ในบทความนี้เรากำลังพูดถึงวิธีที่ผู้ประกอบการเพจโซเชียลออนไลน์ "Doing Things Media" ได้รับเงินระดมทุน $21,500,000 เพื่อขยายกิจการสื่อโซเชียลออนไลน์ เดี๋ยวเราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับพวกเขาทำอย่างไรแล้วได้ผลดีจนมาถึงระดับนี้ได้
นอกจากนี้เรายังได้คอยเฝ้าดูว่า สิ่งนี้จะมาเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจออนไลน์มากน้อยแค่ไหน และผู้ประกอบการจะต้องรับมือกันยังไงบ้าง
Doing Things Media
Doing Things Media เป็นบริษัทสื่อโฆษณาที่อยู่เบื้องหลังหน้าเว็บเพจที่ใหญ่ที่สุดบนเครือข่ายโซเชียลออนไลน์ โดยมีเพจมีมบนโลกโซเชียลมีเดียมากถึง 25 บัญชี และคอลเลกชั่นของแบรนด์ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 65,000,000 คนทั่วโลก ทั้งในอินสตาแกรมและแพลตฟอร์มอื่นๆ หน้าเว็บยอดนิยมบางหน้าเพจซึ่งเป็นของ Doing Things Media ได้แก่
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพจมีมสุดคลาสสิคเลย พวกเขาได้รับการมีส่วนร่วมเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ชมของพวกเขาเอง เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆก็ของคอนเทนต์อารมณ์ดีแบบนี้อยู่แล้ว
เห็นได้ชัดว่าบริษัท Doing Things Media ที่ก่อตั้งขึ้นในแอตแลนตา — ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้รับเงินทุนจำนวน $21,000 ในซีรีย์ A ที่นำโดยบริษัท Volition Capital โดยที่ Volition Capital นี้เป็นบริษัทร่วมทุนที่ตั้งอยู่ในบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทหลายแห่งเลย เช่น Chewy.com ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่มการเลี้ยงสัตว์เลี้ยง
ในหลังจากที่มีการสนับสนุนทางการเงินของ Volition Capital ทำให้ปัจจุบัน Chewie.com ก็ได้รับผู้เข้าชมในรายเดือนประมาณ 52,000,000 คน หรือ เท่ากับประมาณ 624,000,000 คนต่อปี ถือว่าเป็นเงินทุนที่มากมายมหาศาลจริงๆ เพราะตอนนี้ทางเว็บไซต์ได้รับผู้เข้าชมมามากขึ้นในหนึ่งปี ซึ่งมันมากกว่าประชากรทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาซะเสีย
ตอนนี้ทาง Volition ได้ลงทุนในสื่อโฆษณา ด้วยเหตุนี้เอง พวกเราจึงคาดหวังว่าจะมีการเติบโตที่น่าทึ่งแน่อน เนื่องจากที่ดูจากสถิติก่อนหน้านี้ที่กำหนดโดย Chewy.com
ลาร์รี่ เชิง (Larry Cheng) หุ้นส่วนผู้ก่อตั้งของ Volition Capital ได้กล่าวไว้ว่า
"บริษัทอย่าง Doing Things ได้ผ่านบททดสอบที่ยากสุดๆมาแล้ว: พวกเขาได้สร้างคอนเทนต์ที่ไม่เหมือนใครๆ ที่สามารถรวบรวมกลุ่มผู้ชมจำนวนมาก และผู้ชมก็มีส่วนร่วมกับพวกเขาเยอะมาก
เราคิดว่ามีพื้นที่เหลือเฟือพอ ที่จะสร้างแบรนด์ใหม่ๆ และขยายไปเป็นหมวดหมู่ใหม่ๆ และยังสามารถขยายไปยังช่องทางการจัดจำหน่ายอื่นที่แตกต่างกันได้อีกด้วย"
แหล่งที่มาของคอนเทนต์
จริงๆแล้ว Doing Things Media ก็เป็นบริษัทที่ไม่ได้ทำวิดีโอของตัวเอง พวกเขาจะได้รับวิดีโอจากผู้ชมของพวกเขามาทำคอนเทนต์แทน โดยบนเว็บไซต์หลักของพวกเขามีพอร์ทัลเว็บ ที่ผู้คนสามารถส่งคอนเทนต์ให้พวกเขาได้โดยตรง
นอกจากนี้หน้าเพจมีมบางเพจจะมีลิงก์ในช่องชีวประวัติ ที่คุณสามารถส่งวิดีโอที่คุณต้องการเผยแพร่บนหน้านั้นได้
ดังนั้นโดยปกติแล้วพวกเขามีแหล่งที่มาของคอนเทนต์ที่ไม่ได้เป็นพวกเขาเลย แต่พวกเขาก็ยังสามารถเรียกมันว่าคอนเทนต์ดั้งเดิมได้ เพราะว่าผู้ชมของพวกเขาเต็มใจจะแบ่งปันให้คอนเทนต์จริงๆ พวกเขาจะโพสต์คอนเทนต์ที่ได้มาบนหน้าเว็บของพวกเขา พร้อมใส่แคปชั่นให้เข้ากับคอนเทนต์มีม
มูลค่าธุรกิจ
ตามที่ Forbes ที่บันทึกข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทต่างๆบนโลกออนไลน์ แต่มันก็ยากที่จะวัดว่าบริษัทหนึ่งจะสร้างรายได้ได้ดีแค่ไหน หรือบริษัทนั้นจะมีมูลค่ามากน้อยเพียงใด โดยในปี 2020 มีรายงานว่าค่ายเพลง Warner Music ได้ทุ่มเงินไปมากถึง $85,000,000 เพื่อซื้อกิจการ IMGN Media ซึ่งเป็นเจ้าของสื่อในโลกออนไลน์ เช่น Daquan (บัญชีใน Instagram) จากจำนวนเงินที่mk’ Warner Music จ่ายให้กับ IMGN และรวมไปถึงเงินระดมทุนในซีรีย์ A นั่นจึงสมเหตุสมผลแล้ว ที่จะสันนิษฐานได้ว่า Doing Things ได้มีมูลค่าธุรกิจที่เกือบจะเป็น $100 ล้าน ในรอบการระดมทุนครั้งล่าสุด
หน้าเพจ Daquan ล่าสุดเมื่อทางบริษัท Warner Music ได้เข้าซื้อกิจการ
Doing Things Media เป็นเจ้าของหน้าเว็บเพจขนาดใหญ่หลายเพจ ในสื่อโซเชียลออนไลน์ ซึ่งทำให้มูลค่าของสื่อมีมากกว่าสื่อ IMGN ซะอีก
แม้ว่าธุรกิจจะดำเนินกิจการได้เพียงห้าปีเท่านั้น แต่สำหรับผู้ก่อตั้งก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว เหตุผลที่พวกเขาสามารถเพิ่มเงินลงทุนได้มามากถึงขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะจำนวนผู้ชมที่มีเยอะ แต่เป็นจำนวนตัวเลข ที่พวกเขาสร้างรายได้เป็นหลายล้านดอลลาร์ต่างหาก
ในปี 2021 บริษัทมีรายได้มากกว่า $10,000,000 จากการทำโฆษณา และขายสินค้าในร้านค้าอีคอมเมิร์ซให้กับแฟนครับของพวกเขาเอง
สิ่งนี้มีความหมายกับอนาคตอย่างไร?
