Google Ads แบบอัตโนมัติ ปี 2024 — เครื่องมือและซอฟต์แวร์

โฆษณาแบบ PPC ก่อให้ข้อถกเถียงมากมายในสังคมการตลาด บางแหล่งอ้างถึงงานวิจัยและยืนกรานว่ามีนักการตลาดถึง 79% ที่ยืนยันถึงประโยชน์ของการโฆษณาแบบ PPC ในขณะที่อีกฝ่ายอ้างถึงข้อมูลที่ตรงกันข้าม และพูดถึงความแพงและความไม่จำเป็นของ PPC ซึ่งคำตอบก็เห็นชัดกันอยู่แล้ว ลองนึกถึงคนที่คุณรู้จักว่ามีใครบ้างที่กดไปหน้า 2 หน้า 3 ของผลลัพธ์การค้นหา? แทบไม่มีเลยใช่ไหม เพราะแบบนี้จึงทำให้โฆษณาแบบ PPC ยังคงอยู่และใช้ได้ผล

​

ล่าสุด Wordstream ได้มีการโพสต์เรื่องน่าสนใจและสถิติที่น่ากลัวของ PPC ว่า:

“1. ผู้คน 94% จะมองข้ามโฆษณาในช่องค้นหา

คุณไม่ผิด 94% ของผู้ค้นหาจะข้ามโฆษณาตรงช่องค้นหา และสนใจผลลัพธ์การค้นหาอื่นที่ไม่ใช่โฆษณา (Organic Search) ยิ่งกว่านั้นยังพบว่า 41% ของคลิกที่มาจากโฆษณาเสียเงิน จะไปลงกับโฆษณาสามอันดับแรกเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าอันดับโฆษณาและ Ad Copy ของคุณนั้นสำคัญมากที่สุด”

ไม่มีใครนั่งบันทึกผลลัพธ์การค้นหา Google ads สำคัญ โฆษณาแบบ PPC ช่วยเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ และสร้าง Traffic, Leads และยอดขาย

เรื่องน่ารู้: นักการตลาดทั่วไปจะทำเงินได้ราว $5 ถึง $10 ในทุก ๆ หนึ่งดอลลาร์ที่ลงทุนกับ Google Ads

สิ่งที่เราจะมาสนใจกันในวันนี้ก็คือ — Google Ads แบบอัตโนมัติ หรือเครื่องและซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบมาให้ช่วยลบฝันร้ายและเรื่องน่าปวดหัวของเหล่านักการตลาด

การจัดการ Google Ads นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด ปัญหาที่ของคุณต้องเจอคือ การค้นคว้าคีย์เวิร์ด, เรียนรู้คู่แข่งและเกิดอารมณ์เสีย จากนั้นคุณจะต้องวางแผนเรื่องงบประมาณ, ปล่อยแคมเปญและค่อยตรววจดูสถิติอยู่ทุกชั่วโมง ถัดไปคือการทำวิจัย, นำมาปรับใช้และคอยดูผลลัพธ์อยู่ไม่ห่าง

ลองนึกถึงเวลาที่คุณต้องสเกลแคมเปญขนาดใหญ่บนหลายแพลตฟอร์ม หรือปล่อยโฆษณาแคมเปญหลายตัวพร้อมกัน โชคดีที่นี้คือปี 2022 เรามีทางออกมากมายที่จะมาช่วยจัดการเรื่องพวกนี้ของ Google Ads

ด้านล่างนี้ คุณเจอสิสต์เครื่องมือพร้อมกับคำอธิบายสรุปการเนื้อหาการทำงานอัตโนมัติของ Google Ads ที่จะช่วยพัฒนาแคมเปญของคุณ ให้ไปอยู่ในระดับที่สูงขึ้น แล้วจากนั้นเราจะมาพูดคุยกันในเรื่องของข้อดีและข้อเสียของ Google Ads แบบอัตโนมัติ

PPC แบบอัตโนมัติ : การเชื่อมต่อและรายงาน, สคริปต์, กำหนดการสร้างด้วยตัวเอง, ซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุม

