17 กุมภาพันธ์ 2023 0 273

ระหว่าง TikTok กับ Reels  อย่างไหนที่โฆษณาแสดงประสิทธิภาพดีกว่ากัน

หลังจากที่ Instagram ได้เปิดตัว Reels ในโลกอินเตอร์เน็ตได้มีการพูดถึงเปรียบเทียบประสิทธิภาพกับ TikTok มาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าตอนนี้ทั้งสองเป็นคู่แข่งกันแล้ว จึงทำให้อยากจะรู้ว่าแพลตฟอร์มตัวไหนระหว่าง TikTok หรือ Reels จะมีประสิทธิภาพดีมากกว่ากัน?

แพลตฟอร์มทำกราฟิกโฆษณาอย่าง Creatopy จึงได้จัดการทำการทดลองระหว่างสองแพลตฟอร์มว่าตัวไหนจะให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีจนน่าประทับใจมากกว่ากัน

และหลังจากการถกเถียงภายในครั้งใหญ่ ทีมงาน PPC ของ Creatopy และผู้จัดการโซเชียลมีเดียได้คาดการณ์ว่า TikTok จะชนะรางวัลสูงสุดเนื่องจากที่มีคนให้ความสนใจใช้เยอะและรวมถึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ในบทความนี้ เราจะนำผลการทดลองที่ถูกตรวจสอบโดยทีมงานของ Creatopy ในช่วงการแสดงประสิทธิภาพสูงสุดของโฆษณาบน TikTok และ Reels Ads ว่าแพลตฟอร์มตัวไหนทำงานได้ดีที่สุด

ระหว่าง Instagram และ TikTok ต่างก็เป็นแพลตฟอร์มที่มีคนนิยมใช้กันมากทั่วโลกถึงหนั่งพันล้านต่อเดือน แต่อย่างไรก็ดี TikTok ใช้เวลา 5 ปีกว่าจะมาถึงจุดนี้ ส่วน Instagram ใช้เวลาถึง 7.7 ปี

“เมื่อพิจารณาถึงความสำเร็จ วิวัฒนาการ และความเป็นกระแสนิยมของ TiKTok ผมคิดว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดสำหรับโฆษณา และผมก็ยังแฟนของ Instagram และแพลตฟอร์มมีเดียต่างๆ อีกด้วย” แอนเดรีย เมเฮห์ดิน ผู้จัดการโซเซียลมีเดียของ Creatopy กล่าว

ตั้งค่าการทดลอง

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำว่าแพลตฟอร์มตัวไหนจะสรุปออกมาได้ดีกว่ากัน ทางทีมงานของ Creatopy ได้เก็บค่าตัวแปรที่เหมือนกันได้ดังนี้:

  • ทำการทดลองปล่อยวิดีโอโฆษณาเหมือนกันทั้งสองแพลตฟอร์มเป็นเวลา 15 นาที กับเป้าหมายเดียวกัน ในระยะเวลาเดียวกัน (14 กันยายน – 5 ตุลาคม 2021)  ไม่ว่าจะเป็น เนื้อหาโฆษณา งบประมาณประจำวัน ค่าใช้จ่ายรวม ทำเลเป้าหมาย เป็นต้น
  •  เพิ่มตัวคั่นระยะเวลาการแสดงโฆษณา เพื่อป้องกันปัญหา ad fatigue นั่นเป็นสิ่งที่นักการตลาดทุกคนต้องการคือ ไม่ให้คนรู้สึกเบื่อหรือรู้สึกรำคาญกับโฆษณา
  •  พวกเขาใช้โฆษณากับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจ (แทนที่จะใช้กับคนที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณาอย่างเดียว): กับผู้ใช้กลุ่มอายุระหว่าง 25 ถึง 44 ที่เคยสนใจกดโฆษณาด้านการศึกษา เทคโนโลยี และแอปต่างๆ

ตารางการตั้งค่า:

หมายเหตุ: ในช่วงเเริ่มต้นของการทดลองบัญชี TikTok ของ Creatopy มีผู้ติดตามเพียงไม่กี่คน ซึ่งเป็นบัญชีที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อสองสามวันก่อน ในขณะที่บัญชี Instagram มีผู้ติดตาม 5,500 คนแล้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ส่งผลกระทบมากนัก แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องรับรู้

ผลลัพธ์: Instagram ชนะ !

