Facebook Pixel สุดยอดเครื่องมือจาก Facebook เป็นเครื่องมือหลักในการใช้วิเคราะห์ข้อมูลแคมเปญโฆษณาและติดตามผู้ชมของคุณ เดี๋ยวนี้หลายต่อหลายธุรกิจกำลังใช้ Facebook Pixel และช่วยเพิ่มความได้เปรียบเหนือธุรกิจอื่นที่พึ่งเริ่มเข้ามาในตลาด ในบทความนี้ เราจะไปเริ่มต้นที่การติดตั้ง Facebook Pixel บนเว็บไซต์ของคุณ
ตอนนี้ คุณอาจมีเว็บไซต์บนระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปอื่น หรือระบบการจัดการคอนเทนต์ จึงอาจเป็นการยากที่จะทราบวิธีการใช้ที่ถูกต้องของเครื่องมือตัวนี้บนเว็บไซต์ของคุณ วันนี้จะมาวิเคราะห์ระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปชนิดต่าง ๆ เพื่อให้คุณสามารถทำตามขั้นตอนและจัดการเรื่องยุ่งยาก แล้วย้ายไปทำเรื่องที่สำคัญ เช่น การติดตามข้อมูล
Facebook Pixel ไม่เพียงแค่ช่วยติดตามผู้เข้าชมของคุณ แต่ยังช่วยให้คุณเข้าใจว่าผู้เข้าชมกำลังทำอะไร คุณสามารถดูส่วนของโฆษณาที่พวกเขาเข้าชม ปุ่มที่กด และปฏิกิริยาที่พวกเขามีต่อโฆษณา ซึ่งถ้าหาผู้เข้าชมสนใจเนื้อหาบางส่วนของโฆษณา คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายนั้น และแสดงสิ่งที่พวกเขาอาจสนใจ
ไม่ใช่แค่ผู้ทำธุรกิจแคมเปญการตลาดบน Facebook ที่ต้องมีการติดตั้ง Facebook Pixel แต่ผู้ทำธุรกิจที่มีแผนจะทำในอนาคตก็ยังสามารถติดตั้งได้ เครื่องมือนี้จะให้คุณในเรื่องของข้อมูลที่มีค่า ซึ่งเมื่อคุณเริ่มปล่อยโฆษณา คุณจะรู้พฤติกรรมบางส่วนจากผู้เข้าชมของคุณ และคุณจะตัดสินใจในแคมเปญโฆษณาของคุณได้ดีขึ้น
ทีนี้เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นแล้ว ก่อนอื่นเราควรสร้าง Facebook Pixel อันแรกของเรา เพื่อเอาไปติดตั้งลงบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ภายหลัง
ก่อนอื่นให้ไปที่การจัดการอีเวนต์บน Facebook คุณสามารถค้นหาบน Google หรือไปที่จัดการโฆษณาก็ได้ จากนั้นให้ไปที่ “เครื่องมือทั้งหมด” และกด จัดการอีเวนต์ แล้วให้กดที่ “แหล่งเชื่อมต่อข้อมูล” และเลือก “เว็บไซต์” เพราะจะต้องเชื่อมต่อเว็บไซต์ของคุณเข้ากับ Facebook Pixel คุณสามารถเห็นเมนูทั้งหมดได้จากภาพด้านล่างนี้ อย่าลืมว่านี้เป็น UI แบบใหม่ของ Facebook จึงมีขั้นตอนที่แตกต่างจากของอินเตอร์เฟสแบบก่อนอยู่บ้างนิดหน่อย
ตอนนี้คุณได้สร้าง Facebook Pixel ของตัวเองแล้ว และหลังจากตั้งชื่อ Pixel ของคุณ ซึ่งจะปรากฏในแถบแหล่งข้อมูลในตัวจัดการอีเวนต์ คุณสามารถไปแถบตั้งค่าและดูข้อมูลที่รวมถึง Pixel ID ของคุณ จำ ID นี้เอาไว้เพราะเราจะต้องใช้สำหรับการติดตั้ง Facebook Pixel บนระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปบางประเภททีหลัง คุณสามารถดูตัวอย่างได้ในภาพด้านล่างนี้