เครื่องมืออัตโนมัติเหล่านี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายหมวดหมู่ ตามจุดประสงค์การทำงานและความซับซ้อนของเครื่องมือ

ส่วนใหญ่จะแบ่งซอฟแวร์แบบอัตโนมัติออกเป็นสองแบบ :

• ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนตามกฏ (Rule-Driven Automation) โดยให้คุณเป็นคนตั้งกฏสำหรับแคมเปญโฆษณาขึ้นมา เช่น การเสนอราคา, สถานะและเครื่องมือที่จะคอยแจ้งให้คุณทราบถึงลิมิตและช่วงทดถอยทั้งหมด
• ระบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนตามข้อมูล (Data-Driven Automation) เป็นประเภทที่ช่วยครอบคลุมในเรื่องของการวิเคราะห์ข้อมูลของคุณ

อย่างไรก็ตาม Neil Patel่ ได้ชี้ให้เห็นถึง 4 กลุ่มของระบบ PPC อัตโนมัติ มาดูกันเีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

การเชื่อมต่อและการรายงาน

การเชื่อมต่อแบบอัตโนมัติ หมายถึง เครื่องมือที่สามารถดึงดูดข้อมูลจากหลายแพลต์ฟอร์ม เพื่อนำมาวิเคราะห์และรายงานต่อไป ซึ่งรายงานส่วนใหญ่จะเป็นการเสนอให้ให้มีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มต่าง ๆ  ฉะนั้นหากคุณกำลังมองแนวทางสำหรับการรายงานแบบอัตโนมัติ คุณต้องเลือกให้ดีว่าเครื่องมือที่มีการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มที่จำเป็น

• Reporting Ninja เป็นเครื่องมือที่รู้จักกันดีในกลุ่มนักการตลาดว่าช่วยประหยัดเวลาได้ดีจริง โดยทาง Reporting Ninja สามารถเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มใหญ่ทั้งหมด รวมถึง YouTube, Twitter, LinkedIn, HubSpot, Pinterest, Facebook, Instagram, Bing Ads, Google Ads และ Google Analytics​

“เราใช้เวลากันสักพักกว่าจะพบวิธีการสร้างรายงานแบบกำหนดเอง ที่มีระดับความเป็นส่วนตัวสูง ตอนนี้รายงานของเรามีข้อมูลในแบบที่ต้องการ รวมถึงภาพการออกแบบที่สุดยอด”

Brian Katz - Blue Media

นักการตลาดสามารถเลือกแผนตามราคา โดยมีให้เริ่มตั้งแต่ $20/เดือน จนถึง $120/เดือน

​

• Swydo เป็นเครื่องมืออีกตัวหนึ่งที่โด่งดังมากสำหรับการรายงานอัตโนมัติ และการตรวจสอบสำหรับนักการตลาดดิจิทัล โดยมีราคาเริ่มต้นที่ $39/เดือน สำหรับ 10 แหล่งข้อมูล และเพิ่มเติม $1.5-$3 สำหรับแหล่งข้อมูลเพิ่มเติม (เรทราคาเป็นไปตามจำนวนแหล่งข้อมูล)  นอกจากการเก็บข้อมูลตามช่องทางทั้งหมด ทาง Swydo อนุญาตให้ตั้งค่าและติดตามดัชนี้วัดความสำเร็จ (KPI), ผสมผสานตัววัดผลตามรายงานที่กำหนดเอง, แชร์รายงานผ่านแดชบอร์ดออนไลน์ และฟีเจอร์อื่น ๆ ที่มีประโยชน์ไม่แพ้กัน

“ถ้าต้องให้ผมอธิบาย Swydo ใน 2 คำ คงเป็นคำว่า Game Changer เพราะแต่ก่อนเราต้องลงมือทำรายงานกันเอง ซึ่งใช้เวลาเดือนละ 2 วันเต็ม ๆ สำหรับผู้จัดการฝ่ายบัญชีแต่ละคน แต่หลังจากที่ได้พบกับ Swaydo ไม่เพียงแค่เราจะมีเวลาในการ Optimize มากขึ้น แต่คุณภาพของรายงานที่ลูกค้าได้รับก็เพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าด้วยเช่นกัน”

