17 พฤศจิกายน 2022 0 338

วิธีทำให้เว็บใหม่ของเรา ติดอันดับ 1 ของการค้นหาบน Google ภายใน 3 สัปดาห์

ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงวิธีที่ดีที่สุดให้ติดอันดับการค้นบน Google โดยริคกี้ เคสเลอ และ แอนนา ซิลเวอร์ ผู้บริหาร Income School สามารถผลิตเนื้อหาเว็บไซต์ที่ค่อนข้างใหม่ ให้ติดอันดับ 1 บนการค้นหาของ Google ภายใน 3 สัปดาห์

แทนที่เราจะนำทุกท่านไปชม ก็ขอเปลี่ยนเป็นการเล่าถึงวิธีการที่จะทำให้เราชนะ Google Rich Snippets ได้อย่างไรแทน

เป้าหมายที่ Google Snippet ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับการค้นหาได้รวดเร็วนั้น ก็เป็นเพราะว่าเป้าหมายของคนที่เข้ามาค้นหาคำที่ต้องการ โดยเลือกคำที่เฉพาะเจาะจงลงไป แทนที่จะเขียนเป็นประโยคที่สมบูรณ์ 2-3 ประโยค และคำตอบที่พวกเขาต้องการก็จะแสดงขึ้นมาให้เห็น

เกี่ยวกับ Google Snippets

Google snippets คือ การตัดคำที่ต้องการค้นหา ที่แสดงผลลัพธ์ของการค้นหาออกมาได้รวดเร็ว สิ่งที่แสดงออกมา เป็นเนื้อหาที่อยู่ภายในหน้าเว็บเพจ ถูกดึงออกมาจากดัชนีของ google โดยอัตโนมัติ [ที่มา: banklinko.com]

 

ตลอดเวลา Google ใช้ rich snippets เพื่อช่วยให้เกิดประสบการณ์ที่ดีกับผู้ใช้ ที่ต้องการค้นหาสิ่งที่ตนเองต้องการเพื่อให้เกิดความรวดเร็วขึ้น แต่มีนักบล็อกเกอร์หลายคนกังวลว่า ถ้าพวกเขาใส่คำตอบสั้นดีๆ ที่ได้ใจความเพื่อให้คนที่ต้องการหาบทความ ที่ตรงกับที่เราเขียน แต่ก็กลัวว่า Google จะใช้เครื่องมือ rich snippet ทำให้ไม่มีใครคลิกไปที่หัวข้อของพวกเขา เพราะคำค้นหาที่เหมือน ๆ กันได้แสดงออกมาให้เห็นหลายบทความ

ซึ่งคำตอบของเรื่องนี้ก็ไม่จริงทั้งหมด! แต่ก็อาจจะมีที่เป็นจริงเพียงเล็กน้อย เช่น ถ้ามีใครกำลังค้นหาเกี่ยวกับสภาพอากาศ เช่น “ตอนนี้สภาพอากาศที่ลอนดอนเป็นอย่างไร?” ในกรณีนี้ คำตอบที่ต้องการ ก็คงไม่แสดงออกมาทั้งหมด เพราะไม่มีบล็อกเกอร์คนไหนจะเขียนคอนเทนต์แบบนั้นอยู่แล้ว

ในฐานะที่เป็นนักเขียน สิ่งที่คุณจะต้องทำทั้งหมด คือคุณจะต้องเขียนเนื้อหา โดยให้มีความหมายเกี่ยวข้องกับคำตอบให้มากกว่า 2-3 ประโยค การเตรียมคำตอบดี ๆ ล่วงหน้าไว้จะทำให้คนรู้ว่ามันยังมีหัวข้อที่คล้ายกันอีกมากมาย โดยบอกให้ผู้อ่านได้รู้ ว่ายังมีเนื้อหาดี ๆ มากกว่านี้ และอยากให้ผู้อ่าน อาจจะอยากอ่านบทความนี้ต่อไป

ทดสอบวิธีการ

ดังนั้นริกกี้ แอนนา และทีมงาน Income School อยากจะทดสอบคุณประโยชน์ของระบบนี้ เพื่อให้ระบบการจัดอันดับมีประสิทธิภาพกับไซต์ใหม่ของพวกเขา โดยในตอนนั้นพวกเขาใช้ cookforfolks.com ซึ่งเว็บไซต์นี้มีอายุแค่ 6 เดือนเอง แต่พวกเขาได้เขียนหัวข้อใหม่บนไซต์นั้น แล้วก็เผยแพร่เนื้อหานั้นออกไป และภายใน 3 สัปดาห์ ไซต์ของพวกเขาก็ชนะการติดอันดับการค้นหาคำสั้นของ google