คุณยังต้องกลับไปแถบหลักและกด "ตั้งค่า Pixel ต่อ" และใส่ URL เว็บไซต์ของคุณ ถัดไป เลือก “ติดตั้งโค้ดด้วยตัวเอง” และคัดลอกหรือเก็บโค้ดเอาไว้ เพราะเรายังต้องใช้สำหรับการติดตั้ง Facebook Pixel บนแพลตฟอร์มบางประเภทภายหลัง
ตอนนี้เรามาสนใจกันที่การติดตั้ง Facebook Pixel บนระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปและระบบการจัดการคอนเทนต์ต่าง ๆ เราจะพูดถึงระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปส่วนใหญ่ที่คุณอาจมีเว็บไซต์อยู่บนนั้น รวมถึง Wordpress, Wix, Weebly, Shopify, Leadpages, Etsy และ Squarespace
สำหรับการใส่โค้ดบน Wordpress คุณต้องมีโค้ด Facebook Pixel ของตัวเอง และวางลงในเว็บไซต์ Wordpress ของคุณ เพื่อการนี้ เราแนะนำให้ใช้ปลั๊กอินตัวที่เรียกว่า "แทรกโค้ด Header และ Footer" ปลั๊กอินนี้จะทำให้งานของคุณนั้นง่ายขึ้นด้วยการแทรกโค้ด HTML ส่วนนี้เข้าไปในเว็บไซต์ของคุณ
หลังจากติดตั้งปลั๊กอินนี้บน Wordpress ก็เปิดได้เลย และในหน้าต่างที่โผล่ออกมา ให้วางโค้ด Facebook Pixel ลงไปในส่วนของ Header และเท่านี้ก็พร้อมใช้ได้แล้ว คุณสามารถดูปลั๊กอินตรงด้านล่างนี้
สำหรับการติดตั้ง Facebook Pixel บน Shopify คุณจะต้องใช้ Pixel ID ที่คุณบันทึกไว้ก่อนหน้านี้ หลังคัดลอกแล้ว ให้ไปที่ Shopify dashboard ของคุณและไปที่ส่วนของ ช่องทางการขาย > ร้านค้าออนไลน์ > ตั้งค่า
ในหน้าต่างที่เปิดอยู่ คุณสามารถเลื่อนลงไปที่ส่วนของ Facebook Pixel และวาง Facebook Pixel ID ของคุณลงไปในช่อง
สำหรับ Shopify ก็มีอยู่แค่นี้แหละ ขั้นตอนเพิ่มเติมสามารถทำการติดตั้งปลั๊กอินเบราว์เซอร์ ตัวที่เรียกว่า Facebook Pixel Helper เพื่อช่วยดูว่า Facebook Pixel เชื่อมต่อกับ Shopify ถูกต้องและใช้งานได้ปกติไหม
ก่อนอื่นเลย สำหรับการเชื่อมต่อ Wix เข้ากับ Facebook Pixel คุณจำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรีเมี่ยมบน Wix ก่อน ถ้าหากมีอยู่แล้ว คุณสามารถไปยังขั้นตอนถัดไป แต่ถ้าหากยัง คุณจะไม่สามารถทำตามต่อได้ เพราะงั้นก่อนอื่นเลย กลับไปและเปิดใช้งานแผนสมาชิกพรีเมี่ยมของคุณ เพื่อที่เราจะได้ดำเนินการเชื่อมต่อ Wix เข้ากับ Facebook Pixel ตัวเลือกนี้ไม่มีให้กับแผนสมาชิกแบบฟรีของ Wix
