Mediavine เป็นเครือข่ายตัวจัดการโฆษณาแบบดิสเพลย์ระดับพรีเมี่ยม ที่เหล่าบล็อกเกอร์มากมายต่างใช้เพื่อสร้างรายได้จากเว็บไซต์ของพวกเขาได้อย่างดีเยี่ยม โดยมันเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ติดอันดับเครือข่ายที่ให้โฆษณาที่สร้างรายได้สูงสุด ให้กับเหล่าบล็อกเกอร์และนักทำคอนเทนต์มากมาย
เครือข่ายนี้เป็นที่นิยมมากในหมู่บล็อกเกอร์ในกลุ่มอาหาร กลุ่มท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัว และกลุ่มผู้ปกครอง งานอดิเรก และความสนใจบ้านและสวน สุขภาพและการออกกำลังกาย การเงินส่วนบุคคลการศึกษา ไลฟ์สไตล์ การช็อปปิ้งและแฟชั่น และกลุ่มศิลปะและความบันเทิง
Mediavine เป็นเครือข่ายการจัดการโฆษณาที่ตั้งมาตรฐานการสูงสำหรับการที่จะเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ หากคุณต้องการให้พวกเขาจัดการโฆษณาแบบดิสเพลย์ของคุณ ขอก่อนเลยว่า คุณก็จะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้เครือข่ายโฆษณาอื่น ๆ เลย ในขณะที่ใช้ Mediavine แต่ไม่ว่ายังไง คุณก็จะยังมีอิสระในการทำการตลาด Affiliate หาสปอนเซอร์ และอื่น ๆ เพียงแต่จะถูกห้ามไม่ให้มีเครือข่ายโฆษณาอื่น ๆ ก็เท่านั้น
แน่นอนว่านั่นเป็นข้อเสียเฉพาะ อย่างไรก็ตาม บล็อกเกอร์ส่วนใหญ่ก็ยังนิยมใช้ Mediavine กันอยู่ดี เพราะมันเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด และเหมาะที่จะแสดงโฆษณาบนเว็บไซต์ของพวกเขาที่สุดด้วย
บล็อกเกอร์เลือก Mediavine ด้วยเหตุผลหลัก ๆ ดังนี้:
นอกเหนือจากนี้ ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีก ที่บล็อกเกอร์และผู้ดูแลเว็บก็น่าจะรู้กันดีเลยว่า Mediavine เป็นเครือข่ายการจัดการโฆษณาที่ถูกเลือกมาใช้มากที่สุด เมื่อลงทะเบียนกับพวกเขา บล็อกเกอร์บางคนอาจใช้เวลาหลายเดือนและความพยายามมากมาย เพื่อที่จะให้ทาง Mediavine อนุมัติการเข้าร่วม
ในบทความนี้ เราจะมาเล่าปัญหาดังกล่าว พร้อมวางกลยุทธ์ที่สามารถช่วยให้คุณเข้าร่วม Mediavine และเริ่มสร้างรายได้จากปัญหานี้ตามที่ คุณเคซีย์ โบทเทซิโล (Casey Bottecilo) จาก Bloggingguide.com ได้อธิบายไว้
เกณฑ์การเข้าร่วม Mediavine
ในเว็บไซต์หลักของทาง Mediavine ได้ระบุข้อกำหนดที่บล็อกเกอร์ทุกคนต้องปฏิบัติตาม เพื่อเข้าร่วมแพลตฟอร์มของพวกเขา อย่างไรก็ตาม ข้อกำหนดของ Mediavine เราจะต้องมองว่า เป็นข้อกำหนดขั้นต่ำ ที่จะได้รับการยอมรับในเครือข่ายโฆษณาของพวกเขา การเข้าถึงเมทริกซ์ที่กำหนดไว้นี้ ก็ไม่ได้รับประกันว่าคุณจะได้รับการยอมรับ!