แสดงให้เห็นว่า โฆษณาใน Reels ของ Instagram มีประสิทธิภาพดีกว่า TiKTok ในทุกด้าน:
 

  • Reach and impressions: Reels ทำให้ผู้ใช้มองเห็นโฆษณาถึง 389,298 ราย และได้รับการคลิกที่โฆษณาถึง 604,350 ครั้ง ในขณะที่ TikTok เข้าถึงผู้ใช้เพียง 199,477 ราย และได้รับการคลิกที่ 228,538 ครั้ง ฉะนั้น ค่าใช้จ่ายต่อ 1,000 คนของ Reels ก็ประมาณครึ่งหนึ่งของ TikTok ที่ราคา $2.60 เทียบกับ $5.03
  • Clicks: ของ Reels ได้รับคลิก 38 ครั้ง เมื่อเทียบกับของ TikTok ได้แค่ 28 ครั้ง สิ่งสำคัญคือต้องระบุว่า TikTok Ads Manager ไม่แสดงแยกความแตกต่างระหว่างการคลิกที่ลิงก์และการคลิกที่โฆษณา ในขณะที่ Facebook Ad Manager ทำ ดังนั้นการคลิกทั้งหมดบนโฆษณา TikTok จึงถูกนับรวมกันโฆษณา
  • Costs: ในขณะที่ค่าใช้จ่ายของ CPC และ CPM ค่อนข้างสูงของทั้งสองแพลตฟอร์มเนื่องจากจำนวนการแสดงผลที่สูง แต่จำนวนการคลิกต่ำ แต่ก็ถือว่า Instagram Reels ยังมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าของ TikTok ที่ราคา CPC ที่ $28.08 เทียบกับ $35.72 และ CPM ที่ $1.67 เทียบกับ $4.38 . การลดค่าใช้จ่ายต่อการคลิกให้ดูที่ lower CPC และวิธีการลดต้นทุนการแสดงผลให้ดูที่ low CPM
  • Conversions: ทั้งสองแพลตฟอร์มไม่มี conversions ซึ่งก็คงเป็นอย่างนั้น เพราะว่าทั้งสองแคมเปญถูกตั้งค่าด้วย brand awareness ไปแล้ว ดังนั้น conversion จึงไม่ใช่เป้าหมายหลัก
  • Audience: ทีมงานยังได้ดูรายชื่อรัฐของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในแง่ของการแสดงผล ซึ่งพบว่า แคลิฟอเนีย เท็กซัส ฟลอริดา และนิวยอร์ก เป็นรัฐที่มีคนใช้แพลตฟอร์มทั้งสองมากที่สุด ส่งผลให้ทั้งสี่รัฐเป็นรัฐที่มีประชากรใช้มากที่สุด จึงคาดหวังถึงผลลัพธ์

ตารางด้านล่างนี้ แสดงถึงการใช้แพลตฟอร์มทั้ง TikTok และ Instagram Reels สูงสุดของทั้ง 5 รัฐ

เมื่อมาพิจารณาดูจะเห็นได้ชัดเจนว่า Instagram Reels ชนะเพราะมีจำนวนการโฆษณาที่มากกว่า TikTok ซึ่งอาจจะทำให้คนที่เลือกข้าง TikTok เอาไว้อาจจะต้องผิดหวังเล็กน้อย แม้ว่าทาง TikTok จะมีการตัวเลขการแสดงผลที่โตขึ้นอย่างสม่ำเสมอ แต่ Instagram ยังคงมีไม้เด็ดสองสามเคล็ดลับนั่นก็คือพลังของ Facebook Ads engine นั่นเองที่เป็นตัวช่วย

