16 พฤศจิกายน 2022 0 312

Jake Schmidt นักการตลาด ผู้ที่ทำให้ Fidget Spinner เป็นที่ของเล่นยอดนิยม

เจค ชมิดท์ (Jake Schmidt) ประมาณ 5 ปีที่แล้ว เขานี่แหละเป็นคนบุกเบิกเทรนด์ที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมของเล่น นั่นก็คือเจ้า “Fidget Spinner” เขาไม่ใช่เป็นคนประดิษฐ์มันนะ แต่ก็ ไม่พูด ไม่ได้ ว่าเขาเป็นบุคคลแรกเลยที่ทำการตลาดได้ให้ของเล่นชิ้นปังสุด

เจค ชมิดท์ เป็นนักการตลาดดิจิทัลและยังเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท Structured Social ซึ่งเป็นหน่วยงานการตลาดดิจิทัลที่ตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิสสหรัฐอเมริกา เขายังได้ก่อตั้งธุรกิจอื่น ๆ อีกมากมายในอุตสาหกรรมการตลาดออนไลน์  รวมไปถึง Konstant Creative, Fidgetly และอื่น ๆ ควบคู่ไปกับคู่หูของเขา นิค แชคเคิลฟอร์ด (Nick Shackleford)

ในบทความนี้เราจะแชร์สูตรลับที่เขาใช้ในการเปิดตัวแบรนด์ของเขา Fidgetly ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ใหญ่ที่สุดที่อยู่เบื้องหลังเทรนด์ Fidget Spinner จนฮิตไปทั่วโลกในช่วงปี 2016 และ 2018

ประวัติความเป็นมา

คุณเจคมักจะหมกมุ่นกับการมองหาช่องทางที่ดึงดูดความสนใจได้ง่าย ๆ เขาจึงเริ่มต้นเส้นทางการตลาดออนไลน์ของเขา ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นตอนปลายเลย เมื่อก่อนเขาเคยเล่น Instagram อยู่บ่อย ๆ ซึ่งมักจะเห็น "บัญชีมีม" ซึ่งเป็นตัวอย่างช่องทางที่ดึงดูดความสนใจได้ง่าย ๆ

ดังนั้น เขาจึงเริ่มเปิดบัญชีแนว ๆ นี้ เพื่อเอาไว้โปรโมทข้อเสนอเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ให้กับกลุ่มเป้าหมายของเขา และแน่นอนว่าเขาได้รับจำนวนการเข้าชมเป็นจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ก็ยังไม่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ชมเลย

คุณเจคจึงรีบหาทางเลือกอื่น ๆ ที่จะพอสร้างรายได้จากการเข้าชมจากบัญชีมีม

เมื่อก่อนเขาเคยเปิดตัว Kickstarter ซึ่งเขารู้ว่าแพลตฟอร์มนี้ที่สมบูรณ์แบบพอที่จะหาแรงบันดาลใจสำหรับโปรดักใหม่ ๆ

"วันหนึ่งผมได้ลองศึกษาและได้พบว่า" fidget cube" ซึ่งสามารถทำรายได้ประมาณ $6,000,000 ใน 30 วัน นี้ก็จะเป็นที่มาของแรงบันดาลใจการขายของเล่น fidget ที่ผมได้รับมา" — คุณเจคได้กล่าวไว้

ยิ่งคุณเจคได้เรียนรู้เกี่ยวกับอินสตาแกรมมากขึ้นเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งคิดว่า "Oddly satisfying" แนววิดีโอที่มีโอกาสเกิดเป็นไวรัลได้ง่าย ๆ

ด้านคอนเทนต์ เช่น การเล่นสไลม์ การตัดสิ่งของด้วยมีด และการทุบสิ่งของด้วยค้อน ดังนั้นแล้ว คุณเจคต้องแน่ใจว่า โปรดักของเขาเหมาะกับคอนเทนต์ประเภทนี้มั้ย

คุณเจครู้อยู่แล้วว่า ถ้าเขาสามารถได้รับการมีส่วนร่วมสูงในคอนเทนต์รีวิวโปรดักของเขา เขาจะมีพื้นที่สำหรับโฆษณาโปรดักที่เยอะขึ้น ของเล่น Fidget ดูเหมือนจะตอบโจทย์ จากนั้นเจคก็เริ่มทดลองกับโปรดักตัวนี้

การสร้าง Fidget Spinner

เจคเริ่มการทดลองนี้บนเว็บไซต์ที่ชื่อว่า ”Thingiverse” ซึ่งเป็นฐานข้อมูล open-source สำหรับการออกแบบด้วยการพิมพ์ 3 มิติ

"ผมได้ออกแบบรูปร่าง Fidget spinners บนเว็นไซต์นั้น และพิมพ์มันออกมา แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่านั้น ซึ่งแนวคิดของผมก็เปลี่ยนไปเมื่อผมเห็นโฆษณาหนึ่งบน Etsy ผมคลิกที่ลิตส์นั้น และก็พบว่าแม้จะเป็นร้านค้าที่เพิ่งจะเปิดใหม่ แต่พวกเขาก็สามารถขายได้หลายร้อยชิ้นเลย ผมยังสังเกตเห็นว่า มันก็ทำมาจากเครื่องพิมพ์ 3 มิติเหมือนของผมเลย", — คุณเจคบอกไว้

ณ จุด ๆ นี้ คุณเจคคิดว่า เขาได้ศึกษาการเตรียมช่องทางที่จะดึงดูดความสนใจได้ง่าย ๆ มาอย่างดี ในที่สุดก็พบโอกาสแล้ว และเขาต้องรีบใช้ประโยชน์นี้ซะแล้ว