การลงทุนนี้จะนำไปสู่การประเมินมูลค่าที่สูงขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับบริษัทสื่อออนไลน์อื่นๆ ที่เข้าถึงผู้ชมจำนวนมาก มีบริษัทยักษ์ใหญ่มากมายที่ให้เงินทุนมหาศาล และแน่นอนเลย พวกเขาจะลงทุนในแบรนด์ที่สามารถทำให้พวกเขาเข้าถึงการดูหลายล้านครั้งได้บนโลกโซเชียลออนไลน์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของการตลาด ในการเป็นที่เราเจ้าของเพจที่มีกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่แบบนี้แล้ว จะเป็นอะไรที่มีค่ามากๆ สำหรับบริษัทร่วมทุนขนาดใหญ่ หรือบริษัทอื่นๆ เหตุใดพวกเขาจึงไม่เริ่มลงทุนในแบรนด์เหล่านี้ให้มากขึ้นล่ะ?!
สิ่งนี้ยังหมายความว่าวงการสื่อและอีคอมเมิร์ซจะยังคงอยู่ในแนวเดียวกันอย่างมาก การที่คุณมีช่องทางสื่อเป็นของตัวเองก็ถือว่ามีค่าจริงๆ เพราะจะได้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมายไปกับโฆษณาได้หลายล้านรายการ ในขณะที่สร้างรายได้นับล้านจากการเข้าชมฟรีก็ได้ เมื่อพูดถึงการเป็นเจ้าของบริษัทสื่อ คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ได้ทุกที่และทุกเวลาตามที่ตัวเองต้องการ และคุณสามารถเพิ่มช่องทางให้ผู้ชมทั้งหมด ให้เข้าสู่หน้าอีคอมเมิร์ซของคุณได้แบบฟรีๆ
นี่เป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยแก้ปัญหาด้านการตลาดได้ และการจัดการซัพพลายเซนและระบบโลจิสติกส์ เมื่อคุณรวมทั้งสองเข้าด้วยกัน คุณจะได้รับผลรวมที่แน่นอน เนื่องจากสามารถเสริมซึ่งกันและกันเมื่อใดก็ตามที่มีการแข่งขันในตลาด ตัวอย่างเช่น หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับ supply chain คุณก็ยังจะสร้างความฮือฮาต่อไปได้ ด้วยจำนวนผู้เข้าชมและความสนใจที่หน้าเว็บเพจของคุณได้รับจนกว่าสต็อกจะพร้อม
สรุป
ข้อมูลที่นำเสนอมานี้ก็ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกสำหรับผู้ประกอบการออนไลน์ ที่จะแสดงให้เห็นว่าการเป็นเจ้าของช่องทางในโลกออนไลน์นั้นมีคุณค่าอย่างไร และจะยังคงมีคุณค่าต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้ต่อไปได้อย่างไร เราหวังว่า Doing Things Media สามารถประเมินมูลค่าได้สูงขึ้นไปอีก ประมาณ $100,000,000 เพราะว่าธุรกิจนี้เพิ่งจะดำเนินกิจการมาเพียง 5 ปีเท่านั้น
ในโลกโซเชียลมีเดียที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบันนี้ความสำเร็จที่เกิดขึ้นจากการทำสิ่งต่างๆบนโลกโซเชียลมีเดียสามารถเลียนแบบ และก้าวไปอีกขั้นได้ เนื่องจากมีแพลตฟอร์มอย่าง Tiktok ที่มอบโอกาสที่ดีในการเติบโตของช่องทางธุรกิจออนไลน์มากขึ้น
หากคุณต้องการเริ่มต้นทำเพจมีมตลกๆฮาๆของคุณเอง ตอนนี้ก็เป็นโอกาสที่ดีในการลงมือทำเลย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการมีแผนการเติบโตเพื่อนำเงินทุนที่คุณได้รับกลับมาเปลี่ยนเป็นธุรกิจที่แท้จริงโดยการสร้างทีมเป็นของคุณเอง และซื้อแบรนด์เพิ่ม เพื่อขยายพอร์ตการลงทุนของคุณให้โตยิ่งขึ้น