เคล็ดลับการพิจารณา
 

สิ่งสำคัญของข้อสรุปบางอย่าง คืออย่ายึดติดมันจนเกินไป และนี่คือเคล็ดลับในการพิจารณา:

  •  Age difference: ความแตกต่างของข้อมูลประชากรสำหรับสองแพลตฟอร์โซเซียลมีเดียนี้ อาจเป็นตัวช่วยให้ การโฆษณาบน Instagram Reels ประสบความสำเร็จ กลุ่มอายุส่วนใหญ่ของ TikTok คือ 18-24 ปี ในขณะที่ของ Instagram อยู่ที่ 25-34 ปี ข้อมูลจาก Sprout Social “อายุของผู้ใช้ Instagram แม้จะมีอายุเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ แต่ก็มั่นคง” ข้อมูลจาก Debra Aho Williamson นักวเคราะห์หลักของ eMarketing จาก Insider Intelligence กล่าว ดังนั้น เมื่อทีมกำหนดเป้าหมายอายุระหว่าง 25 ถึง 44 ซึ่งคนอายุกลุ่มนี้มักเป็นกลุ่มที่ใช้ Instagram
  • Content: บ่อยครั้งที่เป็นความผิดพลาดที่มักเกิดขึ้นคือ การโฆษณาข้ามช่อง ด้วยการใช้วิดีโอตัวเดียวกันกับทุกๆ แพลตฟอร์ม เว้นเสียแต่ว่า คุณกำลังทดสอบระบบบางอย่าง และคุณควรศึกษาลักษณะหรือตัวตนของผู้ชมกลุ่มเป้าหมาย และปรับแต่งโฆษณาให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มนั้น
  • ทุกธุรกิจย่อมมีความแตกต่าง: ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่า Instagram Reels จะชนะเสมอไป แม้ครั้งนี้ ผลการทดลองจะประกาศออกมาแล้วว่า Reels เป็นผู้ชนะ แต่มันก็เป็นกับโฆษณาของทาง Creatopy เท่านั้น ประเภทของดฆษณาที่แตกต่างกัน การตั้งค่าต่างกัน ปล่อยโฆษณาในช่วงเวลาที่ต่างกัน ย่อมส่งผลลัพธ์ที่ต่างกัน เพราะฉนั้นการทดลองโฆษณาจะช่วยให้เรารู้ว่า แพลตฟอร์มตัวไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณมากที่สุด
  • ผลลัพธ์ที่ได้มาจากการใช้ TikTok: จากการทดลองของ Creatopy ครั้งนี้ ดูเหมือนจะชดเชยได้เล็กน้อย แต่ก็ไม่คุ้มค่า เพราะหลังจากที่ปล่อยวิดีโอโฆษณาตัวแรกโพสต์บน TikTok เป็นวิดีโอที่มีเนื้อหาเบาสมองมาก ตัวโฆษณาเกี่ยวกับแนวทางของมนุษย์ ซึ่งใช้เวลาอัปโหลดไม่นาน แต่ก็มียอดวิวสูง ทำให้ผู้ใช้มองเห็นโฆษณาตัวนี้ถึง 100,000 ราย

บทสรุป ของการทดลองโฆษณาระหว่าง TikTok และ Instagram Reels Ads

ถ้ามีประโยชน์อะไรที่คุณได้จากบทความนี้จงนำไปใช้ และอย่าได้ประเมินค่าของแต่ละแพลตฟอร์มจนกว่าคุณจะได้ทำการทดลองด้วยตัวคุณเองแล้วเท่านั้น เพราะเมื่อใดก็ตามที่คุณได้มีโอกาสจะทำการตลาดบน TikTok Instagram Reels Youtube Shorts หรือ แพลตฟอร์มสื่อโซเซียลต่าง ๆ ให้จำไว้เสมอว่า คุณต้องทำการทดลอง ทดลอง จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด สุดท้ายนี้ ขอให้สนุกและโชคดีกับโปรเจคที่คุณกำลังจะทำ

ที่มา: WordsStream

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?