Chris Crawfort Kick Media, ประเทศออสเตรีย​

สคริปต์

ทางแพลตฟอร์ม Google Ads อนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงแบบอัตโนมัติในบัญชี Google Ads ด้วยโค้ด JavaScript นักการตลาดสามารถ "เปลี่ยนเสนอราคา, หยุดกลุ่มโฆษณาและเพิ่มคีย์เวิร์ดด้วยสคริปต์ที่เขียนมาแล้ว โดยไม่ต้องมานั่งเขียนเองในบัญชี Google Ads ของคุณ" สคริปต์มีประโยชน์มากสำหรับแคมเปญใหญ่ ๆ และช่วยประหยัดเวลาของคุณได้เยอะมากอีกด้วย

ทาง Google มีการแนะนำสคริปต์ Google Ads ที่พร้อมใช้งาน โดยนักการตลาดสามารถปรับโค้ดได้ตามความต้องการ สคริปต์บางตัวจะมีเวอร์ชัน AdsManager (MCC) สำหรับประมวลผล Google Ads แบบหลายบัญชี ทาง Google การสรุปบัญชีสำหรับสร้างรายงาน, การยกเลิกกลุ่มโฆษณาสำหรับประเมินกลุ่มที่มีประสิทธิภาพต่ำลง, คีย์เวิร์ดที่ใช้ค้นหาสำหรับสร้างรายงาน โดยเป็นคำที่ใช้ได้ผลกับโฆษณาของคุณและคนอื่น ๆ

​

กำหนดการสร้างด้วยตัวเอง

ตรงนี้จะเป็นโค้ดอัตโนมัติสำหรับการปรับแต่งส่วนต่าง ๆ ของแคมเปญโฆษณา จำเป็นต้องมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ ดังนั้นหากคุณยังเป็นมือใหม่ในสายการตลาด ขอแนะนำให้หานักพัฒนามาช่วยตรงจุดนี้ กำหนดการสร้างเองจะช่วยให้โฟกัสตัวชี้วัดสำคัญ เพื่อทำให้แคมเปญมีกำไร 

​

ซอฟต์แวร์ที่ครอบคลุม

นี้เป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่นิยมมากที่สุด เพราะมีทุกอย่างที่กล่าวไปข้างต้นและปรับแต่งได้, เป็นแบบอัตโนมัติและการจัดการแคมเปญ ข้อดีคือมีหน้าอินเตอร์และระบบการใช้งานที่เป็นมิตรกับผู้ใช้

​

เครื่องมือและซอฟแวร์สำหรับ Google Ads แบบอัตโนมัติ

สิลต์ต่อไปนี้จะเป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่มีประสิทธิภาพในการจัดการแคมเปญโฆษณา

• WordStream ที่ปรึกษาเรื่อง PPC เป็นเครื่องมือที่ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการแคมเปญ PPC โดยเฉพาะ ตัวซอฟต์แวร์มีเป้าหมายเป็นธุรกิจรายย่อยและนักการตลาดส่วนบุคคล ที่ต้องการโฆษณา PPC แบบอัตโนมติและไม่มีงบสำหรับจ้างผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมทำงานในด้านนี้ ตัวเครื่องมือจะช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ด (ทั้งคีย์เวิร์ดเชิงบวกและเชิงลบ), การจัดการการเสนอราคา และแผนการจัดงบประมาณ คุณสามารถเปิดใช้งานสัปดาห์ละ  20 นาที เพื่อติดตามแคมเปญ PPC ของคุณได้ง่าย ๆ ​

• Optmyzr เป็นหนึ่งในเครื่องมืออัตโนมัติที่ได้รับความนิยมสำหรับการจัดการแคมเปญโฆษณา PPC ที่เป็นสเกลขนาดใหญ่ มักมีเป้าหมายเป็นธุรกิจรายใหญ่ Optmyzr สามารถปล่อยแคมเปญโฆษณา ได้หลายตัว พร้อมกับเครื่องมือสำหรับการจัดการคีย์เวิร์ดและการเสนอราคา  ​