 

โดยปกติแล้ว ถ้าเว็บไซต์ที่มีอายุแค่ 6 เดือน จะต้องรอ 6-8 เดือน เพื่อให้เนื้อหาติดการจัดอันดับที่สูงขึ้นไป แต่ครั้งนี้ แค่เลือกเป้าหมายการค้นหาให้สั้นลง ทำให้ไซต์ของพวกเขาติดอันที่ 1 ของ Google

ผลลัพธ์

หัวข้อแรกที่ทีม Income school ทำบน cookforfolks.com ในขณะที่พวกเขาใช้วิธีการหัวข้อเป้าหมายของ google snippets คือ “ถั่วอบ” หรือ bake beans.

ทำให้หัวข้อ ถั่วอบ ติดอันดับคำค้นหาที่มีคำว่าถั่วอบรวมอยู่ด้วยทั้งหมด

“นั่นเป็นสิ่งที่เยี่ยมมาก ทำให้เรารู้สึกว่าเราชนะการใช้คำสั้น ทำให้เราติดอันดับได้รวดเร็ว พอคนคลิกเข้าไปที่หัวข้อ แล้วอ่านเนื้อหา ทำให้ google เห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดี ฉันคิดว่าอาจเป็นเพราะพวกเราเขียนเนื้อหาด้วยความประณีต เพื่อให้คุณภาพนั้นออกมาดี snippet ช่วยให้เราได้อยู่แถวหน้า ก็เพราะเนื้อหาที่เราเขียนไปนั้นค่อนข้างใหม่ เลยทำให้ติดอันดับอยู่ตรงนั้นนานหน่อย” ริกกี้ กล่าว

“ตามที่ริกกี้ได้กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่า คนมักคิดว่าการที่เราใส่คำค้นหาที่เป็นเศษคำ คำสั้นลงไป จะทำให้มีคนเข้ามาอ่านผ่าน google โดยตรง แต่สำหรับผมในฐานะนักอ่าน ปกติผมจะคลิกไปที่ 2-3 เรื่องแรก โดยเฉพาะถ้ากำลังมองหาอะไรที่น่าสนในโดยเฉพาะ และบางครั้งพวกเศษคำค้นหาก็หาคำตอบให้ไม่ได้ หรือว่าหัวข้อแรกๆ ไม่มีคำตอบให้ แม้ว่าคุณจะอยู่ที่อันสองหรือสาม อย่างน้อยเว็บไซต์ของคุณก็มีศักยภาพดึงคนให้เข้ามาชมเว็บไซต์บ้าง” แอนนา กล่าว

กลยุทธ์การปรับแต่งของ Snippet

ทีมงานของ Income School ใช้วิธีปรับแต่งหัวข้อเรื่องของพวกเขา เพื่อให้เรื่องของพวกเขาปรากฏขึ้น และถูกจัดอันดับบน Google snippets ได้มีดังนี้:

ขั้นตอนที่ 1:

เขียนคอนเทนต์ให้มีคุณภาพดี ที่คู่ควรกับอันดับหนึ่งในสถานการณ์ปกติ การสร้างคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ เป็นสิ่งที่จะมองข้ามไม่ได้ ส่วนที่สำคัญที่สุดให้มั่นใจว่าคุณได้ใส่คำตอบของเป้าหมายดีพอสำหรับ snippets

ขั้นตอนที่ 2:

ขั้นตอนต่อไปคือ เขียนคำตอบเป้าหมายให้ครอบคลุม ให้สอดคล้องเข้ากับเนื้อหาของประเภทของคอนเทนต์ ด้วยการทำแบบนี้กับหัวข้อที่หลากหลายประเภท ด้วยการที่มีจำนวนคอนเทนต์เยอะๆ จะช่วยให้ปรากฏอยู่บน Google snippets ได้ง่าย

