เราได้พบเรื่องราวบน twitter เกี่ยวกับเด็กคนหนึ่ง ที่หาเงินได้ตั้งแต่อายุ 15 ปี จาก NFT ทำให้มีรายได้ถึง $17 ล้านดอลลาร์/ประมาณ 611,065,000 ล้านบาท แต่ ณ ตอนนี้บัญชี twitter ของเขานั้นถูกปิดไปแล้ว แต่... อินเตอร์เน็ตเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เราอยากรู้ ทำให้เราได้รับ บันทึกสำเนา Tweet เรื่องราวของ Reshadeth ที่บอกเล่าเรื่องราวของเขา
Resadeth มองหางานบนอินเตอร์เน็ต ตั้งแต่ปี 2020 แต่ดูเหมือนว่าตัวเลือกทั้งหมดทำให้เขาเบื่อหน่าย เช่น การตอบแบบสอบถาม ปริ๊นต์เสื้อขาย เข้าร่วมเป็นตัวแทนการตลาด และก็ลองในหลาย ๆ อย่าง แต่ก็ยังไม่มีกิจกรรมตัวไหนเลยที่จะทำให้เขารวยเร็วขึ้น
ระยะเวลาผ่านไปสักพัก Resadeth ได้เข้าไปทำอยู่ในกลุ่มออกแบบภาพกราฟฟิก เขารับออร์เดอร์จากเซิฟเวอร์ Discord แต่ลูกค้าส่วนใหญ่ของเขาเป็นกลุ่มวัยรุ่น ที่เขาได้รับค่าจ้างไม่คุ้มกับงานที่ทำไป Reshadeth ได้ค่าจ้างต่อ 1 โปรเจคอยู่ที่ $3 ถึง $5 ดอลลาร์ ซึ่งเขาต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะทำงานให้เสร็จได้
ใน 1 เดือนเขาทำเงินได้แค่ $100 ดอลลาร์/ประมาณ 3594.50 บาท แต่ดูเหมือนเขาจะมีโชคอยู่บ้าง เพราะแทนที่เขาจะนำเงินนั้นไปใช้จ่ายเพื่อความบันเทิงส่วนตัว แต่เขากลับเลือกซื้อสมาชิกรายปีของ Skillshare และแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์
หลังจากที่เขาเสียเงินค่าสมาชิก Reshadeth ก็ละทิ้งความคิดที่อยากจะเป็นนักออกแบบ และตัดสินใจมาเป็นนักโปรแกรมแทน เขาลงเรียนหลักสูตร Python และ C# เขาเชื่อว่าอุตสาหกรรมนี้จะทำให้เขาหาเงินได้เยอะ เพราะมีคู่แข่งน้อย
ในปี 2021 เขาสนใจเข้าร่วมโปรเจค Earth2 ซึ่งเป็นที่ดินดิจิตอล ที่พื้นโลกถูกแบ่งออกเป็นล้าน ๆ ชิ้น (ลักษณะเหมือน แผ่นกระเบื้อง) และแต่ละอันสามารถซื้อและขายได้บนตลาด P2P (รูปแบบการเชื่อมต่อแลนไร้สายแบบ Peer to Peer)
ในตอนเริ่มต้น ยังไม่มีประเทศดูไบ เมื่อเริ่มเปิดการขาย Reshadeth ได้ซื้อที่ดินดิจิตอลเอาไว้หลายผืนในราคาแค่ $10 ดอลลาร์/ประมาณ 359.45 บาท และหลังจากนั้นเขาก็ขายที่ดินเหล่านั้นไปราคา $800 ดอลลาร์/ประมาณ 28,756 บาท และเขาก็ได้ถอนเงินออกจากโปรเจคนั้นทันที
ในเวลานั้น มีเว็บไซต์หุ้น Meme Stock สำหรับหุ้น $APE (Apsenergy) (เป็นกิจการเกี่ยวกับผลิตพลังงานแสงอาทิตย์) และหุ้น $GME (GameStop ผู้ค้าปลีกวิดีโอเกมในสหรัฐและเป็นรายใหญ่ที่สุดทั่วโลก) ทำให้ Reshadeth ตัดสินใจลงทุนซื้อหุ้นในตลาดเหล่านั้น แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือน เขาก็พบว่าหุ้นที่เขาลงทุนไป ขาดทุน 90%
