเป็ฯจำนวนมากจากการซื้อโดเมนที่เคยเป็น Redirect เพราะนอกเหนือจาก Traffic แล้ว ตัวเว็บก็มีแนวโน้มที่ค่อนข้างดี:

  • DR — 40
  • RD — 500

สถิติโดเมนหมดอายุที่รวบรวมมา

หลังจากวิเคราะห์โดเมน 10,000 โดเมน ผ่านบริการ Shared.domains ดมิทรีและทีมได้พบสถิติที่น่าสนใจดังต่อไปนี้:

  • 5.5% กลายเป็นเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ โดยมีเกณฑ์เป็น Traffic อย่างน้อย 2,000 ครั้งต่อเดือน
  • 11% กลายเป็น Redirect Page
  • 4% ถูกขายต่อในราคาที่สูงขึ้น

ส่วนเปอร์เซนต์ที่เหลือคือไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ของเจ้าของเลย

สัดส่วนโดเมนที่ถูกขายจะถูกแบ่งตามเว็บที่เปิดประมูลมา

เว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด

หลังการวิเคราะห์โดเมนทั้ง 10,000 โดเมน ผ่าน Shared.domains มีเพียงหยิบมือที่ประสบความสำเร็จ โดยเว็บไซต์ดังกล่าวที่ดมิทรีกล่าวถึงคือ:

  • Savedtattoo.com:  เป็นเว็บรอยสักที่มีการเข้าชมราว 800,000 ครั้งต่อเดือน และมีลิงก์ข้างนอก 900 ลิงก์ โดยถูกซื้อไปในเดือนธันวาคน 2020 ในราคา $6,000
  • Bareillycollege.org: เป็นเว็บที่มีการเข้าชมราว 500,000 ครั้งต่อเดือน และมีลิงก์ข้างนอก 200 ลิงก์ ถูกซื้อไปในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ในราคา $1,550
  • Deephollowranch.com: เคยเป็นโดเมนที่เกี่ยวกับเรื่องม้า โดยมีการเข้าชมราว 100,000 ครั้งต่อเดือน ลิงก์ข้างนอก 255 ลิงก์ ซึ่งถูกซื้อไปในเดือนพฤษภาคม 2022 ในราคา $1,550
  • Cookthink.com: เคยเป็นโดเมนเกี่ยวกับสูตรทำอาหาร ลิงก์ภายนอก 2,200 ลิงก์ และมีการเข้าชมราว 178,000 ครั้งต่อเดือน ถูกซื้อในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ในราคา $14,650
  • Certsimple.com: เป็นโดเมนที่มีลิงก์ภายนอก 520 ลิงก์ ถูกซื้อในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 ในราคา $2,850 และปัจจุบันมีการเข้าชมราว 1,200,000 ครั้งต่อเดือน

โดเมนสองอย่างหลังถูกสร้างขึ้นด้วย AI โดยเป็นซอฟแวร์ GPT-3 แบบพิเศษ ดมิทรีกล่าวว่าโดเมนประเภทนี้เคยได้รับความนิยมมากเมื่อปีก่อน อย่างไรก็ตาม  คุณจะเห็นได้ในรูปว่าหลัง Google ปล่อยอัปเดตใหม่ออกมา ทางเว็บไซต์นั้นก็สูญเสีย Traffic ไปมากอย่างน่าตกใจ

ดมิทรียังกล่าววถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่เคยโปรโมตเว็บไซต์ประเภทนี้ ตอนนั้เขาซื้อโดเมนที่มีลิงก์ภายนอกเพียงแค่ 100 ลิงก์ เป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับการปรุงอาหาร โดยตัดสินใจที่จะเพิ่มคอนเทนต์ด้วยการแปลคลิป Youtube ให้ออกมาเป็นตัวอักษรในข้อความ

ในรูปคุณจะเห็นว่าเว็บไซต์ได้รับผลกระทบจากการอัปเดตใหม่ของ Google อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ยังคงมีจำนวน Traffic ที่พอใช้ในวันนี้

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จ

หลังกาารวิเคราะห์แนวทางทั้งหมดของเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จที่ใช้บริการ Shared.domains ทีมของดมิทรีสรุปได้ว่า ค่าใช้จ่ายโดยประมาณของเว็บไซต์เหล่านี้มีราคาต่ำกว่า $3,000 ช่วยชี้ให้เห็นถึงช่วงของราคาที่สมเหตุผลสำหรับการซื้อโดเมนหมดอายุ เพื่อนำมาใช้สร้างรายได้ต่อไปในอนาคตข้างหน้า