“ถ้าเราตกการจัดอันดับจาก snippet ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่เราต้องกังวล เพราะว่าถึง snippet ข้ามแถวของเราไป แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เราติดอันดับการค้นหาสูงสุดของ Google search เร็วกว่าที่เราคาดไว้เสียอีก และถึงแม้ว่าเราจะไม่ติดอันดับของ snippet แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่มีโอกาสถูกจัดอันดับในครั้งต่อไป บ่อยครั้งที่เว็บของพวกเรามักจะมีอันดับที่อยู่ใกล้ๆ เพจที่ติดอับสูงๆ” ริกกี้ กล่าว

 

ตัวอย่างที่ทีม Income School เคยทำจนได้อันดับมา

นี่เป็นตัวอย่างที่ทีม Income School ชนะการจัดอันดับจาก snippet และทำได้ดีมากในตอนนั้น
 

1. วิธีทำให้ช็อกโกแลตร้อน ยังอุ่นอยู่แม้จะอยู่ข้างนอก

หัวข้อนี้ติดอันดับบนสุดของ Google เพราะมีภาพที่เป็นภาพวาดเพื่อดึงดูดความสนใจ และมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่อง ที่คุณสามารถรักษาอุณหภูมิของช็อกโกแลตให้อุ่นอยู่ และยังประกอบไปด้วยรายละเอียดอีก 2-3 ข้อ ดึงดูดให้ผู้อ่าน มีความรู้สึกอยากอ่านต่อ เพราะเหตุนี้จึงทำให้พวกเขาคลิกไปที่ลิงก์ของเว็บไซต์

2.ต้องใช้น้ำซุปกี่แกลลอนสำหรับงานเลี้ยง

บทความนี้พูดเกี่ยวกับการทำน้ำซุปสำหรับคนกลุ่มใหญ่ Google เลือกบทความนี้ขึ้นมา และทำไฮไลต์ที่ข้อความที่แตกต่างกัน เพื่อให้ผู้อ่านเห็นภาพได้ชัดเจน บทความนี้ชนะการจัดอันดับตำแหน่งจาก snippet  เพราะว่าทางทีมงานของ Income School เขียนเนื้อเรื่องดี และให้คำตอบกระชับตรงกับคำถาม

3. ต้องใช้เนื้อ Wellington กี่ออนซ์สำหรับคน 1 คน

4. ต้องใช้มันบดเท่าไหร่ กับจำนวนคน 30 คน

 5. เค้กน้ำมันมะกอกมีรสชาติเหมือนอะไร

 

6. ต้องใช้น้ำตาลกี่กรัมทำคุกกี้สำหรับคนหนึ่งคน

 

เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคอนเทนต์ของเราเข้าถึง Google Snippets

ทีมงานของ income school แนะนำให้เขียนคำตอบในแต่ละย่อหน้าประมาณ  2-3 ประโยคและทำให้คำตอบของปัญหานั้นเป็นตัวหนา ทำไมต้องทำแบบนั้น? ไม่ได้ทำให้มันออกมาดูเด่นกับนักอ่านที่เป็นมนุษย์อย่างเดียว และมันยังช่วยให้ HTML แรงพอที่จะช่วยให้ google ระบุได้ว่าคอนเทนต์นี้มีความสำคัญขนาดไหน

วิธีนี้ทำได้ดี แต่มันก็ไม่ยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำอีกด้วย เนื่องด้วยอัลกอลิทึมของ Google ปัจจุบันนี้ เพราะว่า Google กลายมาเป็นตัวระบุข้อมูลได้ดีมากที่เลือกใช้ snippets และเพราะด้วยสิ่งนั้น เราแนะนำให้คุณทำตามวิธีด้านล่างนี้
 

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ย่อหน้าธรรมดาที่คุณเขียน มีเนื้อหาที่เป็นคำตอบของคำถามที่สำคัญ ๆ ได้
 

โดยคุณต้องเขียนย่อหน้าที่มีเนื้อหา 2-3 ประโยค เพื่อตอบคำถามหลัก ๆ และเนื้อหาของคำตอบนั้นต้องเกี่ยวข้องกับหัวข้อในบทความของคุณ ซึ่งประโยคเหล่านี้ต้องอ่านง่าย และมีน้ำเสียงเหมือนคุณกำลังให้ความช่วยเหลือท่านผู้อ่านอยู่

  • ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเนื้อหาในตารางของคุณ สามารถสืบค้นได้ง่าย