เป็นซอฟต์แวร์ช่วยติดตามประสิทธิภาพและปรับปรุงในส่วนที่จำเป็น

"ที่ผ่านมาผมใช้ Optmyzr จนใกล้จะครบ 6 ปีพอดี และพวกเขาก็คอยทำให้เรื่องต่าง ๆ นั้นดีขึ้น, ง่ายขึ้น และเร็วขึ้นเสมอ เราเริ่มมีบัญชีอีคอมเมิร์ซมากขึ้น และด้วยการช่วยเหลือของ Optmyzr ทำให้เราสามารถสร้างแคมเปญการซื้อของที่ความละเอียดสูง ที่ช่วยให้เราได้ ROAS สำหรับลูกค้าสูงขึ้น"

David J. รองประธาน Paid Media

​

• SEMRush คุณอาจเคยได้ยินชื่อนี้จากงานวิจัยคีย์เวิร์ด แต่ SEMRush เป็นอะไรมากกว่าแค่เครื่องมือสำหรับการวิเคราะห์คีย์เวิร์ด เพราะนี้เป็นซอฟต์แวร์ PPC แบบอัตโนมัติที่สามารถวิเคราะห์คู่แข่ง, ทำการวิจัยคีย์เวิร์ด, จัดการกลยุทธ์การเสนอราคาและวางแผนโดยรวมของแคมเปญ สำหรับเรื่องราคาจะมีเวอร์ชันโปร $119 และเวอร์ชันกูรู $229 และเวอร์ชันธุรกิจ $449 ซึ่งคุณสามารถทดลองใช้ฟรีไม่คิดเงินตามเงื่อนไขของทางบริษัท  

นักการตลาดมากประสบความสำเร็จจากการใช้เครื่องมือตัวนี้ เพื่อตรวจสอบประสิทธิภาพและคีย์เวิร์ดของคู่แข่ง ข้อดีก็คือนี้เป็นเครื่องมืออัตโนมัติสำหรับธุรกิจในทุกระดับ                

​

Himanshu Sharma จาก OptimizeSmart ซึ่งเป็นนักการตลาดที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ชี้ให้เห็นว่าข้อดีของ SEMRush คือการวิจัยคีย์เวิร์ดและวิเคราะห์คู่แข่งแบบอัตโนมัติ:

​

เขาเผยแพร่รายระเอียดเคสการนำเทคโนโลยี SEMRush มาใช้สำหรับโปรเจกต์ของตัวเอง และยืนยันถึงประโยชน์ของเครื่องมืออัตโนมัติ ว่าได้ช่วยให้เขาเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญและอันดับเว็บไซต์จริง

• Acquisio หนึ่งในเครื่องมือขั้นสูงสำหรับจัดการแคมเปญโฆษณา ทาง Acquisio ได้รวบรวมแดชบอร์ดสำหรับการทำงานและแก้ไขหลายบัญชี และตัวสร้าง KPI เพื่อดูความคืบหน้าของแคมเปญ นอกจากนี้ คุณยังสามารถพัฒนาแคมเปญโฆษณาด้วยเครื่องมือขยายการค้นหาคีย์เวิร์ด ทาง Acquisio จะช่วยพัฒนาประสิทธิภาพโฆษณาด้วย AI และรายงานกำหนดเองที่เชื่อมต่อกับหลายช่องทาง

อัลกอริทึมของ Acquisio จะช่วยปรับปรุงและช่วยกระจายการเสนอราคา โดยพิจารณาจากวันเวลาและฤดูกาล ธุรกิจทั้งรายย่อยและรายใหญ่ ต่างก็จะได้รับผลประโยชน์จากการใช้ซอฟแวร์และแผนราคาที่ยืดหยุ่น