Reshadeth ได้เปิดบัญชีกับแพลตฟอร์ม Binance เพราะเขาได้ยินเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลมามากพอ จึงทำให้เขาตัดสินใจเปิดบัญชีในเดือนมีนาคม ปี 2021 และเขาก็ซื้อเหรียญ crypto แรกในปีนั้นเอง
และในเวลาเดียวกัน Reshadeth ก็ไปเข้ากลุ่ม Discord เป็นกลุ่มแชตที่ทำให้เขารู้จักการเทรดแบบ future และรู้จักพวกเหรียญมีมทั้งหลายจากที่นั่น ตัวอย่างเช่น มีสัญญาณของเหรียญ SafeMoon ก็ทำให้มีคนจำนวนมากเพิ่มเงินลงไปกับเหรียญนี้ แต่ Reshadeth ไม่อยากจะเสี่ยงกับเหรียญนี้
ทำให้เขาได้ไปทวีตข้อความรู้สึกเสียใจกับการตัดสินใจครั้งนั้น เพราะว่าคนที่เขารู้จักต่างก็รวยเป็นเศรษฐีเงินล้านจากเหรียญ SafeMoon
ผ่านไปอีกสักพักใหญ่ Reshadeth ได้ถ่ายโอนเหรียญทั้งหมดที่เขามีไปที่กระเป๋า MetaMask ใน BSC และในระหว่างเดือนนั้นเขาก็ซื้อเหรียญมีมเพิ่มขึ้นอีก ทำให้เขาได้กำไรประมาณ $300 ดอลลาร์/ประมาณ 10,783.50 บาท
เหตุการณ์นี้ทำให้เขาได้รู้ว่า พวกนักลงทุนและ bot (หุ่นยนต์) ทำเงินได้มากกว่าพวกนักเล่นทั่วไป เพราะเขามีพื้นฐานความรู้ที่ได้เรียนหลักสูตรด้านการพัฒนาโปรแกรมมาทำให้เขาสร้าง bot ของเขาขึ้นมาเอง
ภายในระยะเวลา 2 เดือนทำให้ Reshadeth ปิดงานได้หลายตัว จนทำให้เขาได้กำไรจากการลงทุนถึง 30-50 เท่า แต่อย่างไรก็ดี เขาหยุดซื้อเหรียญมีมพวกนั้นในเดือนสิงหาคม ทำให้เขามีเงินเพิ่มขึ้นมาถึง $200k สองแสนดอลลาร์/ประมาณ 7,189,000 บาท และในเวลาเดียวกันเขาก็ได้ขายสำเนา bot ของเขาไปตัวละ $7,000 ดอลลาร์/ประมาณ 251,615 บาท
และในขณะนั้น Reshadeth เริ่มสนใจ NFTs (Non-Fungible Token คือสินทรัพย์ดิจิทัล ที่แต่ละโทเคนหรือแต่ละเหรียญมีลักษณะเฉพาะตัว ซึ่งไม่สามารถแทนที่กันได้จัดเป็นเงินดิจิตอลชนิดหนึ่ง) เริ่มแรกเขาเข้าซื้อ Pudgy Penguin ในราคา 0.5 ETH และขายออกไปในราคา 3 ETH หลังจากนั้นเขาชนะการสร้างเหรียญใน Mutant Ape และขาย NFT ไปในราคา 6.66 ETH
ในเดือนพฤศจิกายน Reshadeth ได้เปิดตัวบริษัทที่ทีมงานของเขาสร้าง NFTs และทำการตลาด และในเวลาเดียวกันเขาก็สร้าง bot ขึ้นมาเพื่อทำการแสปมใน Discord และจากเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ บริษัทของเขามีรายได้เพิ่มขึ้น $1.5 ล้านเหรียญดอลลาร์/ประมาณ 5,391,750 บาท ซึ่งเป็นรายได้สุทธิที่ Reshadeth ได้รับคือ $250,000 แสนดอลลาร์/ประมาณ 8,986,250 บาท
คนเริ่มสนใจ NFTs ของเขาน้อยลง จนกระทั้งเขาได้ยินเกี่ยวกับดอกไม้ Murakami จาก Takashi Murakami ซึ่งในตอนนั้นเองราคาของ NFT บน Opensea มีมูลค่าอยู่ที่ 10 ETH และเพื่อให้ได้เข้าร่วมรายชื่อการจับฉลาก เขาต้องการแค่อิเมล ที่อยู่กระเป๋าเงินดิจิตอล และแคปชาโซลูชั่นแค่นั้น