ทีนี้คุณก็มีเว็บไซต์ Wix พรี่เมียม คุณต้องกลับไปที่การจัดการอิเวนต์บน Facebook และไปยังแถบการรวมกับพาร์ทเนอร์ และหาแพลตฟอร์มเว็บไซต์ตรงหมวดหมู่ คุณสามารถหาเจอ Wix ตามในตัวเลือก ที่คุณต้องทำคือปฏิบัติตามคำแนะนำที่เหลือบนจอเพื่อเชื่อมต่อเว็บไซต์ Wix ของคุณกับ Facebook Pixel
ยังมีอีกวิธีที่ใช้ได้กับเว็บไซต์ Wix ของคุณ คุณต้องคัดลอก Pixel ID ของคุณก่อนตามที่อธิบายไป แล้วก็ไปที่ Wix Dashboard หา SEO ของการตลาดจากนั้นเลือกทั้งหมดเครื่องมือการตลาดทั้งหมด และไปยังการรวมการตลาด คุณจะเจอรายชื่อของการรวมที่สามารถเชื่อมต่อ Wix site ของคุณที่นั่น รวมถึง Facebook Pixel กดและเชื่อมต่อกับ Facebook Pixel และวาง Facebook Pixel ID ของคุณ หลังจากนั้นก็บันทึกเอาไว้ แต่นแต๊น เท่านี้ก็เสร็จแล้ว!
การติดตั้ง Facebook Pixel บน Weebly คือง่ายมาก ๆ จากที่คุณได้โค้ดของ Facebook Pixel มาก่อนหน้านี้ ที่เหลือตอนนี้ก็คือให้คุณไปที่ Weebly จากนั้นเลือกเว็บไซต์ที่ต้องการ และกดแก้ไขเว็บไซต์ ถัดไปให้กดตั้งค่า และไปยังส่วนของ SEO
แล้วให้หาส่วนที่มีช่องให้ใส่โค้ด Header HTML ของคุณ แล้วก็วางโค้ด Pixel ของคุณลงตรงนั้นก็เสร็จแล้ว! จำเอาไว้นะว่า นี้เป็นเพียงช่องโค้ด HTML และถ้าหากคุณมีโค้ดอื่นจากตอนก่อนหน้านี้ คุณก็แค่ใส่โค้ด Pixel ใหม่ตรงข้างใต้นั้น แล้วมันจะไม่ไปยุ่งกับฟังก์ชันอื่น
เพื่อติดตั้ง Facebook Pixel บน Leadpages คุณต้องมีโค้ดของ Facebook Pixel ที่ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าจะได้จากตรงการจัดการอิเวนต์
ก่อนอื่นให้ไปที่ Leadpages Dashboard ของคุณ และเลือกหน้าที่คุณต้องการติดตามโดยใช้เครื่องมือติดตามของ Facebook Pixel ถัดไปให้กดตั้งค่า และในช่องวิเคาระห์ ให้วางโค้ด Facebook Pixel ของคุณลงไปในช่องพร้อมกับแท็ก "โค้ดติดตามส่วนหัว" ช่องนี้จะมีไว้ให้โค้ดของ HTML สำหรับส่วนหัว เพื่อให้คุณสามารถติดตามข้อมูลของผู้เข้าชมด้วย Facebook Pixel ได้ง่าย ๆ ต่อไปคุณก็สามารถบันทึกและอัปเดตหน้านั้นได้เลย
คุณสามารถใช้ผู้ช่วย Facebook Pixel กับปลั๊กอินของ Google Chrome Plugin ตรงนี้อีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่า Facebook Pixel ของคุณนั้นเชื่อมต่อและใช้งานกับหน้าเว็บไซต์ Leadpages ของคุณได้ปกติ
อ้างอิงตามอัปเดตบน Etsy ที่จะใช้กับ Facebook Pixel ไม่ได้อีกแล้ว เพราะพวกเขามีเครื่องติดตามเป็นของตัวเอง หากคุณต้องการที่จะใช้ Facebook Pixel คุณต้องไปใช้เว็บไซต์ e-Commerce เจ้าอื่น นี้หมายความว่า Etsy จะไม่มีตัวแก้ไขโค้ดเพื่อให้คุณใช้ใน Etsy อีกต่อไปแล้ว