​

• Adalysis เป็นเครื่องมือที่พัฒนามาเพื่อธุรกิจในทุกระดับ คุณสามารถตั้งแจ้งเตือนสำหรับหลายตัวชี้วัด ราวมถึงการเสนอราคา, งบประมาณ, ทดสอบโฆษณา, คะแนนคุณภาพและอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ เครื่องมือยังสามารถช่วยตรจสอบความถูกต้องของกลยุทธ์การตลาด และหาข้อมูลเชิงลึกในประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญของคุณ โดยมีแผนเริ่มราคาที่  $99 ( สำหรับจ่ายรายเดือน $50k) คุณสามารถเรียนเพิ่มเติมรู้เกี่ยวกับระบบการทำงานของซอฟต์แวร์ ผ่านการทดลองใช้งานฟรี 14 วัน

​

• Opteo เป็นชุดเครื่องมือแบบครบจบในตัวเดียวสำหรับจัดการแคมเปญ Google Ads ตัวเครื่องมือมรการตรวจสอบัญชี Google Ads ตลอดเวลา และแจ้งเตือนทุกอย่างที่เกี่ยวกับเทรนด์หรือปัญหาสำคัญ ซึ่งตามรายละเอียดการวิเคราห์ข้อมูล ทาง Opteo จะมีการแนะนำวิธีการพัฒนาแคมเปญและลเพิ่มประสิทธิภาพ ตัวเครื่องมือยังสามารถติดตามรายจ่ายของโฆษณา, ส่งรายงานที่กำหนดเองและตรวจสอบประสิทธิภาพได้

​

Opteo มีเสนอแผนราคาให้หลายแบบ ตามมความเหมาะสมของระดับธุรกิจ โดยเริ่มต้นที่ $99/เดือน สำหรับแผนพื้นฐาน

​

• RevealBot เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมสูงจากนักการตลาดมือและเอเจนซี่มืออาชีพ ด้วยคววามที่สามารถปรับแต่งและตรวจสอบได้แม้กระทั้งแคมเปญที่ซับซ้อน ตัวสร้างรูปภาพของ RevealBot มีอินเตอร์เฟซที่เรียบง่าย อย่างการลากลงมาวางเพื่อสร้างแอนิเมชัน (20+ แบบ และการผสมผสานในระบบอัตโนมัติ) ตัวเครื่องมือยังช่วยเสริมประสิทธิภาพในส่วนต่าง ๆ ที่ซับซ้อนอยู่ในโครงสร้างของ Google Ads: คุณสามารถตั้งค่ากฎอัตโนมัติสำหรับแคมเปญ, กลุ่มโฆษณา, โฆษณา และคีย์เวิร์ด โดยอิงราคาตามค่าโฆษณารายเดือนของคุณ ขั้นต่ำ $83/เดือน สำหรับค่าโฆษณาที่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นดอลลาร์  

​

• Adzooma เป็นเครื่องมืออัตโนมัติที่นับว่าครอบจักรวาล คุณสามารถใช้ Adzooma ได้ฟรี โดยนี้เป็นเครื่องมือที่สามารถติดตามแคมเปญชอง Google, Microsoft และ Facebook ได้ในที่เดียว คคุณสามารถใช้ Adzooma ตั้งค่ากฎอัตโนมัติ เพื่อลดขั้นตอนหลายอย่าง และช่วยพัฒนาแคมเปญของคุณ นอกจากนี้ คุณจะมีรายงานประสิทธิภาพสำหรับการปรับปรุ่งในภายภาคหน้า โดยมีเวอร์ชันพลัสสำหรับเอเจนซี่หรือกูรูสายการตลาด $74 ซึ่งเวอร์ชันนี้จะขยายระบบการทำงาน, การวิเคราะห์ Landing Page, การปรับการเสนอราคา, เทมเพลตอัตโนมัติ 80+ แบบ และ SEO เชิงลึกแบบขั้นสูงจากประสิทธิภาพโดยรวม