วันหนึ่ง Reshadeth ได้ร่างจดหมาย 3 ฉบับ เพื่อสร้างบัญชีอัตโนมัติ และภายใน 24 ชั่วโมงเขาได้ส่งอิเมลเพื่อขออนุมัติเข้าร่วมกิจกรรมทั้งหมด 126,841 ฉบับ จากการคำนวณของเขา เขาคิดว่าเขาน่าจะโอกาสชนะถึง 170 จุด ซึ่งจะทำให้เขาได้รับเงินถึง $4 ล้านดอลลาร์/ประมาณ 143,780,000 บาท
1 เดือนผ่านไป ทาง Takashi Murakami ได้ประกาศผลออกมาว่า Reshadeth ชนะถึง 891 จุดจากการคัดเลือก และอีก 2-3 วันถัดมา รายชื่อของผู้ชนะก็ถูกประกาศออกมาจำนวนมาก รวมทั้งหมดที่ Reshadeth ได้รับที่ 923 จุดซึ่งเท่ากับ 13.6% ของผู้เข้าร่วมทั้งหมด และเงินส่วนที่ 3 ที่ได้รับของ NFTs ก็ถูกขายไปราคาที่ถือว่าดีมาก
2 สัปดาห์ถัดมา Yugalabs ได้ประกาศการผลิตเหรียญและที่ดินดิจิตอลออกมา เพียงแค่ ทำการยืนยันกระเป๋าเงินดิจิตอลก็สามารถเข้าร่วมได้แล้ว ทำให้ Reshadeth ได้เจอคนที่กำลังจะขายกระเป๋าดิจิตอล KYC จำนวนมากแค่ 1 ETH ต่อกระเป๋า และเขาทำการต่อรองเพื่อขอซื้อทั้งหมด 114 กระเป๋าดิจิตอล ได้ในราคาส่วนลด 50% (0.5ETH ต่อ 1 กระเป๋าดิจิตอล)
ตั้งแต่กระเป๋าดิจิตอลทั้งหมดถูกซื้อไปก่อนจะทำการผลิตเหรียญ ทำให้ Reshadeth เลือกที่จะสร้างหุ่นยนต์ในการผลิตเหรียญใน SilkNFT ตัว bot จัดการสร้างเหรียญได้มา 114 NFTs กับธรรมเนียมค่าแก๊สอิเธอเรียมที่ 6,000 gwei (Gigawei หรือ Gwei โดย 1 Gwei จะเท่ากับ 0.000000001 (ทศนิยม 9 หลัก) ETH ซึ่งถึงแม้ว่าเลขหน่วยทศนิยมจะดูน้อย แต่มูลค่าของมันไม่ได้น้อยตาม) เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม Reshadeth ตัดสินใจถอน ETH ทั้งหมดที่มี และ NFTs ที่เขาซื้อมาจากกระเป๋าดิจิตอลมาที่กระเป๋าส่วนตัวของเขา เขากำลังจัดการเพื่อให้ได้การ์ดหายาก Otherdeed ซึ่งตอนนี้มีมูลค่าที่ 20ETH ภายในเดือนเดียวรายได้ของ Reshadeth เพิ่มขึ้น 50 เท่าผ่าน NFTs
สรุป
จากเรื่องราวที่ได้อ่านมา ก็สามารถยืนยันได้แล้วว่าตลาด NFT นั้นมีอำนาจทางการเงินมากแค่ไหน ใครก็ตามที่มีไม่เกี่ยงทำงานหนัก ก็จะได้มาซึ่งความสำเร็จเหมือนที่ Reshadeth ได้มา แต่เอาจริง ๆ แล้ว เราไม่จำเป็นที่จะต้องสร้าง NFTs ก็ได้เพราะสิ่งสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จนั้น เพียงแค่เราติดตามตลาดตอนนี้ว่าเทรนด์อะไรกำลังเป็นที่นิยม และไม่ต้องไปกลัวกับการเสี่ยง การที่ได้ประสบความสำเร็จเป็นคนแรกนั้น ก็มีเรื่องราวอยู่จริง คุณสามารถติดตามกิจกรรมความเคลื่อนไหวและ NFTs ของ Reshadeth ได้ที่กระเป๋าของเขา