ดมิทรีกล่าวว่า ในคอมมูนิตี้ SEO จะมีบางความเห็นที่ว่าเว็บไซต์ที่ดีจำเป็นต้องมีลิงก์เยอะ ๆ ซึ่งความเห็นดังกล่าวถือว่าไม่จริงเลย โดยสามารถนำกรณีศึกษาดังต่อไปนี้มาหักล้างได้

ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 มีคนซื้อโดเมน Hotframeworks.com ไปในราคา $3,100 ซึ่งตอนนั้นมีลิงก์ภายนอกเพียง 336 ลิงก์ จากนั้นเว็บก็ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มลิงก์แต่อย่างใด เป็นเพราะลิงก์ที่มีอยู่นั้นค่อนข้างดีอยู่แล้ว พวกเขาเลยตัดสินใจโปรโมตเว็บไซต์เลย ปัจจุบันกลายเป็นเว็บไซต์ที่คอยรวบรวมบริษัทให้บริการโฮสติ้ง และทำรายได้ผ่าน Affiliate Program

ดมิทรีเชื่อว่าจำนวนลิงก์ไม่ใช้ปัจจัยหลัก แต่เป็นคุณภาพต่างหาก หากเป็นลิงก์จากเว็บไซต์ใหญ่ ๆ อย่าง Forbes, Business Insider และแพลตฟอร์มยอดนิยม แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

นำโดเมนมาขายต่อ

โดเมนจะมีราคาถูกหากไร้ซึ่ง Traffic และดัชนีของ Google บางคนจะรู้วิธีการซื้อเว็บไซต์ประเภทนี้ และนำไปขายต่อในราคาที่สูงขึ้นพร้อมกับเสนอ Traffic ให้

นโยบายของการตั้งราคาในกรณีข้างต้นมีดังนี้:เว็บที่ซื้อโดยเฉลี่ยจะอยู่ในราคาประมาณ $300 และขายต่อพร้อมกับดัชนีและ Traffic ในราคา $4,000 อีกทางเลือกคือการเพิ่มมูลค่าของเว็บไซต์ แล้วจึงค่อยนำมาขายต่อในราคาที่สูงกว่าของเดิม เช่น:

  • เขียนคอนเทนต์และดึงดูด Traffic ให้มากขึ้น
  • เพิ่มอันดับของโดเมนใน Ahrefs
  • นำโดเมนที่ชื่อสวย ๆ มาขายต่อ

ตัวอย่างเช่น PianoMedia.com ที่ถูกซื้อมาในราคา $265 และกำลังถูกขายในราคา $3,160

เคล็ดลับจากดมิทรี: บ่อยครั้งที่มรการซื้อโดเมนจาก Dropcatch หรือ Namejet และนำมาขายต่อบน Godaddy ทั้งแบบนั้นเลย นี้เป็นเพราะ Godaddy นั้นได้รับความนิยมและมีการสู้ราคามากกว่า

เทรนด์บล็อกส่วนตัว

อัลกอริทึมของ Google มีการเรียนรู้และพัฒนา จนทำให้การซ่อนบล็อกส่วนตัวจาก Google นั้นกลายเป็นเรื่องยาก ล่าสุดมีเทรนด์อย่างการสร้างเครือข่ายคุณภาพสูงจน Google ตรวจไม่พบ:

  • ความต้องการสำหรับโดเมนที่มีลิงก์ให้มากที่สุดไปยังหน้าหลักนั้นกำลังเพิ่มมากขึ้น
  • ราคาของโดเมนกำลังเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
  • จำนวนของผู้ซื้อรายย่อยที่ซื้อโดเมนเพื่อนำไปใช้สร้างบล็อกส่วนตัวเองกำลังลดลง เพราะหันไปซื้อจากผู้ขายรายใหญ่แทน

ช่วงถามตอบ

ในช่วงท้ายของงานประชุม NaZakhid ดมิทรี โซคาชจัดช่วงถามตอบ Q&A กับผู้เข้าชมภายในงาน:

Q: วิธีพัฒนาทักษะการโปรโมตเว็บไซต์ และตื่นตัวกับนวัตกรรม SEO ทั้งหมด? ควรหันไปพึ่งคอร์สราคาแพงดีหรือไม่?