การใช้ประโยชน์ที่มีไปกับโอกาส

ในตอนนั้น เขาเริ่มทำการผลิต Fidget spinner ออกมาอย่างจริง ๆ จัง ๆ พวกเขายังไม่ได้ทำการตลาดเลย เพื่อที่จะทำให้โอกาสที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม

คุณเจครู้ว่า กำไรจริง ๆ ไม่ได้มาจากการขายของเล่นพิมพ์ 3 มิติที่มีคุณภาพ แต่มาจากการเพิ่มจำนวนการผลิตมากกว่า ดังนั้นเขาจึงมุ่งเป้าไปที่ Alibaba ทันที และหาผู้ผลิตที่พร้อมเป็นพาร์ทเนอร์กับเขา

"จากที่ได้ทุ่มเทไป ในที่สุด Fidget spinner ก็เป็นโปรดักชิ้นแรกของผมเลย ที่เข้าสู่ตลาด —" เจคได้กล่าวไว้

การทำการตลาด Fidget Spinner

หลังจากที่เจคได้รับตัวอย่างมาแล้ว เขาก็สร้างโฆษณาวิดีโอแนว Edutainment ซึ่งเป็นโฆษณาวิดีโอ ประเภทที่ให้ความบันเทิงและความพึงพอใจ รวมถึงให้ความรู้อีกด้วย

จากนั้นเขาก็สร้างร้านค้าบน Shopify ติดต่อเจ้าของบัญชีมีมเดิม ที่เขาเคยทำงานด้วยกันมาก่อน และเริ่มทดสอบไอเดียของเขา ในบัญชีมีมบน Instagram มีชื่อว่า “LMAO”

“โพสต์แรกของผมมีค่าใช้จ่าย $300 และมันสร้างรายได้ $3,500 ภายในหนึ่งชั่วโมง จากที่ได้เห็นตัวเลขนี้แล้ว ผมรู้ว่าผมต้องทำอะไรต่อไป”, — คุณเจคบอกไว้

นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางที่ประสบความสำเร็จอันยาวนานของ fidget spinners ที่ทุกคนรู้จักกันดีในวันนี้

คุณเจคได้ขยายยอดขายจนมากกว่า 500,000 ชิ้นในเวลาประมาณหนึ่งปี บนร้าน Shopify ของเขา และได้รับโปรดักของเขาในร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น Best Buy, Target และ Brookstone เขาประสบความสำเร็จด้วยวัยเพียง 20 ปีพร้อมกับคู่หูของเขา นิค แชคเคิลฟอร์ด

โดยคุณนิค แชคเคิลฟอร์ด ยังได้มาแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จของเขาในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและมาร่วมสัมภาษณ์กับทาง Partnerkin ด้วย คุณสามารถอ่าน ได้โดยคลิกที่นี่

“สูตรลับชนะตลาดที่คุณเจค ชมิดท์ใช้

คุณเจคยอมรับว่า สูตรที่นำไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ Fidget Spinner สามารถทำซ้ำได้กับโปรดักอื่น ๆ อย่างง่ายดาย ซึ่งก็ดูตามความเหมาะสมของตลาดที่เขาบอกไว้ด้วย สูตร:

1. ค้นหาช่องทางที่สามารถดึงดูดความสนใจได้ดี เช่น เพจมีม, ยูทูปเบอร์สายเล่นเกม ฯลฯ

2. ทดสอบไอเดียด้วยค่าใช้จ่ายราคาต่ำก่อนที่จะตัดสินใจขยายธุรกิจ

3. รีบใช้ประโยชน์ในช่วงที่กำลังเป็นเทรนด์ก่อนที่จะอิ่มตัว

4. สร้างคอนเทนต์ที่เอาไว้สำหรับขาย และรับการมีส่วนร่วม

5. ฝึกฝนอยู่บ่อย ๆ จนกว่าคุณจะพร้อม

สรุป

Fidgetly สามารถสร้างรายได้ $1,000,000 ใน 2 เดือนแรก ความฮิตของเจ้า fidget spinner นี้ไม่ได้เกิดมาจากคุณนิคคนเดียว ยังมีคุณเจคที่เป็นพาร์ทเนอร์ของเขาอีกคน ที่ได้ลองทำร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่เคยขาย “hoverboard” แต่สุดท้ายก็ต้องขาดทุนไปถึง $30,000 แต่คุณเจคก็ยังสามารถทำให้ hoverboard เป็นเทรนด์ได้สำเร็จ อย่างไรก็ตามโปรดักชิ้นนี้มีน้ำหนักมากไปในการจัดส่ง ซึ่งถ้ามันร้อนขึ้นมาก็อาจจะติดไฟได้ จึงเป็นเหตุผลว่าโปรเจค hoverboard ไปได้ไม่สวย แต่ก็ทำให้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เขามองหาโปรดักอื่น ๆ ที่พกพาสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น

มีความแตกต่างกันหลายแบรนด์ของ Fidget Spinner นี้และพวกมันก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ตอนที่เริ่มผลิตออกมา พวกมันทำการตลาดได้ง่ายและจัดส่งก็ทำได้ง่าย เพราะมีขนาดเล็ก สามารถใส่ซองก็ได้ ใส่กระเป๋าก็ได้ ซึ่งต่างจาก hoverboard จริง ๆ

คุณรู้สึกอย่างไรกับบทความนี้?