Mediavine มีข้อกำหนด 4 ข้อ ในการรับสมัครอย่างเป็นทางการ สำหรับเว็บไซต์ที่บล็อกเกอร์ส่งให้ตรวจสอบ:
1. 50,000 เซสชั่นใน 30 วันที่ผ่านมา
เพื่อให้ได้รับการพิจารณาจากทาง Mediavine เว็บไซต์ของคุณจะต้องได้รับ 50,000 เซสชันในช่วง 30 วันที่ผ่านมา จากการวัดของ Google Analytics
แต่ว่า บล็อกเกอร์ส่วนใหญ่ต่างยังต้องการจำนวนทราฟฟิค ซึ่งนี่จึงเป็นอุปสรรคหลัก ๆ เลย แม้ว่าจะไม่ใช่เกณฑ์ที่สูงอย่างไม่น่าเป็นไปได้ แต่ในจำนวน 50,000 เซสชันนี้ จะเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่า เว็บไซต์ของคุณได้รับการเข้าชมมากพอ ซึ่งหากมองนมุมมองของบล็อกเกอร์ส่วนใหญ่ ก็จะหมายถึง เราจะต้องทุ่มเทแรงกายเพื่อให้มีคอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูง
Mediavine ต้องการ 50,000 เซสชัน ที่ไม่ใช่จำนวนการเปิดหน้าเพจ เครือข่ายโฆษณาอื่น ๆ ส่วนใหญ่จะตั้งเกณฑ์เป็นจำนวนการเปิดหน้าเพจ ตามเมตริกพื้นฐานเลย ดังนั้นบล็อกเกอร์บางรายจึงพลาดรายละเอียดสำคัญแบบนี้ การเปิดดูหน้าเว็บ คือ การที่หน้าเว็บบนเว็บไซต์ของคุณมีผู้ใช้เข้าชม ขณะที่เซสชัน หมายถึง การสะสมจำนวนครั้งของการเปิดดูในหน้าเว็บจากผู้ใช้
ดังนั้นแล้ว จำนวนหน้าที่มีการเปิด จึงเป็นตัวเลขที่ใหญ่กว่าเซสชันของคุณ โดยจะมีอัตราส่วนจะแตกต่างกันไป และขึ้นอยู่กับว่า ผู้ใช้จะมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์ของคุณแบบไหน แต่โดยทั่วไปแล้ว 50,000 เซสชัน ก็จะแปลงเป็นการดูหน้าเว็บ 60,000 - 100,000 ครั้งได้เช่นกัน
ทาง Mediavine จะคำนวณเมตริกในเว็บไซต์ของคุณโดยใช้ข้อมูลจาก Google Analytics สำหรับบล็อกเกอร์ส่วนใหญ่แล้ว จะบอกกันว่า ในขั้นตอนนี้ค่อนข้างง่ายที่จะตรวจสอบ เพราะใคร ๆ ก็ใช้ Google Analytics กันอยู่แล้ว แต่สำหรับบล็อกเกอร์ที่ใช้เครื่องมืออื่นติดตามการเข้าชมเว็บไซต์ คุณควรอย่าลืมว่า คุณต้องกำหนดค่า Google Analytics เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วันเพื่อให้มีรายงานนี้ก่อนที่จะส่งไปยังเครือข่าย Mediavine
2. มีความประพฤติที่ดีกับ Google AdSense มาโดยตลอด
ในข้อกำหนดข้อนี้ ผู้เผยแพร่โฆษณาจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า เว็บไซต์ของตนจะต้องอยู่ในสถานะที่ดีระหว่าง Google AdSense และ Google AdExchange ซึ่งนั้นหมายความว่า คุณไม่สามารถถูกแบน ไม่ได้รับการยอมรับ หรือมีข้อพิพาทอย่างเปิดเผยกับเครือข่ายเหล่านี้ได้เลย
"หากคุณเคยถูกแบน ไม่ได้รับการยอมรับ หรือมีการละเมิดนโยบายของ กับ Google AdSense ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขเลย เราจะไม่อนุมัติให้คุณเข้าร่วมกับ Mediavine Publisher Network —" Mediavine
Note: นี่ไม่ได้หมายความว่าคุณจำเป็นต้องมีบัญชี AdSense ก่อนที่จะมาใช้ Mediavine คุณสามารถทำได้ แม้ในช่วงเวลาที่คุณสมัครงานกับ Mediavine แล้ว
ขั้นตอนการสมัครมักจะใช้เวลาน้อยกว่า 24 ชั่วโมง แต่บางทีอาจนานถึง 2-3 วัน ก็ได้ ดังนั้นคุณอาจจะใช้ AdSense ก่อน ที่จะใช้ Mediavine เพราะสุดท้ายแล้วคุณก็จะต้องเข้าถึง Google AdExchange อยู่ดี
3. ใช้คอนเทนต์ที่เน้นความยาว หรือคอนเทนต์ที่ได้รับการมีส่วนร่วม