เพื่อนร่วมงานของผมเคยพูดว่า “เราควรดู Ahrefs ให้เหมือนกับดูทีวี” ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งสำหรับคำพูดนี้ บริการนี้เป็นทรัพยากรหลักที่ช่วยให้คุณรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลง และวิเคราะห์รูปแบบการโปรโมตเว็บไซต์

สำหรับคอร์สสอนที่คุณเห็นได้ทั่วไป จะมีเพียงความรู้พื้นฐานเท่านั้น ซึ่งนำมาใช้จริงไม่ค่อยได้ การทดลองอย่างการเปลี่ยนชื่อ, คีย์เวิร์ด รวมถึงวิธีการเข้าถึง จนกระทั้งรูปแบบของข้อมูล ต่อให้เป็นเว็บไซต์ที่มีเพียงสิบหน้า ก็ยังสามารถให้ประสบการณ์และความรู้ที่มากกว่าการไปเรียนคอร์สอย่างเห็นได้ชัด

วิธีที่ดีที่สุดคือการเรียนรู้และพัฒนาเพื่อทำ SEO ให้ครบจบรอบด้าน ตั้งแต่การค้นหาและซื้อโดเมน จนไปถึงการทำให้เว็บไซต์ขึ้นหน้าค้นหาของGoogleQ: การซื้อโดเมนหมดอายุที่เคยเป็นของคนจีน จะมีความเสี่ยงอะไรหรือเปล่า?

โดเมนเภทนี้จะขึ้นบนช่องค้นหายากมากถึงมากที่สุด เรามีกรณีศึกษาที่เป็นโดเมนสวย ๆ ราคา $900 ทว่ามองข้ามเรื่องสำคัญที่ว่าเคยเป็นของคนจีนมากก่อน ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ไม่น่าพึงพอใจ กลายเป็ฯโดเมนที่อยู่แถวท้าย ๆ ของการค้นหา

Q: ถ้าสร้างและโปรโมตเว็บไซต์ในนามสงเคราะห์ หรือหัวข้อที่เฉยไปแล้ว จะเป็นอะไรหรือเปล่า?

ทีมของเรามีเว็บไซต์ที่เป็นแค็ตตาล็อกสำหรับบริษัท IT และเราไม่ได้คาดหวังอะไรเลยกับเว็บไซต์แบบนี้ จนกระทั้งอัปเดตใหม่ของ Google อันดับการค้นหาของเว็บไซต์ก็เพิ่มขึ้นมากกว่าแต่ก่อน

ด้วยประสบการณ์ที่ดูเว็บไซต์ประเภทนี้มา ผมสามารถพูดได้ว่ามีหลายเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จและเติบโตจนมี Traffic เป็นล้านเลยก็มี

ความท้าทายหลักในการโปรโมตเว็บไซต์ประเภทนี้ คือ การแยกความแตกต่างของการ์ดในแค็ตตาล็อก  เพื่อไม่ให้ซ้ำกันในหัวข้อบางหัวข้อ ก่อนอื่นเลย สิ่งที่ต้องทำอย่างกแรกคือการทำให้อัลกอริทึมของ Google “สังเกตเห็น” และดิดอันดับบนเว็บไซต์

Q: วิธีหา Redirect ที่ Ahrefs ไม่ทันสังเกตเห็น?

สำหรับเรื่องนี้ แนะนำให้ใช้บริการของ "PublicWWW" หรือ"Bing Webmaster" แค่ใส่เว็บคู่แข่งลงไป คุณก็จะสามารถเห็น Backlink ของพวกเขาได้

Q: วิธีเลือกระหว่างการกู้เว็บไซต์ กับเปลี่ยนให้เป็น Redirect?

คุณจำเป็นต้องดู Backlink เพื่อดูว่ามีเว็บที่เป็นคอนเทนต์หรือเปล่า จากนั้นจึงค่อยกู้คืนมาเพื่อให้ติดอันดับการค้นหาภายหลัง

หากเว็บไซต์เคยมีเจ้าของมาก่อน ยกตัวอย่างเช่น สำหรับร้านอาหารหรือธุรกิจต่าง ๆ จะมีโดเมนไปยังหน้าเว็บไซต์หลักเป็นส่วนใหญ่ โดเมนประเภทนี้จะง่ายสำหรับการ Redirect

Q: มีเคล็ดลับในการซื้อโดเมนให้ได้ในราคาประมูลที่ถูกหรือเปล่า?

ของแบบนั้นคงไม่มี ผมเลยสามารถแนะนำได้เพียงแค่ว่าให้ประมูลในคืนวันอาทิตย์ เพราะเป็นช่วงเวลากลางดึกของยุโรปและอเมริกาตอนใต้ ในออสเตรียจะยังพึ่งเช้า และยังไม่ค่อยมีการประมูลเท่าไรนัก แต่ขอให้จำไว้ว่าบางที่นั้นมีการประมูลแบบอัตโนมัติ ส่งผลให้ราคาโดเมนสูงกว่าที่ควรเป็น

Q: คิดอย่างไรกับการอัปเดตประจำเดือนพฤษภาคมของ Google?

ผมเชื่อว่าพวกเขาตั้งใจต่อกรกับเว็บไซต์ประเภท Affiliate ทาง Google เลยต้องการลดคู่แข่งทางธุรกิจทั้งรายใหญ่และกลาง เพื่อสร้างทางให้กับแบรนด์ใหญ่ ๆ ในการค้นหา

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?