10 มีนาคม 2023 0 652

วิธีสเกลด้วย Tiktok Ads: ร้านค้าออนไลน์ที่เปลี่ยน $1,000 เป็น $16,000/ วัน พร้อม ROAS 3.6 ในเวลาเพียง 6 วัน

วันนี้เราจะขอหยิบยกกรณีศึกษาของคุณเควิน ครีก (Kevin Krieg) ผู้ประกอบการร้านค้าออนไลน์และผู้ก่อตั้ง Vindex Media ซึ่งเป็นเอเจนซี่โฆษณาที่ตั้งอยู่ในประเทศอเมริกา โดยเควินสามารถสเกลรายได้ให้กับร้าน Shopify ของลูกค้า จากเดิม 1,000 เป็น 16,000 ดอลลาร์ต่อวัน ในขณะที่ดูแล ROAS (ผลตอบแทนจากค่าโฆษณา) ได้ 3.6 ภายในเวลาเพียง 6 วัน ผ่านการใช้ Tiktok Ads

เควินสามารถทำสเกลนี้ได้สำเร็จภายในเวลาเพียง 6 วัน ด้วยการปล่อยแคมเปญบน Tiktok Ads และภายในบทความนี้ เขาแชร์วิธีการที่เขาใช้แบบวันต่อวัน และวิธีที่คุณสามารถทำตามกลยุทธ์ของเขาได้ เพื่อสเกลแคมเปญการตลาดให้ได้อย่างรวดเร็วผ่าน Tiktok Ads

คำเตือนสปอย: เขาใช้ระบบ Automated Creative Optimization (ACO) ของ Tiktok เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับแคมเปญ และ Bid ราคาด้วยตัวเองเพื่อการสเกลในครั้งนี้ เรามาเริ่มอ่านวิธีการที่เขาใช้ไปด้วยกันดีกว่า

 

วันที่ 1: ย้ายแคมเปญลูกค้าไป AOC

ลูกค้าของเควินมีแคมเปญโฆษณาที่เตรียมกลุ่มโฆษณาบางส่วนไว้แล้ว และมีโฆษณากำลังทำงานอยู่หนึ่งตัว โดยแคมเปญมี ROAS ที่เป็นบวกอยู่แล้ว และทำยอดขายได้ราว $1,000/วัน แต่กลับไม่สามารถสเกลต่อได้ เพราะจริงอยู่ที่พวกเขาเตรียมการมาดีสำหรับข้อมูลเบื้องต้น ทว่าพวกเขาพลาดตรงการสเกล

ดังนั้นสิ่งแรกที่เควินทำ คือการย้ายโฆษณาที่มีประสิทธิภาพที่สุดไป AOC พร้อมกับ 5 ข้อความ/แคปชั่นที่แตกต่างกัน

สำคัญ: Automated Creative Optimization คือเทคโนโลยีสำหรับการสร้างโฆษณาให้ตรงกับความต้องการของคน โดยอ้างอิงตามข้อมูลจากผู้ชมที่ดูโฆษณา

วันที่ 2: ยกเลิก ACO ที่ประสิทธิภาพต่ำ และรวบรวมข้อมูลเพิ่มด้วย ACO ที่เป็นบวกและคุ้มทุน

ACO ส่วนใหญ่ทำงานได้อย่างราบรื่น ขั้นตอนถัดไปของเควินคือการย้ายไป Bid ด้วยตัวเอง ทว่าเขายังไม่มีข้อมูลมากพอที่จะเลือก ACO ที่ถูกใจเพื่อนำมา Bid ทดสอบ ดังนั้นเขาจึงรอวันถัดไปเพื่อรวบรวมข้อมูล แล้วค่อยทำการย้าย

 

ในวันที่ 2 เขาทำเพียงแค่ตัด ACO ที่ประสิทธิภาพต่ำออกและรอเก็บรวบรวมข้อมูลให้มากขึ้น

วันที่ 3: ย้ายแคมเปญที่ประสิทธิภาพสูงไป Bid ด้วยตัวเอง

ในวันที่ 3 เควินได้เก็บรวบรวมข้อมูลบางส่วน แล้วจากนั้นจึงระบุ ACO ที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด 2 ตัว และเริ่มต้นนำไปทดสอบ Bid ด้วยตัวเอง เขาคัดลอก ACO ที่ชนะทั้ง 2 ตัว เป็นจำนวน 5 ครั้ง และตั้ง Bid แต่ละอันต่างกันทุกครั้ง โดยการนำมูลค่าเฉลี่ยของ CPA มาลบกับ 2 ดออลาร์

 