การติดตั้ง Facebook Pixel บน Squarespace นั้นง่ายดายมาก ให้คุณไปที่บัญชี Squarespace ของคุณ และไปยังตั้งค่าในช่อง การนำทางที่ปรากฏออกมา แล้วก็แค่ให้เลื่อนลงไปที่ส่วนเว็บไซต์ และกด "ขั้นสูง"
ในแถบขั้นสูงให้หา "การใส่โค้ด" และกดเข้าไป นี้จะเป็นตรงส่วนที่คุณต้องใส่โค้ด Header HTML ของคุณ เพราะงั้นแค่ให้คุณวางโค้ด Facebook Pixel ของคุณลงไปในช่องและบันทึกไว้ เพียงเท่านี้คุณก็ได้เพิ่ม Facebook Pixel ไปยังเว็บไซต์ของคุณอย่างเสร็จสมบูรณ์แล้ว!
จริงอยู่ที่คุณสามารถใช้การติดตั้ง Facebook Pixel แบบอัตโนมัติบนเว็บไซต์ e-Commerce และระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปอื่น ๆ แต่ถ้าหากว่า คุณต้องการที่จะติดตั้งเข้ากับเว็บไซต์ของคุณด้วยตัวเอง คุณสามารถใช้วิธีที่คล้าย ๆ กันนี้กับระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปบางตัว
แท้จริงแล้วโค้ด Facebook Pixel นั้นเป็นเพียงแค่ข้อมูลชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวกับ Pixel ID และโค้ดของคุณที่พาข้อมูลไปให้ Facebook Pixel ที่เหมือนกับโค้ดตัวอื่น เช่น โค้ดของ Google Analytics หรือ ข้อมูลที่ซ่อนจากผู้เข้าชมของคุณ ที่ต้องวางไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของหน้าเว็บไซต์ที่โต้ตอบกับเอนจิน หรือเครือข่ายอื่น ๆ โดยที่ไม่มีใครเห็นว่าเป็นยังไง ตรงส่วนนั้นคือส่วน <head>...</head> ในไฟล์ HTML file ของเว็บไซต์ของคุณ ถ้าคุณวางอะไรลงไปในส่วนนั้นของไฟล์โกลบอลของ HTML ที่จะไม่แสดงให้ใครเห็น แต่คุณสามารถใช้มันทำได้หลายอย่าง
ซึ่งถ้าคุณต้องการจะเพิ่ม Facebook Pixel ของคุณลงบนเว็บไซต์ HTML คุณก็แค่ไปที่ไฟล์โกลบอล และหาส่วนของแท็ก <head> tag section และวางลงไปตรงไหนก็ได้ระหว่างแท็ก <head> และแท็ก </head> อย่างไรก็ตาม ต้องให้แน่ใจก่อนว่าโค้ด Facebook Pixel ของคุณนั้นต้องไม่ชนกับโค้ดตัวอื่น นี้หมายความว่าต้องใส่หลังจบแท็กของโค้ดตัวอื่น ที่จะถูกกำหนดด้วยสแลช หรือที่เรียกว่าเครื่องหมายทับ ในแท็ก ตัวอย่างเช่น </div> เราเคยเห็นเจ้าสิ่งนี้กันมาก่อนในระบบเว็บไซต์สำเร็จรูปบางตัว หน้าที่ของพวกนี้คือ การลดความซับซ้อนของขั้นตอนให้ โดยที่คุณไม่ต้องไปยุ่งกับพวกโค้ดและแท็ก HTML