เมื่อคุณใช้ตาราง คุณต้องมั่นใจได้ว่า เนื้อหาในตารางสามารถหาได้ง่าย ตัวอย่างเช่น หัวข้อนี้กำลังพูดถึง จำนวนถั่วอบที่ต้องการใช้กับจำนวนคนหลายกลุ่ม และคุณต้องใส่คำอธิบายไว้ด้านล่างด้วยว่า “ตารางนี้แสดงให้เห็นถึงจำนวนถั่วอบที่ต้องใช้เท่าไหร่ ต่อความต้องการของกลุ่มคนที่มีจำนวนแตกต่างกัน” ดังนั้นคำอธิบายค่อนข้างจะเจาะจงถึงเนื้อหาในตารางได้

 

  • การใส่จำนวนตัวเลขในรายการของคุณ

ในขณะที่คุณกำลังสร้างรายการโพสต์ คุณต้องมั่นใจได้ว่าหัวข้อย่อยของรายการมีลำดับใส่ใว้อย่างดี ดังนั้นจงทำเป็นหัวข้อย่อยแทนที่จะแสดงรายการทั้งหมดตั้งแต่เริ่มต้นและปล่อยให้เป็นข้อมูลขอหัวข้อย่อยนั้นไป ใช้ลำดับรายการหัวข้อย่อยด้วยตัวหนา ถ้าคุณทำแบบนั้นตลอดบทความ มันจะทำให้ Google เห็นได้ง่าย และอาจจะเลือกใช้บทความนั้นเป็นโค้ดข้อมูลก็ได้

“พวกเราจับแนวทางของ google มานานแล้ว ตอนนี้อัลกอลิทึมของ google ฉลาดพอที่จะเลือกหัวข้อย่อยเหล่านั้น และเปลี่ยนให้เป็นรายการในการจัดอันดับ ดังนั้น สิ่งที่เราจะต้องทำคือ เขียนเรียงความคอนเท้นต์ เพื่อให้ง่ายสำหรับ google ที่จะเลือกใช้ในการจัดอันดับ สมมุตเราเขียนว่า วิธีการโพสต์บทความ 7 ขั้นตอน เราก็เริ่มเขียนขั้นตอนที่ 1 ก่อนและก็เขียนถึงวิธีการแต่ละขั้นตอนออกไป (นี่คือ หัวข้อย่อย) จากนั้นค่อยเข้าไปอธิบายรายละเอียดแต่ละในขั้นตอน (เขียนหัวข้อย่อยก่อน แล้วค่อยไปเติมรายละเอียดของขั้นตอนในภายหลัง) จากนั้นก็ใส่รายละเอียดของขั้นตอนที่ 2 และขั้นตอนต่อ ๆ ไป มันจะทำให้ Google สังเกตเห็นได้ง่าย แล้วจากนั้นสิ่งที่ Google มักจะทำคือย่อหัวข้อเหล่านั้นให้เป็นหัวข้อสั้นๆ นี่เป็นวิธีที่ดี ที่จะทำให้ชนะการจัดอันดับ และยังทำให้มั่นใจได้ว่า รายการของคุณง่ายต่อการติดตามของเหล่านักอ่านทั้งหลาย” ริกกี้ กล่าว

 

สาระสำคัญที่ได้จากบทความนี้

คือ ในขณะที่กำลังสร้างเป้าหมายของคำตอบเหล่านี้ คุณต้องมั่นใจได้ว่า เนื้อหาของคุณมีสาระและประโยชน์ และง่ายสำหรับนักอ่านและระบบอัลกอลิทึมของคอมพิวเตอร์ในเวลาเดียวกัน คุณไม่จำเป็นจะต้องไปปรับแต่งอะไรมากเพื่อให้สะดวกกับคอมพิวเตอร์ เพราะมันจะทำให้ผู้อ่านเกิดความสับสน แค่ย่อหน้าเนื้อหาและทำให้เป็นตัวหนา และคำตอบมีความสัมพันธ์กันกับคำถามของบทความ และการจัดอันดับขั้นตอนแต่ละรายการ จะช่วยให้กอลิทึมของคอมพิวเตอร์จัดการทำให้รูปแบบออกมาอ่านง่านสำหรับผู้อ่านเอง

อัลกอริทึมสามารถใช้เวลาในการระบุเนื้อหาว่า ส่วนตรงไหนของข้อความที่จะกำหนดให้เป็นตัวอย่างในการค้นหา และนั่นจะทำให้เนื้อหาของคุณไปอยู่ในหน้าแรกของการค้นของ Google ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?