​

• Adline คุณอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับระบบอัตโนมัติที่เครื่องมือนี้มีให้สำหรับ Google Ads และ Facebook Ads โดยเครื่องมือนี้สามารถสั่งการอัตโนมัติกับตัวชี้วัดเกือบทุกตัวบนแคมเปญของคุณ, ติดตามประสิทธิภาพ และรายงานโดยละเอียด ทาง Adline มีตัวสร้างโฆษณาง่าย ๆ , การเพิ่มประสิทธิภาพงบประมาณโดยอัตโนมัติ, การวิเคราะห์การตลาดแบบเข้าใจง่าย, โทรคุยกลยุทธ์แคมเปญรายเดือนแบบ 1:1 และแคมเปญแรกที่สร้างจากทีมของ Adline ซึ่งอาจช่วยให้นักการตลาดที่ทำตัวคนเดียวและมือใหม่ สามารถได้รับประโยชน์ผ่านการพูดคุยกับทีมที่มีคุณภาพและสามารถอัปเกรดขึ้นมา เพื่อเรียนรู้จากแคมเปญที่พัฒนาโดยเหล่าผู้เชี่ยวชาญของ Adline โดยมีแผนราคาอยู่ 3 แบบ: Starter $59/เดือน, Growth $149/เดือน และ Premium $349/เดือน

​

• SpyFu เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจมาก เพราะไม้ได้เป็นแค่ระบบซอฟต์แวร์อัตโนมัติ

SpyFu ยังมีหน้าที่เป็นเครื่องมือสอดแนมคีย์เวิร์ดของคู่แข่งและยังช่วยตรวจสอบ PPC ของคู่แข่ง, หาคีย์เวิร์ดที่คุณไม่ได้ใช้แต่ใช้โดยคู่แข่ง, ส่งต่อประวัติการทดสอบโฆษณาและแคมเปญ Google Ads ของคู่แข่ง, แนะนำ PPC เชิงลบที่เหมาะสม และติดตามอับดันโฆษณาที่เป็น PPC ซึ่งคุณสามารถใช้ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ $33 ต่อเดือน

​

• Google Ads Editor (หรือ AdWords Editor) และ Bing Ad Editor เป็นกลุ่มที่แยกออกมาของเครื่องมือการตลาด ทั้งสองตัวนี้ไม่นับว่าเป็นเครื่องมืออัตโนมัติ แต่มีประโยชน์หลากหลาย ตั้งแต่การสร้าง, แก้ไข และตรวจสอบแคมเปญโฆษณา PPC โดยที่เราสามารถแก้ไขโฆษณาหลายตัวพร้อมกัน, ทำวิจัยคีย์เวิร์ดและจัดการเสนอราคา  

Google ก็แนะนำระบบอัตโนมัติ

เป็นอีกครั้งที่ต้องยอมรับว่าความได้เปรียบของเครื่องมืออัตโนมัติทั้งหลายแหล่ คือ ฟีเจอร์ที่ช่วยประหยัดเวลา อย่างการที่นักการตลาดมอบหมายหน้าที่บางอย่างให้กลายเป็นเรื่องอัตโนมัติ ทาง Google ก็แนะนำให้ใช้ระบบอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญโฆษณา รวมถึงอัตรา Conversion และผลตอบแทนจากค่าโฆษณา (ROAS) ที่สูงขึ้น

​

ประโยชน์ส่วนใหญ่ของระบบอัตโนมัติที่ Google ลิสต์ไว้ให้คือ:

• Machine Learning ขั้นสูง อัลกอริทึมของโปรแกรมนั้น มีความสามารถในการประมวลผลชุดข้อมูฃขนาดใหญ่ และคาดการณ์ในเรื่องผลกระทบที่อาจเกิดจากการเสนอราคาตาม Conversion และประสิทธิภาพได้ดีกว่า  
• มีความกว้างของการคาดเดาตามบริบท โดยหมายรวมไปถึงคุณสมบัติต่าง ๆ อย่าง อุปกรณ์และพื้นที่ เช่นเดียวกับการผสมผสานคุณสมบัติเพิ่มเติมที่จำเป็นสำหรับการปรับเสนอราคา
• การควบคุมที่หยืดหยุ่น ตรงนี้คุณสามารถตั้งค่าเป้าหมายทางธุรกิจและวัตถุประสงค์  
• รายงานผลลัพธ์ที่กระจ่าง รายงานอัตโนมัติจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการคุณภาพการเสนอราคา และเสริมความแน่นให้กับพื้นฐานของข้อมูล เพื่อพัฒนากลยุทธ์การตลาดที่ไกลออกไป