ในข้อนี้ คุณต้องมีบล็อกที่มีคอนเทนต์ยาว ๆ และน่าสนใจ บล็อกโพสต์คอนเทนต์รูปแบบยาวโดยทั่วไป จะมีอย่างน้อย 1,000 คำและบางบล็อกก็อาจจะยาวกว่านั้นมากเลย
โดยพื้นฐานแล้ว Mediavine ต้องการให้ผู้เผยแพร่โฆษณาที่กำลังสร้างเนื้อหาที่มีคอนเทนต์เพียงพอ เพื่อให้พวกเขาสามารถวางโฆษณาในคอนเทนต์ของคุณได้ โดยไม่ต้องรบกวนผู้อ่านของคุณ
ซึ่งการมีส่วนร่วมกับคอนเทนต์ก็จะขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ว่าคอนเทนต์นั้นก็ต้องอาศัยเวลามาก ประกอบกับอินโฟกราฟิคและแผนภูมิที่มาพร้อมกับข้อความและฟีเจอร์อื่น ๆ ที่จะทำให้ผู้อ่านของคุณสนใจคอนเทนต์นั้นได้ สำคัญเลย คุณต้องมีคอนเทนต์ที่ตรงใจคนทั่วไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณไม่ควรใช้ทราฟฟิคปลอมบนเว็บของคุณ ทาง Mediavine จะตรวจสอบว่าคุณใช้เฉพาะการเข้าชมที่ได้รับการยืนยันตัวตนแล้ว และเป็นทราฟฟิคไวท์ลิสต์เท่านั้น
4. มีออริจินัลคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับตลาดเฉพาะกลุ่ม
ข้อกำหนดสุดท้ายนี้ คุณต้องผลิตออริจินัลคอนเทนต์ที่เกี่ยวกับนิชใดนิชหนึ่งในบล็อกของคุณ จากสถิติตอนนี้ พบว่า บล็อกเกอร์ดัง ๆ หลายคนที่เลือกใช้ Mediavine มักจะเป็นบล็อกเกอร์สายรีวิวอาหาร Mediavine จะพิจารณาผู้สมัครที่มาจากนิช กลุ่มที่มีคอนเทนต์เป็นมิตรกับผู้ลงโฆษณาเป็นพิเศษ
แต่คอนเทนต์ของคุณต้องเป็นต้นฉบับด้วยนะ! จากนั้น เช็คให้ดี ๆ ก่อนว่า คุณไม่ได้ "ยืม" ประโยค/ย่อหน้าจากบล็อกของคนอื่น เพราะทาง Mediavine ก็จะตรวจเว็บไซต์ของคุณเหมือนกัน
เกณฑ์การรับสมัครของ Mediavine "แบบไม่เป็นทางการ"
ในส่วนนี้ เราจะเจาะลึกไปที่ข้อกำหนดแอปพลิเคชัน "แบบที่ไม่เป็นทางการ" ของ Mediavine กัน ซึ่งข้อกำหนดแบบไม่เป็นทางการนี้ Mediavine ไม่เคยระบุไว้เลยนะ ในหัวข้อนี้ เป็นเพียงการรวบรวมปัจจัยอื่น ๆ ที่อาจทำให้คุณขาดคุณสมบัติในการเข้าร่วมได้ ตามการพิจารณาหลายร้อยครั้งกับผู้สมัครของ Mediavine (ทั้งที่ได้รับการยอมรับและถูกปฏิเสธ) ซึ่งกฎแบบไม่เป็นทางการนี้อาจดูแล้ว ก็ไม่ได้เป็นกฎที่ทำตามยากและไม่เคร่งครัดมากด้วย แต่กฎมันก็ขึ้นอยู่กับแนวคิดที่นำมาใช้ในบทความต่าง ๆ ของ Mediavine
มีข้อกำหนด "แบบไม่ทางการ" หลายข้อเลยในเครือข่าย Mediavine ที่ผู้สมัครหลายคนขอแนะนำให้ต้องทำตาม แม้ข้อกำหนดเหล่านี้จะยังดูไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ถ้าคุณสามารถทำได้ตามข้อกำหนดเหล่านี้ไว้ก่อนดีกว่า จะช่วยเพิ่มโอกาสให้คุณได้รับการอนุมัติจาก Mediavine มากกว่าผู้คนทั่วไปที่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดขั้นต่ำเท่านั้น
ถึงแม้ว่าคุณจะทำตามคำแนะนำเหล่านี้ทั้งหมด แต่ Mediavine ก็อนุญาตให้พาร์ทเนอร์โฆษณาของบริษัทสามารถตรวจสอบผู้สมัครรายใดก็ได้ โดยที่ไม่ได้มีอธิบายในคำชี้แจงเลย ดังนั้นจึงมีโอกาสที่คุณจะถูกปฏิเสธ
ระยะเวลาและขั้นตอนของการสมัครเข้าร่วม Mediavine
ใน Mediavine มีขั้นตอนการสมัครที่ใช้เวลามากกว่าเครือข่ายโฆษณาอื่น ๆ ส่วนใหญ่ ซึ่งคุณจะมั่นใจได้เลยว่า มีกระบวนการที่ละเอียดถี่ถ้วน (ตั้งแต่การส่งใบสมัครในขั้นแรก ไปจนถึงการติดตามรายได้ในวันแรกของการใช้โฆษณา Mediavine ของคุณ) โดยจะใช้เวลาอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ มีผู้สมัครที่ประสบความสำเร็จจำนวนมาก พวกเขาเล่าว่า ภายในประมาณ 3-4 สัปดาห์ก็จะรู้ผลการอนุมัติหรือถูกปฏิเสธ จากทาง Mediavine