Facebook Pixel มีประโยชน์มากในเรื่องของการให้ข้อมูลที่แพลตฟอร์มการวิเคราะห์ตัวอื่น ๆ ไม่มีให้เกี่ยวกับข้อมูลเว็บไซต์ของคุณ พวกนี้จะให้ชื่อของอิเวนต์มาตรฐาน โปรดจำไว้ว่าอิเวนต์ทั่วไปพวกนี้จะมาในรูปของโค้ดที่คุณจะต้องเอาไปเพิ่มบนหน้าเว็บไซต์สินค้า หรือเว็บไซต์ทั่วไปที่คุณต้องการติดตาม ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณต้องการที่จะติดตามผู้คนที่เพิ่มสินค้าลงในตะกร้าสินค้า คุณสามารถใส่โค้ดลงบนหน้าเว็บไซต์ตะกร้าสินค้า ซึ่งใช้ได้กับเว็บไซต์ประเภทอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ที่จะมาในรูปของโค้ดแบบ Script Tag สำหรับแต่ละอิเวนต์ข้างล่าง คุณจะต้องใส่เหตุการณ์แบบกำหนดเองลงในตัวการจัดการอิเวนต์ ข้างล่างคุณจะเห็นตัวอย่างของโค้ดอิเวนต์แบบมาตรฐาน
ตรงนี้จะเป็นอิเวนต์มาตรฐานบางส่วนที่ Facebook ตรวจเจอเกี่ยวกับผู้ใช้ของคุณ :
ยังมีการตั้งค่าอื่นใน Facebook Pixel ที่คุณอาจเจออยู่บ่อยครั้งคือ การจับคู่ขั้นสูงอัตโนมัติ ตัวเลือกนี้จะช่วยให้คุณรู้ว่าผู้เข้าชมของคุณบน Facebook ได้เข้าชมธุรกิจของคุณ หรือเมื่อไรที่ผู้เข้าชมของคุณเข้าออนไลน์บน Facebook เพื่อให้คุณสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายภายหลังได้ง่ายขึ้น ข้อมูลนี้อาจรวมไปถึงอีเมล เพศ ชื่อ เบอร์ ที่ตั้ง หรือวันเดือนปีเกิดของผู้เข้าชม คุณสามารถ เปิดปิดตัวเลือกนี้เมื่อคุณต้องการเพิ่ม Conversion ให้เยอะขึ้น
ในบทความนี้ เราได้ผ่านขั้นตอนการเพิ่มโค้ด หรือ ID ของ Facebook Pixel เข้ากับระบบสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปแบบ Step-by-step โปรดจำไว้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่วิธีเหล่านี้ และคุณไม่จำเป็นต้องคัดลอกและวางโค้ดด้วยตัวเอง คุณยังสามารถใช้ระบบอัตโนมัติของ Facebook Pixel เพื่อช่วยให้เชื่อมต่อกับระบบสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูป และทำตามคำแนะนำเพื่อเพิ่ม Facebook Pixel กับเว็บไซต์ของคุณ
ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าตั้งแต่ที่ Facebook มีการอัปเดต UI และ Meta ออกมานั้น มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหลายอย่าง และวิธีการบางอย่างที่เคยใช้ได้ ตอนนี้อาจใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว ตัวเลือกบางตัวอาจไม่มีอีกแล้วด้วยซ้ำ และวิธีการสอนที่มีอยู่อาจมีคำแนะนำที่ล้าสมัย นี้เป็นเพราะการอัปเดตอย่างต่อเนื่องของแพลตฟอร์ม Meta และการลดความซับซ้อนของฟังก์ชันบนเว็บไซต์ ดังนั้นคำแนะนำปัจจุบันที่มีอยู่บนบทความนี้จึงเป็นคำแนะนำที่ทันสมัยสุดเท่าที่จะทันได้แล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้ และเราหวังว่าคุณจะประสบความสำเร็จในการทำแคมเปญโดยนำคำแนะนำเหล่านี้ไปปรับใช้