เครื่องมืออัตโนมัติสำหรับ PPC: ข้อดีและข้อเสีย    

มนุษย์ควรเรียนรู้จากความผิดพลาดของตน และในบางครั้งเราก็ขาดสมาธิ จนมองข้ามตัวชี้วัดสำคัญ ซึ่งเราสามารถหลีกเลี่ยงเรื่องเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงใช้เครื่องมืออัตโนมัติ

​

ข้อดี:

• เครื่องมืออัตโนมัติช่วยประหยัดเวลาสำหรับสเกลแคมเปญขนาดใหญ่ที่ใช้เวลานาน โปรแกรมจะรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง และแนะนำการปรับปรุงที่จำเป็น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณา
• ใช้หลักการเดียวกันกับฝั่งการเงินของการโฆษณา คุณไม่ต้องทดลองด้วยการเสนอราคา แต่คุณพัฒนากลยุทธ์ด้วยการเสนอราคาที่อ้างอิงตามรายละเอียดของข้อมูล จึงลดความเสี่ยงทางการเงินที่อาจมีช่องว่างจากการตรวจสอบแคมเปญ
• Google เป็นรู้จักกันดีในเรื่องระบบการอัปเดตและการเปลี่ยนแปลงอัลกอริทึม เครื่องมืออัตโนมัติส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้เร็วกว่าที่นักการตลาดทำ  
• ความเตรียมพร้อมและการแจ้งเตือนอัตโนมัติ คุณสามารถตั้งค่าเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่ต้องการให้แจ้งเตือนได้ และอัลกอริทึมจะปล่อยข้อมูลเกี่ยวกับอัตรา Conversion, ค่าใช้จ่ายหรือจำนวนการมองเห็น        

ข้อเสีย:

• หากหลังจากที่อ่านมา ทำให้คุณคิดว่าเครื่องอัตโนมัติคือ "คำตอบสูงสุด" ผิดแล้ว แคมเปญ PPC แบบอัตโนมัติจำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมเบื้องต้น ดังนั้นคุณต้องมีวิสัยทัศน์ในเป้าหมายแคมเปญและประสิทธิภาพที่คาดหวังอย่างชัดเจน หรือก็คือคุณต้องมีภาพผลลัพธ์ที่ต้องการภายในหัวอยู่ก่อนแล้ว
• แน่นอนว่าระบบอัตโนมัติ ไม่จำเป็นต้องมีคนควบคุมดูแลแบบ 100% แต่คุณก็ไม่ควรปล่อยให้ระบบทำงานไปเองแบบไม่มีการควบคุม คุณต้องเฝ้าดูในกรณีที่ระบบอาจขัดข้องหรือเกิดการคลาดเคลื่อนได้

ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในเรื่องระบบอัตโนมัติ

Neil Patel, ผู้เชี่ยวชาญ SEO และถูกเรียกว่าเป็นหมอมดแห่งการตลาด ผู้เขียน "กฎ 3 ข้อของการผลิตโชคด้วยตัวคุณเอง", และเป็นเจ้าของบล็อก neilpatel.com และเป็นหนึ่งในนักการตลาดที่รวยที่สุดในโลกอีกด้วย

วิธีการเลือกเครื่องมืออัตโนมัติ

ตอนนี้คุณรู้จักเครื่องมืออัตโนมัติและอาจไม่รู้ว่าควรเลือกเครื่องมือไหนดี เพราะเครื่องมือบางตัวก็มีฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกัน เพื่อตัดตัวเลือกออก คุณต้องทำตามสิ่งนี้:

​

1. หากคุณมีแคมเปญโฆษณาบนหลายแพลตฟอร์ม ต้องดูว่าเครื่องมือไหนที่รองรับหลายแพลตฟอร์ม โดยเฉพาะแพลตฟอร์มที่คุณต้องการ เพราะเครื่องมือบางตัวก็อาจไม่รองรับ Facebook Ads, Bing Ads หรือ Microsoft Ads  
2. ฟังก์ชันการทำงาน ฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีให้ ควรเป็นหนึ่งในตัวประกอบการตัดสินใจของคุณ ต่างเครื่องมือต่างระบบอัตโนมัติ บางแพลตฟอร์มอาจรับได้เพียงไม่กี่อย่าง ให้มองหาความครอบคลุมแบบมัลติทาสกิ้ง เครื่องมือที่สามารถประมวลได้ทั้งกระบวนการโฆษณา PPC: ตั้งแต่คีย์เวิร์ด, วิจัยตลาดและคู่แข่งเพื่อเสนอราคา, ติดตาม, เพิ่มประสิทธิภาพ และการรายงาน ซึ่งเครื่องมือแบบครบจบในที่เดียวนั้นมีอยู่จริง เพียงแต่ราคาจะสูงนิดหน่อย
3. ราคา อย่าตกเป็นเหยื่อความเชื่อเรื่อง "ต้นทุนคุณภาพ" หรือ "โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี" จริงอยู่ที่ของฟรีไม่มีฟีเจอร์หลากหลาย หรือรองรับหลายบัญชี แต่ก็ช่วยให้มือใหม่สามารถลองเพื่อเรียนรู้ และดูการทำงานของระบบของจริง พอมีประสบการณ์มากขึ้นจึงค่อยเลือกแบบเสียเงิน ลองดูแผนราคา, จำนวนบัญชีที่เครื่องมือรองรับ และลิมิตค่าใช้จ่ายสำหรับหลาย ๆ แผน เพื่อเปรียบเทียบราคา เพราะเครื่องมือบางตัวอาจแพงจนหูฉี่ แต่กลับมีระบบการทำงานแบบเดียวกับเจ้าอื่นที่มีราคาสมเหตุสมผลกว่า
   คุณเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเครื่องมืออัตโนมัติที่ให้ใช้ได้ฟรีหรือเปล่า?

   0 โหวต

   เคย ไม่เคย

    

4. อินเตอร์เฟซและแดชบอร์ด เวลาที่คุณเสียเงินให้กับค่าเครื่องมือ เป็นธรรมดาที่คุณต้องการอะไรที่: ใช้ง่าย, สะดวก หรืออาจสั่งทำขึ้นมาเองเลยก็มี ทางเลือกที่ดีที่สุด คือการทดลองใช้ฟรีและดูว่าคุณชอบหรือไม่ แดชบอร์ดและอินเตอร์เฟซที่ซับซ้อน ไม่ได้หมายถึงการขยายฟีเจอร์ของเครื่องมือ ตรงกันข้าม ยิ่งระบบครอบคลุมมากเท่าไร ยิ่งต้องมีอินเตอร์เฟซที่ง่ายต่อการใช้มากเท่านั้น เพราะผู้พัฒนาต้องคำนึกถึงผู้ใช้เสมอ  

สรุป

ชีวิตเริ่มมีความเป็นดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น ทั้งในเรื่องอุตสาหกรรม, เทคโนโลยี และการศึกษา คุณไม่จำเป็นต้องพกพจนานุกรมในกระเป้า แล้วเปิดหาคำศัพท์ — คุณแค่ดาวน์โหลดแอปมือถือที่มีพจนานุกรม คล้ายกับเครื่องมืออัตโนมัติของ Google Ads ที่ช่วยประหยัดเวลาของคุณ คุณยังสามารถใช้ Facebook Ads แบบอัตโนมัติ โดยที่คุณเป็นยังคนคุมแคมเปญการตลาด ตั้งเป้าหมาย และพัฒนากลยุทธ์ เพียงแต่มอบหมายขั้นตอนบางอย่างให้เครื่องมืออัตโนมัติเป็นคนจัดการ เพื่อที่คุณจะได้โฟกัสความคืบหน้า และสร้างอนาคตในธุรกิจของคุณ