เขายังตัด ACO ที่เหลือทั้งหมด ยกเว้นตัวที่คัดลอกขึ้นมาใหม่

วันที่ 4: ทำการคัดลอก ACO ที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด และเริ่มเข้าสู่แคมเปญ Retargeting

ในวันที่ 4 มีเพียง ACO ที่ Bid เป็นจำนวนสูงที่สุดเท่าที่จะจ่ายไหว ส่วนที่เหลือมีค่าใช้จ่ายไม่เท่าไร ดังนั้นเควินจึงตัด ACO ที่มีค่าใช้จ่ายน้อยทั้งหมด และสร้าง ACO ที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุดเพิ่มขึ้นมา 2 ตัว จากนั้นจึง Bid เพิ่มอีก 1 ดอลลาร์ ให้กับ ACO ที่ลัดลอกขึ้นมาใหม่

ถึงจุดนี้ เควินยังได้เริ่มต้นแคมเปญ Retargeting แยกออกมา โดยเป็นแคมเปญที่มีกลุ่มเป้าหมายใหญ่ที่สุด หนึ่งกลุ่มเป้าหมายต่อกลุ่มโฆษณา และโฆษณาที่ดีที่สุด 2 ตัว ต่อกลุ่มโฆษณา

วันที่ 5: ทำการคัดลอก ACO ที่มี ROAS ดีเยี่ยมที่สุด

ในวันที่ 5 พบว่า ACO มีการค่าใช้จ่ายที่เยอะตามสัดส่วนในงบพอดี นี้เป็นโอกาสที่เควินต้องการ เขาพร้อมที่จะสเกล ACO ที่ชนะ Bid ในแง่ของ ROAS

เขาคัดลอก ACO ที่ดีที่สุดเป็นจำนวน 3 ครั้ง และเพิ่มงบแต่ละอันเป็น 200 ดอลลาร์ต่อวัน

 

วันที่ 6: สเกลต่อด้วยการคัดลอก ACO เพิ่ม พร้อมกับเพิ่มงบรายวันให้สูงขึ้น

เควินมี ACO ใหม่ที่ได้รับการอนุมัติเพียงตัวเดียว อีกสองตัวที่เหลือถูกปฏิเสธ ส่วนตัวที่ได้รับการอนุมัติก็มีค่าใช้จ่ายที่พอเหมาะ ดังนั้นเขาจึงต้องการสเกลเพิ่มขึ้นอีก

เขาเรียกร้องให้อนุมัติตัวที่ถูกปฏิเสธหนึ่งตัว และคัดลอกตัวที่ได้รับอนุมัติก่อนหน้า เป็นจำนวน 5 ครั้ง และจัดตั้งงบใหม่เป็นตัวละ 500 ดอลลาร์ต่อวัน

วันที่ 7: ความสำเร็จ

ทั้งหมดได้รับการอนุมัติและตัวที่เขาเรียกร้องไปก็ได้รับอนุมัติด้วยเช่นกัน ค่าโฆษณามีการเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเช้า และกระจายออกไปอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งวัน โดยรวมแล้วในวันนั้น เควินสามารถทำรายได้ราว 16,000 ดอลลาร์ พร้อม ROAS เท่ากับ 3.6

 

เขายังคงปล่อยโฆษณาเหล่านี้และทำรายได้ราว 250,000 ในเดือนนั้น และร้านเองก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงทุกวันนี้

สรุป

ท้ายที่สุดเควินก็สามารถสเกลรายได้ให้กับลูกค้าจาก 1,000 เป็น 16,000 ดอลลาร์ต่อวัน ผ่านการใช้ Advertise Creative Optimization (ACO) ของ Tiktok ผสมกับการ Bid ด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ Tiktok ถือเป็นผู้นำแพลตฟอร์มด้านโซเชียลมีเดีย ดังนั้นการทำโฆษณาดิจิทัลกับแพลตฟอร์มที่มี Engagement สูงขนาดนี้ ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด นอกจากนี้ยังผู้ใช้ไม่น้อยที่เลือกให้ Tiktok เป็นเพียงแพลตฟอร์มเดียวของพวกเขา

ส่วนตัวเต็งอย่าง Facebook กับ Instagram ก็ดูเหมือนจะยังไม่สามารถต่อกรกับศักยภาพที่ผ่านมาของ Tiktok ได้ สาเหตุหลัก ๆ เป็นเพราะขาด Engagement ที่เป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขาย ผิดกับ TikTok ที่มี ACO ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมผลลัพธ์ที่พิสูจน์แล้ว อาทิเช่นกรณีศึกษาของคุณเควิน ครีก

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?