ไทม์ไลน์ของการสมัครเข้าร่วม Mediavine
Mediavine ได้ระบุข้อมูลต่อไปนี้ เกี่ยวกับไทม์ไลน์ของการสมัครเข้าร่วม:
"ผู้สมัครแต่ละคนที่ได้รับเลือก จะได้รับการตรวจสอบโดยทีมงานจากเครือข่าย 2 คน โดยเว็บไซต์ที่ถูกปฏิเสธนั้น เราจะพิจารณาจากการตรวจสอบโดยทีมงานในไม่น้อยกว่า 3 คน ซึ่งทางเราให้ความสำคัญอย่างจริงจังกับผู้สมัคร Mediavine ทุกคน เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพของแพลตฟอร์มของเรา ด้วยเหตุนี้ คุณจึงไม่ต้องตกใจ ถ้าหากเวลาผ่านไป 14-21 วัน นับตั้งแต่วันที่คุณส่งไฟล์ Google Analytics PDF ของคุณ จนกว่าจะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้าย ในบางกรณี ทุกกระบวนการก็จะดำเนินการไปอย่างราบรื่นและอาจใช้เวลาไม่นานด้วย และในบางกรณี หากมีจำนวนผู้สมัครที่มากเกินไป หรือกรณีที่เราจำเป็นต้องเจาะลึกลงไปในข้อมูลของผู้สมัครรายหนึ่ง ก็อาจใช้เวลาถึง 28 วัน"
ไทม์ไลน์ของการสมัครเข้าร่วมของคุณเคซีย์
คุณเคซีย์ เล่าว่าเขาได้เห็น "เรื่องราวสุดหดหู่" มาแล้วหลายเคส ที่เกี่ยวกับผู้คนที่ต้องรอคอยเป็นเวลาหลายสัปดาห์และไม่ได้รับการตอบกลับจาก Mediavine อีกเลย แม้ว่าพวกเขาจะติดตามผลหลายครั้งแล้วก็ตาม อย่างไรก็เถอะ จากประสบการณ์ส่วนตัวของเขาที่ผ่านมา อาจเป็นกรณีศึกษาให้ผู้สมัครหลาย ๆ คนได้ ซึ่งเส้นเวลาด้านล่างนี้จะแสดงเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้นการสมัครของคุณเคซีย์ ในขณะที่เขากำลังพยายามเข้าร่วมกับ Mediavine ในเดือนมีนาคม 2022
คุณเคซีย์กล่าวว่า "ในขณะที่กระบวนการนี้เป็นไปอย่างรวดเร็วเกินคาด ผมได้ศึกษาเช็คลิสต์ก่อนการสมัครมาอย่างละเอียดแล้ว จากนั้นก็มีการตอบกลับทางอีเมลทันทีเลย และการดำเนินการอย่างรวดเร็วนี้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในช่วงวันธรรมดา ซึ่งผมเดาว่า นี่ถือเป็นช่วงเวลาที่ทีมงานจะมีการตอบกลับที่เร็วกว่าปกติ แม้จะมีขั้นตอนการทำงานที่ค่อนข้างรวดเร็ว แต่ผมได้แลกเปลี่ยนอีเมลมากกว่า 30 ฉบับกับสมาชิกทีมสนับสนุนหลาย ๆ คนของทาง Mediavin มันก็จะรู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยแหละนะ แต่การที่ผมให้ความสำคัญกับมันอยู่บ่อย ๆ ทุกอย่างก็เลยดำเนินไปได้เร็วมาก"
เคล็ดลับดี ๆ ในการสมัคร Mediavine จากคุณเคซีย์
ในส่วนนี้ เราขอเน้นที่จะนำเสนอเคล็ดลับที่จะเข้าไปอยู่ในกระบวนการการอนุมัติอย่างรวดเร็ว Mediavine ตามแบบที่คุณเคซีย์ได้กล่าวไว้ ทั้งหมดนี้จะเป็นเคล็ดลับที่เขาทำเองแล้วได้ผลดีในกระบวนการสมัครของเขาเอง ซึ่งด้วยเหตุนี้อาจเป็นเหตุผลที่การสมัครของเขาได้รับการดำเนินการอย่างรวดเร็ว มีรายละเอียดดังนี้
คำแนะนำของพวกเรา
ส่วนคำแนะนำของพวกเรา คุณควรเน้นที่จะทำตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ ตอบกลับอีเมลของเครือข่ายนี้ให้ไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเช็คเว็บไซต์ของคุณว่า มันดูเหมือนเว็บไซต์ที่ได้รับการเข้าชมจากคนจริง ๆ ที่ไม่ใช่การเพิ่มทราฟฟิคมาจากโปรแกรม